**ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านดูเหมือนอารมณ์ของ“บิ๊กตู่”พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี จะไม่คงที่ หงุดหงิดแปรปรวน-ด่ากราด ไม่ไว้หน้าอินทร์หน้าพรหม เพราะปัญหาหลายอย่างเริ่มรุมเร้ารัฐบาล โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจที่บรรดาทุนใหญ่ต่างไม่ควักกระเป๋ามาลงทุน
แต่สิ่งที่ทำให้ “บิ๊กตู่”รู้สึกรำคาญใจมากที่สุด หนีไม่พ้นกรณีที่“โจทก์เก่า”อย่าง “นช.แม้ว”พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เริ่มออกมาเพ่นพ่านใช้ เวทีต่างประเทศ มาโจมตีการบริหารงานของ“คสช.-รัฐบาล”ในโอกาสครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร 22 พ.ค. 57
ชั่วโมงนี้ “บิ๊กตู่”รู้ดีว่าการดีลกับต่างประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ แต่การที่“นช.แม้ว”ปรากฏตัว และพูดในแง่ลบ ย่อมทำลายระบบเศรษฐกิจของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และส่งผลให้ต่างประเทศเกิดความไม่เชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้น
เรียกได้ว่า“บิ๊กตู่”เดินทางเยือนต่างประเทศ 10 ครั้ง เพื่อพูดแง่บวก เจอ“นช.แม้ว”พูดแง่ลบครั้งเดียว สะเทือนกันทั้งประเทศ
จุดชนวนให้ “บิ๊กตู่”อารมณ์เสียได้ชนิดไม่เกรงใจใคร เพราะสิ่งที่ทำมาทั้งหมดกับเวทีต่างประเทศ กลับมาพังทลายเพราะคำพูดของ “นช.แม้ว”ไม่กี่คำนี่เอง คำพูดที่ย้ำตลอดว่าให้ทุกคนช่วยกันรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ถูกเฉลยทันทีว่า ต้องการส่งสัญญาณถึง“นช.แม้ว”
**ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศ เผยแพร่ข่าวการยกเลิกหนังสือเดินทางของ“นช.แม้ว”โดยให้เหตุผลว่า ฝ่ายความมั่นคง-กระทรวงการต่างประเทศ-สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้พิจารณาถ้อยคำการให้สัมภาษณ์ของ“นช.แม้ว”โดยเห็นว่ามีเนื้อหากระทบต่อความมั่นคงปลอดภัย หรือชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทย
อีกทั้งยังมีการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอาญาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112,326 และ 328 ทำให้ กระทรวงการต่างประเทศ พิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าข่ายที่จะยกเลิกหนังสือเดินทางตามระเบียบของกระทรวง
จึงมีประกาศยกเลิกหนังสือเดินทาง เลขที่ U957441 และ เลขที่ Z530117 ของ “นช.แม้ว”ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.57
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในช่วง“รัฐบาลสุรยุทธ์-รัฐบาลอภิสิทธิ์”มีการขอยกเลิกหนังสือเดินทาง“พาสปอร์ตแดง”ของ“นช.แม้ว” และบรรดาสหายแดงมาแล้วหลายครั้ง แต่“นช.แม้ว”และบรรดาสหายแดงต่างได้รับ“พาสปอร์ตแดง”คืนหมดในยุค “รัฐบาลปูแดง”โดย “อ้ายปึ้ง”สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คืนสิทธิการเดินทางให้“เครือข่ายแดง”หมดเกือบทุกคน
การเดินทางของ “นช.แม้ว”และบรรดาสหายแดงในต่างแดนจึงสะดวกโยธิน แทบที่จะไม่มีประเทศไหนไม่ต้อนรับขับสู้ ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ“อ้ายปึ้ง”ที่ “นช.แม้ว”ตบรางวัลให้นั่งเก้าอี้เบอร์หนึ่งกระทรวงบัวแก้ว อย่างยาวนาน
อารมณ์หงุดหงิดของ “บิ๊กตู่”จึงนำมาสู่การประกาศยกเลิกหนังสือเดินทางของ“นช.แม้ว”เพื่อหวังปิดทางไม่ให้เพ่นพ่านในต่างแดนดิสเครดิตรัฐบาลได้สะดวกสบายเหมือนที่ผ่านมา
แต่เกมนี้ “บิ๊กตู่”รู้ดีว่าไม่สามารถหยุดยั้งการเดินเกม“โลกล้อมไทย”ของ “นช.แม้ว”ได้ เพราะตราบใดที่ “นช.แม้ว”ยังมีเงินอยู่มหาศาล ก็สามารถใช้เงินจ้างเครือข่ายต่างประเทศที่กระหายเงินได้อย่างง่ายดาย
**เกมต่างประเทศที่“บิ๊กตู่”รู้อยู่แก่ใจว่า ทำอย่างไรก็ไล่“นช.แม้ว”ไม่จนกระดาน ดังนั้นการยกเลิกหนังสือเดินทางครั้งนี้ จึงเป็นเพียงแค่ให้เห็นแอกชันจากรัฐบาลไทย ที่ต้องการส่งสัญญาณให้ต่างประเทศได้รู้ว่า สถานะของ“นช.แม้ว”อยู่ในจุดใด
ฟันธงล่วงหน้าได้เลยว่า ต่างประเทศเลือกที่จะเชื่อ“นช.แม้ว”มากกว่า “รัฐบาลบิ๊กตู่”โดยเฉพาะโลกตะวันตก ที่จะมี“ล็อบบี้ยิสต์”ที่เป็นทาสเงิน“นช.แม้ว”เขียนข้อมูลล็อบบี้สร้างภาพให้“นช.แม้ว”เป็น“คนดี”ได้อย่างสบาย
ทว่าแอกชันของ“รัฐบาลบิ๊กตู่”ตรงกันข้ามกับความเคลื่อนไหวของ “บิ๊กรัฐบาลหลายคน”ที่ช่วงหลังเริ่มได้รับการทอดสะพานจาก "เครือข่ายชินวัตร”หรือบางครั้งก็เป็น“บิ๊กรัฐบาลบางคน”ทอดสะพานไปยังตระกูลชินวัตรด้วยตัวเอง
โดยมีกระบวนการต่อรองผลประโยชน์บางอย่างกันอยู่ เพราะมองเหลี่ยมคูไหนแล้ว หากไม่มีการเจรจา หรือปล่อยให้ประเทศเดินไปตามโรดแมปของ คสช. แล้วรอเวลาเลือกตั้ง มีหวัง “ขุนทหาร”และเครือข่ายจะพ่ายแพ้ต่อศึกเลือกตั้งอีกคำรบหนึ่ง
เป็นที่น่าสังเกตว่า“บิ๊กรัฐบาลบางคน”เลือกเดินทางไปยังประเทศที่ "นช.แม้ว"ไปตั้งโต๊ะรออยู่ก่อนแล้ว แม้อาจจะถูกมองว่าเป็นความบังเอิญ แต่ก็เป็นความบังเอิญที่แฝงไปด้วยความตั้งใจก็เป็นได้
**เงื่อนไขของเจรจากันระหว่าง“ขุนทหาร”กับ “ตระกูลชินวัตร”หนีไม่พ้นชะตาชีวิตของ “ยิ่งลักษณ์”ที่ “นช.แม้ว”เป็นห่วงมากที่สุดว่าอาจจะตกชะตากรรมเดียวกับ“พี่ชาย”ดังนั้นเดิมพันเกมนี้จึงมีสูงมาก
แว่วมาว่า“วงเจรจาลับ”ของทั้งสองฝ่ายชื่นมื่นกันอย่างมาก ไม่มีใครล้มโต๊ะ ไม่มีใครคว่ำโต๊ะ ต่างคนต่างแสดงท่าทีเป็นมิตรต่อกัน
แต่จู่ๆ“บิ๊กตู่”กลับมาสวมบทโหด ไฟเขียวให้กระทรวงการต่างประเทศประกาศยกเลิกหนังสือเดินทาง“นช.แม้ว”ที่มองเหลี่ยมไหนแล้วก็ไม่สามารถหยุดยั้ง“นช.แม้ว”ได้ เสมือนเป็นการเอาใจ“แฟนคลับ”เพราะระยะหลังเริ่มมีหลายฝ่ายออกมาพูดกดดันให้ยกเลิก พาสปอร์ต หรือถอดยศ“นช.แม้ว”อยู่บ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการถอนพาสปอร์ตเที่ยวนี้ แต่ก็ฟันธงได้เลยว่า“วงลับ”ไม่มีทางล่ม เป็นเพียงการ "เดินเกมสองหน้า-สู้ศึกสองด้าน" เท่านั้น อย่างน้อยก็เพื่อคงศรัทธาที่มีต่อ“รัฐบาลขุนทหาร”เอาไว้
**ไม่ผิดใจกับฝั่งตัวเอง-ไม่ผิดใจกับขั้วตรงข้าม อาจจะค้ำยันให้อยู่ได้นาน และปลอดภัยได้อย่างดี
แต่สิ่งที่ทำให้ “บิ๊กตู่”รู้สึกรำคาญใจมากที่สุด หนีไม่พ้นกรณีที่“โจทก์เก่า”อย่าง “นช.แม้ว”พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เริ่มออกมาเพ่นพ่านใช้ เวทีต่างประเทศ มาโจมตีการบริหารงานของ“คสช.-รัฐบาล”ในโอกาสครบรอบ 1 ปีรัฐประหาร 22 พ.ค. 57
ชั่วโมงนี้ “บิ๊กตู่”รู้ดีว่าการดีลกับต่างประเทศเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ แต่การที่“นช.แม้ว”ปรากฏตัว และพูดในแง่ลบ ย่อมทำลายระบบเศรษฐกิจของไทยอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และส่งผลให้ต่างประเทศเกิดความไม่เชื่อมั่นเพิ่มมากขึ้น
เรียกได้ว่า“บิ๊กตู่”เดินทางเยือนต่างประเทศ 10 ครั้ง เพื่อพูดแง่บวก เจอ“นช.แม้ว”พูดแง่ลบครั้งเดียว สะเทือนกันทั้งประเทศ
จุดชนวนให้ “บิ๊กตู่”อารมณ์เสียได้ชนิดไม่เกรงใจใคร เพราะสิ่งที่ทำมาทั้งหมดกับเวทีต่างประเทศ กลับมาพังทลายเพราะคำพูดของ “นช.แม้ว”ไม่กี่คำนี่เอง คำพูดที่ย้ำตลอดว่าให้ทุกคนช่วยกันรักษาผลประโยชน์ของประเทศ ถูกเฉลยทันทีว่า ต้องการส่งสัญญาณถึง“นช.แม้ว”
**ล่าสุด กระทรวงการต่างประเทศ เผยแพร่ข่าวการยกเลิกหนังสือเดินทางของ“นช.แม้ว”โดยให้เหตุผลว่า ฝ่ายความมั่นคง-กระทรวงการต่างประเทศ-สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้พิจารณาถ้อยคำการให้สัมภาษณ์ของ“นช.แม้ว”โดยเห็นว่ามีเนื้อหากระทบต่อความมั่นคงปลอดภัย หรือชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทย
อีกทั้งยังมีการสืบสวนสอบสวนเพื่อดำเนินคดีอาญาในความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112,326 และ 328 ทำให้ กระทรวงการต่างประเทศ พิจารณาแล้วเห็นว่าเข้าข่ายที่จะยกเลิกหนังสือเดินทางตามระเบียบของกระทรวง
จึงมีประกาศยกเลิกหนังสือเดินทาง เลขที่ U957441 และ เลขที่ Z530117 ของ “นช.แม้ว”ตั้งแต่วันที่ 26 พ.ค.57
เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะในช่วง“รัฐบาลสุรยุทธ์-รัฐบาลอภิสิทธิ์”มีการขอยกเลิกหนังสือเดินทาง“พาสปอร์ตแดง”ของ“นช.แม้ว” และบรรดาสหายแดงมาแล้วหลายครั้ง แต่“นช.แม้ว”และบรรดาสหายแดงต่างได้รับ“พาสปอร์ตแดง”คืนหมดในยุค “รัฐบาลปูแดง”โดย “อ้ายปึ้ง”สุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ คืนสิทธิการเดินทางให้“เครือข่ายแดง”หมดเกือบทุกคน
การเดินทางของ “นช.แม้ว”และบรรดาสหายแดงในต่างแดนจึงสะดวกโยธิน แทบที่จะไม่มีประเทศไหนไม่ต้อนรับขับสู้ ถือเป็นผลงานชิ้นโบว์แดงของ“อ้ายปึ้ง”ที่ “นช.แม้ว”ตบรางวัลให้นั่งเก้าอี้เบอร์หนึ่งกระทรวงบัวแก้ว อย่างยาวนาน
อารมณ์หงุดหงิดของ “บิ๊กตู่”จึงนำมาสู่การประกาศยกเลิกหนังสือเดินทางของ“นช.แม้ว”เพื่อหวังปิดทางไม่ให้เพ่นพ่านในต่างแดนดิสเครดิตรัฐบาลได้สะดวกสบายเหมือนที่ผ่านมา
แต่เกมนี้ “บิ๊กตู่”รู้ดีว่าไม่สามารถหยุดยั้งการเดินเกม“โลกล้อมไทย”ของ “นช.แม้ว”ได้ เพราะตราบใดที่ “นช.แม้ว”ยังมีเงินอยู่มหาศาล ก็สามารถใช้เงินจ้างเครือข่ายต่างประเทศที่กระหายเงินได้อย่างง่ายดาย
**เกมต่างประเทศที่“บิ๊กตู่”รู้อยู่แก่ใจว่า ทำอย่างไรก็ไล่“นช.แม้ว”ไม่จนกระดาน ดังนั้นการยกเลิกหนังสือเดินทางครั้งนี้ จึงเป็นเพียงแค่ให้เห็นแอกชันจากรัฐบาลไทย ที่ต้องการส่งสัญญาณให้ต่างประเทศได้รู้ว่า สถานะของ“นช.แม้ว”อยู่ในจุดใด
ฟันธงล่วงหน้าได้เลยว่า ต่างประเทศเลือกที่จะเชื่อ“นช.แม้ว”มากกว่า “รัฐบาลบิ๊กตู่”โดยเฉพาะโลกตะวันตก ที่จะมี“ล็อบบี้ยิสต์”ที่เป็นทาสเงิน“นช.แม้ว”เขียนข้อมูลล็อบบี้สร้างภาพให้“นช.แม้ว”เป็น“คนดี”ได้อย่างสบาย
ทว่าแอกชันของ“รัฐบาลบิ๊กตู่”ตรงกันข้ามกับความเคลื่อนไหวของ “บิ๊กรัฐบาลหลายคน”ที่ช่วงหลังเริ่มได้รับการทอดสะพานจาก "เครือข่ายชินวัตร”หรือบางครั้งก็เป็น“บิ๊กรัฐบาลบางคน”ทอดสะพานไปยังตระกูลชินวัตรด้วยตัวเอง
โดยมีกระบวนการต่อรองผลประโยชน์บางอย่างกันอยู่ เพราะมองเหลี่ยมคูไหนแล้ว หากไม่มีการเจรจา หรือปล่อยให้ประเทศเดินไปตามโรดแมปของ คสช. แล้วรอเวลาเลือกตั้ง มีหวัง “ขุนทหาร”และเครือข่ายจะพ่ายแพ้ต่อศึกเลือกตั้งอีกคำรบหนึ่ง
เป็นที่น่าสังเกตว่า“บิ๊กรัฐบาลบางคน”เลือกเดินทางไปยังประเทศที่ "นช.แม้ว"ไปตั้งโต๊ะรออยู่ก่อนแล้ว แม้อาจจะถูกมองว่าเป็นความบังเอิญ แต่ก็เป็นความบังเอิญที่แฝงไปด้วยความตั้งใจก็เป็นได้
**เงื่อนไขของเจรจากันระหว่าง“ขุนทหาร”กับ “ตระกูลชินวัตร”หนีไม่พ้นชะตาชีวิตของ “ยิ่งลักษณ์”ที่ “นช.แม้ว”เป็นห่วงมากที่สุดว่าอาจจะตกชะตากรรมเดียวกับ“พี่ชาย”ดังนั้นเดิมพันเกมนี้จึงมีสูงมาก
แว่วมาว่า“วงเจรจาลับ”ของทั้งสองฝ่ายชื่นมื่นกันอย่างมาก ไม่มีใครล้มโต๊ะ ไม่มีใครคว่ำโต๊ะ ต่างคนต่างแสดงท่าทีเป็นมิตรต่อกัน
แต่จู่ๆ“บิ๊กตู่”กลับมาสวมบทโหด ไฟเขียวให้กระทรวงการต่างประเทศประกาศยกเลิกหนังสือเดินทาง“นช.แม้ว”ที่มองเหลี่ยมไหนแล้วก็ไม่สามารถหยุดยั้ง“นช.แม้ว”ได้ เสมือนเป็นการเอาใจ“แฟนคลับ”เพราะระยะหลังเริ่มมีหลายฝ่ายออกมาพูดกดดันให้ยกเลิก พาสปอร์ต หรือถอดยศ“นช.แม้ว”อยู่บ่อยครั้ง
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีการถอนพาสปอร์ตเที่ยวนี้ แต่ก็ฟันธงได้เลยว่า“วงลับ”ไม่มีทางล่ม เป็นเพียงการ "เดินเกมสองหน้า-สู้ศึกสองด้าน" เท่านั้น อย่างน้อยก็เพื่อคงศรัทธาที่มีต่อ“รัฐบาลขุนทหาร”เอาไว้
**ไม่ผิดใจกับฝั่งตัวเอง-ไม่ผิดใจกับขั้วตรงข้าม อาจจะค้ำยันให้อยู่ได้นาน และปลอดภัยได้อย่างดี