นายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิการป.ป.ช. เปิดเผยภายหลังการประชุมป.ป.ช.ว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนคดีทุจริตคืนเงินภาษีมูลเพิ่ม 4.3 ล้านบาท ที่มีนายภักดี โพธิศิริ กรรมการป.ป.ช.เป็นประธานได้รายงานให้ที่ประชุมป.ป.ช.ชุดใหญ่ทราบถึงมติของคณะอนุกรรมการไต่สวนฯที่มีคำสั่งอายัดทรัพย์สินของนายสาธิต รังคสิริ อดีตอธิบดีกรมสรรพากร ที่เป็นหนึ่งในผู้ถูกกล่าวหาคดีทุจริตการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีอายัดทองคำมูลค่า 179 ล้านบาท ตามอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เนื่องจากการไต่สวนพบข้อเท็จจริงว่า นายสาธิตนำเงินที่ได้จากการทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่มไปซื้อทองคำมูลค่า 179 ล้านบาท โดยใช้ชื่อบุคคลอื่นเป็นผู้ถือครองแทน จึงต้องอายัดทรัพย์สินดังกล่าวไว้ก่อน เพื่อไม่ให้มีการยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน
ส่วนที่มีข่าวว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนฯอายัดทองคำของนายสาธิตเป็นมูลค่า 600 ล้านบาทนั้น ถือเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะทองคำที่ ป.ป.ช.อายัดไว้มีแค่ 179 ล้านบาท แต่เมื่อรวมทรัพย์สินส่วนอื่นๆที่ป.ป.ช.กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ก็จะมีมูลค่ารวม 600 ล้านบาท โดยป.ป.ช.กำลังไต่สวนอยู่ว่า ทรัพย์สินที่เหลือมีที่มาถูกต้องหรือไม่ และเข้าข่ายการร่ำรวยผิดปกติหรือไม่
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของคณะอนุกรรมการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช.เป็นประธาน หากพบว่า ทรัพย์สินส่วนที่เหลือมีที่มาไม่ถูกต้อง จะถูกแจ้งข้อหาร่ำรวยผิดปกติเพิ่มเติมขึ้นอีกหนึ่งข้อหา โดยระหว่างนี้หากพบว่า ทรัพย์สินส่วนใดมีความผิดปกติอีก ป.ป.ช.ก็สามารถสั่งอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมได้”
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้นายสาธิตยังมีสิทธิมาชี้แจงถึงที่มาของทองคำที่ป.ป.ช.ได้สั่งอายัดไว้ ซึ่งป.ป.ช.จะให้โอกาสนายสาธิตมาชี้แจงต่อไป หากในที่สุดแล้ว นายสาธิตไม่สามารถพิสูจน์ที่มาของทรัพย์สินได้ ป.ป.ช.จะยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลเพื่อให้ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป
ส่วนที่มีข่าวว่า คณะอนุกรรมการไต่สวนฯอายัดทองคำของนายสาธิตเป็นมูลค่า 600 ล้านบาทนั้น ถือเป็นการเข้าใจคลาดเคลื่อน เพราะทองคำที่ ป.ป.ช.อายัดไว้มีแค่ 179 ล้านบาท แต่เมื่อรวมทรัพย์สินส่วนอื่นๆที่ป.ป.ช.กำลังดำเนินการตรวจสอบอยู่ก็จะมีมูลค่ารวม 600 ล้านบาท โดยป.ป.ช.กำลังไต่สวนอยู่ว่า ทรัพย์สินที่เหลือมีที่มาถูกต้องหรือไม่ และเข้าข่ายการร่ำรวยผิดปกติหรือไม่
“ขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนของคณะอนุกรรมการตรวจสอบบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ที่มี น.ส.สุภา ปิยะจิตติ กรรมการป.ป.ช.เป็นประธาน หากพบว่า ทรัพย์สินส่วนที่เหลือมีที่มาไม่ถูกต้อง จะถูกแจ้งข้อหาร่ำรวยผิดปกติเพิ่มเติมขึ้นอีกหนึ่งข้อหา โดยระหว่างนี้หากพบว่า ทรัพย์สินส่วนใดมีความผิดปกติอีก ป.ป.ช.ก็สามารถสั่งอายัดทรัพย์สินเพิ่มเติมได้”
อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้นายสาธิตยังมีสิทธิมาชี้แจงถึงที่มาของทองคำที่ป.ป.ช.ได้สั่งอายัดไว้ ซึ่งป.ป.ช.จะให้โอกาสนายสาธิตมาชี้แจงต่อไป หากในที่สุดแล้ว นายสาธิตไม่สามารถพิสูจน์ที่มาของทรัพย์สินได้ ป.ป.ช.จะยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลเพื่อให้ยึดทรัพย์ตกเป็นของแผ่นดินต่อไป