เหตุการณ์บ้านเมืองผ่านไปแต่ละวัน ดูเหมือนจะเยอะ ถ้าดูไปนานๆ จะเห็นว่าทุกอย่างยังเหมือนเดิม ถ้าไม่ย่ำเท้าอยู่กับที่ ก็วกวนเวียนไปมาเป็นเหมือนเดินจงกรม หรือพายเรือในอ่าง ดูสภาพแล้วเราติดแน่นอยู่ในกับดักของการไร้ทิศทาง อนาคตมืดแปดด้าน
น่าอนาถสำหรับการทดลองประชาธิปไตย ยังจมปลักกับการแต่งรัฐธรรมนูญ เถียงกันเรื่องประชามติ มาตราต่างๆ ลืมไปว่าคนเขียนกฎหมายเพื่อบังคับคนกันเอง ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าระดับจิตสำนึกด้านเคารพกฎหมาย คุณธรรม ความซื่อสัตย์ สุจริตต่ำมาก
ผู้รับผิดชอบงานบริหารจัดการบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามรูปแบบอันเป็นที่หวัง และคาดหมายของประชาชน ทั้งๆ ที่อยู่ภายใต้กฎเข้มจนเป็นเผด็จการ ที่น่าหัวร่อคือคำอ้างหรือคำแก้ตัวเพื่อไม่ใช้อำนาจจัดการปัญหาต่างๆ เรื้อรังให้เต็มที่
มีแต่ข้ออ้างว่า “ปัญหาเรื้อรังมานาน จะให้แก้ไขในเร็ววันได้อย่างไร” ทั้งๆ ที่เป็นผู้อาสามาจัดการให้เบ็ดเสร็จ เมื่อมีอำนาจแต่ไม่ใช้ นอกจากไม่ได้ผลแล้ว จะมีแต่เสื่อม
คนคาดหวังเริ่มสงสัย ขาดศรัทธา ความเชื่อมั่น นำไปสู่ความสิ้นหวัง ท้อแท้!
พวกมองโลกสวยเถียงเสียงแข็ง “ต้องให้โอกาสท่านบ้าง ทำถึงขนาดนี้แล้ว ยังไม่พอใจอีกเรอะ ทำไมไม่สมัครเป็น ส.ส.หาทางเข้ามาบริหารประเทศเองบ้าง”
ทุดส์! พวกที่อ้างแบบนี้รู้สึกสำนึกในหัวกะโหลกบ้างหรือเปล่าว่า ส.ส.ไม่เคยมีอำนาจแก้ปัญหา นอกจากไม่แก้แล้ว ยังทำตัวเป็นปัญหานำไปสู่ความวุ่นวาย ไร้กติกา ทุจริต สนับสนุนรัฐบาลคอร์รัปชันมหาศาล จนนำไปสู่การรัฐประหารซ้ำซากไม่ใช่หรือ
ดูชะตากรรมบ้านเมืองแล้วน่าสมเพช นักร่างรัฐธรรมนูญยังดิ้นรนออกจากปลักไม่ได้ วาระจะสิ้นสุดอีกไม่นาน เงินเดือนแสนกว่าบาทและสถานภาพโก้ เอกสิทธิ์ต่างๆ จะไม่มีอีกต่อไป ชาวบ้านต้องสิ้นเปลืองเงินภาษีเลี้ยงดูนักแต่งรัฐธรรมนูญคณะใหม่อีก
ผู้รักษากฎหมายสิ้นสภาพความสามารถ แต่ละวันคิดหาหนทางจัดการเด็กแว้น ทั้งๆ ที่มีสารพัดกฎหมาย ปัญหาเรื้อรังหลายปีแต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้สำเร็จเด็ดขาด ชาวบ้านผู้ใช้รถใช้ถนนต้องทนเสี่ยงชีวิต ถ้าเป็นแผ่นดินอื่นคงลากปืนมาไล่ยิงแล้ว
แค่งานถอดยศอดีตนายตำรวจหนีคุก หัวหน้าตำรวจยังถูกมองว่ายื้อ ยึกยัก
วันก่อนคุณท่านประกาศว่าจะต้องปฏิรูปการศึกษาอย่างเร่งด่วน เด็กไทยต้องรู้จักคิด ไม่ใช่มุ่งแต่ท่องจำ กวดวิชา เรียนรู้ภาษาต่างประเทศเพื่อรองรับสภาวะเออีซี ชาวบ้านฟังแล้วงงมาก งานปฏิรูปเร่งด่วนนี้เป็นของกระทรวงศึกษาธิการไม่ใช่เรอะ
กว่า 1 ปีที่ผ่านมา ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการทำอะไร เงียบเหมือนนั่งเป่าสาก คุณท่านเองไม่สอบถามเรื่องนี้กับเจ้ากระทรวงเรอะ จนคุณท่านเองต้องประกาศเรื่องนี้ ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการทำอะไรไม่ทราบ คุณภาพนักศึกษาปริญญาถึงด้อยคุณภาพ
องค์กร บริษัทเอกชนถึงประกาศว่าไม่รับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยหลายแห่ง นับวันผู้มีปริญญาตรีหรือโทจะมีปัญหาอ่าน เขียน พูด ภาษาอังกฤษลำบาก เรามีด็อกเตอร์มากมายไม่สามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษให้สมกับความเป็นดุษฎีบัณฑิตได้
บ้านเมืองนี้มีความพิลึกพิลั่นสารพัด เรื่องเห่อเขยฝรั่งในภาคอีสานถือเป็นสุดยอด
ล่าสุด มีข่าวฉาวที่ต้องหาคนอธิบาย รับผิดชอบ ว่าจะจัดการอย่างไร
“ฝ่ายปกครองร่วมตำรวจบางหน่วยทุจริต “แก๊งจับคู่” กินส่วยแขก แฉเล่ห์ปากีฯ-อินเดีย จ้างสาวไทยจดทะเบียนสมรสแหกตาถือสิทธิอยู่เมืองไทย ถึงผงะ!
เจอที่อำเภอในเขตสระบุรีกับนครปฐม ชั่งโมงเดียวจดถึง 20 คู่ แค่ 4 เดือนฟาดไปเฉียดพัน พบข้อมูลแก๊งโรตียันขายถั่วมีนายทุนหัวใสเกณฑ์แขกกระจายหากินทั่วประเทศ มีตำรวจท้องที่กับตรวจคนเข้าเมืองเก็บส่วยจนเต็มบ้านเต็มเมืองโดยไม่มีใครสนใจปัญหา”
นอกจาก “ส่วยบ่อน” “ส่วยน้ำกาม” “ส่วยโรฮีนจา” และอีกสารพัดส่วย เดี๋ยวนี้การขายชาติก้าวหน้าเป็นความตกต่ำมากิน “ส่วยแขก” ขายโรตี ขายถั่ว ขายนมแพะ ทำกันถึงขั้นไร้ยางอายแล้วยังจะมาอ้างศักดิ์ศรีความเป็นข้าราชการให้แขกถุยส์ใส่หน้าอีก
ไม่ใช่แต่เพียง “ส่วยแขก” ยังมีส่วยจากชาวแอฟริกาผิวดำ และชาติอื่นๆ เดินตามชุมชน มีโบถส์ มีโรงเรียนของพวกตัวเอง อยากถามว่าปัญหาเหล่านี้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่รับรู้เรอะ ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานอื่นๆ
นี่เป็นปัญหาการขายชาติชัดๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่ทำงาน แถมยังรับส่วย น่าจะจัดการด้วยมาตรา 44 ยึดทรัพย์พวกที่เกี่ยวโยงทั้งหมด ออกประกาศให้ต่างด้าวผิดกฎหมายจากการสมรสกำมะลอเดินทางออกนอกประเทศให้หมดภายใน 1 เดือน
พวกเข้าเมืองไม่ถูกกฎหมาย ไม่ว่าชาติใดๆ ต้องถูกจับกุม ปรับ ถูกส่งตัวออกไปให้หมด ถ้าคุณท่านรักประเทศไทยจริง ต้องจัดการปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ไม่อย่างนั้นจะเป็นปัญหาเรื้อรัง ผลสุดท้ายอาจต้องนิรโทษกรรมยอมรับพวกนี้เป็นพลเมืองไทย
พวกนี้มีทะเบียนสมรส ออกลูกออกหลานได้สัญชาติไทยแล้วนี่ น่าพิสดารว่าจู่ๆ ชาวต่างชาติเข้ามาเมืองไทยไม่กี่วันก็หาเมีย เจ้าหน้าที่ยอมจดทะเบียนสมรสง่ายๆ แสดงว่ากฎหมายมีช่องโหว่ ไม่มีใครใส่ใจดูแลเหมือนงานยักแย่ยักยันแต่งรัฐธรรมนูญใหม่
คนไทยเจ้าของประเทศไม่เคยมีโอกาสละเมิดกฎหมายแล้วอยู่แบบลอยนวล เจ้าหน้าที่ทุกหน่วย ข้าราชการทุจริต คอร์รัปชันในคดีขายชาติ “กินส่วย” ต้องถูกยึดทรัพย์ เมื่อคุณท่านมีอำนาจเด็ดขาด ก็ต้องใช้จัดการกับพวกขายชาติ ทำลายความมั่นคง
ถ้ายังลีลาเรื่องเยอะ ชาวบ้านจะถามดังๆ “มีใครดูแลใส่ใจประเทศไทยมั้ย (วะ)”
น่าอนาถสำหรับการทดลองประชาธิปไตย ยังจมปลักกับการแต่งรัฐธรรมนูญ เถียงกันเรื่องประชามติ มาตราต่างๆ ลืมไปว่าคนเขียนกฎหมายเพื่อบังคับคนกันเอง ทั้งๆ ที่รู้อยู่แก่ใจว่าระดับจิตสำนึกด้านเคารพกฎหมาย คุณธรรม ความซื่อสัตย์ สุจริตต่ำมาก
ผู้รับผิดชอบงานบริหารจัดการบ้านเมือง เจ้าหน้าที่ไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามรูปแบบอันเป็นที่หวัง และคาดหมายของประชาชน ทั้งๆ ที่อยู่ภายใต้กฎเข้มจนเป็นเผด็จการ ที่น่าหัวร่อคือคำอ้างหรือคำแก้ตัวเพื่อไม่ใช้อำนาจจัดการปัญหาต่างๆ เรื้อรังให้เต็มที่
มีแต่ข้ออ้างว่า “ปัญหาเรื้อรังมานาน จะให้แก้ไขในเร็ววันได้อย่างไร” ทั้งๆ ที่เป็นผู้อาสามาจัดการให้เบ็ดเสร็จ เมื่อมีอำนาจแต่ไม่ใช้ นอกจากไม่ได้ผลแล้ว จะมีแต่เสื่อม
คนคาดหวังเริ่มสงสัย ขาดศรัทธา ความเชื่อมั่น นำไปสู่ความสิ้นหวัง ท้อแท้!
พวกมองโลกสวยเถียงเสียงแข็ง “ต้องให้โอกาสท่านบ้าง ทำถึงขนาดนี้แล้ว ยังไม่พอใจอีกเรอะ ทำไมไม่สมัครเป็น ส.ส.หาทางเข้ามาบริหารประเทศเองบ้าง”
ทุดส์! พวกที่อ้างแบบนี้รู้สึกสำนึกในหัวกะโหลกบ้างหรือเปล่าว่า ส.ส.ไม่เคยมีอำนาจแก้ปัญหา นอกจากไม่แก้แล้ว ยังทำตัวเป็นปัญหานำไปสู่ความวุ่นวาย ไร้กติกา ทุจริต สนับสนุนรัฐบาลคอร์รัปชันมหาศาล จนนำไปสู่การรัฐประหารซ้ำซากไม่ใช่หรือ
ดูชะตากรรมบ้านเมืองแล้วน่าสมเพช นักร่างรัฐธรรมนูญยังดิ้นรนออกจากปลักไม่ได้ วาระจะสิ้นสุดอีกไม่นาน เงินเดือนแสนกว่าบาทและสถานภาพโก้ เอกสิทธิ์ต่างๆ จะไม่มีอีกต่อไป ชาวบ้านต้องสิ้นเปลืองเงินภาษีเลี้ยงดูนักแต่งรัฐธรรมนูญคณะใหม่อีก
ผู้รักษากฎหมายสิ้นสภาพความสามารถ แต่ละวันคิดหาหนทางจัดการเด็กแว้น ทั้งๆ ที่มีสารพัดกฎหมาย ปัญหาเรื้อรังหลายปีแต่ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรให้สำเร็จเด็ดขาด ชาวบ้านผู้ใช้รถใช้ถนนต้องทนเสี่ยงชีวิต ถ้าเป็นแผ่นดินอื่นคงลากปืนมาไล่ยิงแล้ว
แค่งานถอดยศอดีตนายตำรวจหนีคุก หัวหน้าตำรวจยังถูกมองว่ายื้อ ยึกยัก
วันก่อนคุณท่านประกาศว่าจะต้องปฏิรูปการศึกษาอย่างเร่งด่วน เด็กไทยต้องรู้จักคิด ไม่ใช่มุ่งแต่ท่องจำ กวดวิชา เรียนรู้ภาษาต่างประเทศเพื่อรองรับสภาวะเออีซี ชาวบ้านฟังแล้วงงมาก งานปฏิรูปเร่งด่วนนี้เป็นของกระทรวงศึกษาธิการไม่ใช่เรอะ
กว่า 1 ปีที่ผ่านมา ผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการทำอะไร เงียบเหมือนนั่งเป่าสาก คุณท่านเองไม่สอบถามเรื่องนี้กับเจ้ากระทรวงเรอะ จนคุณท่านเองต้องประกาศเรื่องนี้ ที่ผ่านมากระทรวงศึกษาธิการทำอะไรไม่ทราบ คุณภาพนักศึกษาปริญญาถึงด้อยคุณภาพ
องค์กร บริษัทเอกชนถึงประกาศว่าไม่รับนักศึกษาจากมหาวิทยาลัยหลายแห่ง นับวันผู้มีปริญญาตรีหรือโทจะมีปัญหาอ่าน เขียน พูด ภาษาอังกฤษลำบาก เรามีด็อกเตอร์มากมายไม่สามารถสื่อสารเป็นภาษาอังกฤษให้สมกับความเป็นดุษฎีบัณฑิตได้
บ้านเมืองนี้มีความพิลึกพิลั่นสารพัด เรื่องเห่อเขยฝรั่งในภาคอีสานถือเป็นสุดยอด
ล่าสุด มีข่าวฉาวที่ต้องหาคนอธิบาย รับผิดชอบ ว่าจะจัดการอย่างไร
“ฝ่ายปกครองร่วมตำรวจบางหน่วยทุจริต “แก๊งจับคู่” กินส่วยแขก แฉเล่ห์ปากีฯ-อินเดีย จ้างสาวไทยจดทะเบียนสมรสแหกตาถือสิทธิอยู่เมืองไทย ถึงผงะ!
เจอที่อำเภอในเขตสระบุรีกับนครปฐม ชั่งโมงเดียวจดถึง 20 คู่ แค่ 4 เดือนฟาดไปเฉียดพัน พบข้อมูลแก๊งโรตียันขายถั่วมีนายทุนหัวใสเกณฑ์แขกกระจายหากินทั่วประเทศ มีตำรวจท้องที่กับตรวจคนเข้าเมืองเก็บส่วยจนเต็มบ้านเต็มเมืองโดยไม่มีใครสนใจปัญหา”
นอกจาก “ส่วยบ่อน” “ส่วยน้ำกาม” “ส่วยโรฮีนจา” และอีกสารพัดส่วย เดี๋ยวนี้การขายชาติก้าวหน้าเป็นความตกต่ำมากิน “ส่วยแขก” ขายโรตี ขายถั่ว ขายนมแพะ ทำกันถึงขั้นไร้ยางอายแล้วยังจะมาอ้างศักดิ์ศรีความเป็นข้าราชการให้แขกถุยส์ใส่หน้าอีก
ไม่ใช่แต่เพียง “ส่วยแขก” ยังมีส่วยจากชาวแอฟริกาผิวดำ และชาติอื่นๆ เดินตามชุมชน มีโบถส์ มีโรงเรียนของพวกตัวเอง อยากถามว่าปัญหาเหล่านี้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองไม่รับรู้เรอะ ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และหน่วยงานอื่นๆ
นี่เป็นปัญหาการขายชาติชัดๆ เมื่อเจ้าหน้าที่ไม่ทำงาน แถมยังรับส่วย น่าจะจัดการด้วยมาตรา 44 ยึดทรัพย์พวกที่เกี่ยวโยงทั้งหมด ออกประกาศให้ต่างด้าวผิดกฎหมายจากการสมรสกำมะลอเดินทางออกนอกประเทศให้หมดภายใน 1 เดือน
พวกเข้าเมืองไม่ถูกกฎหมาย ไม่ว่าชาติใดๆ ต้องถูกจับกุม ปรับ ถูกส่งตัวออกไปให้หมด ถ้าคุณท่านรักประเทศไทยจริง ต้องจัดการปัญหานี้อย่างเร่งด่วน ไม่อย่างนั้นจะเป็นปัญหาเรื้อรัง ผลสุดท้ายอาจต้องนิรโทษกรรมยอมรับพวกนี้เป็นพลเมืองไทย
พวกนี้มีทะเบียนสมรส ออกลูกออกหลานได้สัญชาติไทยแล้วนี่ น่าพิสดารว่าจู่ๆ ชาวต่างชาติเข้ามาเมืองไทยไม่กี่วันก็หาเมีย เจ้าหน้าที่ยอมจดทะเบียนสมรสง่ายๆ แสดงว่ากฎหมายมีช่องโหว่ ไม่มีใครใส่ใจดูแลเหมือนงานยักแย่ยักยันแต่งรัฐธรรมนูญใหม่
คนไทยเจ้าของประเทศไม่เคยมีโอกาสละเมิดกฎหมายแล้วอยู่แบบลอยนวล เจ้าหน้าที่ทุกหน่วย ข้าราชการทุจริต คอร์รัปชันในคดีขายชาติ “กินส่วย” ต้องถูกยึดทรัพย์ เมื่อคุณท่านมีอำนาจเด็ดขาด ก็ต้องใช้จัดการกับพวกขายชาติ ทำลายความมั่นคง
ถ้ายังลีลาเรื่องเยอะ ชาวบ้านจะถามดังๆ “มีใครดูแลใส่ใจประเทศไทยมั้ย (วะ)”