xs
xsm
sm
md
lg

แจ้งความแล้ว!โบนันซารุกป่า ชี้"คีรีมายา-มูนแดนซ์"ผิด

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวนครราชสีมา-รอง ผบช.ภ.3 เผยคดีโบนันซ่ารุกป่า ตำรวจโคราชมีมติแจ้งจับ "เสี่ยไพวงษ์" รับผลประโยชน์สนามแข่งรถ ก่อน สตช.โอนคดีไปให้ บก.ปทส.ดำเนินการ พร้อมสรุปล่าสุดแจ้งข้อหาดำเนินคดีผู้บริหารโบนันซ่าแล้ว 3 ราย เป็นนิติบุคคล 1 ราย ยันท้องที่ทำคดีไม่ล่าช้า มีความคืบหน้าต่อเนื่อง ด้านเทศบาลหมูสีเผยส่งเรื่อง "คีรีมายา-มูนแดนซ์" รุกล้ำเปลี่ยนแปลงลำรางและปิดกั้นทางสาธารณะให้นายอำเภอปากช่องสั่งการแจ้งจับแล้ว ยันตรวจสอบพบกระทำผิดจริง

พล.ต.ต.ธเนษฐ สุนทรสุข รอง ผบช.ภ.3 เปิดเผยถึงคดีรุกป่าของสนามแข่งรถอินเตอร์เนชั่นแนล โบนันซ่า สปีดย์เวย์ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมาว่า คดีดังกล่าวได้มีการสืบสวนสอบสวนจนใกล้แล้วเสร็จ และเตรียมสรุปสำนวนคดี โดยตนได้เรียกประชุมพนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง เมื่อช่วงปลายเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งที่ประชุมมีมติให้มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับนายไพวงษ์ เตชะณรงค์ ที่มีรายชื่อครอบครอง น.ส.3 ก.จำนวน 2 แปลง เนื้อที่ 25 ไร่ อยู่ในพื้นที่สนามแข่งรถโบนันซ่า เนื่องจากเชื่อว่ามีผลประโยชน์ในสนามแข่งรถดังกล่าว ยังไม่ทันได้มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับนายไพวงษ์ ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ได้มีคำสั่งให้โอนคดีไปให้ทางกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (บก.ปทส.) ดูแล ตั้งแต่วันที่ 8 มิ.ย.ที่ผ่านมา จึงเป็นเรื่องของทาง บก.ปทส. จะดำเนินการแจ้งหาเอาผิดกับนายไพวงษ์ต่อไป ซึ่งสำนวนการสอบสวนของพนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง ก็ดำเนินการไปมากแล้ว เชื่อว่าข้อมูลการสอบสวนสืบสวนทุกอย่าง ทาง บก.ปทส.จะนำไปประกอบการดำเนินคดีได้

ส่วนคดีสนามแข่งรถอินเตอร์เนชั่นแนล โบนันซ่า สปีดเวย์ บุกรุกป่า ได้มีการแจ้งข้อหาดำเนินคดี กับกรรมการบริหารบริษัทโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ จำกัด ไปแล้วจำนวน 3 ราย ประกอบด้วยนายภูผา เตชะณรงค์ ลูกชายนายไพวงษ์ เตชะณรงค์, นายปรีชากร ปราบสงบ และนายนิธิษเชษฐ์ สุทธิเจริญกุล จากนั้นได้มีการแจ้งความกับนิติบุคคล คือ บริษัทโบนันซ่าฯ และกำลังจะมีการแจ้งความกับนายไพวงษ์ แต่คดีถูกโอนไปอยู่ในความแลของ บก.ปทส.ก่อน

"การโอนคดีครั้งนี้ คาดว่าทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติอาจมองว่าหากมีการโอนคดีไปให้ส่วนกลางแล้ว จะทำให้สามารถทำงานได้ง่ายกว่าคนที่อยู่ในพื้นที่ และการเรียกข้อมูลต่างๆ ก็จะทำให้สะดวกกว่าพื้นที่ ซึ่งขอยืนยันว่าที่ผ่านมา ตำรวจในพื้นที่ได้เร่งดำเนินการในคดีดังกล่าวมาอย่างต่อเนื่องและมีความคืบหน้าตามลำดับ ไม่ได้มีความล่าช้าแต่อย่างใด" พล.ต.ต.ธเนษฐกล่าว

สำหรับสนามแข่งขันรถ โบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ (Bonanza International Speed Way) อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา จากการตรวจสอบเบื้องต้นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่ามีการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเขาเสียดอ้า เขานกยูง และเขาอ่างหิน อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และพื้นที่ ของรัฐรวมทั้งหมดจำนวน 166 ไร่ 2 งาน 40 ตารางวา แบ่งเป็นพื้นที่มีการออกเอกสารสิทธิ์ น.ส. 3 ก. ที่ทางโบนันซ่า นำมาแสดงจำนวน 5 แปลง รวมเนื้อที่ 55 ไร่ 3 งาน 63 ตารางวา พื้นที่สวนป่า 35 ไร่ 2 งาน 38 ตารางวา พื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ 12 ไร่ 3 งาน 14 ตารางวา พื้นที่สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เนื้อที่ 57 ไร่ 1 งาน 42 ตารางวา และ บุกรุกลำรางสาธารณะเนื้อที่ 4 ไร่ 43 ตารางวา

ส่วนความคืบหน้ากรณีนางพรทวี สุตันติราษฎร์ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งนายช่างสำรวจ สำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา (ส.ป.ก.) นครราชสีมา ได้นำ ส.ค.1 เลขที่ 19 หมู่ 3 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา เนื้อที่ 30 ไร่ มาออกเอกสารสิทธิโฉนดที่ดินเป็นเนื้อที่กว่า 155 ไร่ บริเวณใกล้ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ในนามชื่อของสามี และออกโฉนดรุกล้ำเข้าไปในเขตปฏิรูปที่ดินของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) มากกว่า 130 ไร่ เพื่อจัดสรรขายให้ข้าราชการหลายคน ราคาไร่ละกว่า 10 ล้านบาท ซึ่งทาง ส.ป.ก.ส่วนกลางได้สั่งย้ายนางพรทวีไปช่วยราชการพร้อมตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ขณะที่นายธงชัย ลืออดุลย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา ได้ลงนามเห็นชอบเพิกถอนโฉนดที่ดินแปลงดังกล่าว เนื่องจากได้มาโดยมิชอบแล้ว ขณะที่ทางนางพรทวีได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากราชการ ตามที่เสนอข่าวมาอย่างต่อเนื่องนั้น

พ.ต.อ.บัณฑิต เส็งประชา ผกก.สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา พนักงานสอบสวน กล่าวว่า ได้เรียกนายชำนาญ กลิ่นจันทร์ ปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา มาสอบปากคำในกรณีที่ทาง ส.ป.ก.แจ้งพนักงานสอบสวนว่า นางพรทวี สุตันติราษฎร์ นายช่างสำรวจชำนาญงาน ส.ป.ก.นครราชสีมา ได้ทำการขูดลบขีดฆ่า และแก้ไขเอกสารของทางราชการเกี่ยวกับการออกเอกสารสิทธิกรมที่ดินในเขตปฏิรูปที่ดินของ ส.ป.ก.นครราชสีมา โดยเรียกไป 2-3 ครั้งแล้ว แต่นายชำนาญบ่ายเบี่ยงไม่มาให้ข้อมูลแก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ ดังนั้น ภายในสัปดาห์หน้าตนจะให้พนักงานสอบสวนออกหมายเรียกนายชำนาญมาให้ปากคำในกรณีดังกล่าวที่ สภ.หมูสี เพื่อจะได้เข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย

ขณะที่ คดีบ้าน 3 หลังที่บุกรุกป่าและเขต ส.ป.ก.บริเวณทางขึ้นเขาใหญ่ หมู่ 3 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ซึ่งมีการแจ้งความดำเนินคดีไปแล้วนั้น ขณะนี้การสอบสวนคดีใกล้แล้วเสร็จสมบูรณ์ โดยมีการแจ้งความดำเนินคดีเพิ่มเติมอีก 1 ราย ที่มีบ้านอยู่ติดกันกับ น.ส.ภัคมล กิจศิริกุล อายุ 34 ปี และสามี ผู้ต้องหา 2 รายแรก คาดว่าจะสรุปสำนวนคดีและยื่นอัยการเพื่อพิจารณาฟ้องศาลได้ภายในสัปดาห์หน้า

สำหรับความคืบหน้ากรณีชุดปฏิบัติการพิเศษกระทรวงยุติธรรม นำโดย พ.ต.อ.ดุษฎี อารยวุฒิ รองปลัดกระทรวงยุติธรรม เข้าตรวจสอบแปลงที่ดินโครงการบริษัท คีรีมายา จำกัด ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา บนเนื้อที่ทั้งหมด 1,696 ไร่ พบอยู่ในเขตนิคมสร้างตนเองลำตะคอง 1,052 ไร่ อยู่ในเขต ส.ป.ก. 644 ไร่ และในจำนวนนี้มีการบุกรุกทับร่องน้ำสาธารณประโยชน์ 163 ไร่ และทับทางสาธารณะ 48 ไร่ รวมทั้งกรณีโครงการมูนแดนซ์ ถ.ธนะรัชต์ ทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ต.หมูสี อ.ปากช่อง ซึ่งเป็นที่ตั้งบ้านพักหรูและที่ดินของนายสุรยุทธ์ สุทัศนะจินดา พิธีกรข่าวชื่อดัง บุกรุกเปลี่ยนแปลงสภาพและสร้างฝายปิดกั้นลำรางสาธารณะ

ล่าสุด นายไพโรจน์ สุคนธสาคร ปลัดเทศบาลตำบลหมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ได้กล่าวว่า เทศบาลตำบลหมูสีได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดในกรณีของโครงการคีรีมายา และโครงการมูนแดนซ์ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่ามีการรุกล้ำลำรางสาธารณะและปิดกั้นถนนสาธารณะของโครงการคีรีมายา แต่เนื่องจากมีความสลับซับซ้อน เช่น การบุกรุกดังกล่าวมีมานานแล้ว ซึ่งทางคีรีมายาอ้างว่าได้มาด้วยการซื้อมาจากหน่วยงานของรัฐ คือ กรมบังคับคดี และสภาพก็เป็นเช่นนี้มาก่อนแล้ว เช่นเดียวกับกรณีโครงการมูนแดนซ์ จากการสอบปากคำกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ก็บอกว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นมานานแล้ว

ดังนั้น ทางเทศบาลตำบลหมูสีจึงได้ชะลอการเข้าแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.หมูสี เพื่อให้ดำเนินคดีกับทั้ง 2 โครงการไว้ก่อน โดยทางเทศบาลได้รายงานข้อมูลทุกอย่างให้นายอำเภอปากช่องเป็นผู้พิจารณาสั่งการ หากมีการสั่งการมาเช่นไรก็พร้อมดำเนินการตามนั้น

"จากการตรวจสอบด้วยสายตา ก็พบว่ามีการกระทำผิดในการรุกล้ำเปลี่ยนแปลงลำรางสาธารณะ โดยเฉพาะในขณะเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบพบการก่อสร้างของโครงการคีรีมายา ซึ่งสร้างคร่อมลำรางอย่างชัดเจน แต่เนื่องจากเทศบาลอยู่ภายใต้การดูแลของทางอำเภอ ต้องรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ ส่วนจะให้ดำเนินการอย่างไรก็แล้วแต่จะสั่งการลงมา" นายไพโรจน์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น