“พล.ต.ต.อภิชาติ” รับการประสานปล่อยตัว “บิ๊กแจ๊ด” เป็นไปได้ยาก ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายญี่ปุ่น ในส่วนของการประสานงานด้านเอกสารระบุไม่ได้จะเสร็จเมื่อใด ขณะที่แนวทางการช่วยเหลือได้ประสานทางการทูตยืนยันเคยดำรงตำแหน่ง ผบช.น.คาดวันนี้น่าจะมีความชัดเจนทางการญี่ปุ่นจะฟ้องหรือไม่ หากถูกตัดสินมีผิดเตรียมประสานขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดน ปรับโทษเหลือ 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น ก่อนส่งกลับไทยได้
วันนี้ (24 มิ.ย.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.อภิชาติ สุริบุญญา ผู้บังคับการกองการต่างประเทศ (ผบก.ตท.) กล่าวถึงกรณีที่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง อดีต ผบช.น. ถูกตรวจพบว่ามีการพกพาอาวุธปืนที่สนามบินนาริตะ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 22 มิ.ย.ที่ผ่านมา โดยยอมรับว่าการประสานให้ประเทศญี่ปุ่นปล่อยตัว พล.ต.ท.คำรณวิทย์เป็นไปได้ยากเนื่องจากต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายของประเทศญี่ปุ่น ในส่วนของกองการต่างประเทศอยู่ระหว่างรอการประสานเกี่ยวกับเอกสารอย่างเป็นทางการ เบื้องต้นยังไม่สามารถระบุได้ว่าขั้นตอนเอกสารจะแล้วเสร็จเมื่อใด แต่โดยหลักการแล้ว พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายญี่ปุ่นในข้อหาครอบครองอาวุธปืนโดยไม่ได้รับอนุญาต
“ส่วนแนวทางการให้การช่วยเหลือขณะนี้ทำได้เพียงแค่ประสานทางการทูต และยืนยันทางเอกสารว่าเคยดำรงตำแหน่งอดีต ผบช.น.จริง ซึ่งขณะที่กระบวนการทางกฎหมายของญี่ปุ่นดำเนินการอยู่นั้น พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะต้องถูกควบคุมตัวภายใน 20 วัน แต่คาดว่าในวันนี้น่าจะมีความชัดเจนว่าทางการญี่ปุ่นจะสั่งฟ้อง พล.ต.ท.คำรณวิทย์หรือไม่” ผบก.ตท.ระบุ
พล.ต.ต.อภิชาติกล่าวด้วยว่า หากกรณีนี้ศาลประเทศญี่ปุ่นตัดสินว่า พล.ต.ท.คำรณวิทย์มีความผิดจริง ตามขั้นตอนของกฎหมายระหว่างประเทศในเรื่องการโอนตัวนักโทษ พล.ต.ท.คำรณวิทย์จะต้องรับโทษ 1 ใน 3 ของประเทศญี่ปุ่น ก่อนประสานส่งตัวกลับมายังประเทศไทยได้