ตร.รับมอบตัวแม่ข่ายแชร์ “ยูฟัน” จากเชียงใหม่ เผยเงินหมุนเวียนในบัญชี 100 ล้านบาท พบประวัติโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัท ยูฟัน อีกกว่า 7.7 ล้านบาท พร้อมผสานกำลังค้นบ้านหรูหลานอดีตนายตำรวจ พบรถหรู 9 คัน แต่เจ้าบ้านไม่อยู่ อาแจงที่มาเงินได้จากขายตึกให้ยูฟัน
วันนี้ (31 พ.ค.) เมื่อเวลา 10.30 น. ที่สนามบินดอนเมือง พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วย ผบ.ตร. พร้อมด้วย พ.ต.อ.อังกูร คล้ายคลึง รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.นราเดช กลมทุกสิ่ง รอง ผบก.จว.ฉะเชิงเทรา เดินทางมารับตัวนายภูวณัฏฐ์ ภคพรรษวัฏ อายุ 25 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหารายที่ 30 คดีแชร์ลูกโซ่ บริษัท ยูฟัน สโตร์ จำกัด หรือผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1086/2558 ลงวันที่ 28 พ.ค. 58 ในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน โดยสามารถจับกุมตัวได้บริเวณหมู่บ้านสันป่าเหลียง ถนนหนองหอย ตำบลหนองหอย อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 30 พ.ค. 58 เวลาประมาณ 19.00 น. ซึ่งภายหลังทราบว่านายภูวณัฏฐ์เป็นแม่ข่ายระดับ 2 และเคยมีประวัติการโอนเงินเข้าบัญชีของบริษัท ยูฟัน พร้อพเพอร์ตี้ (ไทยแลนด์) และบริษัท ยูเทรดดิ้ง กว่า 7.7 ล้านบาท
พล.ต.ท.สุวิระเปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่พบว่านายภูวณัฏฐ์เป็นลูกข่ายโดยตรงของนายวีรวิชญ์ จารุพัฒนไพศาล หรืออเล็กซ์ โดยนายภูวณัฏฐ์เป็นแม่ข่ายในจังหวัดเชียงใหม่ มีสมาชิกในสายงาน 136 คน และยังพบอีกว่าในบัญชีของนายภูวณัฏฐ์มีการทำธุรกรรมการเงินกว่า 2,000 ครั้ง มีเงินหมุนเวียนกว่า 100 ล้านบาท ทั้งนี้มีการโอนไปยังบริษัท ยูฟันฯ โดยตรงกว่า 52 ครั้งอีกด้วย จากการสอบถามพบว่าขณะที่นายรัฐวิชญ์ ฐิติอรุณวัฒน์ หรือโน้ต หนึ่งในผู้ต้องหาถูกจับกุมที่ จ.เชียงใหม่นั้น นายภูวณัฏฐ์และนายวีรวิชญ์อยู่ด้วย โดยนายวีรวิชญ์ได้บอกกับนายภูวณัฏฐ์ว่าคงต้องหนี ไม่เช่นนั้นจะถูกจับกุมด้วย จึงคาดว่านายวีรวิชญ์น่าจะรู้ตัวว่าจะถูกออกหมายจับตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว โดยเจ้าหน้าที่จะเร่งส่งสำนวนให้อัยการสั่งฟ้อง โดยจะปิดรับแจ้งความวันที่ 2 มิ.ย.นี้ จึงฝากให้ประชาชนรีบมาแจ้งความโดยเร็วที่สุด
ขณะที่นายภูวณัฏฐ์กล่าวว่า ตนได้เข้าร่วมสัมมนาธุรกิจยูฟันจากนายวีรวิชญ์ซึ่งมาจัดที่จ.เชียงใหม่ เมื่อเดือน ต.ค. 2557 ก่อนจะตัดสินใจร่วมลงทุนเป็นเงิน 1 ล้านบาท แต่ลงทุนเพื่อเก็งกำไรจากยูโทเค่นเป็นหลัก โดยการซื้อมาในราคาถูกและขายไปในราคาที่แพงกว่าเท่านั้น ไม่ได้ขยายสายงาน หรือชักชวนใครทั้งสิ้น อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่ร่วมลงทุนตนได้รับกำไรเพียง 1 แสนกว่าบาทเท่านั้น และถอนออกมาเป็นเงินสดแล้ว ตั้งแต่ลงทุนไปตนขาดทุนมาตลอด เพราะรูปแบบบริษัทที่เปลี่ยนไปเรื่อยๆ และล่าสุดค่าเงินยูโทเค่นลดลงมาก จากที่ในระบบตั้งไว้ขายประมาณ 6 บาท ตอนนี้เหลือในราคาที่ต่อรองกันไม่ถึง 1 บาทเนื่องจากจำนวนผู้ต้องการลดน้อยลง ในส่วนที่ตนมีสมาชิก 136 คนนั้นไม่ได้เกิดจากการชักชวนของตน แต่เป็นเพราะแม่ข่ายระดับที่สูงกว่ามียอดสมาชิกเกินแล้ว จึงขอโอนชื่อมาไว้ในสายงานของตน แต่ตนไม่ได้รับส่วนแบ่งแต่อย่างใด และที่พบว่าในบัญชีมีการทำธุรกรรมทางการเงินและมีเงินหมุนเวียนจำนวนมากนั้น เป็นเพราะตนต้องซื้อ-ขายยูโทเค่น และโอนเงินผ่านธนาคาร
“ตั้งแต่มีข่าวการจับกุมผู้บริหารเครือข่ายยูฟันนั้น ผมก็ไม่เคยเข้าไปข้องเกี่ยวกับบริษัทอีกเลย โดยไม่คิดว่าจะถูกออกหมายจับด้วย สำหรับสาเหตุที่ไม่ได้มาแจ้งความเพราะว่าเข้าใจว่าต้องมาแจ้งแค่ที่กรุงเทพฯ เท่านั้นซึ่งผมไม่มีเวลาเดินทางมา จึงคิดว่าจะยอมขาดทุนและเสียเงิน 1 ล้านบาทไปดีกว่า” นายภูวณัฏฐ์กล่าว
ต่อมาเมื่อเวลา 13.30 น. เจ้าหน้าที่นำหมายค้นศาลอาญากรุงเทพใต้ ที่ ค.93/2558 ลงวันที่ 31 พฤษภาคม 2558 เข้าตรวจค้นบ่านเลขที่ 34 ซอยอรรถกระวี 1 แขวงคลองตัน เขตคลองเตย กทม. บ้านของนายกาวิน วงศ์สงวน อายุ 47 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลอาญา เลขที่ 1045/2558 ลงวันที่ 23 พฤษภาคม 2558 ในข้อหาร่วมกันกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และเป็นผู้ต้องหาคนที่32 ในคดีแชร์ลูกโซ่ ยูฟัน สโตร์ จำกัด หลังจากพบว่าเมื่อ 3 มิถุนายน 2557 ทางบริษัท ยูฟันฯ ได้ซื้อแคชเชียร์เช็คแล้วสั่งจ่ายให้นายกาวินจำนวน 2 ครั้ง โดยครั้งที่ 1 เป็นเงิน 18 ล้านบาท และครั้งที่ 2 เป็นเงินประมาณ 19.9 ล้านบาท
ที่บ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านเดี่ยวหรู เนื้อที่ประมาณ 120 ตารางวา รั้วรอบขอบชิด ภายในบ้านพบรถหรูนำเข้าจากต่างประเทศ 9 คัน ขณะเข้าตรวจค้นนั้นนายกาวินไม่ได้อยู่บ้านแต่อย่างใด พ.ต.อ.อังกูรจึงได้โทรศัพท์หานายกาวิน ก่อนที่ต่อมา พล.ต.ต.วันชัย วิสุทธินันท์ อดีตข้าราชการตำรวจจะเดินทางมาบ้านหลังดังกล่าว พร้อมแสดงตัวเป็นอาของนายกาวิน และขอชี้แจงเบื้องต้นว่าเงินที่ได้รับทั้ง 2 ครั้ง เมื่อวันที่ 3 มิถุนายนนั้นเป็นเงินที่ได้จากการขายตึกในซอยบางนา-ตราด 25 ซึ่งอยู่ที่ราคาประมาณ 38 ล้านบาท โดยที่ทางนายกาวินไม่ทราบว่าจะนำไปทำอะไร
พล.ต.ท.สุวิระเปิดเผยว่า วันนี้เข้าตรวจค้นบ้านหลังดังกล่าวแต่ไม่พบนายกาวิน เจ้าหน้าที่จึงได้โทรศัพท์ติดต่อไปยังนายกาวิน ทราบว่านายกาวินเคยขายอาคารแห่งหนึ่งในซอยบางนา-ตราด 25 ให้กับบริษัท ยูฟัน โดยอาคารดังกล่าวบริษัท ยูฟัน ได้นำไปเปิดเป็นสำนักงานใหญ่ อย่างไรก็ตาม วันที่ 1 มิถุนายน เวลา 09.00 น. นายกาวินจะนำหลักฐานการซื้อขายตึกดังกล่าวมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ที่ ปคบ. เพื่อจะตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าการโอนเงินดังกล่าวว่าถูกต้องและสุจริตหรือไม่ หากพบว่าเป็นการรับเงินโดยถูกต้องและสุจริตก็จะขอศาลถอนหมายจับต่อไป ส่วนตัวแทนที่มาชี้แจงกับเจ้าหน้าที่ตำรวจนั้น มีความเกี่ยวข้องเป็นอา และเป็นอดีตเจ้าหน้าที่ตำรวจชื่อ พล.ต.ต.วันชัย วิสุทธินันท์ ได้นำหลักฐานการซื้อขายอาคารดังกล่าวมาชี้แจงให้เจ้าหน้าที่ตำรวจรับทราบว่าซื้อขายกันตั้งแต่เดือนมิถุนายน ปี 2557 ซึ่งมีการจดทะเบียน โอนที่ดินถูกต้อง ในราคาประมาณ 38 ล้านบาท ขอยืนยันจะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
พล.ต.ท.สุวิระกล่าวอีกว่า สำหรับผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับหรืออายัดทรัพย์สินไปนั้นก็สามารถนำเอกสารมาชี้แจงกัต่อเจ้าหน้าที่ ปปง. ซึ่งจะพิจารณาว่าการที่ได้ทรัพย์มาถูกต้อง หรือมีค่าตอบแทนหรือไม่ ถ้าสุจริต เปิดเผยและถูกต้องก็จะได้ทรัพย์สินที่ถูกอายัดคืน เช่นกรณีที่โฉนดที่ดิน หรือบ้าน มีการซื้อขายกันก่อนที่จะมีบริษัท ยูฟันถือว่าเป็นทรัพย์ที่ได้มาก่อนที่จะมีการกระทำความผิดก็เป็นสิทธิของเจ้าของทรัพย์
ด้าน พ.ต.อ.อังกูรกล่าวว่า ส่วนเรื่องของทรัพย์ขณะนี้มีผู้ที่ครอบครองรถยนต์ที่มีการซื้อขายกัน ซึ่งในวันที่ 1 มิ.ย. 58 เวลา 09.00 น. จะมีการนำรถที่มีการซื้อขายกัน โดยอ้างว่าสุจริตเข้ามาชี้แจงที่ ปคบ. อย่างน้อย 2 คัน คันแรกเป็นของนายวีรวิญช์ จารุพัฒนไพศาล หรืออเล็กซ์ เป็นรถยนต์บีเอ็มดับเบิลยูสีขาว และรถยนต์ที่จังหวัดชลบุรี ที่มีการขายให้กับเต็นท์รถซึ่งเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบว่ารถที่ซื้อมาสุจริตและถูกต้องหรือไม่ หรือจะเข้าข่ายซื้อมาหรือรับของโจรมาหรือไม่ หรือกรณีการฟอกเงินหรือไม่ ก็จะต้องอยู่ที่หลักฐานและความถูกต้องซึ่งจะต้องแสดงเจตนาให้ชัดเจน