“โค้ชโชค” ปัดคุมสโมสร “บิ๊กเปี๊ยก” ขอวางมือ

โชคทวี พรหมรัตน์ เฮดโค้ชช้างศึก แชมป์ซีเกมส์ 2015 เผยอนาคตของตนเองในสีเสื้อทีมชาติหลังจากนี้ขึ้นอยู่กับ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ พร้อมบอกปัดรับงานสโมสร ด้าน “บิ๊กเปี๊ยก” สมศักดิ์ ศิริธรรม ขอวางมือจากตำแหน่งผู้จัดการทีม เพื่อกลับไปดูแลทีม สมุทรสงคราม เอฟซี

หลังจากที่ทัพนักเตะทีมชาติไทย ผงาดคว้าเหรียญทอง ซีเกมส์ ครั้งที่ 28 ที่สิงคโปร์ มาครองเป็นสมัยที่ 15 ในประวัติศาสตร์ ด้วยการปราบ เมียนมา 3-0 เมื่อค่ำวันที่ 15 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

ล่าสุด เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 16 มิถุนายน ที่ผ่านมา ทัพ “ช้างศึก” ได้ออกเดินทางจากแดนลอดช่อง มุ่งตรงสู่ประเทศไทย เป็นที่เรียบร้อย ด้วยเที่ยวบิน ทีจี 404 เพื่อกลับไปพักฟื้นร่างกายลุยศึก โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก ที่่จะกลับมาฟาดแข้งอีกครั้งในวันที่ 20 - 21 มิถุนายน นี้

โดย โชคทวี พรหมรัตน์ เฮดโค้ชแชมป์ซีเกมส์ กล่าวถึงอนาคตของตนเอง หลังจากที่ทัพไทยมีภารกิจสำคัญต่อเนื่องจากนี้ คือ รายการ ยู-19 ชิงแชมป์เอเชีย 2015 ในเดือนตุลาคม และ ยู 23 ชิงแชมป์เอเชีย ที่ประเทศกาตาร์ (คัดตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์ 2016) ในเดือนมกราคม 2016 ว่า ขึ้นอยู่กับ “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือใหญ่ เป็นผู้ตัดสินใจ

“สำหรับอนาคตของผมคงต้องหารือร่วมกับทีมสตาฟฟ์อีกครั้ง ผมพร้อมรับใช้ทีมชาติเสมอ แต่ขึ้นอยู่กับซิโก้ เป็นผู้ตัดสินใจและมอบโอกาสให้ อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผมทำงานประจำอยู่ที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ซึ่งทุกครั้งที่มาทำงานให้ทีมชาติไทยก็ได้ความอนุเคราะห์จากผู้ใหญ่ ที่ให้ตนได้มาทำงานเพื่อชาติ แต่หากมีสโมสรใน ไทย พรีเมียร์ ลีก ติดต่อเข้ามาก็คงไม่ขอรับงานคุมทีม เพราะคงเป็นเรื่องยากที่จะแบ่งเวลา”

ขณะที่ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ กล่าวถึงผลงานความสำเร็จของทีมชาติไทย ว่า “ต้องบอกว่าเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ นักเตะทุกคนเล่นได้สุดยอดมาก แฟนบอลต่างชาติรวมถึง เมียนมา ก็ชื่นชม คิดว่าคนไทยทั้งประเทศน่าจะมีความสุขกับชัยชนะ ส่วนตัวแล้วผมยกย่องให้ทุกคนเป็นวีรบุรุษของชาติไทย ขณะที่เรื่องอัดฉีดตอนนี้ทุกคนได้ไป 12 ล้านบาท จากทางสมาคมแล้ว แต่ก็อาจมีเพิ่มเติมอีกจากผู้สนับสนุนรายอื่น และเราจะจัดงานเลี้ยงฉลองให้ด้วย”

ส่วน “บิ๊กเปี๊ยก” สมศักดิ์ ศิริธรรม เผยอาจวางมือจากตำแหน่งผู้จัดการทีมหลังจบทัวร์นาเมนต์ เพื่อกลับไปดูแลทีม สมุทรสงคราม เอฟซี สโมสรฟุตบอลซึ่งตกไปอยู่ในเวที ดิวิชัน 1 “พวกเราทุกคนมุ่งมั่นตั้งใจซ้อมมาตลอด เพื่อผลการแข่งขันและเหรียญทอง ซึ่งตอนนี้ทุกคนทำสำเร็จแล้ว สร้างชื่อเสียงและความภาคภูมิใจให้แก่ประเทศ ส่วนงานผู้จัดการทีมผมอยากขอเวลาพิจารณาก่อนว่าจะรับต่อหรือไม่ เพราะตอนนี้มีภารกิจสำคัญคือกลับไปดูแลบริหารทีม ปลาทูคะนอง ช่วยกอบกู้สถานการณ์ให้ดีขึ้นก่อน”

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *