สปช.ด้านปกครองท้องถิ่น นำทีมแถลง เสนอไทยมีบ่อนถูกกฎหมาย หารายได้ช่วยรัฐแก้เศรษฐกิจ ยกอิสลามว่าเคร่งยังเปิดให้มี แก้เงินนักพนันไหลออกเพื่อนบ้าน ชี้ไม่สามารถห้ามคนเล่นได้ บ่อนเถื่อนเงินก็กลายเป็นส่วย การป้องกันใช้วิธีเดียวกับสุรา-บุหรี่ ไม่เน้นคนไทยเล่น จะเล่นต้องแจงทรัพย์สิน แนะเริ่มที่พัทยา ย้อน หวย-ไก่ชน-มวยก็พนัน จี้เลิกดัดจริตให้ชาติเดินหน้า ยันเปิดบ่อนไม่เสียหาย รอบบ้านก็ของคนไทย
วันนี้ (15 มิ.ย.) พ.ต.อาณันย์ วัชโรทัย สปช.ด้านปกครองท้องถิ่น พร้อมด้วยสมาชิก สปช.จำนวน 12 คน ร่วมกันแถลงเสนอให้ดำเนินการจัดทำกาสิโนถูกกฎหมายขึ้นในประเทศไทย โดย พ.ต.อาณันย์กล่าวว่า ในกลุ่ม สปช.12 คนได้หารือถึงความพยายามแก้ปัญหาของรัฐบาลที่ถือว่าสามารถทำได้ดีโดยเฉพาะการปฏิรูปประเทศ แต่ติดขัดเรื่องปัญหาเศรษฐกิจ ดังนั้นจึงหาทางช่วยเหลือรัฐบาลหารายได้ โดยเสนอให้มีการจัดตั้งกาสิโนอย่างถูกกฎหมายขึ้นในไทยเพื่อให้ประเทศมีรายรับ กรุงเทพฯ เป็นมหานครที่คนต่างชาติเข้ามามากที่สุด ควรนำบ่อยเถื่อนต่างๆ มาจัดทำให้ถูกกฎหมาย ทั้งนี้ไม่ทราบจะได้ผลตอบรับขนาดไหน เพียงแต่พยายามทำให้ดีที่สุด โดยจะเสนอเข้าที่ประชุม สปช. และเสนอต่อรัฐบาลให้ ครม.ตัดสินใจ
พ.ต.อาณันย์กล่าวว่า ทุกประเทศในโลกนับถือทุกศาสนา แม้แต่อิสลามที่เคร่งครัดเรื่องการพนันก็ยังมีการให้มีกาสิโนที่ถูกต้อง บางคนบอกว่ากาสิโนไม่ใช่รายได้หลักที่ชัดเจนเพียงแต่เป็นเงินหมุนได้เสีย แต่บางประเทศที่จัดการดึงเงินส่วนหนึ่งเข้ารัฐและประสบความสำเร็จเขามองว่าไม่ต้องการให้เงินจากนักท่องเที่ยวไหลออกไปโดยไม่ได้ประโยชน์ ตัวเลขรอบบ้านเรามีกาสิโน 22 แห่ง มีคนเข้าไปเล่นแห่งละ 700-1,000 คนต่อวัน โดยเฉพาะแนวชายแดนเขมรมีบ่อน 10 แห่ง มีคนเล่นวันละ 1 หมื่นคน วงเงินวันละประมาณ 5 หมื่นบาท หมุนเวียนอยู่ในบ่อนประมาณ 5 ล้านบาท ที่ตกอยู่ในบ่อน ประเมินตัวเลข 3-4 ปีข้างหน้าเราจะมีบ่อนเพิ่มขึ้นรอบๆ ไทยไม่ต่ำกว่า 30 แห่ง
“อย่างลาสเวกัส หรือแอตแลนติกซิตี ประเทศมาเลเซีย มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการแสดงศิลปวัฒนธรรม เมื่อถูกกฎหมายคนไทยจะมีงานทำมากขึ้น มีนักท่องเที่ยวเข้ามา ร้านอาหารร้านขายสินค้าที่ระลึก กิจกรรมการแสดง อุตสาหกรรมต่างๆ จากตัวเลขเหล่านี้มากมาย เรามีสถานการณ์พนันเถื่อนที่ยังควบคุมไม่ได้จำนวนมากควบคุมไม่หมด ปล่อยให้เงินไปเป็นส่วยกับเจ้าหน้าที่ที่ฉ้อฉล มันไม่ควรจะเกิดขึ้น หากรัฐถือโอกาสนี้เอามาเป็นประโยชน์ได้ เพราะเราไม่สามารถห้ามคนไม่ให้เล่นได้ หรืออย่างปัญหาโสเภณี การฟอกเงิน ขึ้นอยู่กับมาตรการการควบคุม ส่วนการอนุญาตด้วยการสัมปทานจะสามารถบริหารจัดการให้เข้ารูปแบบได้ อย่างกรณีมาเก๊า เจ้าของบ่อนที่ได้รับสัมปทานจะกันกำไรไว้เพียงร้อยละ 20 ให้รัฐร้อยละ35 ที่เหลือเป็นเงินเดือนเจ้าหน้าที่ จะพบว่าสามารถสร้างรายได้มากกว่า 10 เท่าตัว”
ส่วนมาตรการที่เราจะต้องป้องกันก็คือรณรงค์ไม่ให้มีการเล่นการพนัน เหมือนกับการสูบบุหรี่ กินเหล้า ห้ามมีการติดป้ายโฆษณาผ่านสื่อ และทดลองทำมีการนำร่องใน 2-3 จุดแล้วประเมินเพื่อป้องกันปัญหาเยาวชน ยาเสพติดไม่ให้เกิดการมอมเมา โดยเบื้องต้นคิดว่าจะเริ่มที่เมืองพัทยา เชื่อว่าประชาชนส่วนใหญ่จะเห็นด้วย เพราะเราชะลอไม่ได้ ทางรัฐบาลอาจจะลังเล ทางกลุ่มคิดว่าควรจะดำเนินการเรื่องนี้และทำให้เป็นรูปธรรมอาจจะคิดว่าในยามนี้แทนที่จะปฏิรูปอะไรที่เป็นเรื่องกฎหมาย แต่อย่าลืมว่าในยามนี้สื่อทุกแขนงมั่นใจว่ารัฐบาลจะสามารถบริหารไปได้ แต่ที่ห่วงมากที่สุดคือเศรษฐกิจ และเรามีส่วนที่จะทำให้เศรษฐกิจของชาติดีขึ้น
ด้านนายเกรียงไกร ภูมิเหล่าแจ้ง สปช.ด้านบริหารท้องถิ่น กล่าวว่า ในยุครัฐบาลก่อนๆ ตั้งแต่ปี 45-46 เคยมีการศึกษาเรื่องนี้มาแล้ว แต่รัฐบาลได้พ้นไปก่อน ซึ่งต้องยอมรับความเป็นจริงว่าคนไทยส่วนใหญ่เกิดขึ้นมาก็รู้จักการพนันแล้ว ถามว่าการเล่นล็อตเตอรี่ เล่นไก่ชน เล่นมวย เป็นการพนันหรือไม่ ล้วนเป็นการพนันทั้งสิ้น
“ผมว่าเราเลิกคำว่าดัดจริต แล้วทำประเทศให้เดินหน้า ต้องยอมรับว่ารัฐบาลปัจจุบันเดินหน้าปฏิรูปประเทศอย่างจริงจัง แต่ติดขัดเรื่องเดียวคือเศรษฐกิจ พวกเราคิดเหมือนกันว่าเศรษฐกิจจะดีได้ต้องดึงเอาเงินนอกระบบหรือเงินสีเทาขึ้นมาข้างบน ทุกวันนี้ข้าวยากหมากแพง ทุกคนเก็บเงินไม่กล้าใช้จ่าย ผมกล้าพูดได้เต็มปากว่า บ่อนต่างๆ ในประเทศเพื่อนบ้านร้อยละ 80 เป็นคนไทยทั้งนั้น การเปิดคาสิโนไม่ใช่เรื่องเสียหาย ผมมองว่าเป็นเรื่องดีที เป็นการจัดเก็บรายได้เข้ารัฐ รายได้หลักของมาเก๊าก็มาจากกาสิโน เราจะนำรายได้เหล่านี้มาพัฒนาประเทศ เรียกว่า การดึงภาษีบาปมาเป็นภาษีบุญมาช่วยเหลือคนจน ช่วยพระพุทธศาสนา คนพิการ การศึกษา”
นายเกรียงไกรกล่าวว่า การออกมาเสนอเรื่องนี้ถือเป็นอุดมการณ์ของสปช.กลุ่มหนึ่งที่เห็นด้วยสนับสนุนให้รัฐบาลเปิดบ่อนคาสิโน และจะเป็นกำลังใจ อาจจะเป็นกลุ่มเล็กๆ แต่ได้พิจารณาดีแล้วว่าสิ่งทีทำขึ้นมาเพื่อประโยชน์ประเทศชาติ เราจะผลักดันต่อไปให้เป็นรูปธรรม แต่ขึ้นอยู่กับรัฐบาลจะเห็นด้วยหรือไม่ ส่วนมาตรการป้องกันเราจะไม่เน้นคนในชาติไปเล่น หากจะเล่นต้องแสดงบัญชีทรัพย์สิน เสตทเมนต์ เงินสดจำนวนสูง ดังนั้นคนยากไร้ไม่มีสิทธิ์เข้ามาเล่น แต่สำหรับต่างชาติเข้าไปเล่นเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าเรามีแนวความคิดร่วมกันปฏิรูปทุกด้าน สามารถดึงเงินที่ไหลออกนอกประเทศ ส่งเสริมการท่องเที่ยวไปในตัว ให้ประชาชนคนจนมีรายได้สร้างงานสร้างอาชีพ กลุ่มเราก็พร้อมจะผลักดัน
ขณะที่นายบุญเลิศ คทายุทธเดช สปช.ด้านสื่อมวลชน กล่าวเสริมว่า สปช.12 คนได้ปรึกษาหารือกันถึงปัญหาของประเทศ คือนักพนันบ้านเราหอบเอาเงินไปทิ้งขว้างในบ่อยเพื่อนบ้านเรา หรือไกลแสนไกลก็ดั้นด้นนั่งเครื่องไปเล่น เห็นพ้องต้องกันว่าถึงเวลาที่ไทยจะเปิดให้เอกชนเข้ามารับสัมปทานหรือทำสัญญากับรัฐเปิดกาสิโนในไทยรับนักท่องเที่ยวที่นิยมเสี่ยงโชค กลุ่ม 12 คนจะนำเรียนประธานสปช.ว่าสมควรตั้ง คณะกรรมการศึกษาผลกระทบผลดีผลเสียในมิติต่างๆ หากเห็นว่ามีผลดีมากกว่าผลเสียก็จะเสนอต่อรัฐบาล อย่างไรก็ดี ไม่ว่าประธานจะเห็นอย่างไร ทาง สปช.12 คนจะศึกษาและดำเนินการต่อไป เพราะเวลาเหลือแค่เพียง 2 เดือนเศษ ทางรัฐบาลคงต้องพิจารณาหลายด้าน และเออีซีจะเริ่มต้นปลายปีนี้จะมีชาวต่างประเทศจะเข้ามาจำนวนมาก จึงเป็นเรื่องที่รอไม่ได้