ASTVผู้จัดการรายวัน - ฝ่ายปกครองอ.ตะกั่วป่า จ.พังงา พร้อมทีมตำรวจภูธรภาค 8 คุมตัวผู้ต้องสงสัยคดีสังหารอัยการจังหวัดสุราษฎร์ธานี จากบ้านญาติที่จ.ลพบุรี มาสอบปากคำ หลังญาติร้องศูนย์ดำรงธรรม เกรงไม่ปลอดภัย ด้านอธิบดีอัยการภาค 8 เผยผบช.บอกเจ้าตัวรับสารภาพ
จากกรณีนายพยงค์ ดอกไม้หอม อายุ 54 ปี อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ถูกคนร้ายฆ่าโหดเสียชีวิตคาบ้านพักรองอัยการจังหวัดประจำศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ในหมู่บ้านอัยการ ถนนดอนนก เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
วานนี้(30 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาตินายนิวัฒน์ จงสุข อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/2 หมู่ 6 ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้เข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่าไปรับตัวนายนิวัฒน์ ซึ่งเป็นคนสนิทและตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่านายพยงค์ ที่บ้านญาติในอ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา จึงสั่งการให้นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า นายเจษฎา ธิติมุทา ปลัดอำเภองานป้องกัน นายอิสรินทร์ ส่งละออง ปลัดศูนย์ดำรงธรรม และชุดเฉพาะกิจอำเภอตะกั่วป่า ไปรับตัวนายนิวัฒน์ที่จ.ลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. และควบคุมตัวมาส่งตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อสอบปากคำต่อไป
นายธวัชชัย เสียงแจ้ว อธิบดีอัยการภาค 8 กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภ. 8 เบื้องต้นผู้ต้องหาสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ซึ่งการเสียชีวิตของนายพยงค์นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเหตุบังเอิญหรือส่วนตัว แต่ก็สร้างความเสียใจให้กับผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะอัยการสูงสุดก็แสดงความเสียใจและติดตามเรื่องมาตลอด สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ให้สำคัญ ส่งพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร.มาดูแล ขณะที่การรวบรวมพยานหลักฐาน ทางนิติวิทยาศาสตร์ ก็เป็นไปด้วยความรวดเร็ว
ซึ่งภายหลังเข้ามอบตัว นายนิวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายพยงค์ จนเสียชีวิตจริง โดยยอมรับว่ามีความสนิทสนมและอยู่ช่วยงานนายพยงค์มากว่า 8 ปี แต่ในระยะหลังที่นายพยงค์ย้ายมารับตำแหน่งที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีปัญหาขัดแย้งกันในเรื่องส่วนตัว
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. วันเดียวกัน ที่สภ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.สมเกียรติ์ แก้วมุข รองผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เรียกประชุมทีมสอบสวน พร้อมพิจารณาผลการตรวจพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเตรียมออกหมายจับกุมผู้ต้องสงสัย พร้อมเรียก นักศึกษาฝึกงานผู้ใกล้ชิดกับผู้ตาย และเป็นผู้ที่พบศพคนแรกมาสอบปากคำโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ด้านพ.ต.อ.สมเกียรติ์ กล่าวว่า ได้สอบปากคำพยานไปแล้วรวม 10 ปากทั้งญาติผู้ตาย เพื่อนร่วมงาน และเด็กฝึกงาน ส่วนใหญ่ให้การตรงกันว่าผู้ตายเป็นคนดี มีเมตตา ให้ความช่วยเหลือกับทุกคน เปรียบเสมือนติวเตอร์ทางกฏหมาย ตอนนี้ยังเหลือผู้ใกล้ชิดเพียงคนเดีย วคือ นายนิวัตน์ซึ่งได้ข้อมูลว่าผู้ตายให้การดูแลเหมือนน้องชาย อยู่ด้วยกันนาน 3-4 ปี ตั้งแต่รับราชการที่จ.กระบี่ ระนอง และพังงา
“ญาตินายนิวัตน์ยืนยันว่าไม่มีความสัมพันธ์อย่างอื่น นายนิวัตน์เรียกผู้ตายว่าน้า และผู้ตายให้ดูแลเหมือนเป็นน้องชาย พ่อแม่นายนิวัตน์ก็รู้จัก ไม่มีเรื่องอื่นแน่นอน”พ.ต.อ.สมเกียรติ์กล่าว และว่า ล่าสุดมีรายงานข่าวว่าผู้บังคับการกองปราบปรามจะลงพื้นที่ร่วมคลี่คลายคดีด้วย
จากกรณีนายพยงค์ ดอกไม้หอม อายุ 54 ปี อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ถูกคนร้ายฆ่าโหดเสียชีวิตคาบ้านพักรองอัยการจังหวัดประจำศาลแขวงสุราษฎร์ธานี ในหมู่บ้านอัยการ ถนนดอนนก เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น
วานนี้(30 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ญาตินายนิวัฒน์ จงสุข อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 1/2 หมู่ 6 ต.โคกเคียน อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้เข้าร้องต่อศูนย์ดำรงธรรมอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา เมื่อวันที่ 29 มิ.ย. ขอให้ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่าไปรับตัวนายนิวัฒน์ ซึ่งเป็นคนสนิทและตกเป็นผู้ต้องสงสัยฆ่านายพยงค์ ที่บ้านญาติในอ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย นายประยูร รัตนเสนีย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดพังงา จึงสั่งการให้นายมานิต เพียรทอง นายอำเภอตะกั่วป่า นายเจษฎา ธิติมุทา ปลัดอำเภองานป้องกัน นายอิสรินทร์ ส่งละออง ปลัดศูนย์ดำรงธรรม และชุดเฉพาะกิจอำเภอตะกั่วป่า ไปรับตัวนายนิวัฒน์ที่จ.ลพบุรี ตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย. และควบคุมตัวมาส่งตำรวจภูธรภาค 8 เพื่อสอบปากคำต่อไป
นายธวัชชัย เสียงแจ้ว อธิบดีอัยการภาค 8 กล่าวว่า ได้รับรายงานจาก พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภ. 8 เบื้องต้นผู้ต้องหาสารภาพว่าเป็นผู้ลงมือก่อเหตุจริง ซึ่งการเสียชีวิตของนายพยงค์นับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นเหตุบังเอิญหรือส่วนตัว แต่ก็สร้างความเสียใจให้กับผู้บังคับบัญชา โดยเฉพาะอัยการสูงสุดก็แสดงความเสียใจและติดตามเรื่องมาตลอด สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็ให้สำคัญ ส่งพล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผบ.ตร.มาดูแล ขณะที่การรวบรวมพยานหลักฐาน ทางนิติวิทยาศาสตร์ ก็เป็นไปด้วยความรวดเร็ว
ซึ่งภายหลังเข้ามอบตัว นายนิวัฒน์ ให้การรับสารภาพว่า เป็นผู้ลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายนายพยงค์ จนเสียชีวิตจริง โดยยอมรับว่ามีความสนิทสนมและอยู่ช่วยงานนายพยงค์มากว่า 8 ปี แต่ในระยะหลังที่นายพยงค์ย้ายมารับตำแหน่งที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้มีปัญหาขัดแย้งกันในเรื่องส่วนตัว
ทั้งนี้ เมื่อเวลา 09.30 น. วันเดียวกัน ที่สภ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ.สมเกียรติ์ แก้วมุข รองผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวน เรียกประชุมทีมสอบสวน พร้อมพิจารณาผลการตรวจพิสูจน์หลักฐาน เพื่อเตรียมออกหมายจับกุมผู้ต้องสงสัย พร้อมเรียก นักศึกษาฝึกงานผู้ใกล้ชิดกับผู้ตาย และเป็นผู้ที่พบศพคนแรกมาสอบปากคำโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
ด้านพ.ต.อ.สมเกียรติ์ กล่าวว่า ได้สอบปากคำพยานไปแล้วรวม 10 ปากทั้งญาติผู้ตาย เพื่อนร่วมงาน และเด็กฝึกงาน ส่วนใหญ่ให้การตรงกันว่าผู้ตายเป็นคนดี มีเมตตา ให้ความช่วยเหลือกับทุกคน เปรียบเสมือนติวเตอร์ทางกฏหมาย ตอนนี้ยังเหลือผู้ใกล้ชิดเพียงคนเดีย วคือ นายนิวัตน์ซึ่งได้ข้อมูลว่าผู้ตายให้การดูแลเหมือนน้องชาย อยู่ด้วยกันนาน 3-4 ปี ตั้งแต่รับราชการที่จ.กระบี่ ระนอง และพังงา
“ญาตินายนิวัตน์ยืนยันว่าไม่มีความสัมพันธ์อย่างอื่น นายนิวัตน์เรียกผู้ตายว่าน้า และผู้ตายให้ดูแลเหมือนเป็นน้องชาย พ่อแม่นายนิวัตน์ก็รู้จัก ไม่มีเรื่องอื่นแน่นอน”พ.ต.อ.สมเกียรติ์กล่าว และว่า ล่าสุดมีรายงานข่าวว่าผู้บังคับการกองปราบปรามจะลงพื้นที่ร่วมคลี่คลายคดีด้วย
