รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาลแจ้งว่า มีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับการโยกย้ายข้าราชการระดับสูงที่จะเกษียณอายุราชการในเดือนก.ย.58 โดยเฉพาะ ตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ของนายอนุสิษฐ คุณากร ซึ่งขณะนี้มีแคนดิเดตหลายคน โดยในส่วนของคนใน สมช. มีรองเลขาธิการ สมช. ที่มีคุณสมบัติ จำนวน 2 คน คือ นางกนกทิพย์ รชตะนันทน์ รองเลขาธิการ สมช. และยังเป็นภรรยาของพล.อ.วิทวัส รชตะนันทน์ อดีตรักษาการปลัดกระทรวงกลาโหม ที่ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดิน และ พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองเลขาธิการ สมช. เพื่อนร่วมรุ่นนักเรียนเตรียมทหารรุ่น 14 (ตท.14) ของพล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร อดีตเลขาธิการ สมช. แต่ในรายของ พล.ท.พงศกร อาจมีปัญหาเรื่องความไว้วางใจ ขณะที่บุคคลภายนอกประกอบด้วย นายภาณุ อุทัยรัตน์ เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ประธานคณะที่ปรึกษากระทรวงกลาโหม และ นายปณิธาน วัฒนายากร ที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ)
รายงานข่าวแจ้งว่า ในรายของนายปณิธาน ที่มีกระแสข่าวออกมานั้น เป็นไปได้ยาก เพราะหากจะมีการเทียบโอนมาจริง ตำแหน่งรองศาสตราจารย์ จะได้แค่ระดับ 9 ไม่ถึงระดับ 11 จะติดปัญหาตรงระบบของ ก.พ. จะยุ่งยากมาก หากรัฐบาลตัดสินใจผลักดันนายปณิธาน เข้ามาเป็นหัวหน้าส่วนราชการจริง จะต้องใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เท่านั้น
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า จากจำนวน 5 คน ที่มีชื่อตอนนี้ หากจะมีการผลักดันคนใน สมช. นางกนกทิพย์ มาแรงที่สุด เพราะทำงานในสมช.มากว่า 30 ปี มีการประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงมาโดยตลอด รวมไปถึงกองทัพเอง มีเพียงจุดเดียวเท่านั้นคือ ตามระเบียบบุคคลที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าส่วนราชการ อย่างน้อยต้องเป็นรองหัวหน้าส่วนราชการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี แต่นางกนกทิพย์ เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองเลขาธิการ สมช. ยังไม่ถึง 2 ปี แต่ไม่ใช่ปัญหา เพราะตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี สามารถยกเว้นข้อบังคับดังกล่าวได้ โดยพิจารณาจากความเหมาะสม
ส่วนนายภาณุ ที่มีชื่อติดมาด้วยในครั้งนี้ หากเอามาจริงคงจะเอามาดูแลเรื่องการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยตรง ขณะที่ พล.อ.นิพัทธ์ ได้รับการยอมรับในเรื่องความรู้ความสามารถ และเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.14 กับพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. แต่โอกาสเป็นไปได้ยาก เพราะติดปัญหาเรื่องความไว้วางใจ
"โดยหลักแล้ว เลขาธิการสมช. จะเป็นคนเสนอชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช.คนใหม่ ไปยังรองนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบ และต่อไปยังนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดหมายว่า นายอนุสิษฐ คงเสนอชื่อคนใน สมช.อย่าง นางกนกทิพย์ แต่การพิจารณาว่า จะเอาหรือไม่เอา ขึ้นอยู่กับรองนายกฯ และนายกฯ ที่จะเลือกคนที่เหมาะสม เพราะตำแหน่งดังกล่าวเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญ อย่างไรก็ตาม แม้นางกนกทิพย์ จะเป็นผู้หญิง ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะทำงานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงมานาน รวมถึงสามี ก็เป็นอดีตนายทหารระดับสูงในกองทัพ แต่คิดว่าจะยังไม่มีการเสนอให้ครม. พิจารณาเร็วๆ นี้" แหล่งข่าว ระบุ
ด้านนายปณิธาน กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีชื่อเป็นแคนดิเดต ชิงตำแหน่งเลขาธิการ สมช.คนต่อไป ว่า ไม่เป็นความจริง เป็นการปล่อยข่าวออกมามากกว่า และตนรู้ด้วยใครเป็นคนปล่อยข่าว ในสมช.มีคนเก่งที่ทำงานได้อยู่ หรือคนนอกที่เป็นทหาร ก็เก่งหลายคน ตนเพียงแต่ไปช่วยเร่งรัดงานให้ พล.อ.ประวิตร ในเรื่องของยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านต่างๆ เท่านั้น ตนเป็นอาจารย์อย่างนี้ก็ดีอยู่แล้ว งานประจำที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันพระปกเกล้า ก็เยอะอยู่แล้ว
รายงานข่าวแจ้งว่า ในรายของนายปณิธาน ที่มีกระแสข่าวออกมานั้น เป็นไปได้ยาก เพราะหากจะมีการเทียบโอนมาจริง ตำแหน่งรองศาสตราจารย์ จะได้แค่ระดับ 9 ไม่ถึงระดับ 11 จะติดปัญหาตรงระบบของ ก.พ. จะยุ่งยากมาก หากรัฐบาลตัดสินใจผลักดันนายปณิธาน เข้ามาเป็นหัวหน้าส่วนราชการจริง จะต้องใช้อำนาจตาม มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญฉบับชั่วคราว เท่านั้น
แหล่งข่าวจากทำเนียบรัฐบาล กล่าวว่า จากจำนวน 5 คน ที่มีชื่อตอนนี้ หากจะมีการผลักดันคนใน สมช. นางกนกทิพย์ มาแรงที่สุด เพราะทำงานในสมช.มากว่า 30 ปี มีการประสานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงมาโดยตลอด รวมไปถึงกองทัพเอง มีเพียงจุดเดียวเท่านั้นคือ ตามระเบียบบุคคลที่จะได้รับการเสนอชื่อเป็นหัวหน้าส่วนราชการ อย่างน้อยต้องเป็นรองหัวหน้าส่วนราชการมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี แต่นางกนกทิพย์ เพิ่งได้รับการแต่งตั้งให้เป็นรองเลขาธิการ สมช. ยังไม่ถึง 2 ปี แต่ไม่ใช่ปัญหา เพราะตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี สามารถยกเว้นข้อบังคับดังกล่าวได้ โดยพิจารณาจากความเหมาะสม
ส่วนนายภาณุ ที่มีชื่อติดมาด้วยในครั้งนี้ หากเอามาจริงคงจะเอามาดูแลเรื่องการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้โดยตรง ขณะที่ พล.อ.นิพัทธ์ ได้รับการยอมรับในเรื่องความรู้ความสามารถ และเป็นเพื่อนร่วมรุ่น ตท.14 กับพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม และ ผบ.ทบ. แต่โอกาสเป็นไปได้ยาก เพราะติดปัญหาเรื่องความไว้วางใจ
"โดยหลักแล้ว เลขาธิการสมช. จะเป็นคนเสนอชื่อบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สมช.คนใหม่ ไปยังรองนายกรัฐมนตรี ที่รับผิดชอบ และต่อไปยังนายกรัฐมนตรี ซึ่งคาดหมายว่า นายอนุสิษฐ คงเสนอชื่อคนใน สมช.อย่าง นางกนกทิพย์ แต่การพิจารณาว่า จะเอาหรือไม่เอา ขึ้นอยู่กับรองนายกฯ และนายกฯ ที่จะเลือกคนที่เหมาะสม เพราะตำแหน่งดังกล่าวเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญ อย่างไรก็ตาม แม้นางกนกทิพย์ จะเป็นผู้หญิง ก็ไม่น่าจะเป็นปัญหา เพราะทำงานกับหน่วยงานด้านความมั่นคงมานาน รวมถึงสามี ก็เป็นอดีตนายทหารระดับสูงในกองทัพ แต่คิดว่าจะยังไม่มีการเสนอให้ครม. พิจารณาเร็วๆ นี้" แหล่งข่าว ระบุ
ด้านนายปณิธาน กล่าวถึงกระแสข่าวที่มีชื่อเป็นแคนดิเดต ชิงตำแหน่งเลขาธิการ สมช.คนต่อไป ว่า ไม่เป็นความจริง เป็นการปล่อยข่าวออกมามากกว่า และตนรู้ด้วยใครเป็นคนปล่อยข่าว ในสมช.มีคนเก่งที่ทำงานได้อยู่ หรือคนนอกที่เป็นทหาร ก็เก่งหลายคน ตนเพียงแต่ไปช่วยเร่งรัดงานให้ พล.อ.ประวิตร ในเรื่องของยุทธศาสตร์ความมั่นคงด้านต่างๆ เท่านั้น ตนเป็นอาจารย์อย่างนี้ก็ดีอยู่แล้ว งานประจำที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และสถาบันพระปกเกล้า ก็เยอะอยู่แล้ว