xs
xsm
sm
md
lg

ป.ป.ช.เร่งสรุปคดีโกงแวต "บิ๊กสรรพากร"งาบ4.3พันล.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เมื่อเวลา 14.00 น.วานนี้ (25 มิ.ย.) นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในฐานะโฆษกสำนักงานป.ป.ช. ชี้แจงกรณีมีข่าวป.ป.ช. อายัดทองคำมูลค่า 600 ล้านบาท ของนายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ว่า คดีนี้เป็นคดีที่ นายสาธิต ถูกกล่าวหาว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตโกงเงินภาษีมูลค่าเพิ่ม 4.3 พันล้านบาท ซึ่งข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ คณะกรรมการป.ป.ช.ได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ เกี่ยวกับการทุจริตดังกล่าว โดยมีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการ ป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนฯ และคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของนายสาธิต รังคสิริ เป็นทองคำมูลค่า 179 ล้านบาท
ทั้งนี้ โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา สำหรับทองคำ หรือทรัพย์สินส่วนอื่นๆนั้น อยู่ระหว่างการตรวจสอบของคณะอนุกรรมการไต่สวนอีกคณะที่รับผิดชอบการไต่สวน นายสาธิต รังคสิริ ว่าร่ำรวยผิดปกติ ซึ่งมี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช. เป็นประธานอนุกรรมการไต่สวนฯ
อนึ่ง คดีดังกล่าวนั้น เริ่มขึ้นเมื่อปี 2556 จากกรณีกรมสรรพากร อนุมัติคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่ 30 บริษัทปริศนา เป็นเงินกว่า 3,647 ล้านบาท โดยบริษัทหลายแห่ง มีที่ตั้งเป็นสถานที่เดียวกัน ไม่มีการประกอบกิจการจริง หลายบริษัทมีที่ตั้งเป็นบ้านเลขที่ห้องเช่า โดยกรณีดังกล่าว คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงของกระทรวงการคลัง ได้สรุปผลว่า มีเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง 18 ราย เป็นข้าราชการระดับสูง ซี 9 จำนวน 4 ราย และระดับปฏิบัติงานอีก 14 ราย จากนั้นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว ได้สรุปว่า มีข้าราชการกรมสรรพากรที่ถูกสอบสวนทางวินัยทั้งหมด 20 ราย และได้ประสานความร่วมมือกับ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เพื่อจัดส่งรายชื่อข้าราชการที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ ให้กับคณะกรรมการป.ป.ช. ตรวจสอบอย่างเป็นทางการ โดยมี นายภักดี โพธิศิริ เป็นประธานคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ซึ่งภายหลังดำเนินการไต่สวนตรวจสอบแล้ว พบว่าในระดับเจ้าหน้าที่ มีอย่างน้อย 2 ราย ที่มีความร่ำรวยผิดปกติ โดยก่อนหน้านี้ คณะอนุกรรมการไต่สวนฯ เห็นว่ามีเหตุอันควรสงสัยว่า นายศุภกิจ ริยะการ หรือ นายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งสรรพากรพื้นที่กรุงเทพฯ เขตบางรัก ร่ำรวยผิดปกติ มีพฤติการณ์น่าเชื่อว่า จะมีการโอนย้าย ยักย้าย แปรสภาพ หรือซุกซ่อนทรัพย์สิน จึงได้มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของ นายศุภกิจ และผู้ที่เกี่ยวข้องไว้เป็นการชั่วคราว รวมมูลค่าประมาณ 48 ล้านบาท และล่าสุดคือ การอายัดทรัพย์สินของนายสาธิต
ด้านนายสมหมาย ภาษี รมว.คลัง เปิดเผยถึงเรื่องนี้ว่า ทางกระทรวงการคลังกำลังรอผลการตรวจสอบ หากป.ป.ช.สรุปความเห็นว่า นายสาธิต มีความผิดจริง ก็จะส่งเรื่องมาให้กระทรวงการคลังเอาผิดทางวินัยต่อไป
ส่วนการอายัดทรัพย์ ไม่ได้รับรายงาน หากเป็นทรัพย์สินที่ไม่ถูกต้อง การถูกอายัดก็ถื่อว่าเหมาะสมแล้ว สำหรับการทุจริต ขอคืนภาษ๊มูลค่าเพิ่มส่งออกปลอม ทำให้กระทรวงการคลังเสียชื่อเสียงไปแล้ว ไม่สามารถแก้ไขอะไรได้
กำลังโหลดความคิดเห็น