ASTVผู้จัดการรายวัน-"พล.ท.มนัส"วืดประกันตัว ต้องนอนคุก หลังทนายยื่นหลักทรัพย์ 2.6 ล้าน ศาลเห็นตามพนักงานสอบสวน เหตุเจอ 13 ข้อหาหนัก หวั่นยุ่งพยาน แถมเข้าข่ายอาชญากรรมข้ามชาติ เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อหา ทนายขออุทธรณ์คำสั่งอีกครั้งวันนี้ โฆษกตำรวจยัน "ประวิตร" พูด ไม่มีผลต่อคดี "บิ๊กป้อม"ว้ากสื่อ พาดหัวอุ้ม ยันไม่รู้จักส่วนตัว หนุนจัดการคนผิดเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นใคร อุปทูตสหรัฐฯ ทวีตชมไทย จับบิ๊กทหาร คดีค้ามนุษย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.45 น. วานนี้ (4 มิ.ย.) พนักงานสอบสวน สภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงลา เดินทางมารับตัวพล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก หนึ่งในผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สภ.หาดใหญ่ เพื่อไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนาทวีผลัดแรก โดยมีการจัดขบวนรถคุ้มกันพิเศษ ประกอบด้วย ปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ตำรวจสภ.หาดใหญ่ ดูแลตลอดเส้นทางตั้งแต่สภ.หาดใหญ่ จนถึงศาลจังหวัดนาทวี ระยะทางกว่า 60 กิโลเมตร โดยเบื้องต้นพล.ท.มนัสปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งระหว่างการควบคุมตัวไปยังศาลจังหวัดนาทวี พล.ท.มนัสยังคงสวมเครื่องแบบนายทหารเต็มยศ ใบหน้าเคร่งขรึม และไม่ตอบคำถามใดๆ โดยมีทนายความติดตามไปเพื่อขอประกันตัว พร้อมด้วยนายทหารพระธรรมนูญ และมีสารวัตรทหารบก มทบ. 42 มาสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด
**สอบสวนค่อนคืนก่อนตั้ง13ข้อหา
ทั้งนี้ หลังพล.ท.มนัสถูกส่งตัวมาที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. พนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการ นำโดย พล.ต.ต.ปวีณ พงษ์สิรินทร์ รองผบช.ภ.8 หัวหน้าฝ่ายสอบสวน สอบปากคำพล.ท.มนัสตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น. จนถึงเที่ยงคืน โดยต้องสับเปลี่ยนพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการถึง 2 ชุด โดยมีนายทหารพระธรรมนูญเข้าร่วมรับฟัง รวมทั้งทหารจาก มทบ. 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ เฝ้าสังเกตการณ์
ซึ่ง พล.ท.มนัส ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หลังการสอบสวนเสร็จเจ้าหน้าที่ได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และควบคุมตัวพล.ท.มนัส ไว้ภายในห้องสอบสวน ไม่ได้นำไปควบคุมในห้องขังเหมือนกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ เนื่องจากสวมเครื่องแบบทหาร ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างทหารกับตำรวจกรณีที่ทหารถูกดำเนินคดี โดยมีตำรวจคอยดูแลบริเวณหน้าห้องสอบสวน
ข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาพล.ท.มนัส 13 ข้อหา เช่นเดียวกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ ที่ถูกควบคุมตัวไปก่อนหน้านี้ เช่น ข้อหาสมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี , ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆแก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย , ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันเรียกค่าไถ่ , อาชญากรข้ามชาติ , ทำร้ายร่างกาย และช่วยอำพรางซ่อนเร้นศพ เป็นต้น
**วืดประกันต้องถอดเครื่องแบบนอนห้องขัง
ที่ศาลจังหวัดนาทวี ทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์วงเงิน 2.6 ล้านบาท เพื่อประกันตัวพล.ท.มนัส แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวตามที่พนักงานสอบสวนได้ยื่นเรื่องคัดค้าน เพราะเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ และกลัวว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยาน ส่งผลให้พล.ท.มนัสต้องถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำนาทวี อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 5 มิ.ย. ทนายความจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอีกครั้งเพื่อขอประกันตัว
ทั้งนี้ กรณีของพล.ท.มนัสเป็นการกระทำความผิดร่วมกับพลเรือน ไม่ใช่การกระทำผิดวินัยทหาร อีกทั้งยังเป็นอาญชากรรมข้ามชาติ โดยในหมายจับระบุสถานที่เกิดเหตุทั้งประเทศบังคลาเทศ พม่า ไทย และมาเลเซีย ซึ่งมีความเกี่ยวพันกันตั้งแต่เดือนพ.ย. 2555 ถึงวันที่ 1 พ.ค.2558 จึงไม่สามารถให้ประกันตัว หรือขึ้นศาลทหาร หรือควบคุมตัวไว้ที่มณฑลทหารบกได้
**โฆษกตร.ระบุคำพูด“ประวิตร”ไม่มีผลต่อคดี
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ประเด็นที่มีการสอบปากคำพล.ท.มนัสส่วนใหญ่นั้น เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมค้ามนุษย์ โดยเฉพาะหลักฐานการโอนเงิน 14 ล้านบาท แต่ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การทั้งหมด จะนำพยานหลักฐานจากหน่วยงานอื่นมารวบรวมในสำนวนคดี ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ส่วนกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าพล.ท.มนัสเป็นคนดีและตั้งใจทำงานนั้น ไม่ได้ส่งผลต่อการทำคดี เนื่องจากต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน และไม่ได้กังวลอะไร ส่วนจะมีทหารหรือบุคคลใดเข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่าจะเชื่อมโยงถึงใครบ้าง แต่ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานปรากฏว่ามีใครเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ท.มนัส รู้จักกับนายปัจจุปัน อังโชติพันธ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สตูล ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีนี้หรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบว่าทั้งสองคนจะรู้จักกันในสถานะใด
**”บิ๊กป้อม”ว๊ากสื่อพาดหัวอุ้ม-ยันเอาผิดทุกคน
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า คดีค้ามนุษย์ที่มีพล.ท.มนัสตก เป็นผู้ต้องหา ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีก 4-5 คนว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตนก็ทำหน้าที่ดูแลตำรวจ พร้อมสนับสนุนตำรวจเต็มที่ ซึ่งก็เดินหน้าออกหมายจับกว่า 80 คนแล้ว
“มีสื่อบางฉบับไปพาดหัวข่าวว่าผมอุ้มพล.ท.มนัส ผมไม่เกี่ยว ตำรวจสอบสวนอย่างไร ก็ต้องว่ากันไป ผมไม่รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว แต่รู้ข้อมูลว่าเขาเคยทำงานมาอย่างไร ก็เล่าให้สื่อมวลชนฟัง แล้วก็นำไปเขียนปะติดปะต่อ ทำให้ไม่มีความชัดเจนจากที่ผมได้พูดทั้งหมด ผมไม่ได้พูดอะไรที่จะให้การสนับสนุนพล.ท.มนัส เรื่องของคดีเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ”
เมื่อถามว่าการที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง จะส่งผลต่อการแก้ปัญหาค้ามนุษย์หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใครเกี่ยวข้องก็ต้องถูกดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร หรือประชาชน ก็ต้องถูกจับหมด เจ้าหน้าที่ไม่ได้ละเว้น
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐอเมริกาจะปรับอันดับความน่าเชื่อถือให้ไทยพ้นจากระดับเทียร์ 3 (ประเทศที่ดำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำตามกฎหมายด้านการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ และไม่ได้ใช้ความพยายามอย่างมีนัยสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์) พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถามตนไม่ได้ ต้องไปถามสหรัฐฯ ส่วนตนดำเนินการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์อย่างเต็มที่ และทุกอย่างก็มีความก้าวหน้าอย่างดี น่าจะได้รับการพิจารณาอันดับที่ดีขึ้น
**มาเลย์ข้ามแดนสร้างลานฮ.ขนโรฮีนจา90ศพ
รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดนายถาวร มณี เครือข่ายในต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เข้ามอบตัวกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา รวมผู้ต้องหาทั้งที่จับกุม มอบตัว และอายัดตัวแล้ว 53 คน จากที่ถูกออกหมายจับ 84 คน เหลืออีก 31 คนที่ยังหลบหนี
ที่ด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ตำรวจภูธรภาค 9 ให้การต้อนรับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย 93 นาย รถจิ๊ป 12 คัน พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ เพื่อเดินทางต่อไปยังหลักเขตแดนที่ 8 D พิกัด 347416 และข้ามไปฝั่งประเทศมาเลเซีย เพื่อสร้างแคมป์พัก สำหรับปฏิบัติภารกิจขุดหาศพชาวโรฮีนจา และสร้างลานจอดเฮลิคอปเตอร์เพื่อลำเลียงศพกลับไปยังมาเลเซีย
มีรายงานข่าวว่า ภารกิจการค้นหาและขุดศพเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ค้นพบศพแล้วกว่า 90 ศพ แต่ยังไม่สามารถนำศพลงมาจากสันปันน้ำได้ เนื่องจากฝั่งมาเลเซียมีสภาพสูงชันเป็นหน้าผา จึงกำหนดวิธีการเคลื่อนย้ายไว้ 2 ทางเลือก คือ ตำรวจที่ขึ้นมาสร้างแคมป์จะค้นหาสถานที่สร้างลานเฮลิคอปเตอร์เพื่อบินลงมารับศพ หากไม่สามารถสร้างลานจอดเฮลิคอปเตอร์ได้ จะประสานขอนำศพผ่านฝั่งประเทศไทย บริเวณหลักเขตแดนที่ 8 D ทางเเส้นทางบ้านตะโล๊ะ ผ่านต.ปาดังเบซาร์ เข้าด่าน อ.สะเดา ไปยังศมาเลเซีย หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน คาดว่าอีกประมาณ 4 วัน จะสามารถเคลื่อนย้ายศพทั้งหมดลงมายังพื้นราบได้
ผู้สื่อข่าวรายงงานเพิมเติมอีกว่า มีเจ้าหน้าทีฝ่ายไทยติดตามเข้าไปสังเกตการณ์ 14 คน โดยฝ่ายมาเลเซียขอห้ามนำอาวุธและกล้องถ่ายรูปติดตัวข้ามแดนเข้าไปในฝั่งมาเลเซียโดยเด็ดขาด
**อุปทูตสหรัฐฯ ทวีตชมไทยจับ"บิ๊กทบ."
บ่ายวันเดียวกัน นายแพทริก เมอร์ฟีย์ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เขียนทวิตเตอร์ส่วนตัว @WPatrickMurphy ถึงการจับกุมตัวพล.ท.มนัสข้อหาค้ามนุษย์ว่า “สหรัฐอเมริการู้สึกยินดีต่อกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยได้จับผู้ต้องหา ซึ่งรวมถึงนายทหารระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ เรายังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับรัฐบาลไทย ในการเสริมสร้างความพยายามต่อสู้กับการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐานและการค้ามนุษย์”
**เผยพบ”ประจิณ”แต่เช้าขอเอี่ยวลงทุน
ทั้งนี้ นายแพทริก เมอร์ฟีย์ เขียนทวิตเตอร์ดังกล่าวหลังจากช่วงเช้าได้เข้าพบ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อหารือใน 4 ประเด็น คือ 1.ขอให้บริษัทสัญชาติอเมริกันเข้าร่วมลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาถือเป็นประเทศที่ลงทุนอันดับ 3 ของไทย 2.สหรัฐอเมริกามีความพร้อมจะลงทุนระบบถนนและระบบรางเพิ่มเติม เช่น การจัดหาขบวนรถจักร เป็นต้น 3.เสนอช่วยเหลือไทย และพร้อมถ่ายทอดความรู้และบุคลากรด้านความปลอดภัยทางถนนเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน และ 4.เสนอตัวในการเป็นตัวกลางประสานงานกับหน่วยงานกลางที่สหรัฐฯ เช่น วอชิงตัน ดี.ซี. กรณีที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) จะเข้ามาตรวจสอบกรมการบินพลเรือนของไทยในเดือน ก.ค.นี้
**”ยูเอ็น”ขอเยอะมากเอา2คนไปอยู่สหรัฐฯ
นางสุดารัตน์ ปานสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ (บ้านศรีสุราษฎร์ ) หมู่ 1 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สัปดาห์หน้าเจ้าหน้าที่องค์การสหประชาติ (ยูเอ็น) จะเดินทางมาสอบปากคำชาวโรฮีนจาที่บ้านศรีสุราษฎร์ เพื่อส่งไปยังสหรัฐฯ 2 คน ส่วนที่เหลือยังคงร้องขอไปประเทศมาเลเซีย ไม่ขอไปสหรัฐฯ โดยล่าสุดเหลือชาวโรฮีนจา 94 คน แยกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ 41 คน หลบหนีเข้าเมือง 53 คน ล่าสุดสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้สั่งให้ทำทะเบียนประวัติให้ชัดเจน โดยเฉพาะ 5 แกนนำ
***นายกฯ เปิดงานวันต่อต้านการค้ามนุษย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินหน้าสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ โดยจะมีการจัดงาน “วันต่อต้านการค้ามนุษย์” ขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วน ร่วมมือขจัดการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย และยังได้กำหนดให้ทุกวันที่ 5 มิ.ย. เป็นวันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.45 น. วานนี้ (4 มิ.ย.) พนักงานสอบสวน สภ.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงลา เดินทางมารับตัวพล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก หนึ่งในผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สภ.หาดใหญ่ เพื่อไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนาทวีผลัดแรก โดยมีการจัดขบวนรถคุ้มกันพิเศษ ประกอบด้วย ปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ตำรวจสภ.หาดใหญ่ ดูแลตลอดเส้นทางตั้งแต่สภ.หาดใหญ่ จนถึงศาลจังหวัดนาทวี ระยะทางกว่า 60 กิโลเมตร โดยเบื้องต้นพล.ท.มนัสปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ซึ่งระหว่างการควบคุมตัวไปยังศาลจังหวัดนาทวี พล.ท.มนัสยังคงสวมเครื่องแบบนายทหารเต็มยศ ใบหน้าเคร่งขรึม และไม่ตอบคำถามใดๆ โดยมีทนายความติดตามไปเพื่อขอประกันตัว พร้อมด้วยนายทหารพระธรรมนูญ และมีสารวัตรทหารบก มทบ. 42 มาสังเกตการณ์อย่างใกล้ชิด
**สอบสวนค่อนคืนก่อนตั้ง13ข้อหา
ทั้งนี้ หลังพล.ท.มนัสถูกส่งตัวมาที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สภ.หาดใหญ่ จ.สงขลา เมื่อวันที่ 3 มิ.ย. พนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการ นำโดย พล.ต.ต.ปวีณ พงษ์สิรินทร์ รองผบช.ภ.8 หัวหน้าฝ่ายสอบสวน สอบปากคำพล.ท.มนัสตั้งแต่เวลาประมาณ 16.00 น. จนถึงเที่ยงคืน โดยต้องสับเปลี่ยนพนักงานสอบสวนและพนักงานอัยการถึง 2 ชุด โดยมีนายทหารพระธรรมนูญเข้าร่วมรับฟัง รวมทั้งทหารจาก มทบ. 42 ค่ายเสนาณรงค์ อ.หาดใหญ่ เฝ้าสังเกตการณ์
ซึ่ง พล.ท.มนัส ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา หลังการสอบสวนเสร็จเจ้าหน้าที่ได้คัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน และควบคุมตัวพล.ท.มนัส ไว้ภายในห้องสอบสวน ไม่ได้นำไปควบคุมในห้องขังเหมือนกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ เนื่องจากสวมเครื่องแบบทหาร ซึ่งเป็นข้อตกลงระหว่างทหารกับตำรวจกรณีที่ทหารถูกดำเนินคดี โดยมีตำรวจคอยดูแลบริเวณหน้าห้องสอบสวน
ข่าวแจ้งว่า พนักงานสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหาพล.ท.มนัส 13 ข้อหา เช่นเดียวกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ ที่ถูกควบคุมตัวไปก่อนหน้านี้ เช่น ข้อหาสมคบและร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี , ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆแก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย , ร่วมกันกักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่นโดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกายและร่วมกันเรียกค่าไถ่ , อาชญากรข้ามชาติ , ทำร้ายร่างกาย และช่วยอำพรางซ่อนเร้นศพ เป็นต้น
**วืดประกันต้องถอดเครื่องแบบนอนห้องขัง
ที่ศาลจังหวัดนาทวี ทนายความได้ยื่นหลักทรัพย์วงเงิน 2.6 ล้านบาท เพื่อประกันตัวพล.ท.มนัส แต่ศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัวตามที่พนักงานสอบสวนได้ยื่นเรื่องคัดค้าน เพราะเป็นผู้ต้องหาคนสำคัญ และกลัวว่าจะไปยุ่งเหยิงกับพยาน ส่งผลให้พล.ท.มนัสต้องถูกควบคุมตัวอยู่ภายในเรือนจำนาทวี อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 5 มิ.ย. ทนายความจะยื่นอุทธรณ์ต่อศาลอีกครั้งเพื่อขอประกันตัว
ทั้งนี้ กรณีของพล.ท.มนัสเป็นการกระทำความผิดร่วมกับพลเรือน ไม่ใช่การกระทำผิดวินัยทหาร อีกทั้งยังเป็นอาญชากรรมข้ามชาติ โดยในหมายจับระบุสถานที่เกิดเหตุทั้งประเทศบังคลาเทศ พม่า ไทย และมาเลเซีย ซึ่งมีความเกี่ยวพันกันตั้งแต่เดือนพ.ย. 2555 ถึงวันที่ 1 พ.ค.2558 จึงไม่สามารถให้ประกันตัว หรือขึ้นศาลทหาร หรือควบคุมตัวไว้ที่มณฑลทหารบกได้
**โฆษกตร.ระบุคำพูด“ประวิตร”ไม่มีผลต่อคดี
พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ประเด็นที่มีการสอบปากคำพล.ท.มนัสส่วนใหญ่นั้น เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมที่ถูกกล่าวหาว่าร่วมค้ามนุษย์ โดยเฉพาะหลักฐานการโอนเงิน 14 ล้านบาท แต่ตำรวจยังไม่เชื่อคำให้การทั้งหมด จะนำพยานหลักฐานจากหน่วยงานอื่นมารวบรวมในสำนวนคดี ส่วนรายละเอียดยังไม่สามารถเปิดเผยได้
ส่วนกรณีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ระบุว่าพล.ท.มนัสเป็นคนดีและตั้งใจทำงานนั้น ไม่ได้ส่งผลต่อการทำคดี เนื่องจากต้องว่าไปตามพยานหลักฐาน และไม่ได้กังวลอะไร ส่วนจะมีทหารหรือบุคคลใดเข้ามาเกี่ยวข้องกับขบวนการอีกหรือไม่ ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐานว่าจะเชื่อมโยงถึงใครบ้าง แต่ตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานปรากฏว่ามีใครเข้ามาเกี่ยวข้องเพิ่มเติมอีก
ผู้สื่อข่าวถามว่า พล.ท.มนัส รู้จักกับนายปัจจุปัน อังโชติพันธ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) สตูล ผู้ต้องหารายสำคัญในคดีนี้หรือไม่ พล.ต.ท.ประวุฒิ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบว่าทั้งสองคนจะรู้จักกันในสถานะใด
**”บิ๊กป้อม”ว๊ากสื่อพาดหัวอุ้ม-ยันเอาผิดทุกคน
พล.อ.ประวิตร กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานจากชุดสืบสวนว่า คดีค้ามนุษย์ที่มีพล.ท.มนัสตก เป็นผู้ต้องหา ยังมีผู้ที่เกี่ยวข้องอีก 4-5 คนว่า เป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และตนก็ทำหน้าที่ดูแลตำรวจ พร้อมสนับสนุนตำรวจเต็มที่ ซึ่งก็เดินหน้าออกหมายจับกว่า 80 คนแล้ว
“มีสื่อบางฉบับไปพาดหัวข่าวว่าผมอุ้มพล.ท.มนัส ผมไม่เกี่ยว ตำรวจสอบสวนอย่างไร ก็ต้องว่ากันไป ผมไม่รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว แต่รู้ข้อมูลว่าเขาเคยทำงานมาอย่างไร ก็เล่าให้สื่อมวลชนฟัง แล้วก็นำไปเขียนปะติดปะต่อ ทำให้ไม่มีความชัดเจนจากที่ผมได้พูดทั้งหมด ผมไม่ได้พูดอะไรที่จะให้การสนับสนุนพล.ท.มนัส เรื่องของคดีเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ตำรวจ”
เมื่อถามว่าการที่มีเจ้าหน้าที่ของรัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง จะส่งผลต่อการแก้ปัญหาค้ามนุษย์หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ใครเกี่ยวข้องก็ต้องถูกดำเนินการ ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ ทหาร หรือประชาชน ก็ต้องถูกจับหมด เจ้าหน้าที่ไม่ได้ละเว้น
เมื่อถามถึงความเป็นไปได้ที่สหรัฐอเมริกาจะปรับอันดับความน่าเชื่อถือให้ไทยพ้นจากระดับเทียร์ 3 (ประเทศที่ดำเนินการไม่สอดคล้องกับมาตรฐานขั้นต่ำตามกฎหมายด้านการค้ามนุษย์ของสหรัฐฯ และไม่ได้ใช้ความพยายามอย่างมีนัยสำคัญที่จะแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์) พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ถามตนไม่ได้ ต้องไปถามสหรัฐฯ ส่วนตนดำเนินการแก้ไขปัญหาค้ามนุษย์อย่างเต็มที่ และทุกอย่างก็มีความก้าวหน้าอย่างดี น่าจะได้รับการพิจารณาอันดับที่ดีขึ้น
**มาเลย์ข้ามแดนสร้างลานฮ.ขนโรฮีนจา90ศพ
รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดนายถาวร มณี เครือข่ายในต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เข้ามอบตัวกับชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา รวมผู้ต้องหาทั้งที่จับกุม มอบตัว และอายัดตัวแล้ว 53 คน จากที่ถูกออกหมายจับ 84 คน เหลืออีก 31 คนที่ยังหลบหนี
ที่ด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ตำรวจภูธรภาค 9 ให้การต้อนรับเจ้าหน้าที่ตำรวจจากรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย 93 นาย รถจิ๊ป 12 คัน พร้อมเครื่องมืออุปกรณ์ เพื่อเดินทางต่อไปยังหลักเขตแดนที่ 8 D พิกัด 347416 และข้ามไปฝั่งประเทศมาเลเซีย เพื่อสร้างแคมป์พัก สำหรับปฏิบัติภารกิจขุดหาศพชาวโรฮีนจา และสร้างลานจอดเฮลิคอปเตอร์เพื่อลำเลียงศพกลับไปยังมาเลเซีย
มีรายงานข่าวว่า ภารกิจการค้นหาและขุดศพเหยื่อขบวนการค้ามนุษย์ค้นพบศพแล้วกว่า 90 ศพ แต่ยังไม่สามารถนำศพลงมาจากสันปันน้ำได้ เนื่องจากฝั่งมาเลเซียมีสภาพสูงชันเป็นหน้าผา จึงกำหนดวิธีการเคลื่อนย้ายไว้ 2 ทางเลือก คือ ตำรวจที่ขึ้นมาสร้างแคมป์จะค้นหาสถานที่สร้างลานเฮลิคอปเตอร์เพื่อบินลงมารับศพ หากไม่สามารถสร้างลานจอดเฮลิคอปเตอร์ได้ จะประสานขอนำศพผ่านฝั่งประเทศไทย บริเวณหลักเขตแดนที่ 8 D ทางเเส้นทางบ้านตะโล๊ะ ผ่านต.ปาดังเบซาร์ เข้าด่าน อ.สะเดา ไปยังศมาเลเซีย หากทุกอย่างเป็นไปตามแผน คาดว่าอีกประมาณ 4 วัน จะสามารถเคลื่อนย้ายศพทั้งหมดลงมายังพื้นราบได้
ผู้สื่อข่าวรายงงานเพิมเติมอีกว่า มีเจ้าหน้าทีฝ่ายไทยติดตามเข้าไปสังเกตการณ์ 14 คน โดยฝ่ายมาเลเซียขอห้ามนำอาวุธและกล้องถ่ายรูปติดตัวข้ามแดนเข้าไปในฝั่งมาเลเซียโดยเด็ดขาด
**อุปทูตสหรัฐฯ ทวีตชมไทยจับ"บิ๊กทบ."
บ่ายวันเดียวกัน นายแพทริก เมอร์ฟีย์ อุปทูตรักษาการแทนเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย เขียนทวิตเตอร์ส่วนตัว @WPatrickMurphy ถึงการจับกุมตัวพล.ท.มนัสข้อหาค้ามนุษย์ว่า “สหรัฐอเมริการู้สึกยินดีต่อกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจของไทยได้จับผู้ต้องหา ซึ่งรวมถึงนายทหารระดับสูงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์ เรายังคงเดินหน้าทำงานร่วมกับรัฐบาลไทย ในการเสริมสร้างความพยายามต่อสู้กับการลักลอบขนผู้โยกย้ายถิ่นฐานและการค้ามนุษย์”
**เผยพบ”ประจิณ”แต่เช้าขอเอี่ยวลงทุน
ทั้งนี้ นายแพทริก เมอร์ฟีย์ เขียนทวิตเตอร์ดังกล่าวหลังจากช่วงเช้าได้เข้าพบ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เพื่อหารือใน 4 ประเด็น คือ 1.ขอให้บริษัทสัญชาติอเมริกันเข้าร่วมลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานในประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมาสหรัฐอเมริกาถือเป็นประเทศที่ลงทุนอันดับ 3 ของไทย 2.สหรัฐอเมริกามีความพร้อมจะลงทุนระบบถนนและระบบรางเพิ่มเติม เช่น การจัดหาขบวนรถจักร เป็นต้น 3.เสนอช่วยเหลือไทย และพร้อมถ่ายทอดความรู้และบุคลากรด้านความปลอดภัยทางถนนเพื่อลดอุบัติเหตุทางถนน และ 4.เสนอตัวในการเป็นตัวกลางประสานงานกับหน่วยงานกลางที่สหรัฐฯ เช่น วอชิงตัน ดี.ซี. กรณีที่สำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (FAA) จะเข้ามาตรวจสอบกรมการบินพลเรือนของไทยในเดือน ก.ค.นี้
**”ยูเอ็น”ขอเยอะมากเอา2คนไปอยู่สหรัฐฯ
นางสุดารัตน์ ปานสวัสดิ์ ผู้อำนวยการสถานคุ้มครองและพัฒนาอาชีพภาคใต้ (บ้านศรีสุราษฎร์ ) หมู่ 1 ต.ขุนทะเล อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี กล่าวว่า สัปดาห์หน้าเจ้าหน้าที่องค์การสหประชาติ (ยูเอ็น) จะเดินทางมาสอบปากคำชาวโรฮีนจาที่บ้านศรีสุราษฎร์ เพื่อส่งไปยังสหรัฐฯ 2 คน ส่วนที่เหลือยังคงร้องขอไปประเทศมาเลเซีย ไม่ขอไปสหรัฐฯ โดยล่าสุดเหลือชาวโรฮีนจา 94 คน แยกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ 41 คน หลบหนีเข้าเมือง 53 คน ล่าสุดสถานการณ์กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้สั่งให้ทำทะเบียนประวัติให้ชัดเจน โดยเฉพาะ 5 แกนนำ
***นายกฯ เปิดงานวันต่อต้านการค้ามนุษย์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เดินหน้าสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศในการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ โดยจะมีการจัดงาน “วันต่อต้านการค้ามนุษย์” ขึ้นที่ทำเนียบรัฐบาล ในวันที่ 5 มิ.ย.นี้ เพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วน ร่วมมือขจัดการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไปจากประเทศไทย และยังได้กำหนดให้ทุกวันที่ 5 มิ.ย. เป็นวันรณรงค์ต่อต้านการค้ามนุษย์ด้วย
