วานนี้ (25 พ.ค.) พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้ลงนามในคำสั่งเลิกจ้าง นายอำนาจ สุนทรธรรม เลขาธิการคุรุสภา โดยให้มีผลในวันที่ 20 ส.ค.58 เป็นต้นไปนั้น เนื่องจากคณะกรรมการคุรุสภาได้พิจารณาแล้วว่า เมื่อมีคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้ นายอำนาจ หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีกำหนด และคณะกรรมการคุรุสภา ก็ได้แต่งตั้งผู้ที่มีคุณสมบัติเหมาะสมเข้าไปปฏิบัติหน้าที่แทนแล้ว จึงเห็นว่าไม่มีความจำเป็นให้ นายอำนาจ ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภาอีกต่อไป จึงได้มีมติให้ยกเลิกสัญญาจ้าง โดยในสัญญาจ้างระบุชัดเจนว่า จะต้องแจ้งให้ลูกจ้างทราบ ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 3เดือน
อย่างไรก็ตาม แม้จะบอกเลิกจ้าง นายอำนาจ แต่ก็ไม่กระทบต่อกระบวนการตรวจสอบปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ส่วนในระหว่างนี้ที่ยังไม่ครบกำหนดเลิกสัญญาจ้างจะต้องจ่ายเงินเดือน นายอำนาจ หรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่เบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ระงับการจ่ายเงินเดือนไปตั้งแต่วันที่ 16เม.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในส่วนของ นายสมศักดิ์ ตาไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) และ นายสมมาตร มีศิลป์ ผู้อำนวยการองค์การค้า ของ สกสค. จะมีการยกเลิกสัญญาจ้างด้วยหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจสอบข้อมูลต่างๆ เพราะสัญญาจ้างของแต่ละหน่วยงานไม่เหมือนกัน และการจะยกเลิกสัญญาจ้าง ต้องพิจารณาผลกระทบอื่นๆ ที่จะตามมาประกอบด้วย
“การพิจารณายกเลิกสัญญาจ้างและการตรวจสอบทุจริตแยกออกจากกัน ขณะนี้จะยังไม่ไปปรักปรำใคร ว่าทำการทุจริตหรือไม่ แต่เมื่อผลออกมาเช่นไร ก็ดำเนินการตามนั้น ถ้าผลออกมาว่าทุจริตจริง ก็ต้องยกเลิกสัญญาจ้าง ขึ้นอยู่กับผลการสอบสวนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งคณะกรรมการติดตาม และ ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อย่างไรก็ตาม การทุจริตมีความผิดทางอาญา แม้จะพ้นหน้าที่ไปแล้วก็ยังต้องมีความผิดอยู่ ซึ่งทั้ง 3 คนไม่ใช่ข้าราชการ เป็นลูกจ้าง ดังนั้นต้องดูกฎหมายแรงงาน และกฎหมายอื่น ๆ ประกอบด้วย”พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าว
ส่วนกรณีที่ นายสมศักดิ์ ทำหนังสือขอขยายเวลาและขอคัดสำเนาเอกสารจากสำนักงาน สกสค. เพื่อนำมาประกอบการชี้แจงนั้น เวลานี้ นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการ ศธ. ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.ได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาเอกสารที่ นายสมศักดิ์ ขอมา ซึ่งเท่าที่คณะกรรมการ สกสค.ได้พิจารณาก็พบว่าบางส่วนตรงกับเรื่องที่ขอให้ชี้แจงแต่ส่วนใหญ่ยังไม่ตรง ดังนั้น ถ้าเอกสารส่วนไหนตรงก็อาจพิจารณามอบให้ตามที่ นายสมศักดิ์ ร้องขอ แต่ถ้าส่วนไหนไม่ตรงและไม่ใช่ประเด็นที่ขอให้ชี้แจงก็คงไม่จำเป็นต้องมอบให้
อย่างไรก็ตาม แม้จะบอกเลิกจ้าง นายอำนาจ แต่ก็ไม่กระทบต่อกระบวนการตรวจสอบปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นภายในสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา ส่วนในระหว่างนี้ที่ยังไม่ครบกำหนดเลิกสัญญาจ้างจะต้องจ่ายเงินเดือน นายอำนาจ หรือไม่นั้น ตนไม่แน่ใจ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบระเบียบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง แต่เบื้องต้นได้มีคำสั่งให้ระงับการจ่ายเงินเดือนไปตั้งแต่วันที่ 16เม.ย.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ในส่วนของ นายสมศักดิ์ ตาไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา(สกสค.) และ นายสมมาตร มีศิลป์ ผู้อำนวยการองค์การค้า ของ สกสค. จะมีการยกเลิกสัญญาจ้างด้วยหรือไม่นั้น ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาตรวจสอบข้อมูลต่างๆ เพราะสัญญาจ้างของแต่ละหน่วยงานไม่เหมือนกัน และการจะยกเลิกสัญญาจ้าง ต้องพิจารณาผลกระทบอื่นๆ ที่จะตามมาประกอบด้วย
“การพิจารณายกเลิกสัญญาจ้างและการตรวจสอบทุจริตแยกออกจากกัน ขณะนี้จะยังไม่ไปปรักปรำใคร ว่าทำการทุจริตหรือไม่ แต่เมื่อผลออกมาเช่นไร ก็ดำเนินการตามนั้น ถ้าผลออกมาว่าทุจริตจริง ก็ต้องยกเลิกสัญญาจ้าง ขึ้นอยู่กับผลการสอบสวนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งคณะกรรมการติดตาม และ ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อย่างไรก็ตาม การทุจริตมีความผิดทางอาญา แม้จะพ้นหน้าที่ไปแล้วก็ยังต้องมีความผิดอยู่ ซึ่งทั้ง 3 คนไม่ใช่ข้าราชการ เป็นลูกจ้าง ดังนั้นต้องดูกฎหมายแรงงาน และกฎหมายอื่น ๆ ประกอบด้วย”พล.ร.อ.ณรงค์ กล่าว
ส่วนกรณีที่ นายสมศักดิ์ ทำหนังสือขอขยายเวลาและขอคัดสำเนาเอกสารจากสำนักงาน สกสค. เพื่อนำมาประกอบการชี้แจงนั้น เวลานี้ นายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการ ศธ. ในฐานะปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.ได้ตั้งคณะกรรมการพิจารณาเอกสารที่ นายสมศักดิ์ ขอมา ซึ่งเท่าที่คณะกรรมการ สกสค.ได้พิจารณาก็พบว่าบางส่วนตรงกับเรื่องที่ขอให้ชี้แจงแต่ส่วนใหญ่ยังไม่ตรง ดังนั้น ถ้าเอกสารส่วนไหนตรงก็อาจพิจารณามอบให้ตามที่ นายสมศักดิ์ ร้องขอ แต่ถ้าส่วนไหนไม่ตรงและไม่ใช่ประเด็นที่ขอให้ชี้แจงก็คงไม่จำเป็นต้องมอบให้