xs
xsm
sm
md
lg

ครม.งัดมาตรการเข้ม พบผู้เข้าข่ายเมอร์สอีก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - "หมอรัชตะ" ยัน ผู้ป่วยชาวโอมาน อาการดีขึ้น ยันสธ.ดูแลกลุ่มเสี่ยงอย่างดี ครม.เข้มมาตรการป้องกัน ด้าน สธ.ประสาน ตร.ล่าตัวคนขับแท็กซี่สัมผัส "ลุงโอมานป่วยเมอร์ส" หลังตามตัวไปถึงสมุทรสาครยังไม่พบ พร้อมตามตัวต่างชาติอีก 8 รายมาเที่ยวบินเดียวกัน ย้ำ รพ.เอกชนไล่ผู้ป่วยเข้าข่ายสอบสวนโรคเมอร์ส มีความผิด สูงสุดถึงปิด รพ. ด้าน สบส.เตรียมลงพื้นที่ตรวจ รพ.เอกชน ขณะที่ คร.ออกประกาศสั่งสถานพยาบาลแยกผู้ป่วยสงสัยเมอร์ส พร้อมแจง สธ.ใน 24 ชม.ส่วนผลแล็บรอบ 2 ด.ญ.ชัยภูมิ 4 ขวบ ไม่ป่วย "เมอร์ส" หลังกลับจากเยี่ยมพ่อที่เกาหลีใต้ ล่าสุดพบชายวัย 33 ปีเข้าข่ายเฝ้าระวังเพิ่มอีก 1 รวมเป็น 2 รายแล้ว

นพ.รัชตะ รัชตะนาวิน รมว.สาธารณสุข (สธ.) ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) กรณีความคืบหน้าอาการของผู้ป่วยโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส) ในประเทศไทยว่า เช้าวันเดียวกันนี้ ผู้ป่วยชาวโอมานที่ติดเชื้อไข้หวัดเมอร์ส มีอาการดีขึ้น สามารถที่จะเคลื่อนไหวได้บ้าง ทั้งนี้ญาติของผู้ป่วยจำนวน 3 คน ยังแข็งแรงดี ส่วนผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อ ที่แต่เดิมมี 176 คน ก็ค่อยๆ ลดลงเรื่อยๆ และบางคนก็ออกนอกประเทศไทยไปบ้างแล้ว อย่างไรก็ตาม หากทีมแพทย์ของเราตรวจเชื้อของผู้ป่วยชาวโอมานพบผลเป็นลบอีก 2 ครั้ง ภายใน 14 วัน ก็จะยืนยันได้ว่าผู้ป่วยอยู่ในอาการปลอดภัยแล้ว

ส่วนที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นห่วงและหวังให้เราควบคุมสถานการณ์ได้ก่อนฤดูการท่องเที่ยวของไทยจะมาถึงนั้น ทางกระทรวงสาธารณสุข ก็พยายามสร้างระบบ และมาตรการป้องกันพร้อมกับเฝ้าระวังผู้ป่วยรายใหม่อย่างเต็มที่ และไม่ได้ปิดกั้นการเดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทยแต่อย่างใด ส่วนการเดินทางออกไปยังประเทศแถบตะวันออกกลาง และเกาหลีใต้ คนไทยยังสามารถเดินทางได้ตามปกติ เพราะฉะนั้นหน้าที่ของเรา คือ สร้างเกราะกำบังภูมิคุ้มการประชากรไทยให้เข้มแข็งพอ

เมื่อถามกรณีที่มีกระแสข่าวโรงพยาบาลเอกชน 2 แห่ง ปฏิเสธรับผู้ป่วยที่อาจเสี่ยงติดเชื้อ จึงส่งต่อสถาบันบำราศนราดูร แทนนั้น นพ.รัชตะ กล่าวว่า เราได้นัดประชุมเพื่อทำความเข้าใจกับโรงพยาบาลเอกชน กว่า 100 แห่ง เรื่องการขอให้ความร่วมมือ และยืนยันว่า โรงพยาบาลเอกชนไม่สามารถปฏิเสธผู้ป่วย แต่กระแสข่าวที่ออกมาทางโรงพยาบาลเอกชนได้ประสานกับ สธ. ว่าหากมีความกังวลว่าผู้ป่วยอาจติดเชื้อ ก็ให้ประสานส่งตัวไปยังสถาบันบำราศนราดูรได้

“คนไทยทุกคน มีหลักประกันสุขภาพอยู่แล้ว แต่ถึงแม้จะเดินทางไปโรงพยาบาลเอกชน ทางสธ.ก็ดูแลค่าใช้จ่ายให้ทั้งหมด ในส่วนของการเฝ้าระวัง”

** ครม.เข้มมาตรการป้องกัน"เมอร์ส"

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ผลการดำเนินการที่ผ่านมา หลังจากการพบผู้ป่วยโรคเมอร์สรายแรกของประเทศไทย ได้มีการดำเนินการ ดังนี้

1. การสอบสวน และติดตามผู้สัมผัสโรค จำนวนทั้งสิ้น 175 ราย 2. รายงานสถานการณ์โรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (ข่าวเพื่อสื่อมวลชน) ผ่านทางเว็บไซต์ สำนักสารนิเทศ กระทรวงสาธารณสุข http://pr.moph.go.th/iprg/include/admin_hotnew/show_hotnew.php?idHot_new=73918 3. จัดทีมติดตามเฝ้าระวังอาการผู้สัมผัส 4. แจกเจลแอลกอฮอล์ล้างมือ หน้ากากป้องกันโรค เอกสารคำแนะนำ เบอร์โทรศัพท์ ที่สามารถติดต่อได้ จัดเตรียมเจ้าหน้าที่คอยให้คำปรึกษา 5. หากผู้สัมผัสมีอาการ สามารถโทรศัพท์แจ้งที่สายด่วน 1422 ได้ทันที ซึ่งหากผู้สัมผัสมีอาการเข้าเกณฑ์ กระทรวงสาธารณสุขจะจัดส่งรถไปรับผู้สัมผัสที่มีอาการที่บ้าน เพื่อจะได้ดำเนินการตรวจวินิจฉัยผู้สัมผัสที่มีอาการต่อไป และ 6. จัดทำข่าวสารประชาสัมพันธ์เพื่อให้ประชาชนเข้าใจสถานการณ์ มีความรู้เกี่ยวกับตัวโรค และรู้วิธีการแพร่โรคต่อไป

ทั้งนี้ ที่ประชุม ครม.รับทราบ การเพิ่มความเข้มแข็งของมาตรการต่างๆ ดังนี้ 1. มาตรการการประเมินความเสี่ยงและการป้องกัน มีการติดตามสถานการณ์การระบาดในต่างประเทศ และสถานการณ์ในประเทศอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งวิเคราะห์และทำการประเมินความเสี่ยง 2. มาตรการการเฝ้าระวัง และคัดกรองมีการเฝ้าระวังคัดกรองผู้เดินทางที่ช่องทางเข้าออกประเทศ/การติดตามกลุ่มเสี่ยง 3. มาตรการการวินิจฉัยดูแลรักษา/การส่งต่อ/การตรวจทางห้องปฏิบัติการ และ 4. คำแนะนำสำหรับผู้เดินทาง/นักท่องเที่ยวที่เดินทางไปประเทศที่มีการระบาดของโรค

*** ชายโอมานอาการทรงตัว

วานนี้ (23 มิ.ย.) นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการปลัดกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) แถลงข่าวภายหลังประชุมศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุขกรณีโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลางหรือโรคเมอร์ส (วอร์รูม) ว่า ขณะนี้ยืนยันว่าไทยมีผู้ป่วยโรคเมอร์สเพียง 1 ราย คือ ชายชาวโอมาน อายุ 75 ปี รักษาตัวอยู่ที่ห้องแยกโรคความดันลบ สถาบันบำราศนราดูร อาการทรงตัว แต่ยังไว้ใจไม่ได้ ส่วนญาติอีก 3 คน ไม่มีไข้ ไม่มีไอ โดยสถานทูตโอมานได้ส่งอาหารโอมานมาให้รับประทาน แต่ยังมีการเฝ้าระวังอยู่ในห้องแยกโรค สามารถสื่อสารและใช้อินเทอร์เน็ตได้ โดยจนครบกำหนดเฝ้าระวัง 14 วัน ในวันที่ 2 ก.ค.2558 และก่อนจะอนุญาตให้กลับบ้านได้จะต้องไม่มีไข้ ไม่มีไอ และต้องมีการตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการผลเป็นลบอย่างน้อย 2 ครั้ง จึงจะกลับบ้านได้

สำหรับผู้สัมผัสผู้ป่วยเมอร์ส 163 คน มีการเฝ้าระวังอาการ ทั้งกักตัวเองอยู่ที่บ้านและ รพ. ขณะนี้พบตัวหมดแล้ว เหลือเพียง 9 คนที่ต้องติดตามตัวต่อไป แบ่งเป็นผู้โดยสารที่มาเที่ยวบินเดียวกัน เป็นชาวต่างชาติ 8 ราย ยังอยู่ในประเทศไทย ประกอบด้วยชาวสหราชอาณาจักร (UK) 6 คน อิตาลี 1 คน และสวิตเซอร์แลนด์ 1 คน ได้ประสานสถานทูตให้ช่วยติดตามตัว อีกรายเป็นคนขับแท็กซี่ ส่วนผู้เข้าข่ายสอบสวนโรคเมอร์สที่มาจากเกาหลีใต้และตะวันออกกลาง ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.-23 มิ.ย. 2558 มีจำนวน 58 ราย ในรอบ 24 ชั่วโมง มี 5 ราย ทั้งหมดผลตรวจเชื้อทางห้องปฏิบัติการเป็นลบ รวมถึงกรณีรายงานผู้ป่วยเข้าข่ายต้องสงสัยในจังหวัดต่างๆ ด้วย

"ขอย้ำว่าหากเดินทางกลับจากประเทศที่มีโรคระบาดแล้วมีไข้และไอภายใน 14 วัน อย่าไป รพ.โดยรถสาธารณะ ให้โทรแจ้ง 1669 หรือ 1422 เพื่อจัดส่งรถพยาบาลที่ได้มาตรฐานไปรับ สำหรับกรณี รพ.เอกชนปฏิเสธรับผู้ป่วยเข้าข่ายสอบสวนโรคจากประเทศที่มีโรคเมอร์สระบาด อาจทำไปเพราะรู้เท่าไม่ถึงการณ์ แต่หากไม่มีการแจ้งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข กรณีเจอผู้ป่วยโรคเมอร์ส และผู้เข้าข่ายต้องสอบสวนโรคเมอร์ส จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.โรคติดต่อ พ.ศ.2523 ปรับไม่เกิน 2,000 -10,000 บาท จำคุกไม่เกิน 6 ดือน และ พ.ร.บ.สถานพยาบาล พ.ศ.2541 หากผิดมาตรฐานมีตั้งแต่ตักเตือน สูงสุดถึงขั้นปิดสถานพยาบาลและไม่ต่อใบอนุญาต" นพ.สุรเชษฐ์ กล่าว

นพ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ขณะนี้ สธ.ทำความเข้าใจ รพ.เอกชนเรียบร้อยแล้ว ส่วนกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) จะลงพื้นที่เพื่อตรวจความพร้อมของ รพ.เอกชนอีกครั้ง จากนี้คิดว่าจะไม่เกิดปัญหาอีก รวมถึงได้ส่งหนังสือแจ้ง รพ.เอกชนและคลินิกทุกแห่งเกี่ยวกับแนวทางการรักษาและการปฏิบัติ

นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค (คร.) กล่าวว่า กลุ่มเสี่ยงที่จะติดโรคเมอร์สมี 2 กลุ่ม ได้แก่ 1.กลุ่มที่ใกล้ชิดกับผู้ป่วยเมอร์ส โดยเฉพาะญาติ บุคลากรทางการแพทย์ที่ให้การรักษา ซึ่งตามตัวเจอทั้งหมดแล้ว ส่วนแท็กซี่ 1 รายและผู้โดยสารต่างชาติเที่ยวบินเดียวกัน 8 ราย ได้ประสานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจช่วยติดตามตัวแล้ว แต่เป็นกลุ่มเสี่ยงต่ำ ขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวล เพราะได้ผ่านช่วง 7 วันที่มีโอกาสแพร่ระบาดสูงไปแล้ว แต่ก็ยังต้องติดตามตัวให้เจอ ทั้งนี้ แท็กซี่ที่ติดตามตัวไม่พบคือรายที่ตอนแรกยังตามไม่พบ แต่ตอนหลังติดตามพบจากกล้องวงจรปิดที่เห็นป้ายทะเบียนรถ จึงระบุไปว่าติดตามพบแล้ว แต่พอตามไปถึง จ.สมุทรสาครปรากฏว่าไม่พบตัว จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจติดตามตัวแล้ว และหากแท็กซี่รายดังกล่าว ทราบจากข่าวขอให้แจ้งมาที่ คร. 1422

นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองอธิบดี สบส. กล่าวว่า วันที่ 24 มิ.ย. เตรียมลงพื้นที่ตรวจ รพ.เอกชนในการเตรียมความพร้อมรับมือโรคเมอร์ส หลังมีการหารือกับรพ.เอกชน โดยหาพบผู้ต้องสงสัย หรือผู้ป่วย สามารถประสานกระทรวงสาธารณสุข ผ่านหมายเลข 1669 รับตัวผู้ป่วยดูอาการ อย่างไรก็ตาม เตรียมทำหนังสือถึง รพ.เอกชน ให้ปฏิบัติตามมิเช่นกันอาจได้รับโทษได้ ส่วนกรณีที่รพ.เอกชนปฏิบัติผู้ป่วย 2 รายนั้น ก็เป็นเพียงการตักเตือน และผลการตรวจเชื้อก็ทราบว่าให้ผลเป็นลบจึงไม่อยากรื้อฟื้น

นพ.ธนะรักษ์ ผลิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักระบาดวิทยา คร. กล่าวว่า สถานการณ์การระบาดในเกาหลีใต้เริ่มดีขึ้น เมื่อดูจากรายงานเปรียบเทียบจำนวนผู้ป่วยกับผู้เสียชีวิต พบว่าความรุนแรงของเชื้อยังอยู่ในเกณฑ์ประเมินเดิม คือ อัตราการเสียชีวิตมากกว่าร้อยละ 30 ซึ่งขณะนี้การระบาดที่เกาหลีใต้ ก็ยังไม่พบการระบาดในชุมชน

** คร.ออกประกาศสั่งแยกผู้ป่วยสงสัยเมอร์ส

นพ.โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค(คร.) ได้ลงนามในประกาศเจ้าพนักงานสาธารณสุข เรื่อง ให้เจ้าของหรือผู้รับผิดชอบสถานพยาบาลดำเนินการตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. 2523 ลงนามวันที่ 23 มิ.ย. โดยมีสาระสำคัญคือ 1. ให้แยกผู้ป่วยหรือผู้มีเหตุสงสัยว่าป่วย ออกมาไว้ต่างหากจากผู้อื่นทันทีที่ทราบว่ามีการป่วยหรือมีเหตุสงสัยว่ามีการ ป่วยเกิดขึ้นในสถานพยาบาล 2.แยกผู้สัมผัสโรค เช่น ญาติ คนที่ได้ใกล้ชิด ให้อยู่ในสถานที่ที่ไม่ปะปนกับผู้อื่น 3.ให้แจ้งข้อมูลของบุคคลตามข้อ 1 และข้อ 2 ให้เจ้าพนักงานสาธารณสุขทราบทันที ต้องไม่เกิน 24 ชั่วโมง 4.กรณีที่จะต้องมีการเคลื่อนย้ายหรือเปลี่ยนสถานพยาบาลของผู้ป่วย ผู้มีเหตุสงสัย หรือผู้สัมผัสโรค ต้องแจ้งเจ้าพนักงานสาธารณสุขก่อนทุกครั้ง 5.ต้องปฎิบัติตามวิธีการและเงื่อนไขเพื่อการป้องกันและควบคุมโรคที่เจ้าพนักงานสาธารณสุขได้มีคำสั่งให้สถานพยาบาลดำเนินการอย่างเคร่งครัด 6.ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมีโทษสูงสุด จำคุกไม่เกิน 6 เดือน ปรับไม่เกิน 1 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

** ผลแล็บรอบ 2 ด.ญ.ชัยภูมิ 4 ขวบ ไม่ป่วย "เมอร์ส"

นพ.สมควร หาญพัฒนชัยกูร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (นพ.สสจ.) ชัยภูมิ กล่าวว่า ขณะนี้ได้เก็บตัวอย่างสารคัดหลั่งของเด็กหญิงชาวจังหวัดชัยภูมิ อายุ 4 ขวบ ที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ เพื่อไปตรวจหาเชื้อโคโรนาไวรัส ที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งผลการตรวจเชื้อทั้ง 2 รอบ ให้ผลเป็นลบ คือไม่เป็นโรคเมอร์ส

แต่ขณะนี้อาการของเด็กยังปกติ ไม่มีปัญหาอะไร ทั้งนี้ จากการสอบประวัติเบื้องต้นพบว่า เดินทางไปเยี่ยมพ่อที่ทำให้ในประเทศเกาหลีเป็นระยะเวลา 1 เดือน กลับเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา และเริ่มมีอาการไข้ ไอ น้ำมูกไหลเมื่อวันที่ 19 มิ.ย. ผู้ปกครองจึงได้พาตัวไปที่ รพ.เอกชนแห่งหนึ่งในจังหวัด เมื่อวันที่ 21 มิ.ย. ตอนแรกสงสัยเป็นไข้เลือดออก แต่ผลการตรวจพบว่าเป็นไข้หวัดธรรมดา จึงให้ออกจาก รพ. แต่เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) มีมาตรการว่าในกรณีผู้ที่เดินทางมาจากประเทศเสี่ยงแล้วมีไข้จะต้องตรวจหาเชื้อโรคเมอร์สด้วย จึงได้เชิญตัวเด็กหญิงคนดังกล่าวเข้ามาเก็บตัวอย่างเชื้อและส่งตรวจที่ศูนย์วิทย์ฯ จ.นครราชสีมา

**บุรีรัมย์พบชายเข้าข่ายเฝ้าระวังเมอร์สอีก1

ที่ จ.บุรีรัมย์ วานนี้ (23 มิ.ย.) นายเสรี ศรีหะไตร ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้เรียกประชุมผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อร่วมกำหนดมาตรการในการควบคุมเฝ้าระวังป้องกันการระบาดของโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง

นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และกรรมการหมู่บ้านเร่งเข้าไปชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชนในพื้นที่ไม่ให้ตื่นตระหนกกับกระแสการระบาดของโรคเมอร์สดังกล่าวเพราะไม่ได้เป็นโรคระบาดร้ายแรงที่ติดต่อกันได้ง่ายๆ ทั้งยังสามารถดูแลป้องกันตนเองไม่ให้ติดเชื้อโรคดังกล่าวได้ หากปฏิบัติตามที่เจ้าหน้าที่แนะนำอย่างเคร่งครัด

ขณะที่ล่าสุดจากข้อมูลของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์พบว่ามีผู้เข้าข่ายเฝ้าระวังโรคเมอร์สเพิ่มอีก 1 ราย เป็นชายอายุ 33 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ อ.ลำปลายมาศ เนื่องจากเพิ่งเดินทางกลับมาจากประเทศกลุ่มเสี่ยง รวมแล้วขณะนี้ จ.บุรีรัมย์มีผู้ที่เข้าข่ายเฝ้าระวังจำนวน 2 ราย อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 รายยังไม่พบมีไข้หรืออาการป่วยผิดปกติแต่อย่างใด

**สสจ.ชัยภูมิแจงกักตัว 2 แม่ลูก

ด้าน นพ.สมควร หาญพัฒนชัยกูร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดชัยภูมิ ได้เรียกประชุมด่วนหัวหน้าส่วนด้านการป้องกันโรคติดต่อร้ายแรง ที่ห้องประชุม สสจ.ชัยภูมิ หลังพบมี 2 แม่ลูกชาว อ.แก้งคร้อ จ.ชัยภูมิ เดินทางกลับจากประเทศเกาหลี โดยเดินทางกลับประเทศไทยมาตั้งแต่วันที่ 9 มิ.ย.58 และได้มอบหมายให้โรงพยาบาลแก้งคร้อ กักตัว 2 แม่ลูกเพื่อดูอาการตรวจหาเชื้อเมอร์สอย่างใกล้ชิดไว้ก่อนตาม พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อไว้ก่อนเป็นเวลา 14 วันนั้น แต่พบว่ามีข่าวทางออนไลน์ที่อ้างว่าผลตรวจหาเชื้อเมอร์ส ทำให้ชาวบ้านแตกตื่นไปทั่วไม่กล้าพาญาติเข้าไปรักษาตัวที่รพ.แก้งคร้อ ทางรพ.แก้งคร้อได้ส่งตัว 2 แม่ลูกมากักตัวเพื่อดูอาการต่อที่โรงพยาบาลชัยภูมิ ในห้องแยกโรคพิเศษแล้ว ซึ่งวันนี้เป็นวันครบการกักตัวตรวจหาเชื้อเมอร์ส

นพ.สมควร กล่าวว่า ผลการกักตัว 2 แม่ลูกชาว จ.ชัยภูมิ ไม่พบเชื้อแต่อย่างใด พร้อมฝากประชาขนในพื้นที่อย่าแตกตื่น ซึ่งการกักตัวดำเนินนการตามขั้นตอนสากล ทาง สสจ.และ รพ.ชัยภูมิ มีมาตรการควบคุมที่ดีและไม่มีการแพร่ระบาดในพื้นที่อย่างแน่นอน โดยจะแถลงผลตรวจให้ทราบยืนยันออกมาได้ชัดเจนทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น