xs
xsm
sm
md
lg

เด็กแว้นเหิม!ปาบึ้มบ้านพ่อค้า นายกฯไม่ขัดใช้ม.44กำราบ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน/นครปฐม/ชลบุรี -- รมว.ยธ. เผย "ประยุทธ์" ไม่ขัดใช้ ม.44 กำราบเด็กแว้นแล้ว ตั้งคณะทำงานร่างกฎหมายทันควัน ชี้ไอเดียพม.เสนอจัดสนามแข่งรถเกิดขึ้นยาก เนื่องจากค่าใช้จ่ายสูง และต้องดำเนินการในทุกจังหวัด ผบ.ตร.หนุนนายกฯใช้มาตรา 44 แก้ปัญหาเด็กแว้น-ขายเหล้าใกล้สถานศึกษา โดยเบื้องต้นตร.จะเป็นผู้ดูแลปัญหา ในระยะสั้น จัดชุดปฎิบัติการปราบปราม เล็งเพิ่มระยะเวลาปรับเปลี่ยนพฤติกรรมแก๊งแว้น ผู้ช่วย ผบ.ตร.พร้อม ผบช.ภ.7 แถลงผลการกวาดล้างจับกุมรถจักรยานยนต์ดัดแปลงสภาพ ร้านที่รับดัดแปลง และจำหน่ายอะไหล่ที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยมีของกลางจำนวนมาก ทั้งท่อผิดฎหมาย-รถ จยย. เผยเตรียมผลักดันกฎหมายเอาผิดร้านค้าจำหน่ายอุปกรณ์ดัดแปลง ไม่เว้นกลุ่มบิ๊กไบค์สวมทะเบียนส่งเสียงกวนเมือง

วานนี้( 16 มิ.ย.)เมื่อเวลา13.30น. ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีการแก้ไขปัญหาเยาวชนรวมกลุ่มกันแข่งรถในทางสาธารณะ ว่า วันนี้ตนได้เสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) พิจารณาใช้กฎหมายมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญชั่วคราว ในการจัดการปัญหาดังกล่าว ซึ่งพล.อ.ประยุทธ์ได้อนุมัติหลักการให้ใช้กฎหมายมาตรา 44 แล้ว หลังจากนี้ ตนได้เรียกให้ฝ่ายกฎหมายของกระทรวงยุติธรรมมาร่างกฎหมาย เพื่อเสนอให้พล.อ.ประยุทธ์ประกาศใช้กฎหมายต่อไป

สำหรับกรณีที่กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) เสนอให้มีการจัดสนามแข่งขันรถนั้น ตนมองว่าโอกาสที่จะเกิดขึ้นนั้นยาก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายสูง และมีความยุ่งยากในการจัดหาที่ดิน เพราะถ้าเกิดสร้างสนามขึ้นในจังหวัดใดจังหวัดหนึ่ง ก็ต้องสร้างให้ครบทุกจังหวัด อย่างไรก็ตาม ตนมองว่าหากเป็นสนามเพื่อจัดกิจกรรมอื่นหรือการออกกำลังกาย ซึ่งเรามีพื้นที่อยู่แล้วสามารถทำได้ โดยเปิดสนามพื้นที่ให้ทำกิจกรรมมากขึ้น เช่นเดิม ปิดสนาม3ทุ่ม หลังจากนี้ อาจจะปิดดึกขึ้น

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นไปได้หรือไม่ที่รัฐบาลจะใช้งบประมาณไปเช่าสนามแข่งขันของเอกชน พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวว่า ต้องไปสอบถามว่ามีเอกชนแห่งใดจะเปิดให้เช่าหรือไม่ และก็ต้องไปดูในเรื่องของหลักการอีกครั้งหนึ่ง

***นายกฯ รับจะใช้มาตรการเบาไปหาหนัก-ลั่นไม่เปิดสนามให้

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้าคสช. ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมครม.ถึงข้อเสนอให้ใช้ มาตรา 44 แก้ปัญหาเด็กแว้นว่า "ไม่ได้มุ่งหมายจะเอากันจนตาย อย่างไรก็เป็นเด็ก ส่วนใหญ่เป็นเด็ก ปัญหาของเราต้องไปดูว่าทำไมเขาถึงยังมาแข่งกันตรงนี้ และต้องดูด้วยว่ากลุ่มคนเหล่านี้อยู่นอกระบบการศึกษาประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ไม่เรียนหนังสือ จึงมีเวลาว่างเยอะพอสมควร พอแม่ผู้ปกครองก็ไม่มีเวลาดูและอยู่กับลูก จึงให้เงินไป ส่วนใหญ่เอาไปทำรถ จึงทำให้เกิดปัญหาสังคมตามมา วันนี้เราจะใช้อำนาจและกฎหมายเพียงอย่างเดียวไม่ได้ จะแก้ได้เฉพาะชั่วคราวเท่านั้น” นายกฯ กล่าว

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องเปิดเป็นสนามเพื่อให้เด็กได้ใช้แข่งหรือไม่ นายกฯ กล่าวปฏิเสธว่า ไม่ให้เปิด เขามีสนามกันอยู่แล้ว ที่พัทยาก็มี ทำไมไม่ไปแข่งกัน ส่วนการจะเอาผู้ปกครองนั้น ยังไม่ไปถึงตรงนั้น อยู่ระหว่างการหารือว่าจะรับผิดชอบกันอย่างไร คงใช้วิธีการจากเบาไปหาหนัก อย่าทำเหมือนกับเป็นไข้แล้วต้องกินยาแรงเพียงอย่างเดียว มันไม่หายก็ตายเลย เราต้องค่อยๆทำ

พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) กล่าวถึงการประชุมเรื่องปัญหาเยาวชนแข่งรถจักรยานยนต์บนถนนสาธารณะ หรือเด็กแว้น ที่กระทรวงยุติธรรม ว่า เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้เข้าร่วมประชุม พร้อมกับ 64 หน่วยงาน โดยได้บทสรุปว่า การดำเนินการกับเด็กแว้นจะมี 3 ขั้นตอน ระยะสั้น ระยะกลาง ระยะยาว ซึ่งในระยะสั้นจะเป็นหน้าที่ของตำรวจที่จะดำเนินการ โดยได้มอบนโยบายให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วย ผบ.ตร. ไปดำเนินการ เบื้องต้นได้สั่งการให้ทุก บก. ในเขตนครบาลและปริมณฑล ให้จัดชุดพิเศษขึ้นมา เพื่อทำหน้าที่เกี่ยวกับเด็กแว้นโดยเฉพาะชุดละ 50 นาย

ระยะกลาง จะมีการพิจารณาว่าหน่วยงานไหนที่เข้ามาเกี่ยวข้องและมีการปรับปรุงอะไรหรือไม่ ในส่วนระยะยาว จะมาดูเรื่องกฎหมาย จะต้องลงโทษกับใครบ้าง ลงโทษกับเยาวชนเพื่อจะปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจากเดิม 15 วัน เปลี่ยนเป็น 1เดือนหรือ 2 เดือน

"นายกฯ ก็พูดมาตลอด ถ้าจะใช้ต้องเกิดประโยชน์ และถ้าไม่มีหนทางอื่นมาทำให้เกิดประโยชน์โดยเร็วพลันนั้น ก็ต้องใช้มาตรา 44 ซึ่งตนมองแล้วและเคยบอกไว้ว่า ตนสนับสนุนให้ใช้มาตรา 44 กับเด็กแว้นและจำหน่ายสุราใกล้สถานศึกษา เพราะว่าเราไปแก้กฎหมายตามเงื่อนเวลาที่กำหนดไว้ก็จะไม่ทันกาล เพราะฉะนั้นสิ่งที่รวดเร็วและได้ผลชัดเจนต้องเป็นมาตรา 44 แต่ก็ต้องเป็นอำนาจของนายกฯ"พล.ต.อ.สมยศ ระบุ

**ภ.7กวาดล้างเด็กแว้นยึดของกลางเพียบ

เมื่อเวลา 10.00 น.วานนี้ (16 มิ.ย.) ที่กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผู้ช่วย ผบ.ตร.) พร้อมด้วย พล.ต.ท.วีระพงษ์ ชื่นภักดี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบช.ภ.7) และรอง ผบช.ภ.7 พร้อมด้วยผู้บังคับการตำรวจภูธรทั้ง 8 จังหวัดในสังกัดตำรวจภูธรภาค 7 ร่วมกันแถลงข่าวผลการกวาดล้างจับกุมรถจักรยานยนต์ดัดแปลงสภาพ ร้านที่รับดัดแปลง และจำหน่ายอะไหล่ที่ไม่ได้มาตรฐาน โดยมีของกลางจำนวนมาก

พล.ต.ท.ประวุฒิ เปิดเผยว่า การกวาดล้างจับกุมครั้งนี้เป็นนโยบายที่ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้เรียกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประชุมหาแนวทางในการแก้ปัญหาเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.ที่ผ่านมา เพื่อให้เกิดการแก้ปัญหากลุ่มเยาวชนที่รวมกันขับขี่จักรยานยนต์ซิ่งกวนเมือง ซึ่งเป็นคำสั่งกำชับมาจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการจะปราบปรามให้แก๊งซิ่งกวนเมืองหมดไป

จากการที่ตำรวจภูธรภาค 7 ได้ดำเนินการกวาดล้างอย่างจริงจังในครั้งนี้ สามารถยึดของกลางเป็นท่อไอเสียดัดแปลงได้จำนวนมาก แต่ก็ยังมีช่องกฎหมายที่อาจจะไปไม่ถึงร้านค้าที่จำหน่าย ซึ่งต่อไปจะมีการเสนอให้มีกฎหมายที่จะเอาผิดต่อร้านที่จำหน่าย หรือรับดัดแปลงท่อไอเสีย หรือสภาพรถให้มีเสียง และความแรง รวมถึงสภาพตามที่กฎหมายกำหนดต่อไป นอกจากนี้ จะมีการเอาผิดต่อผู้ปกครองที่สนับสนุนให้เยาวชนออกมาก่อเหตุแบบนี้ด้วย

"ส่วนการเอาผิดต่อกลุ่มของรถจักรยานยนต์นั้น จะเอาผิดทุกเรื่องที่เข้าข่ายผิดกฎหมาย ทั้งการดัดแปลงสภาพ การเปลี่ยนท่อไอเสีย รวมถึงกลุ่มรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่มีการดัดแปลงสภาพด้วยเช่นกัน ซึ่งยังมีกลุ่มที่มีการสวมทะเบียนพวกนี้ก็จะเอาผิดทั้งหมด โดยจะให้มีการกวดขันตามแหล่งที่จะมีการรวมตัวของกลุ่มคนเหล่านี้ ส่วนไหนจับกุมได้จะยึดรถไว้ และจะมีการดำเนินคดีทันที"

พล.ต.ท.วีระพงษ์ กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้ตำรวจภูธรภาค 7 ได้ประสานกับหน่วยงานปฏิบัติอุตสาหกรรมแต่ละจังหวัดเข้าร่วมกวาดล้างระหว่างวันที่ 12-15 มิ.ย.โดยสามารถจับกุมเป็นท่อไอเสียรถจักรยานยนต์ 4,315 ท่อ ประกอบด้วยท่อไอเสียที่ไม่ได้มาตรฐานตรวจจากร้านอะไหล่ จำนวน 468 ท่อ ตรวจยึดจากจุดตรวจ 3,847 ท่อ วงล้อรถจักรยานยนต์ที่ดัดแปลง จำนวน 16 วง โครงรถจักรยานยนต์ 1 โครง อะไหล่รถจักรยานยนต์ที่มีการดัดแปลงภาพ 61 ชิ้น และตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ดัดแปลงสภาพมีท่อเสียงดังกว่าที่กฎหมายกำหนดหลายร้อยคัน และกำลังมียอดการจับกุมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

"สำหรับรถจักรยานยนต์ที่ดัดแปลงสภาพพบว่าส่วนใหญ่กลุ่มวัยรุ่นจะนำมาทำให้เครื่องยนต์มีความแรงมากขึ้นทั้งการคว้านเสื้อสูบให้ใหญ่และการเปลี่ยนท่อให้มีการระบายไอเสียได้ดี แต่ทำให้เสียงดังมากขึ้น กลุ่มพวกนี้ได้มีการยึดรถจักรยานยนต์มาทั้งหมดและส่งตัวดำเนินคดีทันที ส่วนพื้นที่ที่พบหลักคือพื้นที่นครปฐม และสมุทรสาคร ที่มีพื้นที่ติดกับกรุงเทพฯ โดยหลังจากนี้จะสั่งการเข้มเอาจริงเอาจังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และจะมีการตรวจสอบตั้งด่านสกัดทุกคืนเพื่อให้เป็นตำรวจภาค 7 โมเดลที่จะปราบปรามแก้ไขเรื่องนี้อย่างชัดเจนต่อไป"

**เด็กแว้นเหิมปาระเบิดใส่บ้านพ่อค้า3ลูกซ้อน

เมื่อเวลา 15.00 น.วานนี้ (16 มิ.ย.58) ทหารชุด คสช.ประจำอำเภอศรีราชา ได้รับร้องเรียนจากนายอภิชัย เบ็ญคาร อายุ 40 ปี พ่อค้าขายของในตลาดสดเทศบาลเมืองศรีราชา จ.ชลบุรีว่า ได้รับความเดือดร้อนจากแก๊งเด็กแว้นในพื้นที่เข้ามาขโมยของก่อความวุ่นวายและใช้ระเบิดปาเข้าไปในบ้าน 3 ลูกซึ่งเกิดระเบิดไป 1 ลูก ส่วนที่เหลืออีก 2 ลูกจึงนำมาให้เจ้าหน้าที่ทหารตรวจสอบ

ต่อมา ร.ต.อ.เอนก เครือเขื่อนเพชร รองสารวัตรสืบตำรวจภูธรจังหวัดชลบุรีทำหน้าที่หน่วย EOD ชุดเก็บกู้และทำลายระเบิดได้เข้ามาตรวจสอบและนำระเบิดไปพิสูจน์ทำลายพบว่าเป็นเพียงระเบิดแรงต่ำที่ทำเองโดยใส่หินอัดดินปืนแล้วพันด้วยเทปดำ ประสิทธิภาพการทำลายระยะไม่เกิน 15 เมตรมีเสียงดังหากระเบิดใส่ตัวคนจะได้รับบาดเจ็บ หากโดนสิ่งของก็จะทำให้สิ่งของนั้นเสียหายได้

นายอภิชัย เบ็ญคาร ผู้เสียหายเผยว่า เมื่อเวลาประมาณ 02.00 น.ได้มีกลุ่มวัยรุ่นอายุประมาณ 12-25 ปีขับรถจักรยานยนต์รวมกลุ่มกันมา 4-5 คันแล้วเข้ามาขโมยมะพร้าวในบ้านซึ่งตนเห็นพอดีจึงคว้ามีดไล่ไปพอไม่นานก็กลับมาพร้อมพรรคพวกอีกหลายคนเบิลเครื่องเสียงดังอีกพร้อมกับปาระเบิดเข้าใส่ในบ้าน 3 ลูก แต่เกิดระเบิดเพียงลูกเดียว หลังจากนั้นตนไม่กล้าออกมาจนกระทั่งช่วงบ่ายพบว่ามีลูกระเบิดที่ยังไม่ระเบิดอีก 2 ลูกจึงนำมาส่งให้เจ้าหน้าที่ทหารพิสูจน์และทราบว่าวัยรุ่นกลุ่มนี้ชอบรุมทำร้ายแรงงานชาวพม่าที่อยู่ในบริเวณใกล้เคียงกับที่พักตนอีกด้วย
กำลังโหลดความคิดเห็น