ตำรวจรับมอบตัวแม่ข่ายแชร์ยูฟันจากเชียงใหม่ เผยเงินหมุนเวียนในบัญชี 100 ล้านบาท พบประวัติโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัทยูฟันอีกกว่า 7.7 ล้านบาท พร้อมสนธิกำลังค้นบ้านหรูหลานอดีตนายตำรวจ พบรถหรู9คัน แต่เจ้าบ้านไม่อยู่ อาแจงที่มาเงินได้จากขายตึกให้บ.ยูฟัน
วานนี้ (31 พ.ค.) เมื่อเวลา10.30น. ที่สนามบินดอนเมือง พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รองผบก.ปคบ. พ.ต.อ.นราเดช กลมทุกสิ่ง รองผบก.จว.ฉะเชิงเทรา เดินทางมารับตัวนายภูวณัฏฐ์ ภคพรรษวัฏ อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหารายที่30 คดีแชร์ลูกโซ่ บริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด หรือผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่1086/2558 ลงวันที่28พ.ค.58 ในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณหมู่บ้านสันป่าเหลียง ถนนหนองหอย ตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่30พ.ค.58 เวลาประมาณ19.00น. ซึ่งภายหลังทราบว่านายภูวณัฏฐ์เป็นแม่ข่ายระดับ2 และเคยมีประวัติการโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัทยูฟัน พร้อพเพอร์ตี้(ไทยแลนด์) และบริษัทยูเทรดดิ้ง กว่า7.7 ล้านบาท
พล.ต.ท.สุวิระ เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่พบว่านายภูวณัฏฐ์ เป็นลูกข่ายโดยตรงของนายวีรวิชญ์ จารุพัฒนไพศาล หรือ อเล็กซ์ โดยนายภูวณัฏฐ์เป็นแม่ข่ายในจังหวัดเชียงใหม่ มีสมาชิกในสายงาน 136 คน และยังพบอีกว่าในบัญชีของนายภูวณัฏฐ์ มีการทำธุรกรรมการเงินกว่า 2,000 ครั้ง มีเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท ทั้งนี้มีการโอนไปยังบริษัทยูฟันฯ โดยตรงกว่า 52 ครั้งอีกด้วย ทั้งนี้จากการสอบถามพบว่าขณะที่นายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ หรือโน้ต หนึ่งในผู้ต้องหาถูกจับกุมที่จ.เชียงใหม่นั้น นายภูวณัฏฐ์และนายวีรวิชญ์อยู่ด้วย โดยนายวีรวิชญ์ได้บอกกับนายภูวณัฏฐ์ว่าคงต้องหนี ไม่เช่นนั้นจะถูกจับกุมด้วย จึงคาดว่านายวีรวิชญ์น่าจะรู้ตัวว่าจะถูกออกหมายจับตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งส่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้อง โดยจะปิดรับแจ้งความวันที่2มิ.ย.นี้ จึงฝากให้ประชาชนรีบมาแจ้งความโดยเร็วที่สุด
ขณะที่นายภูวณัฏฐ์ กล่าวว่า ตนได้เข้าร่วมสัมมนาธุรกิจยูฟันจากนายวีรวิชญ์ซึ่งมาจัดที่จ.เชียงใหม่ เมื่อเดือนต.ค.2557 ก่อนจะตัดสินใจร่วมลงทุนเป็นเงิน 1 ล้านบาท แต่ลงทุนเพื่อเก็งกำไรจากยูดทเค่นเป็นหลัก โดยการซื้อมาในราคาถูกและขายไปในราคาที่แพงกว่าเท่านั้น ไม่ได้ขยายสายงาน หรือชักชวนใครทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามตั้งแต่ร่วมลงทุนตนได้รับกำไรเพียง 1แสนกว่าบาทเท่านั้น และถอนออกมาเป็นเงินสดแล้ว ซึ่งตั้งแต่ลงทุนไปตนขาดทุนมาตลอด เพราะรูปแบบบริษัทที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ และล่าสุดค่าเงินยูโทเค่นลดลงมาก จากที่ในระบบตั้งไว้ขายประมาณ 6 บาท ตอนนี้เหลือในราคาที่ต่อรองกันไม่ถึง 1 บาท เนื่องจากจำนวนผู้ต้องการลดน้อยลง ในส่วนที่ตนมีสมาชิก 136 คนนั้น ไม่ได้เกิดจากการชักชวนของตน แต่เป็นเพราะแม่ข่ายระดับที่สูงกว่ามียอดสมาชิกเกินแล้ว จึงขอโอนชื่อมาไว้ในสายงานของตน แต่ตนไม่ได้รับส่วนแบ่งแต่อย่างใด และที่พบว่าในบัญชีมีการทำธุรกรรมทางการเงินและมีเงินหมุนเวียนจำนวนมากนั้น เป็นเพราะตนต้องซื้อ-ขายยูโทเค่น และโอนเงินผ่านธนาคาร
"ตั้งแต่มีข่าวการจับกุมผู้บริหารเครือข่ายยูฟันนั้น ผมก็ไม่เคยเข้าไปข้องเกี่ยวกับบริษัทอีกเลย โดยไม่คิดว่าจะถูกออกหมายจับด้วย สำหรับสาเหตุที่ไม่ได้มาแจ้งความเพราะว่าเข้าใจว่าต้องมาแจ้งแค่ที่กรุงเทพฯเท่านั้น ซึ่งผมไม่มีเวลาเดินทางมา จึงคิดว่าจะยอมขาดทุนและเสียเงิน 1 ล้านบาทไปดีกว่า" นายภูวณัฏฐ์กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ค.93/2558 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 เข้าตรวจค้นบ่านเลขที่ 34 ซอยอรรถกระวี1 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. ซึ่งเป็นบ้านของนายกาวิน วงศ์สงวน อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1045/2558 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2558 ในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และเป็นผู้ต้องหาคนที่32 ในคดีแชร์ลูกโซ่ ยูฟัน สโตร์ จำกัด หลังจากพบว่าเมื่อ 3 มิถุนายน 2557 ทางบริษัท ยูฟันฯได้ซื้อแคชเชียร์เช็คแล้วสั่งจ่ายให้นายกาวิน จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 เป็นเงิน 18 ล้านบาท และครั้งที่ 2 เป็นเงินประมาณ 19.9 ล้านบาท
ที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวหรู เนื้อที่ประมาณ 120 ตารางวา รั้วรอบขอบชิด ภายในบ้านพบรถหรูนำเข้าจากต่างประเทศ 9 คัน ขณะเข้าตรวจค้นนั้น นายกาวินไม่ได้อยู่บ้านแต่อย่างใด พ.ต.อ.อังกูรจึงได้โทรศัพท์หานายกาวิน ก่อนที่ต่อมาพล.ต.ต.วันชัย วิสุทธินันท์ อดีตข้าราชการตำรวจจะเดินทางมาบ้านหลังดังกล่าว พร้อมแสดงตัวเป็นอาของนายกาวิน และขอชี้แจงเบื้องต้นว่าเงินที่ได้รับทั้ง 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนนั้น เป็นเงินที่ได้จากการขายตึกในซอยบางนา-ตราด 25 ซึ่งอยู่ที่ราคาประมาณ 38 ล้านบาท โดยที่ทางนายกาวินไม่ทราบว่าจะนำไปทำอะไร
พล.ต.ท.สุวิระ เปิดเผยว่า วันนี้เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว แต่ไม่พบนายกาวิน เจ้าหน้าที่จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายกาวิน ทราบว่านายกาวินเคยขายอาคารแห่งหนึ่งในซอยบางนา-ตราด25ให้กับบริษัทยูฟันฯ โดยอาคารดังกล่าวบริษัทยูฟันฯได้นำไปเปิดเป็นสำนักงานใหญ่ อย่างไรก็ตามวันที่ 1 มิถุนายน เวลา 09.00 น. นายกาวินจะนำหลักฐานการซื้อ-ขายตึกดังกล่าวมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ที่ปคบ. เพื่อจะตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าการโอนเงินดังกล่าวว่า ถูกต้อง สุจริตหรือไม่ หากพบว่าเป็นการรับเงินโดยถูกต้อง สุจริต ก็จะขอศาลถอนหมายจับต่อไป ส่วนตัวแทนที่มาชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น มีความเกี่ยวข้องเป็นอา และเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจชื่อ พล.ต.ต.วันชัย วิสุทธินันท์ ได้นำหลักฐานการซื้อขายอาคารดังกล่าวมาชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบว่าซื้อ-ขายกันตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี2557 ซึ่งมีการจดทะเบียน โอนที่ดินถูกต้อง ในราคาประมาณ 38 ล้านบาท ขอยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับหรืออายัดทรัพย์สินไปนั้น ก็สามารถนำเอกสารมาชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ปปง. ซึ่งจะพิจารณาว่าการที่ได้ทรัพย์มาถูกต้อง หรือมีค่าตอบแทนหรือไม่ ถ้าสุจริต เปิดเผย และถูกต้อง ก็จะได้ทรัพย์สินที่ถูกอายัดคืน เช่นกรณีที่โฉนดที่ดิน หรือบ้าน มีการซื้อ-ขายกันก่อนที่จะมีบริษัทยูฟันฯถือว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาก่อนที่จะมีการกระทำความผิด ก็เป็นสิทธิของเจ้าของทรัพย์
ด้าน พ.ต.อ.อังกูร กล่าวว่า ส่วนเรื่องของทรัพย์ ขณะนี้มีผู้ที่ครอบครองรถยนต์ที่มีการซื้อ-ขายกัน ซึ่งในวันที่ 1มิ.ย.58 เวลา09.00น. จะมีการนำรถที่มีการซื้อ-ขายกัน โดยอ้างว่าสุจริตเข้ามาชี้แจงที่ปคบ. อย่างน้อย 2 คัน คันแรกเป็นของนายวีรวิญช์ จารุพัฒนไพศาล หรืออเล็กซ์ ซึ่งเป็นรถยนต์บีเอ็มดับบลิว สีขาว และรถยนต์ที่จังหวัดชลบุรี ที่มีการขายให้กับเต๊นท์รถ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่ารถที่ซื้อมา สุจริต และถูกต้องหรือไม่ หรือจะเข้าข่ายซื้อมาหรือรับของโจรมาหรือไม่ หรือกรณีการฟอกเงิน หรือไม่ ก็จะต้องอยู่ที่หลักฐานและความถูกต้อง ซึ่งจะต้องแสดงเจตนาให้ชัดเจน.
วานนี้ (31 พ.ค.) เมื่อเวลา10.30น. ที่สนามบินดอนเมือง พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รองผบก.ปคบ. พ.ต.อ.นราเดช กลมทุกสิ่ง รองผบก.จว.ฉะเชิงเทรา เดินทางมารับตัวนายภูวณัฏฐ์ ภคพรรษวัฏ อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหารายที่30 คดีแชร์ลูกโซ่ บริษัทยูฟัน สโตร์ จำกัด หรือผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่1086/2558 ลงวันที่28พ.ค.58 ในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณหมู่บ้านสันป่าเหลียง ถนนหนองหอย ตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่30พ.ค.58 เวลาประมาณ19.00น. ซึ่งภายหลังทราบว่านายภูวณัฏฐ์เป็นแม่ข่ายระดับ2 และเคยมีประวัติการโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัทยูฟัน พร้อพเพอร์ตี้(ไทยแลนด์) และบริษัทยูเทรดดิ้ง กว่า7.7 ล้านบาท
พล.ต.ท.สุวิระ เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่พบว่านายภูวณัฏฐ์ เป็นลูกข่ายโดยตรงของนายวีรวิชญ์ จารุพัฒนไพศาล หรือ อเล็กซ์ โดยนายภูวณัฏฐ์เป็นแม่ข่ายในจังหวัดเชียงใหม่ มีสมาชิกในสายงาน 136 คน และยังพบอีกว่าในบัญชีของนายภูวณัฏฐ์ มีการทำธุรกรรมการเงินกว่า 2,000 ครั้ง มีเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท ทั้งนี้มีการโอนไปยังบริษัทยูฟันฯ โดยตรงกว่า 52 ครั้งอีกด้วย ทั้งนี้จากการสอบถามพบว่าขณะที่นายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ หรือโน้ต หนึ่งในผู้ต้องหาถูกจับกุมที่จ.เชียงใหม่นั้น นายภูวณัฏฐ์และนายวีรวิชญ์อยู่ด้วย โดยนายวีรวิชญ์ได้บอกกับนายภูวณัฏฐ์ว่าคงต้องหนี ไม่เช่นนั้นจะถูกจับกุมด้วย จึงคาดว่านายวีรวิชญ์น่าจะรู้ตัวว่าจะถูกออกหมายจับตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ทั้งนี้เจ้าหน้าที่จะเร่งส่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้อง โดยจะปิดรับแจ้งความวันที่2มิ.ย.นี้ จึงฝากให้ประชาชนรีบมาแจ้งความโดยเร็วที่สุด
ขณะที่นายภูวณัฏฐ์ กล่าวว่า ตนได้เข้าร่วมสัมมนาธุรกิจยูฟันจากนายวีรวิชญ์ซึ่งมาจัดที่จ.เชียงใหม่ เมื่อเดือนต.ค.2557 ก่อนจะตัดสินใจร่วมลงทุนเป็นเงิน 1 ล้านบาท แต่ลงทุนเพื่อเก็งกำไรจากยูดทเค่นเป็นหลัก โดยการซื้อมาในราคาถูกและขายไปในราคาที่แพงกว่าเท่านั้น ไม่ได้ขยายสายงาน หรือชักชวนใครทั้งสิ้น อย่างไรก็ตามตั้งแต่ร่วมลงทุนตนได้รับกำไรเพียง 1แสนกว่าบาทเท่านั้น และถอนออกมาเป็นเงินสดแล้ว ซึ่งตั้งแต่ลงทุนไปตนขาดทุนมาตลอด เพราะรูปแบบบริษัทที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ และล่าสุดค่าเงินยูโทเค่นลดลงมาก จากที่ในระบบตั้งไว้ขายประมาณ 6 บาท ตอนนี้เหลือในราคาที่ต่อรองกันไม่ถึง 1 บาท เนื่องจากจำนวนผู้ต้องการลดน้อยลง ในส่วนที่ตนมีสมาชิก 136 คนนั้น ไม่ได้เกิดจากการชักชวนของตน แต่เป็นเพราะแม่ข่ายระดับที่สูงกว่ามียอดสมาชิกเกินแล้ว จึงขอโอนชื่อมาไว้ในสายงานของตน แต่ตนไม่ได้รับส่วนแบ่งแต่อย่างใด และที่พบว่าในบัญชีมีการทำธุรกรรมทางการเงินและมีเงินหมุนเวียนจำนวนมากนั้น เป็นเพราะตนต้องซื้อ-ขายยูโทเค่น และโอนเงินผ่านธนาคาร
"ตั้งแต่มีข่าวการจับกุมผู้บริหารเครือข่ายยูฟันนั้น ผมก็ไม่เคยเข้าไปข้องเกี่ยวกับบริษัทอีกเลย โดยไม่คิดว่าจะถูกออกหมายจับด้วย สำหรับสาเหตุที่ไม่ได้มาแจ้งความเพราะว่าเข้าใจว่าต้องมาแจ้งแค่ที่กรุงเทพฯเท่านั้น ซึ่งผมไม่มีเวลาเดินทางมา จึงคิดว่าจะยอมขาดทุนและเสียเงิน 1 ล้านบาทไปดีกว่า" นายภูวณัฏฐ์กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ค.93/2558 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 เข้าตรวจค้นบ่านเลขที่ 34 ซอยอรรถกระวี1 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. ซึ่งเป็นบ้านของนายกาวิน วงศ์สงวน อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1045/2558 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2558 ในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และเป็นผู้ต้องหาคนที่32 ในคดีแชร์ลูกโซ่ ยูฟัน สโตร์ จำกัด หลังจากพบว่าเมื่อ 3 มิถุนายน 2557 ทางบริษัท ยูฟันฯได้ซื้อแคชเชียร์เช็คแล้วสั่งจ่ายให้นายกาวิน จำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 เป็นเงิน 18 ล้านบาท และครั้งที่ 2 เป็นเงินประมาณ 19.9 ล้านบาท
ที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวหรู เนื้อที่ประมาณ 120 ตารางวา รั้วรอบขอบชิด ภายในบ้านพบรถหรูนำเข้าจากต่างประเทศ 9 คัน ขณะเข้าตรวจค้นนั้น นายกาวินไม่ได้อยู่บ้านแต่อย่างใด พ.ต.อ.อังกูรจึงได้โทรศัพท์หานายกาวิน ก่อนที่ต่อมาพล.ต.ต.วันชัย วิสุทธินันท์ อดีตข้าราชการตำรวจจะเดินทางมาบ้านหลังดังกล่าว พร้อมแสดงตัวเป็นอาของนายกาวิน และขอชี้แจงเบื้องต้นว่าเงินที่ได้รับทั้ง 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนนั้น เป็นเงินที่ได้จากการขายตึกในซอยบางนา-ตราด 25 ซึ่งอยู่ที่ราคาประมาณ 38 ล้านบาท โดยที่ทางนายกาวินไม่ทราบว่าจะนำไปทำอะไร
พล.ต.ท.สุวิระ เปิดเผยว่า วันนี้เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าว แต่ไม่พบนายกาวิน เจ้าหน้าที่จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายกาวิน ทราบว่านายกาวินเคยขายอาคารแห่งหนึ่งในซอยบางนา-ตราด25ให้กับบริษัทยูฟันฯ โดยอาคารดังกล่าวบริษัทยูฟันฯได้นำไปเปิดเป็นสำนักงานใหญ่ อย่างไรก็ตามวันที่ 1 มิถุนายน เวลา 09.00 น. นายกาวินจะนำหลักฐานการซื้อ-ขายตึกดังกล่าวมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ที่ปคบ. เพื่อจะตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าการโอนเงินดังกล่าวว่า ถูกต้อง สุจริตหรือไม่ หากพบว่าเป็นการรับเงินโดยถูกต้อง สุจริต ก็จะขอศาลถอนหมายจับต่อไป ส่วนตัวแทนที่มาชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น มีความเกี่ยวข้องเป็นอา และเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจชื่อ พล.ต.ต.วันชัย วิสุทธินันท์ ได้นำหลักฐานการซื้อขายอาคารดังกล่าวมาชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบว่าซื้อ-ขายกันตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี2557 ซึ่งมีการจดทะเบียน โอนที่ดินถูกต้อง ในราคาประมาณ 38 ล้านบาท ขอยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
พล.ต.ท.สุวิระ กล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับหรืออายัดทรัพย์สินไปนั้น ก็สามารถนำเอกสารมาชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ปปง. ซึ่งจะพิจารณาว่าการที่ได้ทรัพย์มาถูกต้อง หรือมีค่าตอบแทนหรือไม่ ถ้าสุจริต เปิดเผย และถูกต้อง ก็จะได้ทรัพย์สินที่ถูกอายัดคืน เช่นกรณีที่โฉนดที่ดิน หรือบ้าน มีการซื้อ-ขายกันก่อนที่จะมีบริษัทยูฟันฯถือว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาก่อนที่จะมีการกระทำความผิด ก็เป็นสิทธิของเจ้าของทรัพย์
ด้าน พ.ต.อ.อังกูร กล่าวว่า ส่วนเรื่องของทรัพย์ ขณะนี้มีผู้ที่ครอบครองรถยนต์ที่มีการซื้อ-ขายกัน ซึ่งในวันที่ 1มิ.ย.58 เวลา09.00น. จะมีการนำรถที่มีการซื้อ-ขายกัน โดยอ้างว่าสุจริตเข้ามาชี้แจงที่ปคบ. อย่างน้อย 2 คัน คันแรกเป็นของนายวีรวิญช์ จารุพัฒนไพศาล หรืออเล็กซ์ ซึ่งเป็นรถยนต์บีเอ็มดับบลิว สีขาว และรถยนต์ที่จังหวัดชลบุรี ที่มีการขายให้กับเต๊นท์รถ ซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่ารถที่ซื้อมา สุจริต และถูกต้องหรือไม่ หรือจะเข้าข่ายซื้อมาหรือรับของโจรมาหรือไม่ หรือกรณีการฟอกเงิน หรือไม่ ก็จะต้องอยู่ที่หลักฐานและความถูกต้อง ซึ่งจะต้องแสดงเจตนาให้ชัดเจน.