พ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย สมาชิกสปช. ด้านปกครองท้องถิ่น พร้อมด้วยสมาชิกสปช.จำนวน 12 คน ร่วมกันแถลงเสนอให้ดำเนินการจัดทำบ่อนกาสิโน ถูกกฎหมายขึ้นในประเทศไทย โดยพ.ต.อาณันย์ กล่าวว่าในกลุ่มสปช. 12 คน ได้หารือถึงความพยายามแก้ปัญหาของรัฐบาล ที่ถือว่าสามารถทำได้ดี โดยเฉพาะการปฏิรูปประเทศ แต่ติดขัดเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้น จึงหาทางช่วยเหลือรัฐบาลหารายได้ โดยเสนอให้มีการจัดตั้งกาสิโนอย่างถูกกฎหมายขึ้นในไทย เพื่อให้ประเทศมีรายรับ กรุงเทพฯ เป็นมหานครที่คนต่างชาติเข้ามามากที่สุด ควรนำบ่อนเถื่อนต่างๆ มาจัดทำให้ถูกกฎหมาย ทั้งนี้ไม่ทราบจะได้ผลตอบรับแค่ไหน เพียงแต่พยายามทำให้ดีที่สุด โดยจะเสนอเข้าที่ประชุม สปช. และเสนอต่อรัฐบาลให้ ครม.ตัดสินใจ
พ.ต.อาณันย์ กล่าวว่า ทุกประเทศในโลกนับถือทุกศาสนา แม้แต่อิสลามที่เคร่งครัดเรื่องการพนัน ก็ยังให้มีการเปิดกาสิโนที่ถูกต้อง บางคนบอกว่า กาสิโนไม่ใช่รายได้หลักที่ชัดเจน เพียงแต่เป็นเงินหมุนได้-เสีย แต่บางประเทศที่จัดการดึงเงินส่วนหนึ่งเข้ารัฐ และประสบความสำเร็จเขามองว่าไม่ต้องการให้เงินจากนักท่องเที่ยวไหลออกไปโดยไม่ได้ประโยชน์ จากตัวเลขรอบๆ บ้านเรา มีบ่อนกาสิโน 22 แห่ง มีคนเข้าไปเล่นแห่งละ 700-1,000 คนต่อวัน โดยเฉพาะแนวชายแดนเขมร มีบ่อน10 แห่ง มีคนเล่นวันละ 1 หมื่นคน วงเงินหมุนเวียนอยู่ในบ่อนประมาณ 5 ล้านบาทที่ตกอยู่ในบ่อน ประเมินตัวเลข 3-4 ปีข้างหน้า เราจะมีบ่อนเพิ่มขึ้นรอบๆไทยไม่ตำกว่า 30 แห่ง
"อย่างลาสเวกัส หรือแอตแลนติก ซิตี้ ประเทศมาเลเซีย มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการแสดงศิลปวัฒนธรรม เมื่อถูกกฎหมายคนไทยจะมีงานทำมากขึ้น มีนักท่องเที่ยวเข้ามา ร้านอาหาร ร้านขายสินค้าที่ระลึก กิจกรรมการแสดง อุตสาหกรรมต่างๆ จากตัวเลขเหล่านี้มากมาย เรามีสถานการณ์ บ่อนพนันเถื่อนที่ยังควบคุมไม่ได้จำนวนมาก ปล่อยให้เงินไปเป็นส่วยกับเจ้าหน้าที่ที่ฉ้อฉล มันไม่ควรจะเกิดขึ้น หากรัฐถือโอกาสนี้เอามาเป็นประโยชน์ได้ เพราะเราไม่สามารถห้ามคนไม่ให้เล่นได้ หรืออย่างปัญหาโสเภณี การฟอกเงิน ขึ้นอยู่กับมาตรการการควบคุม ส่วนการอนุญาตด้วยการสัมปทาน จะสามารถบริหารจัดการให้เข้ารูปแบบได้ อย่างกรณี มาเก๊า เจ้าของบ่อนที่ได้รับสัมปทาน จะกันกำไรไว้เพียงร้อยละ 20 ให้รัฐร้อยละ 35 ที่เหลือเป็นเงินเดือนเจ้าหน้าที่ พบว่าสามารถสร้างรายได้มากกว่า 10 เท่าตัว"
ส่วนมาตรการที่เราจะต้องป้องกันก็คือ รณรงค์ไม่ให้มีการเล่นการพนัน เหมือนกับการสูบบุหรี่ กินเหล้า ห้ามมีการติดป้ายโฆษณาผ่านสื่อ และทดลองทำมีการนำร่องใน 2-3 จุด แล้วประเมินเพื่อป้องกันปัญหาเยาวชน ยาเสพติดไม่ให้เกิดการมอมเมา โดยเบื้องต้นคิดว่าจะเริ่มที่เมืองพัทยา เชื่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่จะเห็นด้วย เพราะเราชะลอไม่ได้ ทางรัฐบาลอาจจะลังเล ทางกลุ่ม 12 สปช. คิดว่าควรจะดำเนินการเรื่องนี้ และทำให้เป็นรูปธรรมอาจจะคิดว่า ในยามนี้แทนที่จะปฏิรูปอะไรที่เป็นเรื่องกฎหมาย แต่อย่าลืมว่าในยามนี้ สื่อทุกแขนงมั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารไปได้ แต่ที่ห่วงมากที่สุดคือเรื่องเศรษฐกิจ และเราขอมีส่วนที่จะทำให้เศรษฐกิจของชาติดีขึ้น
ด้านนายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง สปช. ด้านบริหารท้องถิ่น กล่าวว่า ในยุครัฐบาลก่อนๆ ตั้งแต่ปี 45-46 เคยมีการศึกษาเรื่องนี้มาแล้ว แต่รัฐบาลได้พ้นไปก่อน ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า คนไทยส่วนใหญ่เกิดขึ้นมาก็รู้จักการพนันแล้ว ถามว่าการซื้อล็อตเตอรี่ เล่นไก่ชน เล่นมวย เป็นการพนันหรือไม่ ล้วนเป็นการพนันทั้งสิ้น
"ผมว่า เราเลิกทำตัวดัดจริต แล้วทำประเทศให้เดินหน้า ต้องยอมรับว่า รัฐบาลปัจจุบันเดินหน้าปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง แต่ติดขัดเรื่องเดียวคือ เศรษฐกิจ พวกเราคิดเหมือนกันว่า เศรษฐกิจจะดีได้ ต้องดึงเอาเงินนอกระบบ หรือเงินสีเทาขึ้นมาข้างบน ทุกวันนี้ของยากหมากแพง ทุกคนเก็บเงินไม่กล้าใช้จ่าย ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่า บ่อนต่างๆ ในประเทศเพื่อนบ้านร้อยละ 80 เป็นคนไทยทั้งนั้น การเปิดกาสิโน ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ผมมองว่าเป็นเรื่องดีที่เป็นการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐ รายได้หลักของมาเก๊า ก็มาจากบ่อนกาสิโน เราจะนำรายได้เหล่านี้มาพัฒนาประเทศ เรียกว่า การดึงภาษีบาปมาเป็นภาษีบุญ มาช่วยเหลือคนจน ช่วยพระพุทธศาสนา คนพิการ การศึกษา"
นายเกรียงไกร กล่าวว่า การออกมาเสนอเรื่องนี้ ถือเป็นอุดมการณ์ของ สปช.กลุ่มหนึ่ง ที่เห็นด้วยสนับสนุนให้รัฐบาลเปิดบ่อนกาสิโน และจะเป็นกำลังใจ อาจจะเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ได้พิจารณาดีแล้วว่า สิ่งทีทำขึ้นมาเพื่อประโยชน์ประเทศชาติ เราจะผลักดันต่อไปให้เป็นรูปธรรม แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะเห็นด้วยหรือไม่
ส่วนมาตรการป้องกัน เราจะไม่เน้นคนในชาติไปเล่น หากจะเล่นต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน เสตทเมนต์ เงินสดจำนวนสูง ดังนั้น คนยากไร้ไม่มีสิทธิ์เข้าไปเล่น แต่สำหรับต่างชาติ เข้าไปเล่นเมื่อไรก็ได้ ถ้าเรามีแนวความคิดร่วมกันปฏิรูปทุกด้าน สามารถดึงเงินที่ไหลออกนอกประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในตัว ให้ประชาชนคนจนมีรายได้สร้างงานสร้างอาชีพ กลุ่มเราก็พร้อมจะผลักดัน
ขณะที่นายบุญเลิศ คทายุทธเดช สปช. ด้านสื่อมวลชน กล่าวเสริมว่า สปช.12 คน ได้ปรึกษาหารือกันถึงปัญหาของประเทศ คือ นักพนันบ้านเราหอบเอาเงินไปทิ้งขว้างในบ่อนเพื่อนบ้านเรา หรือไกลแสนไกล ก็ดั้นด้นนั่งเครื่องบินไปเล่น เห็นพ้องต้องกันว่า ถึงเวลาที่ไทยจะเปิดให้เอกชนเข้ามารับสัมปทาน หรือทำสัญญากับรัฐเปิดกาสิโนในไทยรับนักท่องเที่ยว ที่นิยมเสี่ยงโชค กลุ่มสปช.12 คน จะนำเรียนประธาน สปช.ว่า สมควรตั้ง คณะกรรมการศึกษาผลกระทบผลดีผลเสียในมิติต่างๆ หากเห็นว่ามีผลดีมากกว่าผลเสีย ก็จะเสนอต่อรัฐบาล
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าประธานสปช. จะเห็นอย่างไร ทางกลุ่ม สปช.12 คน จะศึกษาและดำเนินการต่อไป เพราะเวลาเหลือแค่เพียง 2 เดือนเศษ ทางรัฐบาลคงต้องพิจารณาหลายด้าน และเออีซี จะเริ่มต้นปลายปีนี้ จะมีชาวต่างประเทศจะเข้ามาจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องที่รอไม่ได้
พ.ต.อาณันย์ กล่าวว่า ทุกประเทศในโลกนับถือทุกศาสนา แม้แต่อิสลามที่เคร่งครัดเรื่องการพนัน ก็ยังให้มีการเปิดกาสิโนที่ถูกต้อง บางคนบอกว่า กาสิโนไม่ใช่รายได้หลักที่ชัดเจน เพียงแต่เป็นเงินหมุนได้-เสีย แต่บางประเทศที่จัดการดึงเงินส่วนหนึ่งเข้ารัฐ และประสบความสำเร็จเขามองว่าไม่ต้องการให้เงินจากนักท่องเที่ยวไหลออกไปโดยไม่ได้ประโยชน์ จากตัวเลขรอบๆ บ้านเรา มีบ่อนกาสิโน 22 แห่ง มีคนเข้าไปเล่นแห่งละ 700-1,000 คนต่อวัน โดยเฉพาะแนวชายแดนเขมร มีบ่อน10 แห่ง มีคนเล่นวันละ 1 หมื่นคน วงเงินหมุนเวียนอยู่ในบ่อนประมาณ 5 ล้านบาทที่ตกอยู่ในบ่อน ประเมินตัวเลข 3-4 ปีข้างหน้า เราจะมีบ่อนเพิ่มขึ้นรอบๆไทยไม่ตำกว่า 30 แห่ง
"อย่างลาสเวกัส หรือแอตแลนติก ซิตี้ ประเทศมาเลเซีย มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการแสดงศิลปวัฒนธรรม เมื่อถูกกฎหมายคนไทยจะมีงานทำมากขึ้น มีนักท่องเที่ยวเข้ามา ร้านอาหาร ร้านขายสินค้าที่ระลึก กิจกรรมการแสดง อุตสาหกรรมต่างๆ จากตัวเลขเหล่านี้มากมาย เรามีสถานการณ์ บ่อนพนันเถื่อนที่ยังควบคุมไม่ได้จำนวนมาก ปล่อยให้เงินไปเป็นส่วยกับเจ้าหน้าที่ที่ฉ้อฉล มันไม่ควรจะเกิดขึ้น หากรัฐถือโอกาสนี้เอามาเป็นประโยชน์ได้ เพราะเราไม่สามารถห้ามคนไม่ให้เล่นได้ หรืออย่างปัญหาโสเภณี การฟอกเงิน ขึ้นอยู่กับมาตรการการควบคุม ส่วนการอนุญาตด้วยการสัมปทาน จะสามารถบริหารจัดการให้เข้ารูปแบบได้ อย่างกรณี มาเก๊า เจ้าของบ่อนที่ได้รับสัมปทาน จะกันกำไรไว้เพียงร้อยละ 20 ให้รัฐร้อยละ 35 ที่เหลือเป็นเงินเดือนเจ้าหน้าที่ พบว่าสามารถสร้างรายได้มากกว่า 10 เท่าตัว"
ส่วนมาตรการที่เราจะต้องป้องกันก็คือ รณรงค์ไม่ให้มีการเล่นการพนัน เหมือนกับการสูบบุหรี่ กินเหล้า ห้ามมีการติดป้ายโฆษณาผ่านสื่อ และทดลองทำมีการนำร่องใน 2-3 จุด แล้วประเมินเพื่อป้องกันปัญหาเยาวชน ยาเสพติดไม่ให้เกิดการมอมเมา โดยเบื้องต้นคิดว่าจะเริ่มที่เมืองพัทยา เชื่อว่า ประชาชนส่วนใหญ่จะเห็นด้วย เพราะเราชะลอไม่ได้ ทางรัฐบาลอาจจะลังเล ทางกลุ่ม 12 สปช. คิดว่าควรจะดำเนินการเรื่องนี้ และทำให้เป็นรูปธรรมอาจจะคิดว่า ในยามนี้แทนที่จะปฏิรูปอะไรที่เป็นเรื่องกฎหมาย แต่อย่าลืมว่าในยามนี้ สื่อทุกแขนงมั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารไปได้ แต่ที่ห่วงมากที่สุดคือเรื่องเศรษฐกิจ และเราขอมีส่วนที่จะทำให้เศรษฐกิจของชาติดีขึ้น
ด้านนายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง สปช. ด้านบริหารท้องถิ่น กล่าวว่า ในยุครัฐบาลก่อนๆ ตั้งแต่ปี 45-46 เคยมีการศึกษาเรื่องนี้มาแล้ว แต่รัฐบาลได้พ้นไปก่อน ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า คนไทยส่วนใหญ่เกิดขึ้นมาก็รู้จักการพนันแล้ว ถามว่าการซื้อล็อตเตอรี่ เล่นไก่ชน เล่นมวย เป็นการพนันหรือไม่ ล้วนเป็นการพนันทั้งสิ้น
"ผมว่า เราเลิกทำตัวดัดจริต แล้วทำประเทศให้เดินหน้า ต้องยอมรับว่า รัฐบาลปัจจุบันเดินหน้าปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง แต่ติดขัดเรื่องเดียวคือ เศรษฐกิจ พวกเราคิดเหมือนกันว่า เศรษฐกิจจะดีได้ ต้องดึงเอาเงินนอกระบบ หรือเงินสีเทาขึ้นมาข้างบน ทุกวันนี้ของยากหมากแพง ทุกคนเก็บเงินไม่กล้าใช้จ่าย ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่า บ่อนต่างๆ ในประเทศเพื่อนบ้านร้อยละ 80 เป็นคนไทยทั้งนั้น การเปิดกาสิโน ไม่ใช่เรื่องเสียหาย ผมมองว่าเป็นเรื่องดีที่เป็นการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐ รายได้หลักของมาเก๊า ก็มาจากบ่อนกาสิโน เราจะนำรายได้เหล่านี้มาพัฒนาประเทศ เรียกว่า การดึงภาษีบาปมาเป็นภาษีบุญ มาช่วยเหลือคนจน ช่วยพระพุทธศาสนา คนพิการ การศึกษา"
นายเกรียงไกร กล่าวว่า การออกมาเสนอเรื่องนี้ ถือเป็นอุดมการณ์ของ สปช.กลุ่มหนึ่ง ที่เห็นด้วยสนับสนุนให้รัฐบาลเปิดบ่อนกาสิโน และจะเป็นกำลังใจ อาจจะเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ได้พิจารณาดีแล้วว่า สิ่งทีทำขึ้นมาเพื่อประโยชน์ประเทศชาติ เราจะผลักดันต่อไปให้เป็นรูปธรรม แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะเห็นด้วยหรือไม่
ส่วนมาตรการป้องกัน เราจะไม่เน้นคนในชาติไปเล่น หากจะเล่นต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน เสตทเมนต์ เงินสดจำนวนสูง ดังนั้น คนยากไร้ไม่มีสิทธิ์เข้าไปเล่น แต่สำหรับต่างชาติ เข้าไปเล่นเมื่อไรก็ได้ ถ้าเรามีแนวความคิดร่วมกันปฏิรูปทุกด้าน สามารถดึงเงินที่ไหลออกนอกประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในตัว ให้ประชาชนคนจนมีรายได้สร้างงานสร้างอาชีพ กลุ่มเราก็พร้อมจะผลักดัน
ขณะที่นายบุญเลิศ คทายุทธเดช สปช. ด้านสื่อมวลชน กล่าวเสริมว่า สปช.12 คน ได้ปรึกษาหารือกันถึงปัญหาของประเทศ คือ นักพนันบ้านเราหอบเอาเงินไปทิ้งขว้างในบ่อนเพื่อนบ้านเรา หรือไกลแสนไกล ก็ดั้นด้นนั่งเครื่องบินไปเล่น เห็นพ้องต้องกันว่า ถึงเวลาที่ไทยจะเปิดให้เอกชนเข้ามารับสัมปทาน หรือทำสัญญากับรัฐเปิดกาสิโนในไทยรับนักท่องเที่ยว ที่นิยมเสี่ยงโชค กลุ่มสปช.12 คน จะนำเรียนประธาน สปช.ว่า สมควรตั้ง คณะกรรมการศึกษาผลกระทบผลดีผลเสียในมิติต่างๆ หากเห็นว่ามีผลดีมากกว่าผลเสีย ก็จะเสนอต่อรัฐบาล
อย่างไรก็ดี ไม่ว่าประธานสปช. จะเห็นอย่างไร ทางกลุ่ม สปช.12 คน จะศึกษาและดำเนินการต่อไป เพราะเวลาเหลือแค่เพียง 2 เดือนเศษ ทางรัฐบาลคงต้องพิจารณาหลายด้าน และเออีซี จะเริ่มต้นปลายปีนี้ จะมีชาวต่างประเทศจะเข้ามาจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องที่รอไม่ได้
