ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 นำตัว พล.ท.มนัส คงแป้น เดินทางถึงศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 แล้ว เร่งทำการสืบสวนสอบสวนทันทีหลังตกเป็นผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา
วันนี้ (3 มิ.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 14.30 น.พล.ต.ท.มนตรี โปตระนันท์ ผบช.ภาค 9 พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รอง ผบช.ภาค 9 พล.ต.ต.อำพล บัวรับพร ผบก.ภ.จว.สงขลา พ.ต.อ.ธรรมนูญ ไตรทิพยพงศ์ รอง ผบก.ภ.จว.สงขลา ได้นำตัว พล.ท.มนัส คงแป้น ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษกองทัพบก ซึ่งตกเป็นผู้ต้องหาคดีค้ามนุษย์เดินทางถึงศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สถานีตำรวจภูธรหาดใหญ่ หลังเข้ามอบตัวต่อผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
โดย พล.ท.มนัส เดินทางมาในชุดเครื่องแบบเต็มยศ และสีหน้าเรียบเฉย และไม่ยอมตอบคำถามใดๆ และทันทีที่มาถึงได้ถูกนำตัวเข้าห้องสอบสวนทันที เพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวนดำเนินคดีของพนักงานสอบสวน และพนักงานอัยการ พร้อมกับแจ้งข้อกล่าวหาให้รับทราบทั้ง 3 ข้อหาที่ถูกออกหมายจับ คือ สมคบ และร่วมกันตั้งแต่สามคนขึ้นไปกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์ โดยกระทำการอันเป็นการค้ามนุษย์โดยกระทำต่อบุคคลอายุไม่เกิน 15 ปี ร่วมกันช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่บุคคลต่างด้าวที่เข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันหน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่น โดยทำให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และร่วมกันเรียกค่าไถ่
โดยทางฝ่ายสืบสวน ซึ่งนำโดย พล.ต.ต.ปวีณ พงษ์สิรินทร์ รองผู้บัญชาการตำรวจภาค 8 หัวหน้าชุดสอบสวนจะทำการสอบปากคำ พล.ท.มนัส ทั้งนี้ ระหว่างการสอบสวนจะไม่มีการควบคุมตัว พล.ท.มนัส ไปควบคุมในห้องขังของ สภ.หาดใหญ่ เหมือนกับผู้ต้องหาคนอื่นๆ เนื่องจากอยู่ในชุดเครื่องแบบทหาร และจะเร่งสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใต้กรอบเวลาการควบคุมตัวภายใน 48 ชั่วโมง ก่อนที่จะนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนาทวีต่อไป ซึ่งในชั้นพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว แต่ในเบื้องต้น พล.ท.มนัส ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา
ซึ่งมีรายงานจากชุดสืบสวนว่าจากแนวทางการสอบสวนขยายผลเครือข่ายค้ามนุษย์จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาทั้ง 84 คน ในส่วนของ พล.ท.มนัส นั้น เจ้าหน้าที่ได้พบหลักฐานสำคัญเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงินที่ผิดปกติ โดยมีการตรวจสอบพบว่า มีเงินอยู่ในบัญชีประมาณ 14 ล้านบาท และเป็นการโอนมาจากเครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.ระนอง ที่เจ้าหน้าที่ได้จับกุมไปก่อนหน้านี้ และจากการสอบสวนแม้ว่า พล.ท.มนัส จะปฏิเสธว่าเงินที่โอนมาจากการซื้อวัวชน แต่เมื่อสอบสวนขยายผลไปยังเครือข่ายค้ามนุษย์ใน จ.ระนอง กลับไม่พบว่ามีคนใดที่เข้าไปอยู่ในวงการวัวชน จึงเป็นที่มาของการออกหมายจับ
อย่างไรก็ตาม คดีนี้สำหรับกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องยังไม่จบแค่ พล.ท.มนัส เท่านั้น เนื่องจากทางพนักงานสอบสวนกำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อออกหมายจับผู้ต้องหาเพิ่มอีกอีก 4-5 คนส่วนจะเป็นคนมีสีหรือไม่นั้น ยังไม่สามารถเปิดเผยได้เพราะจะเสียรูปคดี สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับล่าสุดอยู่ที่ 84 หมาย จับกุม มอบตัว และอายัด 52 คน และยังหลบหนีอีก 32 คน
ส่วนที่บริเวณด่านปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา พล.ต.ต.พุทธิชาต เอกฉันท์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 9 ในฐานะโฆษก ศปก.ภ.9 สน. ตชด. ตัวแทนกองทัพภาคที่ 4 และหน่วยงานทุกภาคส่วนได้ให้การต้อนรับคณะเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐานจากมาเลเซียประมาณ 30 คน เพื่อนำเดินทางเข้าพื้นที่เทือกเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อผ่านแดนประเทศไทยขึ้นไปตรวจพื้นที่พบหลุมศพบนภูเขาฝั่งมาเลเซีย
โดยการเดินทางครั้งนี้เจ้าหน้าที่มาเลเซียมีเป้าหมายขึ้นไปตั้งแคมป์ชั่วคราว เพื่อดำเนินการขุดหลุมศพที่มีการตรวจพบก่อนหน้านี้ ซึ่งมีการยืนยันว่าประมาณ 91 หลุม โดยคาดว่าจะมีการเริ่มขุดภายในวันนี้ และใช้เวลาขุดประมาณ 2 วัน ทำให้วันนี้มีการขนย้ายการอุปกรณ์ในการขุดหลุมศพ เช่น จอบ พลั่ว ผ้า ตลอดจนสัมภาระต่างๆ มาด้วย
โดยการเดินทางครั้งนี้ใช้เส้นทางขึ้นเขาใกล้กับพื้นที่พบแคมป์แห่งที่ 2 ของฝั่งไทย ซึ่งเส้นทางมีความสูงชันแต่โชคดีที่ฝนไม่ตก ทำให้การเดินทางเป็นไปด้วยความเรียบร้อย โดยคณะเจ้าหน้าที่ไทย และผู้สื่อข่าวสามารถขึ้นไปถึงบริเวณหลักชายแดนไทย-มาเลเซียที่ 8 เท่านั้น ก่อนที่จะส่งคณะเจ้าหน้าที่มาเลเซียผ่านเข้าไปในพื้นที่ประเทศมาเลเซีย ซึ่งจุดที่พบหลุมอยู่ห่างออกไปประมาณ 600-800 เมตร ซึ่งอยู่ในเขตรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย