xs
xsm
sm
md
lg

ลุ้นศาลตัดสิน "แจ๊ด"นอนห้องขังอย่างน้อย20วัน "ประจิน"เสียวICAOฟันซ้ำ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน-โฆษกตำรวจเผยกระบวนการยุติธรรมญี่ปุ่น "คำรณวิทย์" ส่อถูกคุมตัวอย่างน้อย 20 วันในชั้นอัยการ จนกว่าศาลจะมีคำพิพากษา หากผิดจริงมีโทษจำคุกไม่น้อยกว่า 10 ปี ผบก.ตท.ยอมรับประสานปล่อยตัวเป็นไปได้ยาก คงต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายญี่ปุ่นก่อน และต้องรับโทษ 1 ใน 3 ก่อนขอตัวผู้ร้ายข้ามแดนได้ สถานทูตเผยอัยการนัดทนายหารือวันนี้ ยังไม่ทราบอนาคต "บิ๊กตู่"ลั่นหาคนผิดใครปล่อยปืนผ่านเครื่องตรวจ "ประจิน"รับกังวล มีผลกระทบ ICAO ตรวจสอบมาตรฐาน

พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงกรณีพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีตผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองประจำสนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น จับกุมตัวในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง ขณะกำลังจะเดินทางกลับประเทศไทย ว่า ล่าสุดตนได้รับการยืนยันจากสถานทูตไทยในประเทศญี่ปุ่นว่าพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถูกจับกุมเมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 17.00 น. ขณะกำลังจะเดินทางกลับประเทศไทย ที่สนามบินนาริตะ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นตรวจพบอาวุธปืนลูกโม่รีวอลเวอร์ ขนาดเล็ก อยู่ภายในกระเป๋าถือที่ถือเดินทางขึ้นเครื่อง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ญี่ปุ่นกำลังควบคุมตัวอยู่ภายในสถานีตำรวจนาริตะ ข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต

อย่างไรก็ตาม ตำรวจญี่ปุ่นจะส่งสำนวนให้กับอัยการและจากนั้นอัยการจะใช้ดุลยพินิจพิจารณาว่าจะสั่งฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้อง จากนี้คงต้องรอความชัดเจนจากเจ้าหน้าที่อัยการของประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง

“หากอัยการพิจารณาสั่งฟ้อง ก็จะดำเนินการเตรียมประสานเกี่ยวกับการขอประกันตัวต่อไป หรือหากไม่สั่งฟ้อง ก็สามารถเดินทางกลับประเทศไทยได้เลย เรื่องนี้มีผู้เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ คือ ทางเอกอัคราชทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่น ได้ประสานหาเจ้าหน้าที่ทนายให้กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เรียบร้อยแล้ว"

ทั้งนี้ ยังได้รับรองว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เคยเป็นอดีตข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ในประเทศไทยจริง ซึ่งได้ร่วมเดินทางไปที่ประเทศญี่ปุ่น เพื่อดูงานเรื่องโรงไฟฟ้าที่ใช้พลังงานจากขยะกับองค์กรบริหารส่วนตำบลแห่งหนึ่งของไทย ใน จ.ปทุมธานี โดยผู้ที่เชิญคือท่านนายก อบต. และเป็นกลุ่มที่ได้รับเชิญจากประเทศญี่ปุ่นให้ไปดูงาน

***รับสารภาพลืมไว้ในกระเป๋า

พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ รับสารภาพว่าเป็นปืนของท่านจริง โดยลืมไว้ในกระเป๋าใส่ยา ซึ่งตอนเดินทางไปญี่ปุ่นได้โหลดใส่ไว้ใต้เครื่อง แต่พอขากลับนำมาใส่กระเป๋าสะพายที่กำลังจะเตรียมเดินทางออกจากญี่ปุ่นกระทั่งถูกจับตัวไว้ดังกล่าว

เมื่อถามว่าปืนของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เป็นปืนที่ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า เป็นปืนที่ถูกกฎหมาย แต่ยังไม่ทราบว่าชนิดใดแน่ชัด ถ้าให้เดาท่านคงมีปืนขนาดเล็กติดตัวไว้ โดยตั้งแต่รับราชการมาก็เคยใช้อยู่ตลอด ซึ่งเล็กมาก ใหญ่กว่าพวงกุญแจรถเบนซ์ไม่มาก

เมื่อถามว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ รับสารภาพหรือไม่ โฆษกตร. กล่าวว่า ทราบว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ให้การรับสารภาพเป็นปืนของท่านซึ่งลืมไว้อยู่ในกระเป๋าสะพาย

***ผบ.ตร.สั่งตรวจสอบผ่านสแกนไปได้ยังไง

เมื่อถามว่าทำไมขาออกจากไทยถึงสแกนไม่พบ พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า ถ้าเป็นปืนขนาดเล็ก เมื่อผ่านเครื่องสแกนในแนวตั้งจะไม่เห็นว่าเป็นอาวุธปืน

ถามต่อว่าเป็นความผิดพลาดในเรื่องความปลอดภัยของสนามบินสุวรรณภูมิหรือไม่ โฆษกตร. กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องตรวจสอบต่อไป โดยตอนนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ได้สั่งการให้หาทางช่วยเหลืออย่างเต็มที่ พร้อมสั่งให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองร่วมกับเจ้าหน้าที่การท่าตรวจสอบการเดินทางขาออกจากประเทศไทยด้วยว่าผ่านเครื่องเอ็กซเรย์กระเป๋าหรือเครื่องสแกนออกไปได้อย่างไร โดยเก็บภาพวงจรปิดและภาพจากเครื่องเอ็กซเรย์กระเป๋า พร้อมตรวจสอบว่าออกเดินทางไปวันไหน เดินทางอย่างไร มีกระเป๋าต้องสงสัยหรือไม่กี่ใบ ในวันเดินทางมีใครไปบ้าง มีผู้มาหิ้วกระเป๋าให้หรือไม่ แต่จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเบื้องต้นไม่มี ท่านทำเองทุกขั้นตอน ทั้งหิ้วกระเป๋าและเดินผ่านเครื่องเอ็กซเรย์เองทุกอย่างไม่มีเจ้าหน้าที่คอยดูแลเป็นพิเศษ อย่างไรก็ดี เชื่อว่าเป็นที่รู้กันดีว่าการนำอาวุธปืนออกไปต่างประเทศนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ไม่มีใครรอดการตรวจสอบแน่นอน

“จากภาพการตรวจกล้องวงจรปิดขาออกพบว่า ขณะ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินผ่านเครื่องสแกนมีเสียงร้อง เนื่องจากรองเท้าที่ใส่ จากนั้นท่านก็เดินกลับมาอีกครั้ง แล้วถอดรองเท้า เข้าเครื่องสแกนใหม่อีกครั้งโดยนำรองเท้าใส่ในตระกร้าตรวจสอบอีกด้วย จึงเชื่อว่าท่านคงลืมจริงๆ เพราะเอาปืนไปคงไม่รอดการตรวจสอบจากทางญี่ปุ่นอยู่ดี แต่กระบวนการยุติธรรมของญี่ปุ่นคงต้องดูในเรื่องของพฤติกรรมประกอบด้วย ส่วนตัวมองว่าท่านมีอายุมากแล้ว อาจจะมีอาการขี้หลงขี้ลืมได้บ้าง โดยต้องเป็นไปตามรูปดี แต่เบื้องต้นยังเป็นคำกล่าวอ้างของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ต้องขึ้นอยู่กับทางการญี่ปุ่น” โฆษกตร.กล่าว

***เผยโทษขั้นต่ำติดคุก1-10ปี

เมื่อถามว่าหากอัยการสั่งฟ้องกระทั่งศาลตัดสินลงโทษ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะต้องติดคุกที่ญี่ปุ่นหรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า คงต้องถูกควบคุมตัวอยู่สักระยะเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะขอทำเรื่องประสานขอโอนตัวนักโทษตามสนธิสัญญากลับมารับโทษที่ประเทศไทยต่อไป โดยต้องรอผลก่อนการพิจารณาของอัยการก่อนว่าจะออกมาเช่นไร หากสั่งฟ้องก็จะประสานขอประกันตัวต่อไป เบื้องต้นทราบว่ากระบวนการของญี่ปุ่นต้องใช้เวลาไม่น้อยกว่า 20 วัน ในการพิจารณาสั่งหรือไม่สั่งฟ้อง หรืออาจจะใช้เวลา 1-2 วันก็เป็นได้

“ที่ประเทศญี่ปุ่นมีความเข้มงวดเรื่องกฎหมายอาวุธปืน มีโทษขั้นต่ำ 1-10 ปี ถ้ามีกระสุนด้วยก็เป็น 3-10 ปี ส่วนเรื่องโทษปรับนั้น ไม่แน่ชัด และต้องพิจารณาข้ออ้างที่ว่าลืมปืนไว้ในกระเป๋าด้วยว่าญี่ปุ่นจะเชื่อหรือไม่ จะละเว้นกฎเกณฑ์อะไรให้เราได้บ้าง ต้องดูอีกครั้ง ขึ้นกับกระบวนการยุติธรรมและศาลของญี่ปุ่น สถานะของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ตอนนี้ถูกดำเนินคดีแล้ว เพียงแต่ต้องดูว่าจะสั่งฟ้องหรือไม่ แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องยากลำบากพอสมควร” โฆษกตร.

***สถานทูตยันให้ความช่วยเหลือเต็มที่

นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวว่า ทางสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ได้ดำเนินการให้การช่วยเหลือ โดยได้ส่งเจ้าหน้าที่สถานทูตไปเป็นล่าม และประสานงานกับคณะ รวมทั้งได้แนะนำทนายความให้กับ พล.ต.ท.คำรณวิทย์แล้ว อย่างไรก็ตาม ในส่วนของรายละเอียดของเหตุการณ์ขณะนี้อยู่ในกระบวนการสอบสวน จึงต้องรอการพิจารณาตามกฎหมายของญี่ปุ่น ซึ่งทางสถานทูตจะอำนวยความสะดวกและดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเต็มที่เพื่อให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ได้รับการปฏิบัติอย่างเป็นธรรมตามกฎหมาย

***รับประสานปล่อยตัว"บิ๊กแจ๊ด"เป็นไปได้ยาก

พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ (ผบก.ตท.) กล่าวยอมรับว่า การประสานให้ประเทศญี่ปุ่นปล่อยตัว พล.ต.ท.คำรณวิทย์เป็นไปได้ยาก เนื่องจากต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น ในส่วนของกองการต่างประเทศอยู่ระหว่างรอการประสานเกี่ยวกับเอกสารอย่างเป็นทางการ ซึ่งเบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าขั้นตอนเอกสารจะแล้วเสร็จเมื่อใด แต่โดยหลักการแล้ว พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายญี่ปุ่น ในข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต

***ต้องรับโทษ 1 ใน 3 ก่อนขอตัวกลับไทย

พล.ต.ต.อภิชาติ กล่าวด้วยว่า หากกรณีนี้ ศาลประเทศญี่ปุ่น ตัดสินว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ มีความผิดจริง ตามขั้นตอนของกฎหมายระหว่างประเทศ ในเรื่องการโอนตัวนักโทษ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ จะต้องรับโทษ 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น ก่อนประสานส่งตัวกลับมายังประเทศไทยได้

***อัยการญี่ปุ่นนัดทนายเข้าหารือวันนี้

เจ้าหน้าที่กงสุลของสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น กล่าวว่า ตอนนี้สำนวนคดีของ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจญี่ปุ่นส่งต่อไปในชั้นอัยการแล้ว โดยอัยการได้นัดทนายเข้าหารือในวันนี้ (25 มิ.ย.)

“ตามกฎหมายญี่ปุ่น อัยการมีอำนาจในการควบคุมตัวผู้ต้องหาสูงสุด 20 วัน ส่วนแนวโน้มของคดีต้องบอกว่าตอบไม่ได้จริงๆ วันนี้เขาอาจจะนัดทนายเข้าไปแจ้งว่าจะควบคุมตัวกี่วัน หรืออาจจะไม่บอกก็ได้ ส่วนเรื่องจะส่งฟ้องศาลหรือไม่ฟ้องศาล เขาก็อาจจะไม่บอกอะไรเราเลยก็ได้” เจ้าหน้าที่กงสุลของสถานทูตไทยในกรุงโตเกียวเผย

ทั้งนี้ ไม่มีการเปิดเผยว่า ตอนนี้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ถูกควบคุมตัวอยู่ ณ ที่แห่งใด ขณะที่ระเบียบของทางการญี่ปุ่นกำหนดให้มีการเข้าเยี่ยมผู้ต้องหาได้เพียงวันละ 1 ครั้งเท่านั้น ส่วนในชั้นอัยการก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของอัยการว่าจะให้ญาติเข้าเยี่ยมได้หรือไม่

เจ้าหน้าที่กงสุลของไทยกล่าวอีกว่า ที่ผ่านมา สถานทูตไทยยังไม่เคยเจอเหตุคนไทยถูกจับ เพราะพกปืนขึ้นเครื่องบินในญี่ปุ่นมาก่อน ส่วนทนายที่ทำคดีให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์นั้น ไม่สามารถเปิดเผยได้ว่าเป็นใคร เป็นคนไทย หรือคนญี่ปุ่น แต่เป็นผู้ที่มีใบอนุญาตในการทำคดีและติดต่อกับเจ้าหน้าที่ในกระบวนการยุติธรรมของญี่ปุ่นเท่านั้น

***ปัดกรณีจับ "บิ๊กแจ๊ด"ไม่เกี่ยว ICAO

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจประเทศญี่ปุ่นควบคุมตัวในข้อหามีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครอง จะส่งผลกระทบต่อการตรวจสอบขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) หรือไม่ ว่า ไม่เกี่ยว อย่าไปเขียนให้ปนกัน เรื่องนี้ เป็นเรื่องของการลักลอบนำสิ่งของขึ้นเครื่องบิน ซึ่งกำลังตรวจสอบอยู่ มันมีความผิด เพราะมีการขนของหนีภาษี ซึ่งเป็นเรื่องที่ผิด โดยกำลังสอบอยู่ว่ามันไปได้อย่างไร อย่าไปหาเรื่อง เอาไปตี พอเขาดีให้ ก็เอาลงมาอีก ก็แก้ไปสิ ไปอธิบายว่าเป็นเรื่องของบุคคล ICAO เป็นเรื่องขององค์กร แยกออกจากกันซะ เขียนให้ประเทศชาติไปได้หน่อย ตนไม่ได้ให้ท่านปิดเลยซักอย่าง

***สั่งสอบใครปล่อยผ่านเครื่องตรวจ

เมื่อถามว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ถูกจับที่ประเทศญี่ปุ่น จะถือประเทศไทยมีความผิดด้วยหรือไม่ เพราะปล่อยให้อาวุธออกประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า แล้วอย่างไร เขาเป็นใครล่ะ ตนพูดเมื่อกี้ ไม่ได้ฟังหรือ ก็ไปสอบสวนสิว่าผ่านการตรวจไปได้อย่างไร มีการละเว้นกันหรือไม่ ผ่านการตรวจเอ็กซเรย์หรือเปล่า กำลังสั่งเขาให้ไปสอบแล้ว ผิดก็คือผิด

***"ประวิตร"ลั่นจนท.ห่วยถ้าปล่อยปืนออกจากไทย

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวว่า ทางสนามบินสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ความมั่นคง จะต้องมีการตรวจสอบในเรื่องอาวุธ และสิ่งของที่ผิดกฎหมายที่จะออกไปต่างประเทศให้ดี ถ้าไปเจอที่ต่างประเทศแล้วบอกว่าผ่านมาจากประเทศไทย แสดงว่าเครื่องมือเราใช้ไม่ได้ และเจ้าหน้าที่ของเราห่วย ดังนั้น เจ้าหน้าที่จะต้องช่วยกันดูแล รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ และกำลังตรวจสอบเรื่องนี้ว่าจะดำเนินการอย่างไร เพื่อไม่ให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นอีก ตนไม่รู้ว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ได้ปืนมาจากที่ญี่ปุ่น หรือนำออกไปจากประเทศไทย ถ้านำออกไปจากประเทศไทย ถือว่าเจ้าหน้าที่ใช้ไม่ได้ เพราะต้องตรวจสอบทุกคนไม่มีเว้น ไม่ว่าจะเป็นบุคคลพิเศษระดับไหน ต้องตรวจสอบให้หมด ไม่มีการยกเว้นแม้แต่คนเดียว

***"ประจิน"ยันไม่บกพร่องตรวจปืน

พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม กล่าวว่า เบื้องต้นได้รับรายงานจากนายประสงค์ พูนธเนศ อธิบดีกรมสรรพกร
ในฐานะประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. ทางโทรศัพท์ว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยได้ผ่านขั้นตอนการตรวจทั้งเครื่องสแกน กระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่องบิน และกระเป๋าถือขึ้นเครื่องบิน ไม่พบว่ามีการพกอาวุธปืน และไม่มีรายงานการขออนุญาตนำอาวุธปืนออกนอกประเทศ จึงยืนยันได้ว่า ในส่วนของระบบจากการตรวจสอบช่วงเดินทางออกจากประเทศไทย มีหลักฐานยืนยันการตรวจสอบอย่างชัดเจนทั้งสัมภาระที่โหลดใต้ท้องเครื่องบิน รวมถึงกระเป๋าถือขึ้นบนเครื่องบิน จึงไม่มีประเด็นเกี่ยวกับเรื่องความบกพร่องในส่วนของการเดินทางออกนอกประเทศ

"ประธานบอร์ดทอท.ได้ยืนยันมาว่า ไม่มีการละเลยการตรวจค้นอาวุธแน่นอน และไม่มีทางที่จะหลุดรอด มีบันทึก CCTV ซึ่งผมยังไม่ได้เห็นภาพ เพราะเป็นการรับรายงานจาก ทอท. และได้บอกให้เร่งรายงานฝ่ายความมั่นคงด้วย"

อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า ระบบตรวจค้นของท่าอากาศยานนั้น มีเกณฑ์มาตรฐาน 0.9-.99% ซึ่งเทคโนโลยีนั้น มีโอกาสผิดพลาด 0.01-0.1% แต่ระบบทุกอย่างต้องมีการปรับปรุงพัฒนา ไม่มีอะไรที่หยุดนิ่งแล้วดี และเมื่อพบเหตุที่ควรแก้ไข จะต้องทำทันที

ส่วนกรณี ICAO จะเข้ามาตรวจสอบเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยภายในท่าอากาศยานของไทย ยอมรับว่า มีความกังวลว่าจะได้รับผลกระทบ แต่ยืนยันท่าอากาศยานของไทยมีมาตรฐานสากล รวมถึงสายการบินที่เดินทางออกจากประเทศไทยได้ดำเนินการตามมาตรฐาน

***ทอท.ยันเครื่องตรวจค้นไม่พบปืนเจ้าปัญหา

นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ทอท. ได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากกล้องโทรทัศน์วงจรปิดและอุปกรณ์การตรวจค้นแล้ว ปรากฏว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ได้ให้ความร่วมมือในการตรวจค้นกระเป๋าสัมภาระถือขึ้นเครื่องบินและการตรวจค้นร่างกายตามขั้นตอนของมาตรการตรวจค้นเป็นอย่างดี และกระเป๋าที่โหลดใต้ท้องเครื่อง ก็ได้รับการตรวจตามขั้นตอน และไม่ปรากฎพบวัตถุที่เป็นอันตรายผ่านออกไป ทั้งนื้ การนำปืนไปกับอากาศยานระหว่างประเทศ สามารถทำได้ ต้องขออนุญาก่อน แต่กรณีของพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ไม่พบว่ามีหนังสือขออนุญาต
กำลังโหลดความคิดเห็น