ASTVผู้จัดการรายวัน-นักโพสต์หงายเงิบ ตำรวจแจ้งความกลับ เหตุถูกบิดเบือนข้อมูลจับกุม-ล็อกล้อในชุดเสื้อยืดกางเกงขาสั้น รอง ผกก.จร.สน.สำราญราษฎร์ เผยความจริงตำรวจไปช่วยปลดล็อกช่วงออกเวร หลังเจ้าของรถไปจ่ายค่าปรับ ลั่นฟ้องเอาผิดตาม พ.ร.บ.คอมพ์ ข้อหาโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จและทำให้ผู้อื่นถูกดูหมิ่น เกลียดชัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2558 ผู้ใช้เฟซบุ๊กนาม Pongthon Conrung ได้โพสต์ข้อความและภาพจำนวน 5 ภาพลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ผมเป็นประชาชนที่เสียภาษีอย่างถูกต้อง ถ้าผมผิด ผมรับผิดและยอมจ่ายค่าปรับ แต่วิธีของพวกคุณ ไม่ใช่ตำรวจที่ดีอย่างที่ควรจะเป็น สภาพการแต่งตัว คำพูดคำจา มันไม่ใช่กับการที่จะยอมรับได้ คุณอ้างว่าที่คุณใส่ชุดแบบนี้เพราะคุณออกเวร แต่ทำไมคุณถึงมีสิทธิ์มาเขียนใบสั่งพร้อมทั้งล็อกล้อรถผม ประเทศไทย ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย แต่ถ้าผู้รักษากฎหมายทำพฤติกรรมแบบนี้ สังคมจะอยู่อย่างไร ลูกชายผมยืนร้องไห้ เค้าเสียใจที่รถเค้าถูกล็อกล้อแบบไม่สมควร เค้าบอกว่าตำรวจไร้เหตุผล เด็ก 9 ขวบ ยังรู้จักแยกแยะว่าอะไรผิด อะไรถูก พวกคุณควรสำนึกไว้ด้วย...!!!"
สำหรับภาพทั้ง 5 ภาพ เป็นตำรวจนายหนึ่งในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้น กำลังปฏิบัติหน้าที่ โดยข้อความและภาพชุดดังกล่าวมีผู้ส่งต่อกันไปเป็นจำนวนมากกว่า 2,700 ครั้ง
ต่อมา พ.ต.ท.สมเกษม จารักษ์ รอง ผกก.จร.สน.สำราญราษฎร์ ผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า รถคันดังกล่าวจอดในที่ห้ามจอดบริเวณวัดราชนัดดาวรวิหาร ช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค.2558 โดยสิ่งที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กนาม Pongthon Conrung เผยแพร่นั้นเป็นข้อมูลเท็จ
ในฐานะที่เป็นหัวหน้างานและทำงานด้านสื่อสารมานานมาก การโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จและทำให้ผู้อื่นถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ต้องถูกดำเนินคดีครับ รถคันนี้จอดผิดกฎหมายที่บริเวณวัดราชนัดดา ตอนบ่ายวันอาทิตย์ โดยตำรวจจราจร สน.สำราญราษฎร์ 6604 ซึ่งแต่งกายสวมเครื่องแบบตำรวจครบถ้วน เวลาผ่านไปเนิ่นนานไปจนถึงเย็น ชายเจ้าของรถที่โพสต์จึงมาเสียค่าปรับ และได้ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ล็อกที่ได้ออกเวรไปนานแล้วไปปลดล็อกล้อให้ และได้เดินทางไปปลดล็อกล้อให้ในชุดลำลอง ซึ่งเจ้าของรถได้ถ่ายภาพตำรวจตอนปลดล็อกล้อในช่วงที่ออกเวรไปแล้ว นำมาบิดเบือนในสังคมโซเชียลว่าถูกจับกุมล็อกล้อโดยตำรวจแต่งกายนอกเครื่องแบบ ทั้งๆ ที่ตามภาพเป็นการไปช่วยปลดล็อกล้อให้แม้จะออกเวรไปแล้ว
"ตอนนี้ข่าวกระจายไปแพร่หลาย ให้ตำรวจที่ถูกถ่ายแจ้งความดำเนินคดีกับนายคนนี้ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ต่อไป แล้วเจอกัน"พ.ต.ท.สมเกษมระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีเมื่อวันที่ 31 พ.ค.2558 ผู้ใช้เฟซบุ๊กนาม Pongthon Conrung ได้โพสต์ข้อความและภาพจำนวน 5 ภาพลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า "ผมเป็นประชาชนที่เสียภาษีอย่างถูกต้อง ถ้าผมผิด ผมรับผิดและยอมจ่ายค่าปรับ แต่วิธีของพวกคุณ ไม่ใช่ตำรวจที่ดีอย่างที่ควรจะเป็น สภาพการแต่งตัว คำพูดคำจา มันไม่ใช่กับการที่จะยอมรับได้ คุณอ้างว่าที่คุณใส่ชุดแบบนี้เพราะคุณออกเวร แต่ทำไมคุณถึงมีสิทธิ์มาเขียนใบสั่งพร้อมทั้งล็อกล้อรถผม ประเทศไทย ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมาย แต่ถ้าผู้รักษากฎหมายทำพฤติกรรมแบบนี้ สังคมจะอยู่อย่างไร ลูกชายผมยืนร้องไห้ เค้าเสียใจที่รถเค้าถูกล็อกล้อแบบไม่สมควร เค้าบอกว่าตำรวจไร้เหตุผล เด็ก 9 ขวบ ยังรู้จักแยกแยะว่าอะไรผิด อะไรถูก พวกคุณควรสำนึกไว้ด้วย...!!!"
สำหรับภาพทั้ง 5 ภาพ เป็นตำรวจนายหนึ่งในชุดเสื้อยืด กางเกงขาสั้น กำลังปฏิบัติหน้าที่ โดยข้อความและภาพชุดดังกล่าวมีผู้ส่งต่อกันไปเป็นจำนวนมากกว่า 2,700 ครั้ง
ต่อมา พ.ต.ท.สมเกษม จารักษ์ รอง ผกก.จร.สน.สำราญราษฎร์ ผู้บังคับบัญชาของเจ้าหน้าที่คนดังกล่าว ได้โพสต์ข้อความชี้แจงถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยระบุว่า รถคันดังกล่าวจอดในที่ห้ามจอดบริเวณวัดราชนัดดาวรวิหาร ช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ที่ 31 พ.ค.2558 โดยสิ่งที่ผู้ใช้เฟซบุ๊กนาม Pongthon Conrung เผยแพร่นั้นเป็นข้อมูลเท็จ
ในฐานะที่เป็นหัวหน้างานและทำงานด้านสื่อสารมานานมาก การโพสต์ข้อความอันเป็นเท็จและทำให้ผู้อื่นถูกดูหมิ่น เกลียดชัง ต้องถูกดำเนินคดีครับ รถคันนี้จอดผิดกฎหมายที่บริเวณวัดราชนัดดา ตอนบ่ายวันอาทิตย์ โดยตำรวจจราจร สน.สำราญราษฎร์ 6604 ซึ่งแต่งกายสวมเครื่องแบบตำรวจครบถ้วน เวลาผ่านไปเนิ่นนานไปจนถึงเย็น ชายเจ้าของรถที่โพสต์จึงมาเสียค่าปรับ และได้ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ล็อกที่ได้ออกเวรไปนานแล้วไปปลดล็อกล้อให้ และได้เดินทางไปปลดล็อกล้อให้ในชุดลำลอง ซึ่งเจ้าของรถได้ถ่ายภาพตำรวจตอนปลดล็อกล้อในช่วงที่ออกเวรไปแล้ว นำมาบิดเบือนในสังคมโซเชียลว่าถูกจับกุมล็อกล้อโดยตำรวจแต่งกายนอกเครื่องแบบ ทั้งๆ ที่ตามภาพเป็นการไปช่วยปลดล็อกล้อให้แม้จะออกเวรไปแล้ว
"ตอนนี้ข่าวกระจายไปแพร่หลาย ให้ตำรวจที่ถูกถ่ายแจ้งความดำเนินคดีกับนายคนนี้ตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ฯ ต่อไป แล้วเจอกัน"พ.ต.ท.สมเกษมระบุ
