ศูนย์ข่าวศรีราชา - ทหารเรือสัตหีบ ซิ่งเก๋งบีเอ็มดับบลิว หักหลบป้ายทำถนนชนคน และร้านอาหารตามสั่งพังพินาศ บาดเจ็บ 3 ราย
เมื่อเวลา 01.00 น. วันนี้ (26 พ.ค.) ร.ต.ท.วิศิษฐ์ จันทนลิขิต พนักงานสอบสวน สภ.สัตหีบ ได้รับแจ้งเหตุรถเก๋งเสียหลักพุ่งชนร้านอาหารริมถนนสุขุมวิท กม.165 เส้นทางสัตหีบ-พัทยา ติดปั๊ม ปตท.ก่อนถึงแยกไฟแดงบางเสร่ ม.8 ต.บางเสร่ อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 3 ราย และมีทรัพย์สินเสียหายจำนวนมาก จึงพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย มูลนิธิสว่างโรจนธรรมสถานสัตหีบ รุดไปตรวจสอบ
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ติดกัน 5 ห้อง ชั้นล่างเปิดเป็นร้านขายอาหารต่างๆ ริมถนนหน้าตึกพบรถเก๋งคันก่อเหตุรุ่นบีเอ็มดับบลิว 323I สีดำ ทะเบียน วท 4855 กรุงเทพมหานคร สภาพด้านหน้าพังยับเยิน ในรถพบคนเจ็บ 2 ราย ที่เบาะคนขับ คือ จ.ต.ภานุวัฒน์ สุวรรณรัตน์ อายุ 23 ปี และเบาะข้างคนขับ คือ พลฯ เกษม เพ็งขุนทศ อายุ 23 ปี ทั้งคู่สังกัดกองทัพเรือ และมีผู้เคราะห์ร้ายถูกลูกหลง คือ นางสมหมาย นันทลือชัย อายุ 53 ปี แม่ครัวร้านอาหารตามสั่งเจ๊หลอด เบื้องต้น กู้ภัยได้ช่วยเหลือปฐมพยาบาล ก่อนนำตัวส่งห้องฉุกเฉิน รพ.สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ กรมแพทย์ทหารเรือ
นอกจากนี้ ในที่เกิดเหตุพบร้านขายอาหารตามสั่งเสียหาย 2 ร้าน คือ ร้านเจ๊หลอด ถูกรถจักรยานยนต์ฮอนด้า เวฟ 125I สีแดง ทะเบียน จตน 978 ชลบุรี ที่จอดอยู่ถูกชนกระเด็นเข้าร้านเสียหายไม่มาก และร้านเจ๊เล็กบางเสร่ ถูกรถกระบะอีซูซุ ดีแมคซ์ 4 ประตู สีขาว ทะเบียนป้ายแดง ก 7189 ชลบุรี ที่จอดอยู่ถูกชนกระเด็นเข้าร้านจนพังพินาศ ใกล้กันยังพบรถเก๋งโตโยต้า อัลติส สีขาว ทะเบียน ชฉ 8237 กรุงเทพมหานคร ที่จอดอยู่ถูกชนเสียหายหนักเช่นกัน
สอบถาม น.ส.นันทนา ธิดา อายุ 27 ปี เจ้าของร้านอาหารเจ๊หลอด กล่าวว่า ถนนในเลนขวาตั้งแต่หน้าปั๊ม ปตท.ผ่านหน้าร้านไปจนถึงแยกไฟแดงบางเสร่ อยู่ในระหว่างการซ่อมทำใหม่ พื้นผิวถนนถูกเซาะทิ้งจนเป็นพื้นต่างระดับ โดยกรมทางหลวง ได้นำป้ายไม้ที่ไม่มีสัญญาณไฟ 3 ป้าย เขียนเตือนว่า ลดความเร็ว ทางต่างระดับ และเครื่องจักรกำลังทำงานโปรดระมัดระวัง มาวางตั้งไว้บนไหล่ทางเลนขวา ประกอบกับบนถนนมีเพียงแสงไฟสลัวๆ เท่านั้น เมื่อรถคันเกิดเหตุวิ่งมาด้วยความเร็ว เห็นป้ายในระยะประชิดก็เกิดความตกใจหักหลบจนเสียหลักพุ่งลงข้างทาง กวาดทุกอย่างที่ขวางหน้าจนพินาศ ซึ่งก่อนหน้าเพียงวันเดียวมีอุบัติเหตุในลักษณ์เช่นนี้แล้วถึง 3 ราย
ด้าน ร.ต.ท.วิศิษฐ์ จันทนลิขิต กล่าวว่า หลังเกิดเหตุได้ถ่ายภาพทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน ในส่วนใครผิดใครถูกอยู่ในขึ้นตอนการสอบสวน ที่ต้องเรียกฝ่ายคนขับ และฝ่ายผู้รับเหมาทำถนน มาสอบปากคำว่า เกิดจากความประมาทฝ่ายใด เพื่อหาผู้มาชดใช้ต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ต่อไป
