ชุมพร - หลังรัฐบาลเอาจริงขายสลากกินแบ่งเกินราคา คนเร่ขายกลัวต้องหันไปเดินโพยขายหวยเถื่อนได้เปอร์เซ็นต์งาม ปลอดภัย ไม่ถูกจับ ขณะที่แผงเอเยนต์เผยหนังสือใบ้หวยขายดี
วันนี้ (16 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจการขายสลากกินแบ่งตามนโยบายรัฐบาลที่ใช้มาตรการควบคุมราคาอย่างจริงจังขั้นเด็ดขาด คู่ละ 80 บาททั่วประเทศ และกำหนดโควตาให้ขายเพียงรายละ 5 เล่ม หรือ 500 คู่ ส่งผลให้ในพื้นที่ จ.ชุมพร ปรากฏว่า คนเดินขายที่เป็นเครือข่ายของเอเยนต์ที่นำไปตระเวนเดินขายโดยเอากำไรส่วนเกินจากราคาที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่มีเงินสดไปซื้อโควตาที่รัฐจัดสรรให้ จึงทำให้คนที่เดินเร่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลตามร้านอาหาร ย่านชุมชน ตามหมู่บ้าน ต้องหยุดอาชีพดังกล่าวไป เนื่องจากไม่กล้าขายกลัวถูกจับดำเนินคดี จึงต้องหันไปยึดอาชีพอื่นโดยส่วนใหญ่หันไปเดินโพยขายหวยเถื่อนให้แก่เจ้ามือรายใหญ่ๆ ในจังหวัด เนื่องจากได้เปอร์เซ็นต์การขายดี ร้อยละ 30-35 บาท เพราะไม่ต้องลงทุนแต่อย่างใด และขายได้อย่างอิสระไม่ต้องกลัวถูกจับกุม
จากการออกสำรวจตามแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในเขตเทศบาลเมืองชุมพร ปรากฏว่า หนังสือหวย และโพยใบ้หวยซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการใบ้หวยเถื่อนตัวตรง 3 ตัว โต๊ด 2 และตัวลอย 1 ตัว ที่นำตัวเลขจากการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลมาใช้เป็นเลขออกหวยเถื่อน กลายเป็นหนังสือรายปักษ์ของเหล่าบรรดานักเสี่ยงโชคที่จะรวบรวมเลขเด็ด เลขดังจากหลายสำนัก ให้ได้เลือกซื้อตามความเชื่อส่วนตัว ได้ถูกนำมาวางจำหน่ายตามแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาล และร้านจำหน่ายหนังสือในทุกๆ งวดที่มีการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล มีตั้งแต่ราคา 20 บาท ไปจนถึงราคา 40 บาท
นางสุกัญญา นครพัฒน์ อายุ 37 ปี แม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาลย่านสี่แยกมอนเดียร์ เขตเทศบาลเมืองชุมพร เปิดเผยว่า การขายหนังสือใบ้หวยถือเป็นรายได้ที่แน่นอน มีความเสี่ยงต่ำ และได้รับกำไรค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงเลือกยึดเป็นอาชีพทำรายได้หลักแทนการขายสลาก
ขณะที่ นางวันเพ็ญ ใยบัวทอง อายุ 36 ปี แม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในเขตเทศบาลเมืองชุมพร อีกราย กล่าวว่า หนังสือ และโพยใบ้หวยมีมานานแล้ว สมัยแรกๆ จะแทรกมากับนิตยสาร ต่อมา มีการทำเป็นเล่มเพื่อจำหน่าย และมียอดขายเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นที่นิยมของนักเสี่ยงโชค ส่วนโพยใบ้หวยบางสำนักจะเขียนด้วยลายมือก่อนนำไปถ่ายเป็นเอกสาร ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลจะต้องซื้อหนังสือ และโพยใบ้หวยในแต่ละงวดเพื่อมาจำหน่าย เพราะขายดี และดึงดูดใจลูกค้ามากขึ้นด้วย
วันนี้ (16 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสำรวจการขายสลากกินแบ่งตามนโยบายรัฐบาลที่ใช้มาตรการควบคุมราคาอย่างจริงจังขั้นเด็ดขาด คู่ละ 80 บาททั่วประเทศ และกำหนดโควตาให้ขายเพียงรายละ 5 เล่ม หรือ 500 คู่ ส่งผลให้ในพื้นที่ จ.ชุมพร ปรากฏว่า คนเดินขายที่เป็นเครือข่ายของเอเยนต์ที่นำไปตระเวนเดินขายโดยเอากำไรส่วนเกินจากราคาที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนที่ไม่มีเงินสดไปซื้อโควตาที่รัฐจัดสรรให้ จึงทำให้คนที่เดินเร่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลตามร้านอาหาร ย่านชุมชน ตามหมู่บ้าน ต้องหยุดอาชีพดังกล่าวไป เนื่องจากไม่กล้าขายกลัวถูกจับดำเนินคดี จึงต้องหันไปยึดอาชีพอื่นโดยส่วนใหญ่หันไปเดินโพยขายหวยเถื่อนให้แก่เจ้ามือรายใหญ่ๆ ในจังหวัด เนื่องจากได้เปอร์เซ็นต์การขายดี ร้อยละ 30-35 บาท เพราะไม่ต้องลงทุนแต่อย่างใด และขายได้อย่างอิสระไม่ต้องกลัวถูกจับกุม
จากการออกสำรวจตามแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในเขตเทศบาลเมืองชุมพร ปรากฏว่า หนังสือหวย และโพยใบ้หวยซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการใบ้หวยเถื่อนตัวตรง 3 ตัว โต๊ด 2 และตัวลอย 1 ตัว ที่นำตัวเลขจากการออกสลากกินแบ่งรัฐบาลมาใช้เป็นเลขออกหวยเถื่อน กลายเป็นหนังสือรายปักษ์ของเหล่าบรรดานักเสี่ยงโชคที่จะรวบรวมเลขเด็ด เลขดังจากหลายสำนัก ให้ได้เลือกซื้อตามความเชื่อส่วนตัว ได้ถูกนำมาวางจำหน่ายตามแผงขายสลากกินแบ่งรัฐบาล และร้านจำหน่ายหนังสือในทุกๆ งวดที่มีการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล มีตั้งแต่ราคา 20 บาท ไปจนถึงราคา 40 บาท
นางสุกัญญา นครพัฒน์ อายุ 37 ปี แม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาลย่านสี่แยกมอนเดียร์ เขตเทศบาลเมืองชุมพร เปิดเผยว่า การขายหนังสือใบ้หวยถือเป็นรายได้ที่แน่นอน มีความเสี่ยงต่ำ และได้รับกำไรค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับการขายสลากกินแบ่งรัฐบาล จึงเลือกยึดเป็นอาชีพทำรายได้หลักแทนการขายสลาก
ขณะที่ นางวันเพ็ญ ใยบัวทอง อายุ 36 ปี แม่ค้าขายสลากกินแบ่งรัฐบาลในเขตเทศบาลเมืองชุมพร อีกราย กล่าวว่า หนังสือ และโพยใบ้หวยมีมานานแล้ว สมัยแรกๆ จะแทรกมากับนิตยสาร ต่อมา มีการทำเป็นเล่มเพื่อจำหน่าย และมียอดขายเพิ่มจำนวนขึ้นเรื่อยๆ เพราะเป็นที่นิยมของนักเสี่ยงโชค ส่วนโพยใบ้หวยบางสำนักจะเขียนด้วยลายมือก่อนนำไปถ่ายเป็นเอกสาร ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสลากกินแบ่งรัฐบาลจะต้องซื้อหนังสือ และโพยใบ้หวยในแต่ละงวดเพื่อมาจำหน่าย เพราะขายดี และดึงดูดใจลูกค้ามากขึ้นด้วย