รายงานข่าวแจ้งว่า ในโลกสังคมออนไลน์ได้มีการเผยแพร่ หนังสือด่วนที่สุด ที่ ศธ.53053/1411 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2558 เรื่อง การบอกเลิกจ้างเลขาธิการคุรุสภา ถึง นายอำนาจ สุนทรธรรม ลงนามโดย พล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.)
โดยมีเนื้อหาว่า ตามข้อตกลงที่อ้างถึงคณะกรรมการคุรุสภา (นายจ้าง) ได้ตกลงจ้าง นายอำนาจ สุนทรธรรม (ลูกจ้าง) ตกลงรับจ้างปฏิบัติงาน ในตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา เป็นเวลา 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า คำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 7/2558 ลงวันที่ 16 เมษายน 2558 เป็นการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ให้เลขาธิการคุรุสภา หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีกำหนด ซึ่งคำสั่งดังกล่าว มีผลบังคับในทางบริหาร หรือในทางตุลาการและถือว่าคำสั่งหรือการกระทำ รวมทั้งการปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว เป็นคำสั่งหรือการกระทำ หรือการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมาย และรัฐธรรมนูญนี้และที่สุด
ทั้งนี้ การหยุดปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวของเลขาธิการคุรุสภา ส่งผลต่อการปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงจ้างเลขาธิการคุรุสภา เลขที่ 1/2556 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2556 ข้อ 2 ที่กำหนดว่า ลูกจ้างต้องปฏิบัติงานเต็มเวลาให้แก่คุรุสภา ดังนั้น การที่เลขาธิการคุรุสภา ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยผลของคำสั่งหัวหน้า คสช.ดังกล่าว ทำให้โดยสภาพเลขาธิการคุรุสภา ไม่อาจปฏิบัติงานเต็มเวลา ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อตกลงจ้างได้เช่นกัน และการที่มีข้อตกลงจ้างดังกล่าวไว้ ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหารงานของคุรุสภา คณะกรรมการคุรุสภาจึงมีมติให้บอกเลิกจ้าง นายอำนาจ สุนทรธรรม เลขาธิการคุรุสภา ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไป ตามข้อตกลงของการเลิกจ้างเลขาธิการคุรุสภา ที่ 1/2556 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2556 โดยบอกกล่าวล่วงหน้าให้ลูกจ้างทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่น้อยกว่า 3 เดือน
ด้าน นายอำนาจ กล่าวว่า ตนได้รับหนังสือคำสั่งเลิกจ้าง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งก็รับทราบว่าเจ้านายเลิกจ้างแล้ว ก็ต้องยอมรับในคำสั่ง ส่วนจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่นั้น ยังไม่ได้ตัดสินใจ
ส่วนพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวกรณีนายสมศักดิ์ ตาไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ขอขยายเวลาชี้แจงการบริหารกิจการภายใน สกสค.ที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะกรณีนำเงินไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี วงเงิน 2,100 ล้านบาท โดยอ้างว่าต้องใช้เวลาคัดสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องประกอบการชี้แจงว่า เหตุผลที่ชี้แจงมาพอฟังได้ ดังนั้น จะอนุญาตให้ขยายเวลาออกไปตามความเหมาะสม ส่วนระยะเวลาเท่าไหร่นั้นจะหารือกับนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.อีกครั้ง เบื้องต้นอาจจะ 15-30 วัน
โดยมีเนื้อหาว่า ตามข้อตกลงที่อ้างถึงคณะกรรมการคุรุสภา (นายจ้าง) ได้ตกลงจ้าง นายอำนาจ สุนทรธรรม (ลูกจ้าง) ตกลงรับจ้างปฏิบัติงาน ในตำแหน่งเลขาธิการคุรุสภา เป็นเวลา 4 ปี นับตั้งแต่วันที่ 17 มิถุนายน 2556 เป็นต้นไป ทั้งนี้ ในการประชุมคณะกรรมการคุรุสภา เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2558 ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า คำสั่งของหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ 7/2558 ลงวันที่ 16 เมษายน 2558 เป็นการใช้อำนาจตามมาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 ให้เลขาธิการคุรุสภา หยุดปฏิบัติหน้าที่โดยไม่มีกำหนด ซึ่งคำสั่งดังกล่าว มีผลบังคับในทางบริหาร หรือในทางตุลาการและถือว่าคำสั่งหรือการกระทำ รวมทั้งการปฏิบัติตามคำสั่งดังกล่าว เป็นคำสั่งหรือการกระทำ หรือการปฏิบัติที่ชอบด้วยกฎหมาย และรัฐธรรมนูญนี้และที่สุด
ทั้งนี้ การหยุดปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวของเลขาธิการคุรุสภา ส่งผลต่อการปฏิบัติตามเงื่อนไขของข้อตกลงจ้างเลขาธิการคุรุสภา เลขที่ 1/2556 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2556 ข้อ 2 ที่กำหนดว่า ลูกจ้างต้องปฏิบัติงานเต็มเวลาให้แก่คุรุสภา ดังนั้น การที่เลขาธิการคุรุสภา ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ โดยผลของคำสั่งหัวหน้า คสช.ดังกล่าว ทำให้โดยสภาพเลขาธิการคุรุสภา ไม่อาจปฏิบัติงานเต็มเวลา ตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในข้อตกลงจ้างได้เช่นกัน และการที่มีข้อตกลงจ้างดังกล่าวไว้ ไม่ได้ก่อให้เกิดประโยชน์ต่อการบริหารงานของคุรุสภา คณะกรรมการคุรุสภาจึงมีมติให้บอกเลิกจ้าง นายอำนาจ สุนทรธรรม เลขาธิการคุรุสภา ตั้งแต่วันที่ 20 สิงหาคม 2558 เป็นต้นไป ตามข้อตกลงของการเลิกจ้างเลขาธิการคุรุสภา ที่ 1/2556 ลงวันที่ 17 มิถุนายน 2556 โดยบอกกล่าวล่วงหน้าให้ลูกจ้างทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่น้อยกว่า 3 เดือน
ด้าน นายอำนาจ กล่าวว่า ตนได้รับหนังสือคำสั่งเลิกจ้าง ตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งก็รับทราบว่าเจ้านายเลิกจ้างแล้ว ก็ต้องยอมรับในคำสั่ง ส่วนจะยื่นอุทธรณ์หรือไม่นั้น ยังไม่ได้ตัดสินใจ
ส่วนพล.ร.อ.ณรงค์ พิพัฒนาศัย รมว.ศึกษาธิการ กล่าวกรณีนายสมศักดิ์ ตาไชย เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) ขอขยายเวลาชี้แจงการบริหารกิจการภายใน สกสค.ที่เป็นปัญหา โดยเฉพาะกรณีนำเงินไปลงทุนโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ อ.หนองหญ้าปล้อง จ.เพชรบุรี วงเงิน 2,100 ล้านบาท โดยอ้างว่าต้องใช้เวลาคัดสำเนาเอกสารที่เกี่ยวข้องประกอบการชี้แจงว่า เหตุผลที่ชี้แจงมาพอฟังได้ ดังนั้น จะอนุญาตให้ขยายเวลาออกไปตามความเหมาะสม ส่วนระยะเวลาเท่าไหร่นั้นจะหารือกับนายพินิจศักดิ์ สุวรรณรังค์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ ผู้ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการ สกสค.อีกครั้ง เบื้องต้นอาจจะ 15-30 วัน