ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -นาทีนี้ชื่อของ “มาดามแป้ง” นวลพรรณ ล่ำซำ ถือว่าดังไม่แพ้ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือลูกหนังชายทีมชาติไทย เพราะกรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) กระโดดเข้ามาทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจพัฒนาฟุตบอลหญิง ด้วยบทบาทอันโดนเด่นในฐานะผู้จัดการทีมที่ได้ไปเล่น เวิลด์ คัพ ปี 2015 ที่ประเทศแคนาดา ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ชาติไทยกันเลยทีเดียว
จุดเริ่มต้นวงการลูกหนังไทย
นับย้อนไปเมื่อ 8 ปีที่แล้ว “มาดามแป้ง” เริ่มต้นเส้นทางสายกีฬาด้วยตำแหน่งผู้จัดการทีมกีฬาคนพิการ เมื่อปี 2549 ซึ่งเป็นผลพวงมาจากบริษัท เมืองไทยประกันภัย มีนโยบายด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ และได้ดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการไทยมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้สมาคมกีฬาคนพิการแห่งประเทศไทยเล็งเห็นถึงประสบการณ์ที่มีต่องานด้านคนพิการ ก่อนจะนำทัพนักกีฬาไปแข่งศึก เฟสปิกเกมส์ ครั้งที่ 9 ที่ประเทศมาเลเซีย
กระทั่งหมดวาระ จึงได้รับการทาบทามจาก นายวรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ให้ไปเป็นผู้จัดการฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย และปฏิบัติหน้าที่ครั้งแรกด้วยการพาทีมเข้าแข่งขันในมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 25 ที่นครเวียงจันทร์ ประเทศลาว
ต้องยอมรับเลยว่าตอนนั้นฟุตบอลหญิงแทบไม่ได้รับความสนใจ ทั้งในเรื่องของความนิยมในการเล่นและการติดตามของแฟนกีฬา ซึ่ง มาดามแป้ง ได้เข้ามาเริ่มผลักดันให้มีการพัฒนามากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับเปลี่ยนทีมสตาฟโค้ช ซึ่งมีการดึงโค้ชชาวบราซิลเข้ามาดูแล ก่อนจะเปลี่ยนมาเป็นโค้ชไทยเพราะปัญหาเรื่องภาษา หรือการนำเอาวิทยาศาสตร์การกีฬาและโภชนาการเข้ามา
ล้มลุกคลุกคลานอยู่ 4-5 ปี ก็เริ่มประสบความสำเร็จอย่างชัดเจน ด้วยการคว้าแชมป์ซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ณ เมียนมา ปลายปี 2556 และมาประสบความสำเร็จอย่างมากเมื่อปีที่แล้ว ด้วยการสร้างประวัติศาสตร์คว้าสิทธิ์ไปฟุตบอลโลก 2015 ได้สำเร็จ
อย่างไรก็ตาม ผู้จัดการทีมฟุตบอลหญิงยังไม่คิดว่าตัวเองประสบความสำเร็จหรือสร้างผลงานมากมายอะไรในวงการกีฬา แต่โชคดีที่มีทีมงานและลูกทีมที่เก่ง มีความสามัคคีกลมเกลียว และมุ่งมั่นตั้งใจจริง โดยถือปรัชญาแม้ทุกวันนี้เทคโนโลยีจะก้าวล้ำไปมาก แต่บุคลากรยังเป็นหัวใจสำคัญของงานทุกอย่าง
แต่บทบาทด้านกีฬายังไม่หยุดแค่นั้น เมื่อเจ้าของฉายา “สวยประหาร” ได้พลิกประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการลูกหนังไทย ด้วยการควักกระเป๋า 100 ล้านบาท เทกโอเวอร์สโมสรเก่าแก่อย่างการท่าเรือ ด้วยการเซ็นสัญญา 5 ปี และเป็นผู้หญิงคนแรกที่นั่งแท่นประธานบริหารสโมสรฟุตบอลไทย พร้อมยังใช้ชื่อ “การท่าเรือ เอฟซี” ลุยศึกฟุตบอลไทยพรีเมียร์ลีก 2015 ตามเดิม เพียงแต่เปลี่ยนมาใช้ “ม้า” เป็นโลโก้ใหม่
“การได้เข้ามาคลุกคลีกับวงการฟุตบอลหญิง ทำให้เริ่มศึกษาเรื่องฟุตบอลลีกอาชีพของเมืองไทย และกลายเป็นความชอบ จึงเกิดความคิดต้องการทำทีมฟุตบอล เพราะบทบาทหน้าที่ไม่ได้ซ้ำซ้อนกัน และประจวบเหมาะกับช่วงนั้นการท่าเรือมีปัญหาพอดี และผู้บริหารท่าเรือก็ได้เข้ามาพูดคุย เลยได้มาลงตัวที่ทีมนี้ ซึ่งการเป็นประธานสโมสรหญิงคนแรกในไทยลีก ถือว่าค่อนข้างท้าทาย และมีแรงผลักดันที่จะทำทีมให้ประสบผลสำเร็จตามความคาดหวังของแฟนบอล” นางฟ้าวงการลูกหนัง กล่าวเพิ่มเติม
เสน่ห์ของนางฟ้าวงการลูกหนัง
ในการทำหน้าที่ประธานสโมสรการท่าเรือ เอฟซี ที่มีภาพลักษณ์แฟนบอลฮาร์ดคอร์ของการท่าเรือ แต่เพียง มาดามแป้ง เข้ามาดูแลทีม ภาพลักษณ์ดังกล่าวดูเบาลงไปมาก เพราะนับตั้งแต่เข้ามาทำทีมยังไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงขึ้นเลย ต้องยอมรับว่าปัจจัยหลักเกิดจากนางฟ้าของวงการลูกหนังคนนี้ ที่ลงไปคลุกคลีกับแฟนบอลอย่างใกล้ชิด และการปรากฏตัวของเธอในสนามฟุตบอลไม่ว่านัดเหย้าหรือนัดเยือนสามารถดึงดูดช่างภาพและสายตาแฟนบอลได้ไม่น้อยกว่าประธานสโมสรคนใดในไทยพรีเมียร์ลีก ขณะที่แฟนบอลของการท่าเรือ เอฟซี เองก็ดูจะชื่นชอบ “นายหญิง” คนใหม่ของสโมสรไม่น้อย ถึงขนาดให้ฉายาเธอว่า “นางฟ้าท่าเรือ” และมีแฮชแท็ก “#ท่าเรือรักแป้งมาก” เป็นของตัวเอง
ส่วนแผนการทำทีมการท่าเรือนั้น ประธานสโมสรหญิงคนแรกของไทยลีก เคยประกาศจะทวงความยิ่งใหญ่ของสโมสรกลับมา และพาทีมติดท็อป 5 ตั้งแต่ฤดูกาลแรกที่เข้ามาทำหน้าที่ อย่างไรก็ตามหลังผ่านไป 10 นัด สถานการณ์ของ “อาชาท่าเรือ” ยังไม่ดีขึ้นเท่าที่ควร รั้งอันดับ 14 ของตาราง มี 9 แต้ม มากกว่าทีมในโซนตกชั้นเพียง 2 แต้มเท่านั้น นวลพรรณ ยอมรับว่า การตอบรับเข้ามาทำทีมค่อนข้างล่าช้า ก่อนเปิดฤดูกาลเพียงไม่กี่วัน เป็นอุปสรรคอย่างหนึ่งเพราะไม่มีเวลาในการเสริมทัพ แต่หลังจากนี้ในช่วงเลกสอง มีความตั้งใจจะทำทีมให้ประสบความสำเร็จ มีการวางแผนเสริมผู้เล่นให้แข็งแกร่งมากขึ้นแน่นอน เหมือนกับคติประจำใจที่คุ้นเคยกันดีและยึดถือส่วนตัว คือ ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น
ความสำเร็จในหน้าที่เพื่อชาติ
ย้อนไปเมื่อการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ณ เมียนมา สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ สร้างผลงานยอดเยี่ยมด้วยการกวาด 4 เหรียญทอง จากทีมฟุตซอล ชาย- หญิง และฟุตบอล ชาย-หญิง ทำให้แข้งแม่เนื้อนิ่มไทย เป็นที่น่าจับตามองขึ้นมา ประกอบกับการบุกไปฝัง เวียดนาม 2-1 ประตู ในการแข่งขันฟุตบอลหญิงชิงแชมป์เอเชีย รอบสุดท้าย ที่เมืองโฮจิมินห์ ประเทศเวียดนาม ทำให้สามารถสร้างประวัติศาสตร์คว้าตั๋วเข้าสู่ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก รอบสุดท้าย ที่ประเทศแคนาดา ได้เป็นครั้งแรกของประเทศไทย และเป็นชาติแรกในอาเซียนที่ทำสำเร็จ
แม้ว่าทัพแม่เนื้อนิ่มจะจอดเพียงรอบแรกอดเข้าน็อกเอาต์เพราะประตูได้เสียเป็นรอง แต่ก็คว้าชัยประวัติศาสตร์เหนือ ไอวอรี โคสต์ 3-2 ได้แสดงให้เห็นถึงความสำเร็จเป็นรูปธรรม อันมาจากการพยายามฝึกซ้อม ซึ่งมีผู้จัดการทีมคนสวย พาไปเก็บตัวฝึกซ้อมในทวีปยุโรป สุดท้ายได้รับเสียงชื่นชมอย่างล้นหลามจากแฟนบอลชาวไทย ในการพาฟุตบอลไทย ไปบอลโลกได้เป็นครั้งแรก พร้อมกับภาพที่เข้าไปคลุกคลีกับนักเตะอย่างเป็นกันเอง สุดท้ายได้ปลุกกระแสกองเชียร์บอลหญิงไปทั่วประเทศ
ชีวิตครอบครัวแสนอบอุ่น
นวลพรรณ แต่งงานครั้งแรกกับ ดร.วัชระ พรรณเชษฐ์ ประธานกรรมการ บริษัท สิทธิผลเซลส์และบริษัทเยอรมันออโต้ มีบุตรสาวด้วยกันคือ นวลวรรณ พรรณเชษฐ์ หรือ น้องปราง จนกระทั่งทั้งคู่ได้หย่ากันเมื่อต้นปี พ.ศ. 2548 แต่ก็ยังคงใช้ชีวิตร่วมชายคาเดียวกันอยู่ ก่อนที่ นวลพรรณ ล่ำซำ จะแต่งงานใหม่กับ พันตำรวจเอก ดร. ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2557
ซึ่งไม่ว่าจะเป็นบทบาทไหน หญิงมากความสามารถคนนี้ทุ่มเททำอย่างเต็มที่ เพราะเนื่องในโอกาสวันแม่แห่งชาติปี 2557 เธอได้รับการคัดเลือกจากกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เข้ารับประทานเข็มเชิดชูเกียรติ “แม่ลูกผูกพันสร้างสายใยรักแห่งครอบครัว” จาก พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าศรีรัศมิ์ พระวรชายาฯ ในงานมหกรรม “ร้อยดวงใจ เทิดไท้ราชินี ประจำปี 2557”
แนวโน้มก้าวเข้าสู่วงการการเมือง
ด้วยประสบการณ์ในแวดวงการเมือง สังกัดพรรคประชาธิปัตย์ ของสาวเก่งคนนี้ และการที่เคยรับตำแหน่งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ในสมัยของ อภิรักษ์ โกษะโยธิน ทำให้มีหลายฝ่ายมุ่งความสนใจไปถึงแผนงานในอนาคตของมาดามแป้งที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากอยู่ในตอนนี้ อาจจะมีเซอร์ไพส์ได้เห็นเธอในบทบาทผู้นำด้านใดด้านหนึ่ง ด้วยภาพลักษณ์ที่อ่อนหวาน นอบน้อม และความตั้งใจในการทำงาน เชื่อว่าน่าจะมีหลายฝ่ายที่พร้อมสนับสนุนและผลักดัน
อันที่จริงแล้วมาดามแป้งก็ไม่ใช่ผู้หญิงคนเดียวที่ดำรงตำแหน่งประธานสโมสรฟุตบอลอาชีพของไทย ก่อนหน้าการมาของเธอ วงการฟุตบอลอาชีพไทยเคยมี “นายหญิง” มาแล้วอย่างน้อย 3 คน ได้แก่ “ซ้อต่าย” กรุณา ชิดชอบ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดบุรีรัมย์ซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานสโมสรบุรีรัมย์ เอฟซี , บุญยิ่ง นิติกาญจนา อดีต ส.ส. จังหวัดราชบุรีของพรรคภูมิใจไทย เป็นประธานสโมสรราชบุรีมิตรผล เอฟซี และสุนีย์ สมมี นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำปาง ที่เป็นประธานสโมสรลำปาง เอฟซี ซึ่งที่ผ่านมาจะเห็นว่าหญิงเก่งทั้งหลายล้วนแต่หันหน้าให้สู่วงการการเมือง เพื่อทำหน้าที่พัฒนาด้านต่างๆ จนถึงที่สุด แต่ในรายของมาดามแป้ง ดูจะเป็น “นายหญิง” ที่โดดเด่นและได้รับการต้อนรับจากแฟนบอลไทยมากกว่าใคร หากจะคิดจับงานด้านการเมืองเชื่อว่าจะได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดีแน่นอน
จากวันแรกที่ก้าวเข้ามา มาดามแป้ง คงไม่คาดคิดว่าจะมาไกลและประสบความสำเร็จเช่นนี้ ดังนั้นถือว่าไม่เกินความเป็นจริงเลยหากผู้หญิงคนนี้จะฝันไกลไม่ว่าจะเป็นการควบตำแหน่งผู้จัดการทีมลูกหนังทั้งชายและหญิง นั่งเก้าอี้นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย หรือแม้กระทั่งเล่นการเมืองที่ว่ากันว่า เก้าอี้ตัวแรกที่ตัวเธอเตรียมลงชิงชัยก็คือ “ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร” และฝันไกลไปถึงเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหญิงกันเลยทีเดียว เพราะถือว่ามีความพร้อมทุกด้าน ซึ่งก็เหมือนว่าเธอจะสนุกกับเส้นทางนี้แล้ว