ASTVผู้จัดการรายวัน - "ชูโอ เซ็นโก" เอเจนซี่สายพันธุ์ซากุระ เผยเศรษฐกิจไทยปี 58 ยังไม่กระเตื้อง แต่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องเพื่อรักษาระดับรายได้ 1.5 พันล้านบาทในปี 57 จับมือ “ได นิปปอน ปริ้นท์ติ้ง” ขยายบริการด้านบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์, การบริหารงานออกแบบสถานที่ และวางแผนการเยี่ยมชมโรงงาน พร้อมเตรียมเปลี่ยนชื่อใหม่บริษัทในเครือ “วันเดอร์ เอเชีย” ให้ชัดเจนขึ้นเพื่อรองรับธุรกิจคอนเทนต์
นายชูจิ โอคาวะ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หนึ่งในเอเจนซี่โฆษณาที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ปรับโครงสร้างใหม่เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารงานและเพื่อขยายธุรกิจใหม่ๆ โดยธุรกิจหลักของบริษัทได้ถ่ายโอนไปยังบริษัทใหม่ในเครือคือ บริษัท ชูโอ เซ็นโก แอดเวอร์ไทซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
กลุ่มบริษัทชูโอ เซ็นโก ยังได้ร่วมมือกับ บริษัท ได นิปปอน ปริ้นท์ติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “ดีเอ็นพี” ซึ่งมีบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นเพื่อขยายธุรกิจการบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์, การบริหารงานออกแบบสถานที่ และการวางแผนการเยี่ยมชมโรงงาน เพื่อเสริมธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเพื่อเพิ่มเติมบริการใหม่ๆ
วางแผนเพิ่มทุนขยายธุรกิจใหม่
นายชูจิ โอคาวะ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังได้เสนอไปยังผู้ถือหุ้นเพื่อขอเพิ่มทุนจาก 112.50 ล้านบาทเป็น 225 ล้านบาท เพื่อขยายและพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ เช่น การบริหารลูกค้าสัมพันธ์, ธุรกิจคอนเทนต์, แบรนด์ เอเจนซี่ และขยายธุรกิจในประเทศใหม่ๆ
“ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทชูโอ เซ็นโก มีเครือข่าย 7 ประเทศในเอเชีย ได้แก่ ไทย เวียดนาม กัมพูชา อินโดนีเซีย อินเดีย พม่า และฟิลิปปินส์ โดยรายได้หลักมาจากไทย แต่ประเทศอินโดนีเซียมีผลประกอบการโตสูงสุดในปี 2557 ประมาณ 7% จะเพิ่มขึ้นเป็น 10% ในปี 2558 ”
ในปี 2557 กลุ่มบริษัทชูโอฯมีรายได้รวม 1,566.13 ล้านบาท เพิ่ม 54.29 ล้านบาท หรือ 3.59%จากปี 2556 ส่วน บริษัท ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม 1,139.84 ล้านบาท เพิ่ม 51.6 ล้านบาท หรือ 4.74% ในปี 2556 รายได้หลักคิอโปรดดักชั่น 80% และมีเดีย 20%
ส่วนไตรมาสแรปี2558กลุ่มบริษัทชูโอ มียอดบิลลิ่งรวม 355 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ประมาณ 25 ล้านบาท จำแนกเป็น บริษัท ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 135 ล้านบาท และ บริษัท ชูโอ เซ็นโก (แอดเวอร์ไทซิ่ง) จำกัด ประมาณ 94 ล้านบาท
เศรษฐกิจไทยยังซบ แต่จำเป็นต้องลงทุน
นายชูจิ โอคาวะ กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2558 ว่า ยังไม่ค่อยดีขึ้นมากนัก แต่กลุ่มบริษัทชูโอ เซ็นโก ต้องลงทุนเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ และจะรักษายอดบิลลิ่งให้เท่ากับปี 2557 และรายได้เพิ่มขึ้น 7% โดยปีนี้จะลงทุนประมาณ 80 ล้านบาท ขยายธุรกิจใหม่ๆ ในประเทศไทย เช่น การจัดทำแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ เพื่อรองรับกับปริมาณการใช้งานสมาร์ทโฟน
นายชูจิ โอคาวะ ยังกล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจดิจิตอลทีวีด้วยว่า แม้จะมีส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้มีการลงทุนด้านโฆษณาเพิ่มมากขึ้น แต่จำนวนช่องที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมยังมีเพียง 4-5 ช่องเท่านั้น จึงจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักระยะถึงจะเห็นภาพชัดเจน
นายรัฐชทรัพย์ นิชิด้า ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชูโอ เซ็นโก แอดเวอร์ไทซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทชูโอ เซ็นโก มีลูกค้าหลักเป็นกลุ่มธุรกิจประเทศญี่ปุ่น 80% ส่วนอีก 20% เป็นธุรกิจไทยและอื่นๆ จะปรับเป็น 70:30 ในปีนี้
เปลี่ยนชื่อใหม่ “วันเดอร์ เอเชีย"
นายรัฐชทรัพย์ ยังกล่าวการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ ว่า หลังจากที่มีการจัดตั้ง “บริษัท วันเดอร์ เอเชีย จำกัด” เพื่อให้บริการสำหรับธุรกิจคอนเทนต์และบริการด้านข้อมูลและการสื่อสาร ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสรุปรายละเอียดกับลูกค้าและมีแนวโน้มที่จะสร้างรายได้ถึง 80 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเดือน ก.ค.58 จะเปลี่ยนชื่อบริษัทฯ ใหม่
นายรัฐชทรัพย์ กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดโฆษณาในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.58 แม้ลูกค้าจะมียอดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 25% รวมถึงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น 10% ในช่วงครึ่งหลังปี 2558 แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในปี 2557 ค่อนข้างชะลอตัว ตัวเลขที่สูงขึ้นจึงยังไม่ถือว่าอยู่ในสภาวะที่เสถียรและมีความคล่องตัวมากนัก
นายชูจิ โอคาวะ ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หนึ่งในเอเจนซี่โฆษณาที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุดในประเทศไทย เปิดเผยว่า เมื่อเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ปรับโครงสร้างใหม่เพื่อเพิ่มความคล่องตัวในการบริหารงานและเพื่อขยายธุรกิจใหม่ๆ โดยธุรกิจหลักของบริษัทได้ถ่ายโอนไปยังบริษัทใหม่ในเครือคือ บริษัท ชูโอ เซ็นโก แอดเวอร์ไทซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด
กลุ่มบริษัทชูโอ เซ็นโก ยังได้ร่วมมือกับ บริษัท ได นิปปอน ปริ้นท์ติ้ง (ประเทศไทย) จำกัด หรือ “ดีเอ็นพี” ซึ่งมีบริษัทแม่ในประเทศญี่ปุ่นเพื่อขยายธุรกิจการบริหารงานลูกค้าสัมพันธ์, การบริหารงานออกแบบสถานที่ และการวางแผนการเยี่ยมชมโรงงาน เพื่อเสริมธุรกิจในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และเพื่อเพิ่มเติมบริการใหม่ๆ
วางแผนเพิ่มทุนขยายธุรกิจใหม่
นายชูจิ โอคาวะ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัท ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ยังได้เสนอไปยังผู้ถือหุ้นเพื่อขอเพิ่มทุนจาก 112.50 ล้านบาทเป็น 225 ล้านบาท เพื่อขยายและพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ เช่น การบริหารลูกค้าสัมพันธ์, ธุรกิจคอนเทนต์, แบรนด์ เอเจนซี่ และขยายธุรกิจในประเทศใหม่ๆ
“ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทชูโอ เซ็นโก มีเครือข่าย 7 ประเทศในเอเชีย ได้แก่ ไทย เวียดนาม กัมพูชา อินโดนีเซีย อินเดีย พม่า และฟิลิปปินส์ โดยรายได้หลักมาจากไทย แต่ประเทศอินโดนีเซียมีผลประกอบการโตสูงสุดในปี 2557 ประมาณ 7% จะเพิ่มขึ้นเป็น 10% ในปี 2558 ”
ในปี 2557 กลุ่มบริษัทชูโอฯมีรายได้รวม 1,566.13 ล้านบาท เพิ่ม 54.29 ล้านบาท หรือ 3.59%จากปี 2556 ส่วน บริษัท ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) มีรายได้รวม 1,139.84 ล้านบาท เพิ่ม 51.6 ล้านบาท หรือ 4.74% ในปี 2556 รายได้หลักคิอโปรดดักชั่น 80% และมีเดีย 20%
ส่วนไตรมาสแรปี2558กลุ่มบริษัทชูโอ มียอดบิลลิ่งรวม 355 ล้านบาท ต่ำกว่าที่ตั้งเป้าไว้ประมาณ 25 ล้านบาท จำแนกเป็น บริษัท ชูโอ เซ็นโก (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) 135 ล้านบาท และ บริษัท ชูโอ เซ็นโก (แอดเวอร์ไทซิ่ง) จำกัด ประมาณ 94 ล้านบาท
เศรษฐกิจไทยยังซบ แต่จำเป็นต้องลงทุน
นายชูจิ โอคาวะ กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 2558 ว่า ยังไม่ค่อยดีขึ้นมากนัก แต่กลุ่มบริษัทชูโอ เซ็นโก ต้องลงทุนเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มช่องทางในการสร้างรายได้ และจะรักษายอดบิลลิ่งให้เท่ากับปี 2557 และรายได้เพิ่มขึ้น 7% โดยปีนี้จะลงทุนประมาณ 80 ล้านบาท ขยายธุรกิจใหม่ๆ ในประเทศไทย เช่น การจัดทำแอปพลิเคชั่นใหม่ๆ เพื่อรองรับกับปริมาณการใช้งานสมาร์ทโฟน
นายชูจิ โอคาวะ ยังกล่าวถึงภาพรวมของธุรกิจดิจิตอลทีวีด้วยว่า แม้จะมีส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้มีการลงทุนด้านโฆษณาเพิ่มมากขึ้น แต่จำนวนช่องที่ได้รับความนิยมจากผู้ชมยังมีเพียง 4-5 ช่องเท่านั้น จึงจำเป็นต้องใช้เวลาอีกสักระยะถึงจะเห็นภาพชัดเจน
นายรัฐชทรัพย์ นิชิด้า ประธานและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ชูโอ เซ็นโก แอดเวอร์ไทซิ่ง (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า ปัจจุบัน กลุ่มบริษัทชูโอ เซ็นโก มีลูกค้าหลักเป็นกลุ่มธุรกิจประเทศญี่ปุ่น 80% ส่วนอีก 20% เป็นธุรกิจไทยและอื่นๆ จะปรับเป็น 70:30 ในปีนี้
เปลี่ยนชื่อใหม่ “วันเดอร์ เอเชีย"
นายรัฐชทรัพย์ ยังกล่าวการดำเนินธุรกิจใหม่ๆ ว่า หลังจากที่มีการจัดตั้ง “บริษัท วันเดอร์ เอเชีย จำกัด” เพื่อให้บริการสำหรับธุรกิจคอนเทนต์และบริการด้านข้อมูลและการสื่อสาร ขณะนี้อยู่ในระหว่างการสรุปรายละเอียดกับลูกค้าและมีแนวโน้มที่จะสร้างรายได้ถึง 80 ล้านบาทในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเดือน ก.ค.58 จะเปลี่ยนชื่อบริษัทฯ ใหม่
นายรัฐชทรัพย์ กล่าวว่า ภาพรวมของตลาดโฆษณาในช่วงเดือน ม.ค.-เม.ย.58 แม้ลูกค้าจะมียอดค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น 25% รวมถึงมีแนวโน้มที่จะเพิ่มขึ้น 10% ในช่วงครึ่งหลังปี 2558 แต่เนื่องจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศในปี 2557 ค่อนข้างชะลอตัว ตัวเลขที่สูงขึ้นจึงยังไม่ถือว่าอยู่ในสภาวะที่เสถียรและมีความคล่องตัวมากนัก