xs
xsm
sm
md
lg

ยุทธการเด็ดปีก"แม้ว" คสช.จริงใจหรือไก่กา

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

**ชิงพื้นที่ข่าวยึดพาดหัวหน้าหนึ่งได้แทบทุกฉบับ หลังกระทรวงการต่างประเทศรับลูก“ฝ่ายความมั่นคง”ที่ชงให้พิจารณา ยึดหนังสือเดินทางของ“นช.แม้ว”พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ทั้ง 2 ฉบับ ที่เจ้าตัวถืออยู่
งานนี้แม้"บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะอ้างเหตุผลที่ยึดพาสปอร์ต นช.แม้ว ว่า เป็นเพราะประชาชนไปแจ้งความไว้เป็นจำนวนมาก ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ต้องดำเนินการ แต่ดูเหมือนเป็นเหตุผลที่ไม่สามารถอ้างได้เต็มปาก
เพราะเป็นไทม์มิ่งที่ นช.แม้ว ให้สัมภาษณ์ เมื่อครั้งเดินทางไปจ้อบนเวที "70 ปี หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 : การรักษาสันติภาพและความสงบรุ่งเรืองของเอเชีย" ที่ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งตรงกับช่วงครบรอบ 1 ปี รัฐประหาร 22 พ.ค.57 พอดิบพอดี นอกเหนือจากคำพูดหลายประโยค ที่ลดความน่าเชื่อถือประเทศไทยในสายตานานาประเทศแล้ว ยังพาดพิงถึง“เบื้องหลัง”การรัฐประหารอย่างไม่สมควรด้วย
แน่นอนว่าเจตนาของ นช.แม้ว พยายามใช้ยุทธศาสตร์ "โลกล้อมไทย" ดิสเครดิต รัฐบาลบิ๊กตู่ ที่มาจากการรัฐประหารมาโดยตลอด แต่ก็ยังถือว่ายังไม่สำเร็จเป็นชิ้นเป็นอัน พอสบช่องจึงต้องออกมาแสดงบทบาท เพื่อหวังให้ผลสะท้อนกลับไปยัง"รัฐบาลทหาร" ให้ได้
**ขณะที่เจตนาของ บิ๊กตู่ คือต้องการจำกัดความเคลื่อนไหวของ นช.แม้ว ให้เหลือพื้นที่น้อยลง การยึดพาสปอร์ตครั้งนี้ นอกจากส่งสัญญาณความไม่พอใจไปถึงอดีตนายกฯ แล้ว ก็หวังผลให้ นช.แม้ว ขยับตัวในเวทีโลกได้ลำบากมากขึ้น
หลายฝ่ายฟันธงกันว่า การยึดหนังสือเดินทางครั้งนี้ ไม่น่าจะส่งผลกระทบต่อ นช.แม้ว ในเรื่องของการเดินทางเร่ร่อนไปนู่นมานี่มากนัก เพราะยังถือหนังสือเดินทางของต่างประเทศอย่าง"มอนเตเนโกร"และ "นิการากัว"อยู่
โดยหนังสือเดินทางของ "มอนเตเนโกร" ได้มาจากการประมูลซื้อเกาะ "สเวตติ นิโคลา" ซึ่งมีมูลค่าสูงถึง 28 ล้านยูโร หรือประมาณ 1,288 ล้านบาท จน รัฐบาลมอนเตเนโกร ชอบอกชอบใจ มอบสัญชาติ พร้อมหนังสือเดินทางให้เป็นของแถม
ขณะที่หนังสือเดินทางของ "นิการากัว" ได้ในฐานะ "ทูตพิเศษนิการากัว" เนื่องจากได้มีการลงทุนด้านโทรคมนาคมในประเทศ พร้อมวางโครงสร้างคมนาคมขั้นพื้นฐานให้ประเทศ จนได้เป็นที่ปรึกษาเศรษฐกิจพิเศษของประธานาธิบดี และมีฐานะเป็น "พลเมืองกิตติมศักดิ์" พร้อมทั้งได้รับ "เอกสิทธิ์คุ้มกันทางการทูต" อีกต่างหาก
**ถึงไม่มีพาสปอร์ตไทย ก็คงไม่มีปัญหาในการเดินทางด้วยพาสปอร์ตของ 2 ประเทศที่ว่า
เรื่องนี้ใช่ว่า หน่วยงานความมั่นคงจะไม่มีข้อมูล เพราะก่อนที่จะมีการชงเรื่องยกเลิกพาสปอร์ต ก็ได้สุมหัววิเคราะห์ ข้อดี-ข้อเสียไว้อย่างละเอียดแล้ว โดยเชื่อว่า การจำกัดพื้นที่ นช.แม้ว เป็นผลดีต่อ "รัฐบาลบิ๊กตู่" มากกว่าผลเสีย เพราะผลเสีย น่าจะมีแค่เสียงก่นด่าของ"เครือข่ายแม้ว" ซึ่งประเดี๋ยวประด๋าวก็คงเหนื่อย แล้วเลิกบ่นกันไปเอง โดยเฉพาะในยุคที่ว่ากันว่า ท่อน้ำเลี้ยงตีบตัน
แต่ในทางกลับกันจะส่ง"ผลเสีย" ต่อการเดินทางเข้าออกต่างประเทศของ นช.แม้ว ไม่มากก็น้อย ซึ่งน่าจะเป็น "ผลดี" ต่อรัฐบาลและประเทศไทย ผลกระทบแรกที่ นช.แม้ว จะโดนไปเต็มๆ คือ การเดินทางเข้าออกประเทศใน"กลุ่มอาเซียน" ที่หากถือหนังสือเดินทางไทย จะสามารถเดินทางเข้าออกได้อย่างสะดวกสบาย โดยไม่ต้องขอ วีซ่า เพราะมีข้อตกลงร่วมกันอยู่ทุกประเทศอยู่แล้ว
ซึ่งในส่วนนี้หากประเทศใดผิดข้อตกลง "รัฐบาลบิ๊กตู่" สามารถทักท้วงได้ เพราะถือเป็นประเทศสมาชิกควรให้ความร่วมมือกับ "มิตรประเทศ" เรียกได้ว่าหาก นช.แม้ว มาป้วนเปี้ยนอาจจะโดนตลบหลังขอความร่วมมือ“จับ”ได้ง่ายขึ้น
**ประเทศในกลุ่ม“เอเซีย”มีหลายประเทศเช่นกัน ที่ประเทศไทยมีข้อตกลงเดินทางเข้าออกโดยไม่ต้องขอ วีซ่า แต่ก็มีบางประเทศที่อ้าแขนต้อนรับ นช.แม้ว งานนี้ รัฐบาลบิ๊กตู่ จึงขอวัดใจว่า ประเทศไหนเป็น “มิตรแท้”ประเทศไหนเป็น “มิตรเทียม”
ส่วนประเทศในกลุ่มยุโรปและอเมริกา หาก นช.แม้ว ใช้หนังสือเดินทางของ "มอนเตเนโกร - นิการากัว" ก็ยากที่จะพิจารณาออก วีซ่า ให้เช่นกัน เพราะอย่าลืมว่า ปัจจุบันทั้ง 2 ประเทศ ยังเข้าข่ายประเทศที่อยู่ในสภาวะสงคราม
หนำซ้ำ มอนเตเนโกร ยื่นความจำนงค์ขอเข้าไปเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) ยังถูกกลุ่มสมาชิกอียู ปฏิเสธแบบไม่ใยดี เพราะความวุ่นวายภายในประเทศ ยังไม่มีท่าทีว่าจะหยุดลงง่ายๆ ส่วน นิการากัว ก็ถือว่าเป็นประเทศ "เผด็จการเต็มรูปแบบ" มากว่า 30 ปีแล้ว และยังอยู่ในสภาวะสงครามเช่นกัน แถมยังเป็นประเทศที่จัดว่า ยากจนในลำดับต้นๆ ของโลกด้วย
และที่สำคัญมากที่สุดคือ บรรดาบิ๊กประเทศต่างก็กลัว ภัยก่อการร้าย หากใช้หนังสือเดินทางของประเทศที่ยังอยู่ในสภาวะสงคราม ไม่เป็นที่ไว้วางใจของ"ประเทศบิ๊กเนม" อย่างแน่นอน
งานนี้ดูผิวเผิน นช.แม้ว อาจจะชิลล์ แต่ลึกๆ แล้วเหมือนโดนรัฐบาลบิ๊กตู่ ไล่ต้อนให้จนกระดาน ถึงแม้จะมีหลายประเทศ ที่พร้อมให้ นช.แม้ว ใช้เป็นที่กบดาน แต่ก็ถูกจำกัดไม่ให้เดินทางไปในอีกหลายประเทศที่ นช.แม้ว อยากไปได้
ไม่เพียงเท่านั้นหากจับสัญญาณของ"เมืองดูไบ" ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ ที่เสมือน บ้านหลังที่ 2 ของนช.แม้ว จะเห็นได้ว่า ระยะหลังอดีตนายกฯ แทบที่จะไม่ได้ใช้เวลาอยู่ที่ ดูไบ เลย ท่ามกลางข่าวลือหนาหูว่า "ทางการดูไบ" ไม่ปลื้มสักเท่าไรที่ นช.แม้ว ใช้เป็นฐานในการเคลื่อนไหวทางการเมือง อีกทั้งยังเกรงว่า จะมีการลอบสังหารเหมือนที่"เครือข่ายแม้ว"เอง เคยปล่อยข่าวอยู่เนืองๆ
ถึงแม้ เมืองดูไบ จะได้บำเหน็จจาก นช.แม้ว ไปหลายล้านดอลล์ แต่อย่าลืมว่า ประเทศดังกล่าวเข้าขั้นมหาเศรษฐี เศษเงินของ นช.แม้ว ไม่ได้ช่วยให้รายได้ หรือจีดีพีของสหรัฐอาหรับเอมิเรสต์ เพิ่มขึ้น แต่หากทำให้ประเทศของเขาสูญเสีย ก็พร้อมที่จะเฉดหัวทิ้งแบบไม่ใยดีมากกว่า
ส่วน"สาธารณรัฐประชาชนจีน" ที่ นช.แม้ว เคยไปพักผ่อนบ่อยครั้ง ก็กลายเป็น"ของแสลง" ซึ่งกันและกันไปแล้ว จากพฤติกรรมเคลื่อนไหวทางการเมืองแบบไม่เกรงใจเจ้าของบ้าน ประกอบกับนับวันความสัมพันธ์ "รัฐบาลมังกรจีน" กับ"รัฐบาลบิ๊กตู่" ยิ่งเน้นแฟ้นมากขึ้นตามลำดับ การเดินทางเข้าออกจีนแผ่นดินใหญ่ จึงไม่เป็นที่ปรารถนาของนช.แม้ว อีกต่อไป แต่เลือกที่จะอยู่ในจุดที่สบายใจกว่าอย่าง"มาเก๊า - ฮ่องกง" เป็นหลัก
เมื่อประเมินจากข้อมูลของฝ่ายความมั่นคงแล้ว ถือว่างานนี้ รัฐบาลบิ๊กตู่ สามารถจำกัดพื้นที่ไม่ให้ นช.แม้ว เคลื่อนไหวได้ดั่งใจได้เหมือนเดิมอีก สิ่งที่ต้องจับตาดูต่อไปคือ ความจริงจังต่อปฏิบัติการไล่ล่า นช.แม้ว ว่า"รัฐบาลทหาร"จะเอาจริงแค่ไหน หรือเป็นแค่การกดดัน นช.แม้ว เพื่อเพิ่มแต้มต่อใน"วงเจรจาลับ" ที่ยังมีความเคลื่อนไหวให้ได้ยินอยู่บ้าง
ต้องวัดใจ รัฐบาลบิ๊กตู่ ว่าจะจริงใจ หรือไก่กา ที่จะถอนราถอนโคน"ตระกูลชินวัตร" ให้สิ้นซากทางการเมือง
ล่าสุดแว่วมาว่า รัฐบาลทหาร เตรียมเพิ่มระดับความเข้มข้นในการขอตัว "ผู้ร้ายข้ามแดน" โดยเตรียมตั้งข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ให้ นช.แม้ว พร้อมๆ กับบรรดาลิ่วล้อ ที่ยังหลบหนีอยู่ในต่างประเทศด้วย จัดเป็นแพกเกจ "แบล็กลิสต์แก๊งล้มเจ้า" เป็นที่เรียบร้อยแล้ว พร้อมแผนรุกฆาต ลากคอ "แม้ว - แก๊งล้มเจ้า" กลับมารับโทษทัณฑ์ ในประเทศไทย
** ซึ่งรายชื่อที่ว่านั้น กำลังจะถูกส่งถึงมือ“บิ๊กตู่”ในไม่ช้า
กำลังโหลดความคิดเห็น