นายกฯสั่งระดมรับมือวิกฤตน้ำ ทั้งปัญหาน้ำหลาก และภัยแล้ง แจ้งทุกหน่วยงานต้องปรับตัวตามสถานการณ์ ห้ามทำงานหน้าเดียว เผยระดมฝูงบินจากใต้สมทบทำฝนเทียม แจงสำเร็จร้อยละ 92.1 ด้าน "ประภัตร"แนะรัฐบาลแจกเงินชาวนาสู้ภัยแล้ง
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้การรับมือภัยธรรมชาติมีความซับซ้อน เนื่องจากบางพื้นที่ประสบภัยแล้ง ในขณะที่บางจุด เผชิญกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้เกิดอุทกภัย วาตภัย และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะที่จังหวัดเพชรบูรณ์ พบว่า หลายพื้นที่ประสบกับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนให้เตรียมพร้อมเผชิญเหตุในทุกมิติ
"ท่านนายกฯ สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งท้องที่ และท้องถิ่น เตรียมรับสถานการณ์ทั้งน้ำแล้ง และน้ำหลาก เจ้าหน้าที่ต้องมีความพร้อม ห้ามทำงานหน้าเดียว ต้องสามารถปรับเปลี่ยนภารกิจได้ตามเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ต้องสามารถทำงานได้หลายมิติ โดยในพื้นที่น้ำหลาก ต้องรีบปันน้ำเข้าสู่ระบบแก้มลิง และแหล่งน้ำในพื้นที่ บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และเก็บกักน้ำไว้สำหรับภารกิจด้านการเกษตรและอุปโภค บริโภค"
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ท่านนายกฯ ยังได้ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฝนเทียม ที่ระดมฝูงบินจากภาคใต้ขึ้นไปช่วยภารกิจฝนเทียมในภาคกลาง และภาคเหนือ ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเพิ่มขึ้นมาก แม้จะยังอยู่ในจุดวิกฤต แต่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างมาก
"ท่านนายกฯ ฝากชื่นชมและขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝนเทียมทุกหน่วย ที่ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ โดยเอาประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ทั้งนี้ หากมีความต้องการการสนับสนุนใดเพิ่มเติมจากส่วนกลางและรัฐบาล ให้ประสานตรงได้ตลอดเวลาเพื่อให้เกิดความคล่องตัวสูงสุด" ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม เป็นต้นมา มีการขึ้นบินของหน่วยปฏิบัติการฝนเทียมแล้ว 2,728 เที่ยวบิน และสามารถทำให้เกิดฝนตกคิดเป็น ร้อยละ 92.1 ของจำนวนครั้งที่ขึ้นบิน
**แนะรัฐบาลแจกเงินช่วยชาวนาสู้ภัยแล้ง
ด้านนายประภัตร โพธสุธน อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความขัดแย้งของชาวบ้าน จากกรณีกรมชลประทานปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร และมีการตั้งเครื่องสูบน้ำ ที่คลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง จนก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งของชาวบ้าน ว่า ทุกที่มีปัญหาเดียวกันคือ เรื่องของน้ำ ชาวนาขณะนี้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว เพราะชาวนาเริ่มทำนาไปแล้ว ค่าเตรียมดิน ค่าเมล็ดพันธุ์ รวมไร่ละกว่า 2,500 บาท ยังไม่รวมค่าเก็บเกี่ยวอีก ดังนั้นแนวทางช่วยเหลือชาวนาตอนนี้ รัฐบาลต้องจ่ายเงินให้เขาเพื่อช่วยเหลือเขา ไม่ต้องไปคิดเรื่องซื้อเมล็ดพันธุ์แจก ให้เงินไปเลย ให้เขาใช้จ่ายกัน เพื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจไปอีกทางหนึ่งด้วย อาจต้องใช้เงินหลายหมื่นล้าน แต่ก็ต้องเห็นใจชาวนา เขาเดือดร้อนจริงๆ มีหลายคนเสนอให้ทำคลองขนาน ก็เป็นการแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง แต่ตอนนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คลอง ปัญหาอยู่ที่น้ำ คือน้ำไม่มี เรื่องพวกนี้จริงๆ ต้องช่วยเขา แต่ทุกวันนี้พวกผู้ใหญ่ไม่เคยลงมาดูแลเขา ปล่อยให้เขาอ้างว้างโดดเดี่ยว
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ขณะนี้การรับมือภัยธรรมชาติมีความซับซ้อน เนื่องจากบางพื้นที่ประสบภัยแล้ง ในขณะที่บางจุด เผชิญกับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ทำให้เกิดอุทกภัย วาตภัย และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะที่จังหวัดเพชรบูรณ์ พบว่า หลายพื้นที่ประสบกับสถานการณ์น้ำป่าไหลหลาก
ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วนให้เตรียมพร้อมเผชิญเหตุในทุกมิติ
"ท่านนายกฯ สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย รวมทั้งท้องที่ และท้องถิ่น เตรียมรับสถานการณ์ทั้งน้ำแล้ง และน้ำหลาก เจ้าหน้าที่ต้องมีความพร้อม ห้ามทำงานหน้าเดียว ต้องสามารถปรับเปลี่ยนภารกิจได้ตามเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ต้องสามารถทำงานได้หลายมิติ โดยในพื้นที่น้ำหลาก ต้องรีบปันน้ำเข้าสู่ระบบแก้มลิง และแหล่งน้ำในพื้นที่ บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน และเก็บกักน้ำไว้สำหรับภารกิจด้านการเกษตรและอุปโภค บริโภค"
พล.ต.สรรเสริญ กล่าวต่อว่า ท่านนายกฯ ยังได้ฝากขอบคุณเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการฝนเทียม ที่ระดมฝูงบินจากภาคใต้ขึ้นไปช่วยภารกิจฝนเทียมในภาคกลาง และภาคเหนือ ทำให้มีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเพิ่มขึ้นมาก แม้จะยังอยู่ในจุดวิกฤต แต่มีแนวโน้มที่ดีขึ้นอย่างมาก
"ท่านนายกฯ ฝากชื่นชมและขอบคุณเจ้าหน้าที่ฝนเทียมทุกหน่วย ที่ร่วมมือกันอย่างเต็มที่ โดยเอาประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก ทั้งนี้ หากมีความต้องการการสนับสนุนใดเพิ่มเติมจากส่วนกลางและรัฐบาล ให้ประสานตรงได้ตลอดเวลาเพื่อให้เกิดความคล่องตัวสูงสุด" ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 1 มีนาคม เป็นต้นมา มีการขึ้นบินของหน่วยปฏิบัติการฝนเทียมแล้ว 2,728 เที่ยวบิน และสามารถทำให้เกิดฝนตกคิดเป็น ร้อยละ 92.1 ของจำนวนครั้งที่ขึ้นบิน
**แนะรัฐบาลแจกเงินช่วยชาวนาสู้ภัยแล้ง
ด้านนายประภัตร โพธสุธน อดีต รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวถึงความขัดแย้งของชาวบ้าน จากกรณีกรมชลประทานปล่อยน้ำเพื่อการเกษตร และมีการตั้งเครื่องสูบน้ำ ที่คลองมะขามเฒ่า-อู่ทอง จนก่อให้เกิดปัญหาความขัดแย้งของชาวบ้าน ว่า ทุกที่มีปัญหาเดียวกันคือ เรื่องของน้ำ ชาวนาขณะนี้ที่ต้องการน้ำหล่อเลี้ยงต้นข้าว เพราะชาวนาเริ่มทำนาไปแล้ว ค่าเตรียมดิน ค่าเมล็ดพันธุ์ รวมไร่ละกว่า 2,500 บาท ยังไม่รวมค่าเก็บเกี่ยวอีก ดังนั้นแนวทางช่วยเหลือชาวนาตอนนี้ รัฐบาลต้องจ่ายเงินให้เขาเพื่อช่วยเหลือเขา ไม่ต้องไปคิดเรื่องซื้อเมล็ดพันธุ์แจก ให้เงินไปเลย ให้เขาใช้จ่ายกัน เพื่อ กระตุ้นเศรษฐกิจไปอีกทางหนึ่งด้วย อาจต้องใช้เงินหลายหมื่นล้าน แต่ก็ต้องเห็นใจชาวนา เขาเดือดร้อนจริงๆ มีหลายคนเสนอให้ทำคลองขนาน ก็เป็นการแก้ปัญหาได้ระดับหนึ่ง แต่ตอนนี้ปัญหาไม่ได้อยู่ที่คลอง ปัญหาอยู่ที่น้ำ คือน้ำไม่มี เรื่องพวกนี้จริงๆ ต้องช่วยเขา แต่ทุกวันนี้พวกผู้ใหญ่ไม่เคยลงมาดูแลเขา ปล่อยให้เขาอ้างว้างโดดเดี่ยว