สุราษฎร์ธานี - “นิวัฒน์ จงสุข” ผู้ต้องหาฆาตกรรมอัยการเปิดปากรับสารภาพหมดเปลือกก่อเหตุเรื่องหึงหวงผู้ตายไปมีคนใหม่ ขณะที่ญาติผู้ตายไม่เชื่อคำให้การ และเชื่อว่าผู้ต้องหาลงมือฆ่าโหดเพราะมีคนอื่นอยู่เบื้องหลัง
จากกรณีคนร้ายฆ่าโหด นายพยงค์ ดอกไม้หอม อายุ 54 ปี อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงสุราษฎร์ธานี เสียชีวิตคาบ้านพักรองอัยการจังหวัดประจำศาลแขวงสุราษฎร์ธานี เลขที่ 150/259 ในหมู่บ้านอัยการ ถนนดอนนก เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ (30 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายนิวัฒน์ จงสุข ผู้ต้องสงสัยกรณีคนร้ายฆ่าโหดผู้นายพยงค์ ดอกไม้หอม อายุ 54 ปี อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงสุราษฎร์ธานี มายังสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 ภายหลังมีการคุมตัวมาจากบ้านญาติที่จังหวัดลพบุรี โดยมีกำลังกว่า 30 นาย ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เจ้าหน้าที่นำตัว นายนิวัฒน์ เข้ามา ได้มีนายสมพร ดอกไม้หอม อายุ 62 ปี พี่ชายของนายพยงค์ ดอกไม้หอม ผู้ตายได้มาได้เรียกชื่อผู้ต้องหาว่า “ไอ้วัฒน์” ด้วยเสียงดัง และพยายามจะเข้าไปหาผู้ต้องหาแต่ถูกตำรวจกันตัวไว้ทัน หลังจากนั้น ได้นำตัวนายนิวัฒน์ เข้าห้องทำงาน พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภาค 8 เพื่อทำการสอบสวนปากคำทันที โดยมี พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รองผู้บัญชาการสอบสวนกลางร่วมสอบปากคำ
สำหรับการสอบปากคำในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบปากคำในเบื้องต้นประมาณ 30 นาที จึงได้นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าว โดยผู้ต้องรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว หลังก่อเหตุได้หลบหนีกลับไปยังบ้านที่อำเภอตะกั่วป่า และได้ต่อรถหลบหนีไปยังอำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องหึงหวงเรื่องชู้สาว โดยระบุว่า ตนเองได้อยู่ร่วมกับผู้ตายมา 8 ปี และจับได้ว่าผู้ตายแอบไปมีคนใหม่จึงมีปากเสียงกัน ประกอบผู้ตายเป็นคนอารมณ์ร้อน ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณก่อนเที่ยงของวันที่ 28 มิ.ย. ผู้ตายได้นำท่อนไม้มาจะทำร้ายตน จึงมีการต่อสู้กัน และได้ใช้ท่อนไม้ และขาพัดลมตั้งโต๊ะตีจนผู้ตายแน่นิ่ง หลังจากนั้น ก็ได้หลบหนีโดยไปขึ้นรถตู้ที่ตลาดเกษตร 2
ผู้ต้องหายังระบุอีกว่า ไม่ได้นำสร้อยคอทองคำกับพระเลี่ยมของผู้ตายไป หลังจากที่หลบหนีไปก็ตั้งใจที่จะมามอบตัวสู้คดีเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และไม่มีเจตนาวางแผนสังหารผู้ตายไว้ล่วงหน้า โดยติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา ไปรับตัวที่อำเภอศรีเทพ เพื่อมามอบตัวต่อสู้ทางด้านคดี โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ขณะที่ นายสมพร ดอกไม้หอม อายุ 62 ปี พี่ชายผู้ตายบอกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ทางญาติไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหา และเชื่อมั่นว่าผู้ต้องหาก่อเหตุเพราะมีผู้อยู่เบื้องหลัง เพราะมีคนต้องการผลประโยชน์ ซึ่งเป็นพื้นที่สวนปาล์มสวนยางพาราจำนวนนับ 100 ไร่
จากกรณีคนร้ายฆ่าโหด นายพยงค์ ดอกไม้หอม อายุ 54 ปี อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงสุราษฎร์ธานี เสียชีวิตคาบ้านพักรองอัยการจังหวัดประจำศาลแขวงสุราษฎร์ธานี เลขที่ 150/259 ในหมู่บ้านอัยการ ถนนดอนนก เขตเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี เหตุเกิดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมา
ล่าสุด เมื่อเวลา 18.00 น.วันนี้ (30 มิ.ย.) เจ้าหน้าที่ตำรวจได้คุมตัวนายนิวัฒน์ จงสุข ผู้ต้องสงสัยกรณีคนร้ายฆ่าโหดผู้นายพยงค์ ดอกไม้หอม อายุ 54 ปี อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานอัยการคดีศาลแขวงสุราษฎร์ธานี มายังสำนักงานตำรวจภูธรภาค 8 ภายหลังมีการคุมตัวมาจากบ้านญาติที่จังหวัดลพบุรี โดยมีกำลังกว่า 30 นาย ดูแลความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
อย่างไรก็ตาม ในขณะที่เจ้าหน้าที่นำตัว นายนิวัฒน์ เข้ามา ได้มีนายสมพร ดอกไม้หอม อายุ 62 ปี พี่ชายของนายพยงค์ ดอกไม้หอม ผู้ตายได้มาได้เรียกชื่อผู้ต้องหาว่า “ไอ้วัฒน์” ด้วยเสียงดัง และพยายามจะเข้าไปหาผู้ต้องหาแต่ถูกตำรวจกันตัวไว้ทัน หลังจากนั้น ได้นำตัวนายนิวัฒน์ เข้าห้องทำงาน พล.ต.ท.เดชา บุตรน้ำเพชร ผบช.ภาค 8 เพื่อทำการสอบสวนปากคำทันที โดยมี พล.ต.ต.รณศิลป์ ภู่สาระ รองผู้บัญชาการสอบสวนกลางร่วมสอบปากคำ
สำหรับการสอบปากคำในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาสอบปากคำในเบื้องต้นประมาณ 30 นาที จึงได้นำตัวผู้ต้องหามาแถลงข่าว โดยผู้ต้องรับสารภาพว่า ได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว หลังก่อเหตุได้หลบหนีกลับไปยังบ้านที่อำเภอตะกั่วป่า และได้ต่อรถหลบหนีไปยังอำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ ส่วนสาเหตุมาจากเรื่องหึงหวงเรื่องชู้สาว โดยระบุว่า ตนเองได้อยู่ร่วมกับผู้ตายมา 8 ปี และจับได้ว่าผู้ตายแอบไปมีคนใหม่จึงมีปากเสียงกัน ประกอบผู้ตายเป็นคนอารมณ์ร้อน ก่อนเกิดเหตุเวลาประมาณก่อนเที่ยงของวันที่ 28 มิ.ย. ผู้ตายได้นำท่อนไม้มาจะทำร้ายตน จึงมีการต่อสู้กัน และได้ใช้ท่อนไม้ และขาพัดลมตั้งโต๊ะตีจนผู้ตายแน่นิ่ง หลังจากนั้น ก็ได้หลบหนีโดยไปขึ้นรถตู้ที่ตลาดเกษตร 2
ผู้ต้องหายังระบุอีกว่า ไม่ได้นำสร้อยคอทองคำกับพระเลี่ยมของผู้ตายไป หลังจากที่หลบหนีไปก็ตั้งใจที่จะมามอบตัวสู้คดีเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ และไม่มีเจตนาวางแผนสังหารผู้ตายไว้ล่วงหน้า โดยติดต่อเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอตะกั่วป่า จ.พังงา ไปรับตัวที่อำเภอศรีเทพ เพื่อมามอบตัวต่อสู้ทางด้านคดี โดยเจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อหาฆ่าผู้อื่นถึงแก่ความตาย
ขณะที่ นายสมพร ดอกไม้หอม อายุ 62 ปี พี่ชายผู้ตายบอกว่า เหตุการณ์ครั้งนี้ทางญาติไม่เชื่อคำให้การของผู้ต้องหา และเชื่อมั่นว่าผู้ต้องหาก่อเหตุเพราะมีผู้อยู่เบื้องหลัง เพราะมีคนต้องการผลประโยชน์ ซึ่งเป็นพื้นที่สวนปาล์มสวนยางพาราจำนวนนับ 100 ไร่