ASTV ผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ปมร้อนท้าทายเบญจศีลเบญจธรรมเมืองไทยเมืองพุทธผุดขึ้นมาอีกแล้ว นั่นคือ การเปิดบ่อนการพนันถูกกฎหมาย หรือกาสิโนคอมเพล็กซ์ ซึ่งรอบนี้ “12 สปช.” หัวหมู่ทะลวงฟันจะดันเข้าสภาปฏิรูปแห่งชาติ (สปช.) แต่เจอท่านประธานสปช.ดับฝันเตะลูกออก เลยกะประเคนใส่มือ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งกำลังหน้ามืดจากปัญหาเศรษฐกิจซบเซา เผื่อว่านายกฯ จะหยิบเอาเงินจากภาษีบาปไปเป็นภาษีบุญช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจทำรายได้เข้าประเทศแก้ขัด
ที่หนักไปกว่านั้นคือ งานนี้ผู้ที่เด้งรับอย่างออกนอกหน้าไม่ใช่ใครอื่น หากแต่คือ “พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง” ผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยถึงขนาดจะเปิดเว็บไซต์ชื่อ “สมยศฟอร์กาสิโน” เพื่อสอบถามความเห็นจากประชาชนกันเลยทีเดียว
ทว่า งานนี้ อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่ เพราะการอาสาเป็นหัวหมู่ทะลวงฟันเปิดบ่อนกาสิโนของ พล.ต.อ.สมยศครั้งนี้ฟันธงแบบไม่ต้องกลัวผิดว่า มิได้มีอะไรมากกว่า “กลเกมทางการข่าว” เพื่อเบี่ยงเบนประเด็นกลบกระแส “การถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” ซึ่งสังคมกำลังวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักและเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า น่าจะถูกดองยาวชนิดไม่เห็นเดือนเห็นตะวัน หลัง พล.ต.อ.สมยศหักดิบส่งเรื่องไปดองไปที่สำนักงานกำลังพลแบบหน้าตาเฉย
และถ้าจะกล่าวว่า “ถอดยศช่างหัวมัน เปิดบ่อนการพนันดีกว่า” ก็คงไม่ผิดไปจากความเป็นจริงเท่าใดนัก
กล่าวสำหรับเรื่องการพนันนั้น ต้องยอมรับว่า ผีพนันที่สิงอยู่ในจิตวิญญาณส่วนลึกของมนุษย์โดยไม่เลือกชาติไม่เลือกภาษาเป็นพื้นฐานนั่นแหละที่ทำให้การผลักดันกาสิโนคอมเพล็กซ์ หรือบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายไม่เคยจางหายไปจากสังคมไทยเสียที และด้วยจริตที่ว่าเมืองไทยเป็นเมืองพุทธยึดถือคำสอนขององค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าซึ่งตรัสแสดงการเล่นการพนันว่าเป็นอบายมุข เป็นทางเสื่อมแห่งโภคทรัพย์และเสื่อมจากคุณธรรมอื่นๆ อีกเช่นกันที่ทำให้การผลักดันเรื่องนี้ไม่ไปถึงไหน เดี๋ยวผลุบเดี๋ยวโผล่ตามแต่จังหวะเวลาและโอกาส
ข้ออ้างของฝ่ายที่อยากให้ตั้งบ่อนพนันให้ถูกกฎหมายก็เดิมๆ คือ โดยทั่วไปก็แอบเล่นกันในบ่อนเถื่อนอยู่แล้ว จ่ายส่วยให้ตำรวจอยู่แล้ว ที่สำคัญยังหอบเงินไปเข้าบ่อนริมชายแดนที่ตั้งขึ้นมาดูดเงินผีพนันคนไทยโดยเฉพาะ จนกระทั่งว่าบางหน้าเทศกาลรถติดยาวเหยียด อย่ากระนั้นเลย ทำเรื่องนี้ให้ถูกกฎหมาย จะได้มีเงินรายได้เข้ารัฐดีกว่า โดยยกตัวอย่างหลายๆ ประเทศก็ทำกันทั้งนั้น แม้แต่ประเทศที่เคร่งศาสนาอย่างอินโดนีเซีย มาเลเซีย
แต่หากว่าทำบ่อนเถื่อนให้ถูกกฎหมายแบบเปิดเสรีทั้งหมดแทนที่จะเป็นผลดีคงฉิบหายกันไปหมดเสียมากกว่า และคงมีเสียงคัดค้าน สาปแช่ง ไม่มีโอกาสได้ผุดได้เกิดแน่ ก็เอาเป็นว่าจำกัดวงแคบเข้ามาทำรูปแบบคอมเพล็กซ์ในหัวเมืองท่องเที่ยวอย่างพัทยาหรือหัวเมืองกันดารอย่างที่เคยเสนอๆ กัน เช่น ทุ่งกุลา เลียนแบบเมืองลาสเวกัส ซึ่งตั้งกลางทะเลทราย พร้อมกับจำกัดกลุ่มที่เข้าไปเล่นในบ่อน เช่น เฉพาะนักท่องเที่ยว หรือนักพนันกระเป๋าหนัก ซึ่งข้อเสนอนี้มีโอกาสเป็นไปได้สูง
ขณะที่ข้อคัดค้านของฝ่ายไม่เห็นด้วยก็คือ เกรงว่าจะคุมกันไม่ได้อย่างว่า ซึ่งก็ถูกเพราะการบังคับใช้กฎหมายบ้านเราเละเทะอย่างที่เห็น และจะก่อให้เกิดปัญหาสังคมเสื่อมทราม โดยเฉพาะกลุ่มเด็กและเยาวชนที่จะก้าวเข้าสู่วงการนี้เร็วขึ้น ผีพนันจะเต็มบ้านเต็มเมือง ปัญหาหนี้สินที่จะตามมา กลายเป็นบ่อเกิดอาชญากรรม ฯลฯ
สาระสำคัญหลักที่เป็นเหตุผลของฝ่ายหนุนกับฝ่ายคัดค้านแต่ละครั้งรวมทั้งคราวนี้ก็จะวนๆ เวียนๆ อยู่ประมาณนี้
แรงหนุนแรงต้านในเรื่องบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายมีมาเรื่อยๆ คราวก่อนสมัยรัฐบาลทักษิณ ซึ่งถือดีว่ามีคะแนนนิยมสูงก็เคยคิดและศึกษากันเรื่องเป็นราว จากการเห็นตัวเลขเศรษฐกิจนอกระบบ บ่อน หวย ซ่อง แล้วตาลุกวาว เพราะมีมูลค่ามหาศาลนับล้านล้านบาท แต่ก็ยังไม่ทันได้ลงมือก็พ้นจากอำนาจไปเสียก่อน
พอมาถึงรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ที่มีอำนาจเบ็ดเสร็จ “กลุ่ม 12 สปช.” ก็ออกมาเป็นหนังหน้าไฟ โยนหินถามทาง ฟังกระแสเสียงตอบรับจากสังคมว่าจะเอายังไง แต่ว่าอย่าเพิ่งให้ท่านผู้นำปฏิเสธหรือเห็นด้วย ตอนนี้ท่านผู้นำขอยังไม่มีจุดยืน ฟังเสียงรอบข้างเสียก่อน ถึงจะบอกได้
เนื้อหาสาระที่ สปช.กลุ่มรักชาติ นำโดย พ.อ.อาณัณย์ วัชโรทัย, นายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง, นายดำรงค์ พิเดช, นายบุญเลิศ คชายุทธเดช พร้อมคณะ ตั้งโพเดียมแถลงหนุนตั้งบ่อนถูกกฎหมายให้เป็นเรื่องเป็นราวเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สรุปความได้ว่า ต้องการช่วยรัฐบาลหารายได้เข้าประเทศ โดยนำร่อง 2-3 จุดก่อน เช่น เมืองพัทยา หรือจังหวัดเล็กๆ ที่ทุรกันดาร
ส่วนรูปแบบรัฐจะลงทุนเองหรือให้สัมปทานกับเอกชนแล้วแบ่งผลกำไรให้รัฐในสัดส่วน 40 : 60 โดยจะทำข้อเสนอนี้เข้าที่ประชุม สปช. และเสนอต่อคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถือเป็นการสร้างงานและรองรับเออีซีที่จะรอช้าไม่ได้ อีกอย่างรอบบ้านเราก็มีคาสิโนอยู่รอบๆ กว่ายี่สิบแห่งและลูกค้าร้อยละ 80 ก็เป็นคนไทยไปเล่นกันวันละเป็นหมื่นๆ คน การมีคาสิโนถูกกฎหมายจะป้องกันไม่ให้เงินไหลออกนอกประเทศ
“....เศรษฐกิจจะดีได้ต้องดึงเอาเงินนอกระบบหรือเงินสีเทาขึ้นมาข้างบน...” นายเกรียงไกร ย้ำ และขอให้เลิกดัดจริตกันเสียที แล้วทำประเทศให้เดินหน้า การเปิดคาสิโนไม่ใช่เรื่องเสียหาย เอารายได้เหล่านี้มาพัฒนาประเทศ เรียกว่าดึงภาษีบาปมาเป็นภาษีบุญ ช่วยเหลือคนพิการ คนจน การศึกษา และห้ามคนในชาติไปเล่น ถ้าจะเล่นก็ต้องแสดงบัญชีทรัพย์สินมีรายได้สูง ส่วนนักท่องเที่ยวไม่จำกัดจะเล่นเมื่อไหร่ก็ได้
หลังจาก สปช.กลุ่มรักชาติ โยนหินถามทาง ก็มีเสียงขานรับจากสปช.ด้วยกัน เปิดหน้ากล้าหนุนโดยนายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม ที่แสดงความเห็นส่วนตัวว่าเป็นข้อเสนอที่มีประโยชน์ เพราะการพนันไม่สามารถควบคุมได้ หากทำให้ถูกฎหมายและนำเงินมาช่วยพัฒนาประเทศจะเป็นประโยชน์มาก แต่ต้องพิจารณาผลกระทบให้รอบด้านและออกกฎหมายควบคุมและบังคับใช้อย่างจริงจัง หรือหากจะไม่ให้เปิดบ่อนการพนันก็ต้องมีมาตรการขจัดปัญหานี้อย่างจริงจังเช่นกัน
ขณะที่เสียงจากฝ่ายตำรวจซึ่งมือข้างหนึ่งทำหน้าที่ไล่จับบ่อนผิดกฎหมาย แต่อีกมือหนึ่งก็รับส่วยจากธุรกิจสีเทา คราวนี้นายตำรวจใหญ่หัวขบวนแสดงจุดยืนชัดเจน ถือเป็นคนแรกและครั้งแรกในมหากาพย์การผลักดันเปิดบ่อนถูกกฎหมายก็ว่าได้
งานนี้ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ไม่รู้ได้ยาดีและมีแบ็คหนุนหลังอุ่นหนาฝาคั่งจากไหนถึงยอมลงทุนเปลืองตัวชูรักแร้หนุนสุดซอย ขอให้สังคมไทยยอมรับความจริงว่าหนีไม่พ้น การพนันอยู่ในสายเลือดคนไทย เอาขึ้นมาบนดินเสียให้รู้แล้วรู้รอดไป จัดให้เล่นแบบถูกกฎหมายไปเลย พวกขาใหญ่กระเป๋าหนักก็จะได้เข้าออกบ่อนได้อย่างสมศักดิ์ศรีไม่ต้องหลบหนีตำรวจและไม่ต้องหอบเงินไปเล่นนอกบ้านอีก ส่วนคนเบี้ยน้อยหอยน้อย เด็กและเยาวชน ห้ามเข้า ส่วนที่เหมาะกับการสร้างบ่อนถูกกฎหมาย น่าจะเป็นที่ภูเก็ต เชียงใหม่ อุบลฯ และเกาะล้าน นำร่องไปก่อน
ไม่เพียงเท่านั้น “บิ๊กอ๊อด” ยังอาสาเป็นหัวหน้าคณะทำงานในเรื่องนี้อีกด้วย “ผมเชื่อว่าวิธีคิดของผมสุดยอด หากรัฐบาลไม่ทำ ผมจะเปิดเว็บไซต์ขึ้นมา ชื่อ สมยศฟอร์กาสิโน เพื่อถามความคิดเห็นประชาชนเลยว่าควรเปิดหรือไม่ รัฐบาลต้องกำหนดว่าจะนำรายได้ 30 เปอร์เซ็นต์จากกาสิโนมาใช้ในเรื่องของการศึกษา ช่วยเหลือคนจน และทำนุบำรุงโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งนี้ ผมพร้อมถูกโจมตีจากกลุ่มต่างๆ ที่จะมาต่อต้าน ไม่กลัวอยู่แล้ว ผมสู้ได้ทุกประเด็น”
พล.ต.อ.สมยศขยายความเรื่องการเปิดเว็บไซต์ด้วยว่า จะเริ่มเปิดดำเนินการในวันที่ 1 กันยายนนี้ หรือก่อนเกษียณอายุราชการ 1 เดือน โดยในเว็บไซต์จะมีโมเดลบอกรายละเอียดว่าการเปิดกาสิโนถูกกฎหมายมีข้อดีและข้อเสียอย่างไร และจะสอบถามประชาชนว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย เพื่อที่จะประกาศให้คนได้ทราบว่าคนไทยคิดอย่างไร ซึ่งถ้าหากไม่เห็นด้วยก็ไม่ต้องทำ
เรียกว่า งานนี้ พล.ต.อ.สมยศกุลีกุจอจนสังคมอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พล.ต.อ.สมยศถึงไม่มีอากัปกิริยาที่ขยันขันแข็งเช่นนี้ ไม่เช่นนั้น ป่านนี้เรื่องการถอดยศคงเป็นที่ยุติและไม่ถูกดองยาวไว้ที่สำนักงานกำลังพลจนเป็นชัดแจ้งว่า ไม่มีทางได้เห็นในยุคที่ พล.ต.อ.สมยศเป็น ผบ.ตร.อย่างแน่นอน
ดังนั้น แม้ว่า พล.ต.อ.สมยศจะยกอ้างสารพัดเหตุผลในการสนับสนุนการเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายอย่างไร โดยเฉพาะการอ้างว่าจะช่วยแก้ปัญหาเรื่องตำรวจรับส่วย รับสินบน คนฟังก็คงทำได้แค่เข้าหูซ้ายทะลุหูขวาเท่านั้น เพราะเรื่องของเรื่องมิได้มีอะไรมากไปเสียกว่าการเบี่ยงเบนประเด็นในเรื่องการถอดยศ พ.ต.ท.ทักษิณเท่านั้น มิได้มีอะไรที่จริงจัง
ที่สำคัญคือ ไม่มีใครเชื่อว่า ถ้ามีการเปิดบ่อนกาสิโนถูกกฎหมายจริง ปัญหาเรื่องตำรวจรับส่วยจะหมดไป หรือปัญหาอาชญกรรมที่เกิดจากการพนันจะหมดไปจากประเทศไทย
แต่ใครจะว่าอย่างไรก็ตาม เสียงจากประธาน สปช. นายเทียนฉาย กีระนันทน์ ถึงกับดับฝันไปเลย โดยยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่อยู่ในแผนปฏิรูปใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงความเห็นส่วนบุคคล เป็นสมาชิกสปช.บางส่วนเท่านั้น อีก 248 คนไม่รู้เรื่อง ขณะนี้การทำงานตามวาระ 37 ปฏิรูป และ 6 วาระพัฒนาก็พอดีตามกรอบเวลาแล้ว อะไรก็ตามที่นอกเหนือจากแผนจึงไม่ควรนำเสนอเข้าไปได้อีก เพราะที่มีอยู่ก็หนักแล้ว อีกทั้งเรื่องการเปิดหรือปิดกาสิโนไม่ใช่เรื่องการปฏิรูปจึงไม่จำเป็นต้องนำมาพิจารณาในแผนการปฏิรูป ควรจะรอให้มีสภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศเสียก่อน
นายประสาร มฤคพิทักษ์ สปช.อีกคนที่ไม่เอาด้วยกับคาสิโนถูกกฎหมาย ฟันธงล่วงหน้าว่าไปไม่รอดอย่าเสียเวลาดันทุรังเลยเพราะเชื่อว่านายกรัฐมนตรีคงไม่บ้าจี้ตาม เช่นเดียวกับนายศิระ เจนจาคะ สปช.ด้านสังคม ที่ค้านสุดตัวเพราะไฟใหม้บ้านยังเหลือโฉนดแต่เล่นการพนันจะไม่เหลืออะไรเลย หากปล่อยให้กาสิโนถูกกฎหมายเกิดขึ้นจะเกิดผลกระทบต่อสังคมแน่นอน
อีกคนที่โหนกระแสค้านคาสิโนถูกกฎหมายคือนายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่ออกมาจวก 12 สปช.ที่มาผลักดันเรื่องอบายมุข ขัดกับค่านิยม 12 ประการ ของหัวหน้า คสช. แต่ถ้ามองหัวขบวนของงานนี้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกเพราะ พ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย 1 ใน 12 สปช. เป็นอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ที่ออกมาเสนอเรื่องนี้เพื่อต้องการสานฝันการเปิดกาสิโนของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้สำเร็จ
พอเสียงหนุนและเสียงค้านเริ่มดังขึ้น พล.อ.ประยุทธ์ ก็เลยต้องชิ่ง “ส่วนตัวไม่มีความเห็นหรือจุดยืนในเรื่องดังกล่าว ต้องให้ไปพิจารณากันเอง และต้องดูว่าคนไทยจะยอมรับหรือไม่” เป็นการออกตัวลดกระแสเฉพาะหน้าที่เริ่มร้อนฉ่าแต่เพียงเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ความพยายามของ 12 สปช.หาได้หยุดยั้งไม่ พวกเขาจะยังเดินหน้าต่อไป และจะเอาข้อเสนอนี้ใส่มือให้นายกฯ โดยตรงเลย ไม่เกิน 30 มิ.ย.นี้ นายกฯ ได้เห็นแน่
บ่อนคาสิโนถูกกฎหมายจะมีหรือไม่มี มีแล้วจะดีหรือไม่ดีอย่างไร และหากมีแล้วจะทำแบบไหนถึงจะดีที่สุด ต้องฟังจากคนๆ นี้ นายสังศิต พิริยะรังสรรค์ คณะบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต และ สปช. ด้านต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชัน ขาเก่าเจ้าประจำที่อยู่ในคณะศึกษาเรื่องธุรกิจนอกระบบ หวย บ่อน ซ่อง รวมทั้งเรื่องคอร์รัปชั่น นักการเมือง ข้าราชการ และนักธุรกิจ มาตั้งแต่สมัยอยู่ศูนย์เศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย จนแทบเรียกได้ว่าทะลุปรุโปร่งทุกซอกทุกมุม และไม่ได้ศึกษาเฉพาะในไทยเท่านั้น แต่ยกคณะไปศึกษาตะเวนดูงานมาแล้วทั่วโลก
เรียกว่ารัฐบาลไหนมีนโยบายนี้ก็ต้องใช้บริการขอคำปรึกษาหารือจากทีมที่ศึกษาเรื่องนี้มาอย่างยาวนานก็คงไม่ผิดนัก
คราวนี้ นายสังศิต ตั้งคำถามก่อนเลย จะเสนอให้รัฐบาลตั้งคาสิโนถูกกฎหมายมีวัตถุประสงค์อะไร หากจะหาเงินเข้ารัฐก็ต้องทำให้ถูกต้อง แต่ไม่เห็นด้วยที่จะทำอย่างพม่า มาเก๊า หรือกัมพูชาทำอยู่ เพราะบ่อนแบบนั้นเป็นแค่การเพิ่มทางเลือกของนักพนันที่จะเลือกเข้าบ่อนคาสิโนเพิ่มขึ้นแค่นั้น ถ้าคิดจะทำก็เล่นเกมใหญ่อย่างสิงคโปร์ไปเลยดีกว่า
นั่นคือสร้างเป็นอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อรองรับการประชุมขององค์กรระดับสากลที่มีสมาชิกจำนวนมาก เพราะองค์กรเหล่านี้จะจัดการประชุมสมาชิกที่มีทั่วโลกทุกปี เช่น การประชุมทางการแพทย์ สาธารณสุข วิศวกร สถาปนิก ซึ่งเป็นอาชีพที่มีอำนาจในการใช้จ่ายสูงกว่านักพนัน สมาคมเหล่านี้จะเลือกประเทศที่พร้อมทุกด้าน จึงต้องมีทั้งศูนย์ประชุมนานาชาติรองรับผู้มาประชุมระดับหมื่นคน มีเมืองท่องเที่ยว โรงแรม แหล่งช็อปปิ้ง และแหล่งเอนเตอร์เทนเม้นท์ ให้ความบันเทิงต่างๆ มีเกม สวนสนุก และคาสิโน หากจะสร้างคาสิโน ก็ควรจะเป็นแค่หนึ่งในระบบเอนเตอร์เทนนี้เท่านั้น มีตัวอย่างที่สำเร็จแล้ว คือ สิงคโปร์ที่ดึงดูดองค์กรใหญ่มาประชุม และสร้างรายได้ให้ชาติได้ เฉพาะแค่การช็อปปิ้ง สร้างรายได้สูงถึง 20%
สำหรับปัญหาที่เกรงว่าจะมีคนไทยเข้ามาใช้บริการก็ต้องตั้งระบบคัดกรอง เช่น สิงคโปร์คิดค่าเข้าครั้งละ 100 ดอลลาร์ รายปี 1,000 ดอลลาร์ คนในประเทศจะเข้าใช้ต้องมีรายได้กำไรสุทธิ ปีละ 2-3 ล้านบาท ที่สำคัญรัฐบาลต้องมีความโปร่งใสในการดำเนินการเรื่องนี้ โดยประกาศเป็นนโยบายเพื่อชาติ และไม่มีการแสวงหาผลประโยชน์จากอำนาจหน้าที่ หากรัฐบาลจะทำ ก็ต้องเริ่มเพราะใช้เวลาสร้างอย่างน้อย 5 ปี
ความเย้ายวนของมูลค่าทางเศรษฐกิจการพนันที่นับวันเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย เป็นแรงจูงใจให้มีบ่อนถูกกฎหมายไม่จบสิ้น ดูได้จากงานวิจัยของ รศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์, ดร.ผาสุก พงษ์ไพจิตร และ นวลน้อย ตรีรัตน์ เรื่อง "เศรษฐกิจการพนัน : ทางเลือกเชิงนโยบายศูนย์ศึกษา" เศรษฐศาสตร์การเมือง คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (2543) ซึ่งศึกษาภาพรวมของเศรษฐกิจนอกกฎหมาย ในปี พ.ศ.2536-2538 และคณะเดิมนี้มาศึกษาอีกครั้งเมื่อปี 2544 พบว่า เศรษฐกิจของบ่อนการพนันในประเทศสูงขึ้นมาก
กล่าวคือ ในระหว่างปี พ.ศ.2536-2538 วงเงินที่เกี่ยวข้องกับการพนันในประเทศตกประมาณ 224,000-816,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมาเป็น 541,000-826,000 ล้านบาท ในปี พ.ศ.2544 หรือเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 42 ทีเดียว
ธุรกิจสีเทาที่ทำเงินมหาศาลขนาดนี้หากสามารถเอาขึ้นมาอยู่บนดินบริหารจัดการได้ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ก็อาจมีสิทธิ์รอดจากปัญหาเศรษฐกิจทรุด หรือไม่รัฐบาลนี้ก็อาจพังก่อนเพราะเสียงต้านค้านบ่อนก็เป็นได้อีกเช่นกัน
แล้วจะ LIKE “สมยศฟอร์กาสิโน” กันไหม? พี่น้องคนไทยชาวเมืองพุทธ