ในที่สุดสลากกินแบ่งรัฐบาลราคาคู่ละไม่เกิน 80 บาท ก็เกิดขึ้นได้จริงนับตั้งแต่วันที่ 2 มิถุนายนที่ผ่านมา หลังจากหลายฝ่ายได้ใช้ความพยายามร่วมกัน
ส่วนว่าราคาไม่เกิน 80 บาทจะได้นานมากน้อยแค่ไหน หรือตลอดไปหรือไม่จะต้องคอยดูกันต่อไป
แต่ถ้าฟังเสียงจากผู้ขายรายย่อยที่ร้องโอดครวญว่าจะอยู่ไม่ได้ด้วยราคาขายนี้ ก็พอจะอนุมานได้ว่าการขายปลีกในราคาคู่ละไม่เกิน 80 บาทคงจะอยู่นานได้ยาก ทั้งนี้ด้วยเหตุปัจจัยในเชิงตรรกะดังต่อไปนี้
1. สลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นการพนันเฉกเช่นการพนันชนิดอื่นๆ ที่ผู้เล่นถึงขั้นเสพติดที่เรียกว่า นักการพนัน จะไม่คำนึงถึงราคาถูกหรือแพงเป็นอันดับแรก แต่จะคำนึงถึงการสนองความต้องการคือขอให้ได้เลขที่ตนเองต้องการเป็นพอใจ
ดังนั้น การควบคุมราคาขายจะไม่ได้ผลสำหรับคนกลุ่มนี้ แต่อาจได้ผลสำหรับผู้ซื้อซึ่งเสี่ยงโชคแบบสมัครเล่น โดยไม่คาดหวังแพ้หรือชนะ ถูกรางวัลหรือไม่ถูก ขอให้ได้เสี่ยงเพื่อความตื่นเต้น
สำหรับคนกลุ่มนี้ ผู้ขายอาจผิดหวังเมื่อบอกขายเกินราคา 80 บาท และจากการที่คนกลุ่มนี้ปฏิเสธการซื้อนี้เอง จะทำให้รายได้ของผู้ขายลดลงจากที่เคยขายเกินราคา
2. การลดหรือเพิ่มจะส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าซึ่งมิได้มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตมากนัก
ดังนั้น การลดราคาหรือการคุมราคาขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งมิได้เป็นสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีพ จึงไม่มีผลต่อยอดขายมากนัก
แต่ในความเป็นจริงการขายในราคานี้มีผลกระทบต่อรายได้ของผู้ขายรายย่อย เนื่องจากส่วนต่างระหว่างราคาที่รับมากับราคาขายลดลง ส่งผลโดยตรงต่อการเลี้ยงชีพ
3. เนื่องจากสลากกินแบ่งรัฐบาลมิได้เป็นสินค้าจำเป็นในการดำรงชีพดังกล่าวแล้ว
ดังนั้น ผู้ซื้อจึงเลือกซื้อเฉพาะเลขที่ตนเองต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลขที่นิยมตามกระแสหรือที่เรียกว่าเลขเด็ด ดังจะเห็นได้ในกรณีของเลขที่เกี่ยวกับหลวงพ่อคูณ เป็นต้น ซึ่งเป็นที่ต้องการและยอมซื้อกับราคาแพงถึงคู่ละ 150-300 บาทก็มี และผู้ซื้อในราคานี้ก็ยอมซื้อด้วยความเต็มใจ
4. จากการซื้อขายเกินราคาในลักษณะสมยอมกันนี้ จะเป็นเหตุให้คนสองกลุ่มเดือดร้อนคือ
4.1 ผู้ซื้อที่ยึดกติการักษากฎหมาย และไม่ยอมจ่ายเกินราคาที่กำหนดเพื่อให้ได้มาซึ่งเลขเด็ดตามที่ต้องการ อาจหาซื้อเลขเด็ดไม่ได้
4.2 ผู้ขายที่ไม่มีเลขเด็ดมาขาย และต้องการเลขทั่วๆ ไปในราคา 80 บาทอาจขายไม่หมด หรือถึงแม้จะขายได้หมดก็มีรายได้น้อยกว่าที่เคยเป็นมาในอดีตทำให้เดือดร้อน
จากบุคคล 2 กลุ่มดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าการควบคุมราคาขายไม่เกินคู่ละ 80 บาทเป็นไปได้ยาก และมิได้ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ซื้อเพียงอย่างเดียว แต่ยังก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้ซื้อในกรณีต้องการหาเลขเด็ดแต่ซื้อไม่ได้ในราคาควบคุม เนื่องจากมีผู้ซื้อกลุ่มหนึ่งยอมจ่ายในราคาที่ผู้ขายต้องการรองรับการขายเกินราคาควบคุมอยู่ด้วยความสมัครใจ
ด้วยเหตุ 2 ประการดังกล่าวในข้อ 4.1-4.2 จึงพออนุมานได้ว่า การขายปลีกสลากกินแบ่งรัฐบาลถึงแม้ในทางนิตินัยจะควบคุมได้ แต่ในทางพฤตินัยยังมีการขายเกินราคาอยู่ โดยที่ผู้ซื้อกับผู้ขายสมยอมกันในกรณีเลขเด็ด จึงเท่ากับควบคุมไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์นั่นเอง
เมื่อการควบคุมราคาขายในทางพฤตินัยกระทำไม่ได้ จะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร
ก่อนอื่นจะต้องยอมรับว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลก็คือการพนันที่ถูกกฎหมาย และเป็นเหตุหรือเป็นที่มาของการขายหวยเถื่อน 2 ตัว และ 3 ตัวที่ออกโดยอาศัยเลขสลากกินแบ่งรัฐบาลควบคู่กันไป ทั้งหาซื้อง่ายกว่าสลากกินแบ่งรัฐบาล ในกรณีที่ต้องการซื้อเลขที่ตนเองต้องการ
ดังนั้น ทางออกที่ดีและทำให้สลากกินแบ่งรัฐบาลขายในราคาควบคุมได้ โดยที่ผู้ขายโก่งราคาไม่ได้ในกรณีเลขเด็ดก็คือ การนำหวยออนไลน์มาขายแทนสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ต้องพิมพ์ออกมาเป็นชุด และเป็นเหตุให้ผู้ขายที่มีเลขเด็ดโก่งราคาขายได้
แต่การขายสลากกินแบ่งรัฐบาลโดยอาศัยเครื่องขายหวยออนไลน์ ก็ใช่ว่าจะกระทำได้โดยที่ไม่มีกระแสคัดค้านจากผู้ขายรายย่อยที่เคยมีรายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อย
ดังนั้น ถ้าจะให้ทุกอย่างเกิดขึ้น และเป็นไปได้โดยปราศจากการคัดค้านก็มีอยู่ทางเดียวคือเปิดโอกาสให้ผู้ขายรายย่อยรวมตัวกันเป็นกลุ่มๆ และอนุญาตให้ทำเครื่องขายหวยออนไลน์ไปขายในนามกลุ่มแล้วแบ่งผลประโยชน์ภายในกลุ่ม ก็น่าจะแก้ปัญหานี้ได้
แต่ทางที่ดีที่สุดคงจะทำได้ยาก ในความเป็นจริงในภาวะที่รัฐบาลต้องการรายได้ก็คือ ยกเลิกการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยรัฐอนุญาตให้เอกชนดำเนินการโดยการประมูลไปดำเนินการเอง แล้วนำรายได้จากส่วนนี้มาเป็นสวัสดิการแก่คนยากจนที่สูญเสียรายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นกลุ่มๆ ไป หรือไม่ก็เลิกไปเลยโดยเด็ดขาด
ส่วนว่าราคาไม่เกิน 80 บาทจะได้นานมากน้อยแค่ไหน หรือตลอดไปหรือไม่จะต้องคอยดูกันต่อไป
แต่ถ้าฟังเสียงจากผู้ขายรายย่อยที่ร้องโอดครวญว่าจะอยู่ไม่ได้ด้วยราคาขายนี้ ก็พอจะอนุมานได้ว่าการขายปลีกในราคาคู่ละไม่เกิน 80 บาทคงจะอยู่นานได้ยาก ทั้งนี้ด้วยเหตุปัจจัยในเชิงตรรกะดังต่อไปนี้
1. สลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นการพนันเฉกเช่นการพนันชนิดอื่นๆ ที่ผู้เล่นถึงขั้นเสพติดที่เรียกว่า นักการพนัน จะไม่คำนึงถึงราคาถูกหรือแพงเป็นอันดับแรก แต่จะคำนึงถึงการสนองความต้องการคือขอให้ได้เลขที่ตนเองต้องการเป็นพอใจ
ดังนั้น การควบคุมราคาขายจะไม่ได้ผลสำหรับคนกลุ่มนี้ แต่อาจได้ผลสำหรับผู้ซื้อซึ่งเสี่ยงโชคแบบสมัครเล่น โดยไม่คาดหวังแพ้หรือชนะ ถูกรางวัลหรือไม่ถูก ขอให้ได้เสี่ยงเพื่อความตื่นเต้น
สำหรับคนกลุ่มนี้ ผู้ขายอาจผิดหวังเมื่อบอกขายเกินราคา 80 บาท และจากการที่คนกลุ่มนี้ปฏิเสธการซื้อนี้เอง จะทำให้รายได้ของผู้ขายลดลงจากที่เคยขายเกินราคา
2. การลดหรือเพิ่มจะส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าอุปโภคบริโภค ซึ่งมีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิต แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าซึ่งมิได้มีความจำเป็นต่อการดำรงชีวิตมากนัก
ดังนั้น การลดราคาหรือการคุมราคาขายสลากกินแบ่งรัฐบาล ซึ่งมิได้เป็นสินค้าจำเป็นต่อการดำรงชีพ จึงไม่มีผลต่อยอดขายมากนัก
แต่ในความเป็นจริงการขายในราคานี้มีผลกระทบต่อรายได้ของผู้ขายรายย่อย เนื่องจากส่วนต่างระหว่างราคาที่รับมากับราคาขายลดลง ส่งผลโดยตรงต่อการเลี้ยงชีพ
3. เนื่องจากสลากกินแบ่งรัฐบาลมิได้เป็นสินค้าจำเป็นในการดำรงชีพดังกล่าวแล้ว
ดังนั้น ผู้ซื้อจึงเลือกซื้อเฉพาะเลขที่ตนเองต้องการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเลขที่นิยมตามกระแสหรือที่เรียกว่าเลขเด็ด ดังจะเห็นได้ในกรณีของเลขที่เกี่ยวกับหลวงพ่อคูณ เป็นต้น ซึ่งเป็นที่ต้องการและยอมซื้อกับราคาแพงถึงคู่ละ 150-300 บาทก็มี และผู้ซื้อในราคานี้ก็ยอมซื้อด้วยความเต็มใจ
4. จากการซื้อขายเกินราคาในลักษณะสมยอมกันนี้ จะเป็นเหตุให้คนสองกลุ่มเดือดร้อนคือ
4.1 ผู้ซื้อที่ยึดกติการักษากฎหมาย และไม่ยอมจ่ายเกินราคาที่กำหนดเพื่อให้ได้มาซึ่งเลขเด็ดตามที่ต้องการ อาจหาซื้อเลขเด็ดไม่ได้
4.2 ผู้ขายที่ไม่มีเลขเด็ดมาขาย และต้องการเลขทั่วๆ ไปในราคา 80 บาทอาจขายไม่หมด หรือถึงแม้จะขายได้หมดก็มีรายได้น้อยกว่าที่เคยเป็นมาในอดีตทำให้เดือดร้อน
จากบุคคล 2 กลุ่มดังกล่าวข้างต้น จะเห็นได้ว่าการควบคุมราคาขายไม่เกินคู่ละ 80 บาทเป็นไปได้ยาก และมิได้ก่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ซื้อเพียงอย่างเดียว แต่ยังก่อความเดือดร้อนให้แก่ผู้ซื้อในกรณีต้องการหาเลขเด็ดแต่ซื้อไม่ได้ในราคาควบคุม เนื่องจากมีผู้ซื้อกลุ่มหนึ่งยอมจ่ายในราคาที่ผู้ขายต้องการรองรับการขายเกินราคาควบคุมอยู่ด้วยความสมัครใจ
ด้วยเหตุ 2 ประการดังกล่าวในข้อ 4.1-4.2 จึงพออนุมานได้ว่า การขายปลีกสลากกินแบ่งรัฐบาลถึงแม้ในทางนิตินัยจะควบคุมได้ แต่ในทางพฤตินัยยังมีการขายเกินราคาอยู่ โดยที่ผู้ซื้อกับผู้ขายสมยอมกันในกรณีเลขเด็ด จึงเท่ากับควบคุมไม่ได้ 100 เปอร์เซ็นต์นั่นเอง
เมื่อการควบคุมราคาขายในทางพฤตินัยกระทำไม่ได้ จะมีแนวทางแก้ไขอย่างไร
ก่อนอื่นจะต้องยอมรับว่าสลากกินแบ่งรัฐบาลก็คือการพนันที่ถูกกฎหมาย และเป็นเหตุหรือเป็นที่มาของการขายหวยเถื่อน 2 ตัว และ 3 ตัวที่ออกโดยอาศัยเลขสลากกินแบ่งรัฐบาลควบคู่กันไป ทั้งหาซื้อง่ายกว่าสลากกินแบ่งรัฐบาล ในกรณีที่ต้องการซื้อเลขที่ตนเองต้องการ
ดังนั้น ทางออกที่ดีและทำให้สลากกินแบ่งรัฐบาลขายในราคาควบคุมได้ โดยที่ผู้ขายโก่งราคาไม่ได้ในกรณีเลขเด็ดก็คือ การนำหวยออนไลน์มาขายแทนสลากกินแบ่งรัฐบาลที่ต้องพิมพ์ออกมาเป็นชุด และเป็นเหตุให้ผู้ขายที่มีเลขเด็ดโก่งราคาขายได้
แต่การขายสลากกินแบ่งรัฐบาลโดยอาศัยเครื่องขายหวยออนไลน์ ก็ใช่ว่าจะกระทำได้โดยที่ไม่มีกระแสคัดค้านจากผู้ขายรายย่อยที่เคยมีรายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลรายย่อย
ดังนั้น ถ้าจะให้ทุกอย่างเกิดขึ้น และเป็นไปได้โดยปราศจากการคัดค้านก็มีอยู่ทางเดียวคือเปิดโอกาสให้ผู้ขายรายย่อยรวมตัวกันเป็นกลุ่มๆ และอนุญาตให้ทำเครื่องขายหวยออนไลน์ไปขายในนามกลุ่มแล้วแบ่งผลประโยชน์ภายในกลุ่ม ก็น่าจะแก้ปัญหานี้ได้
แต่ทางที่ดีที่สุดคงจะทำได้ยาก ในความเป็นจริงในภาวะที่รัฐบาลต้องการรายได้ก็คือ ยกเลิกการออกสลากกินแบ่งรัฐบาล โดยรัฐอนุญาตให้เอกชนดำเนินการโดยการประมูลไปดำเนินการเอง แล้วนำรายได้จากส่วนนี้มาเป็นสวัสดิการแก่คนยากจนที่สูญเสียรายได้จากการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็นกลุ่มๆ ไป หรือไม่ก็เลิกไปเลยโดยเด็ดขาด