ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - ตร.แจ้งข้อหาดำเนินคดี “บริษัทโบนันซ่า” รุกป่าสงวนฯ เพิ่ม เป็นรายที่ 4 หลังดำเนินคดีผู้บริหารไปแล้ว 3 ราย ด้านเสี่ยใหญ่ “ไพวงษ์” และลูกสาวที่มีรายชื่อในเอกสารสิทธิที่ดินสนามแข่งรถยื้อเลื่อนนัดให้ปากคำเป็นปลาย พ.ค.นี้ อ้างขอเวลารวบรวมหลักฐาน ส่วนคดีคีรีมายา-มูลแดนซ์ และนายช่าง ส.ป.ก.โคราชฮุบที่ ส.ป.ก.ยังไม่มีหน่วยงานรัฐใดแจ้งจับ แม้ตำรวจทำหนังสือทวงถามแล้ว
วันนี้ (10 พ.ค.) พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา ในฐานะหัวหน้าพนักงานสอบสวนคดีทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า ในส่วนของคดี สนามแข่งขันรถ อินเตอร์เนชั่นแนล โบนันซ่า สปีดเวย์ (International Bonanza Speed Way) ต.หนองสาหร่าย อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา บุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเขาเสียดอ้า เขานกยูง และเขาอ่างหิน ในท้องที่ สภ.ปากช่อง นั้น ขณะนี้พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหานิติบุคคลเพิ่มอีก 1 ราย คือ บริษัทโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ จำกัด หลังจากก่อนหน้านี้ได้แจ้งดำเนินคดี 5 ข้อกล่าวหากับกรรมการบริหารบริษัทโบนันซ่าฯ ไปแล้ว 3 คน ประกอบด้วย นายภูผา เตชะณรงค์ ลูกชาย นายไพวงษ์ เตชะณรงค์, นายปรีชากร ปราบสงบ และนายนิธิษเชษฐ์ สุทธิเจริญกุล
โดยล่าสุดพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้วกว่า 20 ปาก ซึ่งยังไม่พบบุคคลอื่น หรือนิติบุคคลอื่น มีผลประโยชน์ในสนามแข่งรถแต่อย่างใด
ส่วนนายไพวงษ์ เตชะณรงค์ ผู้ถือสิทธิครอบครอง น.ส. 3 ก แปลงเลขที่ 926 (9-1-63 ไร่), 927 ( 16-1-90 ไร่) รวมถึงบุตรสาว คือ น.ส.พรรณี สุจิรภิญโญกุล (น.ส.ภัสสรา เตชะณรงค์) ผู้ถือสิทธิครอบครอง น.ส. 3 ก แปลงเลขที่ 928 (16-1-50ไร่), 930 (7-1-20ไร่) ในสนามแข่งรถโบนันซ่านั้น ได้ติดต่อขอเลื่อนการเข้าให้ปากคำต่อพนักงานสอบสวน สภ.ปากช่อง ไปจากวันที่ 22 พ.ค. เป็นช่วงปลายเดือน พ.ค.นี้ โดยอ้างว่าขอเวลารวบรวมเอกสารหลักฐานต่างๆ ให้พร้อมก่อน
“ขณะนี้คดีนี้ใกล้จะปิดสำนวนได้แล้ว เหลือเพียงการสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้องอีกเล็กน้อยและรอหนังสือยืนยันเป็นลายลักษณ์อักษรจากหน่วยงานของรัฐเพิ่มเติมอีกบางส่วนเท่านั้น คาดว่าหากนายไพวงษ์มาพบพนักงานสอบสวนตามที่แจ้งก็จะสามารถสรุปคดีส่งอัยการพิจารณาฟ้องศาลเสร็จทันสิ้นเดือน พ.ค.นี้ แต่อย่างไรก็ตาม กรอบของกฎหมาย คดีนี้มีเวลาดำเนินการไม่เกิน 6 เดือน นับตั้งแต่มีการจับกุมผู้ต้องหาและให้ประกันตัวไปเมื่อวันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา แต่คาดว่าน่าจะไม่มีปัญหา” พ.ต.อ.บุญเลิศกล่าว
พ.ต.อ.บุญเลิศกล่าวต่อว่า ส่วนคดีการบุกรุกพื้นที่ป่าในท้องที่ สภ.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา นั้น จนถึงขณะนี้ยังมีอยู่คดีเดียวคือ คดีบ้าน 3 หลัง ที่บุกรุกป่าและเขตปฏิรูปที่ดินของสำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) บริเวณทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ หมู่ 3 ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ที่มี น.ส.ภัคมล กิจศิริกุล อายุ 34 ปี เข้ามาพบพนักงานสอบสวนและรับแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้ว ซึ่งพนักงานสอบสวนยังเดินหน้าสอบปากคำพยานแวดล้อม และจากการตรวจสอบรายชื่อผู้ขอใช้ไฟฟ้าและบ้านเลขที่ชั่วคราวจากองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นล้วนพบว่า น.ส.ภัคมล เป็นผู้ยื่นขอ และยังไม่พบความเชื่อมโยงไปถึง นางพรทวี สุตันติราษฎร์ นายช่างรังวัด ส.ป.ก.นครราชสีมา ที่นำ ส.ค. 1 เนื้อที่ 30 ไร่ ไปออกโฉนดที่ดินเกินไปกว่า 155 ไร่ และเป็นการบุกรุกพื้นที่ ส.ป.ก. กว่า 130 ไร่ ในบริเวณเดียวกับบ้าน 3 หลัง ตามที่ปรากฏเป็นข่าว
ส่วนคดีอื่นๆ ในท้องที่ สภ.หมูสีนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดเข้าแจ้งความดำเนินคดี ทั้งกรณีโครงการคีรีมายา และโครงการมูนแดนซ์ ที่ตั้งบ้านพักและที่ดิน ของนายสุรยุทธ สุทัศนะจินดา พิธีกรข่าวชื่อดัง รวมทั้งคดี นางพรทวี ออกเอกสารสิทธิบุกรุกที่ ส.ป.ก.กว่า 130 ไร่ดังกล่าว แม้พนักงานสอบสวน สภ.หมูสีจะทำหนังสือสอบถามไปยังสำนักงานปฏิรูปที่ดินจังหวัดนครราชสีมา ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรงแล้วก็ยังไม่ได้รับคำตอบ แต่หากมีการแจ้งความดำเนินคดีในกรณีใดเพิ่มเติมเข้ามา พนักงานสอบสวนก็พร้อมดำเนินการตามกฎหมายเต็มที่