xs
xsm
sm
md
lg

หลวงปู่มอง “บูรพาพยัคฆ์” “ประยุทธ์” ไม่พังเพราะ “บิ๊กป้อม”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


“หลวงปู่” ให้สัมภาษณ์ไทยโพสต์ เชื่อ คสช. จริงใจปฏิรูปประเทศ เพราะทหารเสือราชินีถูกอบรมมาหนักในเรื่องสัจจะลูกผู้ชาย ชม “บิ๊กป้อม” เป็นคนกว้างขวาง เหมาะกับการมาช่วยงานรัฐบาล มั่นใจไม่ทำ “บูรพาพยัคฆ์ - ประยุทธ์” พัง

วันนี้ (5 ต.ค.) ไทยโพสต์แทบลอยด์ ได้เผยแพร่บทสัมภาษณ์ หลวงปู่พุทธะอิสระ เจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย ภายใต้ชื่อบทความว่า หลวงปู่มอง “บูรพาพยัคฆ์” “ประยุทธ์” ไม่พังเพราะ “บิ๊กป้อม” ใจความว่า “หลวงปู่พุทธะอิสระ” อดีตผู้นำเวที กปปส. แจ้งวัฒนะ ให้ความเห็นต่อเรื่องการเมือง โดยเฉพาะบทบาทของพี่น้อง 3 ป. บูรพาพยัคฆ์ “ป้อม-ป๊อก-ประยุทธ” ที่เวลานี้คือศูนย์รวมอำนาจของประเทศไทยไว้อย่างน่าสนใจไม่น้อย บนเสียงเตือนไปถึงนายกรัฐมนตรีว่าต้องนิ่งมากกว่านี้ โดยเฉพาะการตอบคำถามสื่อมวลชน และต้องทำในสิ่งที่ คสช.เคยบอกไว้ก่อนหน้านี้ให้สำเร็จให้ได้

“หลวงปู่พุทธะอิสระ” บอกว่า เรื่องปฏิรูปประเทศจะสำเร็จหรือไม่ขึ้นอยู่กับปัจจัยรอบด้าน แต่คิดว่า คสช. มีความจริงใจที่จะปฏิรูปบ้านเมืองมาก ก็มองว่าคนเราถ้าอีก 4-5 เดือนจะเกษียณอยู่แล้ว และไม่รู้ต้องมานั่งทำอะไรที่ไม่รู้ว่าจะชนะหรือแพ้ และก็ต้องแก้ไขปัญหา

พร้อมกับเล่าย้อนให้ฟังถึงฉากหลังการเมืองบางซีน ที่หลวงปู่บอกว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้ โดยบอกว่าอยากเล่าในเรื่องที่สังคมไม่ได้รู้ ให้ได้รู้ว่าช่วงการต่อสู้ของ กปปส. ก่อนที่จะมีการรัฐประหาร 22 พ.ค. 57 ย้อนหลังไปก่อนหน้านั้นสัก ประมาณ 15 วัน หรือ 3 สัปดาห์ ทุกเวที กปปส. เริ่มระส่ำระสาย เสียขวัญ ไม่เว้นแม้แต่เวทีแจ้งวัฒนะ แต่ฉันก็พยายามรักษาฟอร์มไว้ แต่ทุกเวทีโดยเฉพาะเวทีลุงกำนัน จะเห็นได้ว่าแกเริ่มเซ เริ่มรวน เวที คปท. ของนิติธร ล้ำเหลือด้วย มีทั้งคนเจ็บ คนตาย มีทั้งกฎหมายเข้ามาบีบ มีการข่มขู่คุกคามสารพัด ไม่เว้นแม้แต่เวทีแจ้งวัฒนะ หนทางที่ว่าจะเสร็จ ยุติ จบ มันล่มมาตลอด ในช่วงนั้นฉันก็ประสานกับทหารอย่างหลวมๆ ไว้ในระดับต้นแล้วว่ามันจะไปอย่างใดแบบไหน ในขณะเดียวกันเราก็พยายามประคองตัวไม่ให้เพลี่ยงพล้ำเกินไป ไม่ให้เสียมวย จะล้มก็ล้มอย่างมีเชิง จะยืนอยู่ก็ต้องอยู่อย่างปลอดภัยแบบผู้ชนะ

...เราก็พยายามบอกลุงกำนัน โทร.ไปเตือน ก่อนหน้าที่จะปฏิวัติหนึ่งวัน ฉัน โทร.ไปบอกลุงกำนันว่าทหารเขาจะทำแล้วนะ ลุงกำนันบอกว่าถ้าทหารจะทำก็อยู่ข้างหลังผม ถามว่ามีทหารที่ไหนที่เขาจะโง่ขนาดนั้น ที่ไปอยู่หลังลุงกำนัน เราก็เลยบอกว่า วิธีการของลุงกำนันที่จะให้ได้รัฐบาลที่มาจากสมาชิกวุฒิสภา มันไม่น่าจะได้ข้อยุติหรอก เพราะขบวนการของตระกูลชินมันฝังรากลึกในทุกระบบ องคาพยพสังคมไทย ภาคประชาชนมือเปล่าๆ ทำอะไรไม่ได้ ปล่อยให้ทหารจัดการเถอะ แต่ลุงกำนันก็ยังเชื่อในอำนาจประชาชนอยู่ เราก็เลยบอกว่าถ้าอย่างนี้ไม่น่าถูกต้องหรอก คงไม่สามารถแก้ไขปัญหาบ้านเมืองได้ เราก็สงวนตัวเรา ที่แจ้งวัฒนะเปิดทาง มีทหารมาพูดคุย หากไม่ได้ทหารเข้ามาก็ยังไม่รู้อีกกี่ศพ

ความจริงข้อนี้ไม่มีใครรู้ มีแต่ไปถล่ม รุมประณามคุณประยุทธ์ ทหารและพวก ซึ่งคนพวกนี้ไม่ได้มาอยู่บนถนน ถ้าลองไปนอนบนถนนแบบพวกเรา กปปส. จะรู้เลยว่า ทหารช่วยชีวิตเรา หาทางออก-ทางลงให้ชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง

ถามว่าเหตุใดจึงเชื่อตอนนั้นว่าทหารจะปฏิวัติ “อดีตผู้นำเวที กปปส.” เล่าให้ฟังว่า เพราะฉันมีปฏิสัมพันธ์กับทหารมา แล้วทหารก็เข้ามาคุยอยู่เป็นระยะๆ เป็นเรื่องที่เราก็พยายามส่งสารต่อเพื่อนร่วมอุดมการณ์ให้เตรียมพร้อม ฉันก็มีการขีดเส้นให้ลุงกำนันสองรอบคือ ถ้าคุณไม่ไป ไม่สามารถเผด็จศึกจากวันที่ 8 พ.ค. มาเป็นวันที่ 17 พ.ค. และขยับไปวันที่ 20 พ.ค. เลื่อนไปเรื่อย ฉันจะเดินทางไปหัวหินเพื่อถวายคืนพระราชอำนาจ ทหารก็เข้ามาติดต่อว่าอย่าไปรบกวนเบื้องพระยุคลบาท ปล่อยให้ลูกหลานทหารทำอะไรซักอย่าง เราก็คิดว่าไม่เป็นไร เพราะตอนนั้นรัฐบาลไม่มีอำนาจในการบริหารประเทศ ผู้คนในบ้านเมืองสิ้นไร้ไม้ตอก คนที่ชุมนุมก็ตายเพิ่มขึ้น มันก็เป็นเหตุผลที่พร้อมจะทำ แต่ตอนนั้นลุงกำนันก็ฝันหวานว่าจะได้พึ่ง ส.ว.(หัวเราะ)

สำหรับ “หลวงปู่พุทธะอิสระ” สื่อเคยลงประวัติเอาไว้ว่า เคยสึกจากการบวชเป็นพระอยู่ที่วัดคลองเตยในเพื่อไปเป็นทหารสังกัดหน่วย “พล.ปตอ.” อยู่สองปี จึงถือว่าก็เคยเป็นทหารสังกัดบูรพาพยัคฆ์

“หลวงปู่พุทธะอิสระ” แจงว่า เหตุที่เชื่อว่ารัฐบาล และ คสช. เอาจริงเรื่องปฏิรูปประเทศ เป็นเพราะโดยนิสัยทหารเสือราชินี ถูกอบรมมาไม่ได้แตกต่างกันมากนัก สิ่งที่เราพูดต้องทำได้ทุกครั้ง ทุกคนจะมีแนวคิดแบบนี้ เพราะเราได้รับการอบรมหนักมากเรื่องพวกนี้ สัจจะลูกผู้ชาย ที่ สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล ออกมาพูดว่าควรจะให้ สปช. มีความหลากหลาย มีทุกภาคส่วนเข้าร่วมในเวทีปฏิรูป ฉันก็เลยถามว่า ตอนที่คุณอยู่ในอำนาจคุณทนได้อย่างไร สภาผัว-เมีย สภาลูก-หลาน เป็นความหลากหลายหรืออย่างไร

คุณประยุทธ์ ไม่ได้เลือกคน แต่เขาเลือกอุดมการณ์ ถ้าใครมีอุดมการณ์ตรงกับเขา เขาก็เอา เพื่อให้กระบวนการปฏิรูปสำเร็จประโยชน์และยั่งยืน ใครมาเป็นรัฐบาลก็จะเอาคนที่มีอุดมการณ์เดียวกับตน คุณประยุทธ์ไม่ได้เลือกคน เขาไม่รู้หน้า ไม่เห็นหน้า แค่เอาสิ่งที่แต่ละคนเขียนไปอ่านดูว่า ตรงกับเป้าประสงค์หรือไม่ ฉันเองส่งไปตั้งหลายคน ฉันยังไม่เชื่อว่าจะมีคนของฉันได้รับ เพราะบางทีเราก็มองเห็นคนของเราก๊องแก๊งๆ แต่เพราะมีใจรักที่จะเข้าไป

- 4 เดือนที่ผ่านมากับบทบาทผู้นำของ พล.อ.ประยุทธ์ มีจุดอ่อนอะไรที่ต้องแก้ไข?

ก็เรื่องอารมณ์ เพราะสถานภาพของผู้นำเหมือนกับฟ้า กดดัน ขยับนิดเดียวก็มีแรงกดดันแรงกระเพื่อมมาก เพราะฉะนั้นผู้นำที่ดีต้องเอาป๋าเปรม (พลเอกเปรม ติณสูลานนท์) เป็นบรรทัดฐาน ป๋าจะเป็นอะไรที่คำถามที่เห็นว่าไม่ควรตอบ และหากตอบไปแล้วเกิดความวุ่นวาย ก็บอกว่ากลับไปนอนเถอะลูก คุณประยุทธ์ก็ต้องทำให้ได้อย่างป๋า อะไรที่เห็นว่าตอบไปแล้วทำให้เกิดความวุ่นวายในสังคมก็จะหยุดพูด อะไรที่ตอบไม่ได้ก็กลับไปนอนเถอะลูก คุณประยุทธ์ต้องเลียนแบบป๋า ต้องปรับเรื่องอารมณ์ ต้องแข็งแรงทางอารมณ์มากกว่านี้ อย่าไปสนใจในเสียงตำหนิและนินทา อย่าฝากชีวิตไว้ที่ฟองน้ำลายที่กระดกที่ปลายลิ้น เพราะด่าไปก็เมื่อยไปเอง เหนื่อยไปเอง คุณประยุทธ์ ต้องคิดแบบนี้ถ้าคิดว่าจริงใจ ตั้งใจดีต่อบ้านเมือง ไม่ต้องสนใจเสียงนกเสียงกา เดินหน้าไปอย่างเดียว ส่วนวิธีคิด แนวทางการทำงานเขาก็รอบด้าน มีผู้อยู่ใกล้ชิดพอที่จะให้คำปรึกษา

เมื่อถามว่า ภาพภายนอกคนมองว่าแกนนำทหารบูรพาพยัคฆ์ เช่น พลเอก ประยุทธ์, พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ, พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา เคารพหลวงปู่ มีภาพมาทำบุญที่วัดอ้อน้อย “หลวงปู่พุทธะอิสระ” เลยบอกว่า ก็อาจจะเป็นเพราะเราเคยอยู่ค่ายเดียวกัน ร่วมสุขร่วมทุกข์กันมา สมัยฉันเป็นทหาร พลเอก อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. ยังเป็นร้อยตรีอยู่เลย ตอนนั้นเขมรแดงแตกใหม่ๆ ตอนนั้นไปอยู่ชายแดนเขมร และก็ปฏิวัติเมษาฮาวาย พ.อ.ประจักษ์ สว่างจิตร อยู่ในค่ายแป๊บนึง จากนั้นก็ขาดการติดต่อไป จนเกิดเรื่องเฮลิคอปเตอร์ตก 2 ลำที่แก่งกระจาน แล้วเห็นพลเอก อุดมเดช ออกโทรทัศน์ ก็เลยได้เห็นว่ามีตำแหน่งอะไรตรงไหน แต่ที่ผ่านมาก็ไม่เคยติดต่ออะไรกัน

ถามย้ำว่า ตอนนี้คนพูดกันมากว่า พล.อ.ประยุทธ์ อาจจะพังเพราะคนใกล้ชิด มีการระบุพูดถึงบางชื่อเช่น พล.อ.ประวิตร ที่บทบาทในเวลานี้ดูแล้วอำนาจเยอะเกินไป “หลวงปู่พุทธะอิสระ” ตอบว่า คุณประวิตรก็มาบ่อย ตอนมีอำนาจเขาก็เคยตัดพ้อกับว่า ทำไมไม่ชวนเขาไปร่วมงานด้วย ฉันก็บอกว่าฉันจะคบกับคนที่ไม่มีอำนาจ ถ้าเมื่อใดคุณมีอำนาจก็ไม่อยากคบ เพราะจะกลายเป็นว่าฉันไปอิงอำนาจพวกคุณ เราก็รู้จัก เข้าใจดีว่าเขาคิดเพื่อประโยชน์บ้านเมือง ไม่ได้คิดเพื่อประโยชน์ส่วนตน ถ้าถามว่าวันนี้เหมาะสมไหม ก็วันนี้ไม่ใครที่คุณประยุทธ์ไว้ใจมากเท่ากับ พล.อ.ประวิตร เขาทั้งหมดที่มาที่นี่ เขาก็เรียกพี่เรียกน้อง สนิทชิดเชื้อกัน ก็ไม่ได้อะไรมาก

“ส่วนที่วิจารณ์ว่าจะพังเพราะ พล.อ.ประวิตร คงไม่หรอก พล.อ.ประวิตร เขามีเพื่อนมากทั้งฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้น ฝ่ายรัฐบาล มีคนที่มีปฏิสัมพันธ์กับคนได้เยอะและ ได้ดี การที่คุณประยุทธ์ดึงเข้ามาเพื่อจะได้รับความร่วมมือจากปลัดกระทรวงต่างๆ จะเห็นว่าคุณประวิตรจะมีเพื่อนฝูงรอบตัวไปหมด และดึงคนที่ไว้ใจมาร่วมทำงาน เมื่อคุณประยุทธ์ที่นิสัยค่อนข้างจะเก็บตัว ไม่ค่อยกว้างขวางเหมือนคุณประวิตร มันก็เลยเป็นที่มาว่าคุณประวิตรเป็นพี่ใหญ่รับหน้าเสื่อไป ก็เป็นธรรมดาเพราะเขาไว้ใจคุณประวิตร
ก็เหมือนฉันที่ไว้ใจใครก็ใช้คนนั้น เพราะว่าอำนาจที่อยู่บนหลังเสือ พลาดนิดเดียวก็หัวทิ่มแล้ว เพราะคนจ้องอยู่ทุกอย่างก้าว”

“หลวงปู่” บอกต่อไปว่า เท่าที่เห็นที่คนเรียกกันว่าพี่น้องบูรพาพยัคฆ์ก็รักกันดี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทยก็เคยมาที่วัด 2 ครั้ง คุณประวิตรมาตั้งแต่สมัยเป็นเสนาธิการทหารบก จนมาเป็น ผบ.ทบ. ที่นี่จะเป็นเสียงร่ำลืออย่างที่คุณสนธิ ลิ้มทองกุล ว่าไว้ ใครอยากเป็น ผบ.ทบ. ต้องมาทอดกฐินที่นี่ ประมาณเหมือนอย่างนั้นเลยแหละ ถ้าทอดปุ๊บกลับไปได้เป็น ผบ.ทบ. อะไรประมาณนั้น เหมือนจะเป็นความเชื่อหรือแม้กระทั่งพลเอก สมทัต อัตตะนันทน์ และคนก่อนหน้านั้น ฉันก็ไม่รู้ว่าเป็นได้อย่างไร แต่ พลเอก อุดมเดช ไม่เคยมาเพราะเขาไม่รู้ ก็ไม่ต้องมาหรอก ทำงานเพื่อชาติบ้านเมืองก็พอ และคิดว่า คสช. คงไม่สืบทอดอำนาจ เพราะเขาต้องการให้บ้านเมืองมีทิศทางที่ชัดเจน เมื่อชัดเจนแล้วเขาก็คงวางมือ รามือ และก็เลิก

“อดีตผู้นำเวที กปปส.” ย้ำอีกรอบหลังเคยโพสต์เฟซบุ๊กไปว่า หาก คสช. ไม่ทำตามที่พูดก็พร้อมจะออกมาเคลื่อนไหวอีกรอบว่า ใช่แน่นอน ฉันขู่เลยถ้าทำไม่ได้ต้องมีเรื่อง แต่ฉันเชื่อว่าเขาทำได้ โดยเฉพาะเรื่องปฏิรูป เพราะเขามีใจที่จะทำอยู่แล้ว มีความตั้งใจ ความพร้อมและความจริงใจ
กำลังโหลดความคิดเห็น