ASTVผู้จัดการรายวัน-"ณรงค์ชัย"ลั่นรัฐบาลพร้อมเดินหน้าขยับขึ้นภาษีสรรพสามิต LPG ภาคขนส่ง รอคลังแก้กฎหมายภาษีสรรพสามิต 7 ฉบับอยู่ คาดเสร็จเร็วๆ นี้ เหตุปัจจุบันจ่ายต่ำกว่าผู้ใช้น้ำมัน ลั่นทุกคนต้องเสียภาษีที่เท่าเทียมกัน ส่วน NGV รอคิวต่อไปเหตุปั๊มบริการยังไม่เพียงพอ
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานยังยืนยันนโยบายที่จะต้องมีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในภาคขนส่งที่ปัจจุบันเก็บเพียง 1 บาทต่อลิตร ให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสมเพื่อความเป็นธรรม เนื่องจากปัจจุบันผู้ที่ใช้น้ำมันในภาคขนส่งเองต้องจ่ายภาษีสรรพสามิต 4-5 บาทต่อลิตร แต่จะปรับขึ้นเท่าใดนั้น จะต้องไปดูในเรื่องของค่าความร้อนประกอบด้วย และจะมีผลเมื่อใด ขณะนี้กำลังรอกระทรวงการคลังแก้กฏหมายภาษีสรรพสามิตรวม 7 ฉบับที่ล่าสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดว่าจะมีการประกาศใช้ได้ในเร็วๆ นี้
"แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการไปยื่นคัดค้านแนวทางดังกล่าว และต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนผู้ใช้แอลพีจีในรถยนต์ แต่เราก็ยืนยันหลักการเดิมว่าทุกคนที่ใช้ถนนต้องแสดงความรับผิดชอบในการเสียภาษีที่เท่าเทียมกัน โดยภาษีจะปรับขึ้นเท่าใดต้องไปคำนวณตามอัตราค่าความร้อน" นายณรงค์ชัยกล่าว
ส่วนภาษีสรรพสามิตก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) แม้ว่าคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) จะมีมตืให้สามารถจัดเก็บ1 บาท/กิโลกรัม (กก.) แต่เนื่องจากยังมีข้อจำกัดเรื่องสถานีการให้บริการที่ไม่ทั่วถึง จึงเห็นว่าควรเร่งดำเนินการเปิดสถานีบริการให้ทั่วถึงก่อน และค่อยพิจารณาจัดเก็บภาษีในส่วนของNGV ในระยะต่อไป
นายณรงค์ชัยกล่าวถึงกระแสการต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ว่า กระทรวงพลังงานยืนยันที่จะเดินหน้าตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าหรือ PDP 2015 (ปี2558-2573) เพื่อให้การก่อสร้างโรงไฟฟ้าเป็นไปตามเป้าหมายและสร้างสมดุลในเรื่องของสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงแต่ละชนิดให้เหมาะสมเพื่อรักษาระดับค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดระยะเวลา 21ปีที่กำหนดไว้ระดับ4.3 บาทต่อหน่วย โดยหากประชาชนที่ไม่เห็นด้วยก็จะชี้แจงเพื่อให้เกิดความมั่นใจและพร้อมที่จะมีมาตรการดูแลและเยียวยาอย่างเต็มที่หากเกิดมีปัญหาใดขึ้นจริงแต่ทั้งหมดยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบใดๆ เพราะได้มีการบริหารจัดการที่รัดกุมมาก
ส่วนเรื่องกรณีที่จะมีการทวงคืนท่อก๊าชธรรมชาตินั้น ทางบมจ.ปตท.และผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามกฎหมายและคำสั่งศาลทุกประการแล้ว
สำหรับนโยบายการบริหารพลังงานของประเทศ ตามแผนปฎิบัติการอนุรัษ์พลังงาน 20 ปี ตั้วแต่ปี 2554-2573ได้มีการตั้งเป้าการลดการใช้พลังงานต่อผลผลิตลง 25% และสนับสนุนการใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ด้วยการใช้เทคโนโลยุคุณภาพสูง โดยเฉพาะหลอด LED เพื่ออนุรักษ์การประหยัดพลังงานให้มากที่สุด
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. จัดงาน LED Expo thailand 2015 ขึ้น เพื่อแสดงสินค้าด้านเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ LED ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เชื่อว่าจะทำให้เกิดความสนใจทั้งคนไทยและต่างชาติ ซึ่งจะส่วผลดีต่อการพัฒนาการผลิตของประเทศในแถบเออีซีที่มีอัตราการผลิตเพื่อพัฒนาประเทศสูง โดยงาน LED Expo thailand 2015 จัดขึ้นวันที่ 21-24 พ.ค.2558 ที่อาคาร 1-3 อิมแพคเมืองทองธานี เปิดสำหรับภาคธุรกิจ 3 วัน และเปิดให้ประชาชนเข้าชมงานในวันสุดท้าย ซึ่งจะสามารถซื้อสินค้าราคาพิเศษจากผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ กว่า 350 ราย จึงคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 18,000 ราย
นายณรงค์ชัย อัครเศรณี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานยังยืนยันนโยบายที่จะต้องมีการปรับขึ้นภาษีสรรพสามิตก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ในภาคขนส่งที่ปัจจุบันเก็บเพียง 1 บาทต่อลิตร ให้อยู่ในอัตราที่เหมาะสมเพื่อความเป็นธรรม เนื่องจากปัจจุบันผู้ที่ใช้น้ำมันในภาคขนส่งเองต้องจ่ายภาษีสรรพสามิต 4-5 บาทต่อลิตร แต่จะปรับขึ้นเท่าใดนั้น จะต้องไปดูในเรื่องของค่าความร้อนประกอบด้วย และจะมีผลเมื่อใด ขณะนี้กำลังรอกระทรวงการคลังแก้กฏหมายภาษีสรรพสามิตรวม 7 ฉบับที่ล่าสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คาดว่าจะมีการประกาศใช้ได้ในเร็วๆ นี้
"แม้ว่าจะมีผู้ประกอบการไปยื่นคัดค้านแนวทางดังกล่าว และต้องการให้รัฐบาลสนับสนุนผู้ใช้แอลพีจีในรถยนต์ แต่เราก็ยืนยันหลักการเดิมว่าทุกคนที่ใช้ถนนต้องแสดงความรับผิดชอบในการเสียภาษีที่เท่าเทียมกัน โดยภาษีจะปรับขึ้นเท่าใดต้องไปคำนวณตามอัตราค่าความร้อน" นายณรงค์ชัยกล่าว
ส่วนภาษีสรรพสามิตก๊าซธรรมชาติสำหรับยานยนต์ (NGV) แม้ว่าคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) จะมีมตืให้สามารถจัดเก็บ1 บาท/กิโลกรัม (กก.) แต่เนื่องจากยังมีข้อจำกัดเรื่องสถานีการให้บริการที่ไม่ทั่วถึง จึงเห็นว่าควรเร่งดำเนินการเปิดสถานีบริการให้ทั่วถึงก่อน และค่อยพิจารณาจัดเก็บภาษีในส่วนของNGV ในระยะต่อไป
นายณรงค์ชัยกล่าวถึงกระแสการต่อต้านโรงไฟฟ้าถ่านหินกระบี่ว่า กระทรวงพลังงานยืนยันที่จะเดินหน้าตามแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าหรือ PDP 2015 (ปี2558-2573) เพื่อให้การก่อสร้างโรงไฟฟ้าเป็นไปตามเป้าหมายและสร้างสมดุลในเรื่องของสัดส่วนการใช้เชื้อเพลิงแต่ละชนิดให้เหมาะสมเพื่อรักษาระดับค่าไฟฟ้าเฉลี่ยตลอดระยะเวลา 21ปีที่กำหนดไว้ระดับ4.3 บาทต่อหน่วย โดยหากประชาชนที่ไม่เห็นด้วยก็จะชี้แจงเพื่อให้เกิดความมั่นใจและพร้อมที่จะมีมาตรการดูแลและเยียวยาอย่างเต็มที่หากเกิดมีปัญหาใดขึ้นจริงแต่ทั้งหมดยืนยันว่าจะไม่มีผลกระทบใดๆ เพราะได้มีการบริหารจัดการที่รัดกุมมาก
ส่วนเรื่องกรณีที่จะมีการทวงคืนท่อก๊าชธรรมชาตินั้น ทางบมจ.ปตท.และผู้เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามกฎหมายและคำสั่งศาลทุกประการแล้ว
สำหรับนโยบายการบริหารพลังงานของประเทศ ตามแผนปฎิบัติการอนุรัษ์พลังงาน 20 ปี ตั้วแต่ปี 2554-2573ได้มีการตั้งเป้าการลดการใช้พลังงานต่อผลผลิตลง 25% และสนับสนุนการใช้อุปกรณ์ประหยัดพลังงาน ด้วยการใช้เทคโนโลยุคุณภาพสูง โดยเฉพาะหลอด LED เพื่ออนุรักษ์การประหยัดพลังงานให้มากที่สุด
ทั้งนี้ กระทรวงพลังงานร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. จัดงาน LED Expo thailand 2015 ขึ้น เพื่อแสดงสินค้าด้านเทคโนโลยีระบบไฟฟ้าและผลิตภัณฑ์ LED ที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เชื่อว่าจะทำให้เกิดความสนใจทั้งคนไทยและต่างชาติ ซึ่งจะส่วผลดีต่อการพัฒนาการผลิตของประเทศในแถบเออีซีที่มีอัตราการผลิตเพื่อพัฒนาประเทศสูง โดยงาน LED Expo thailand 2015 จัดขึ้นวันที่ 21-24 พ.ค.2558 ที่อาคาร 1-3 อิมแพคเมืองทองธานี เปิดสำหรับภาคธุรกิจ 3 วัน และเปิดให้ประชาชนเข้าชมงานในวันสุดท้าย ซึ่งจะสามารถซื้อสินค้าราคาพิเศษจากผู้ประกอบการทั้งในและต่างประเทศ กว่า 350 ราย จึงคาดว่าจะมีผู้เข้าชมงานกว่า 18,000 ราย