ASTVผู้จัดการรายวัน-รปภ.และตำรวจศาลอาญาวิ่งไล่จับหนุ่มเมาอาละวาดก่อเหตุชกตำรวจศาล ขณะเดินทางมารอฟังคดีที่เพื่อนตกเป็นจำเลยคดียาเสพติด เบื้องต้นตรวจพบฉี่ม่วง ก่อนนำตัวไต่สวนฐานละเมิดอำนาจศาล ล่าสุดไม่รอด โดนสั่งจำคุก 5 เดือน ชี้พฤติกรรมร้ายแรง ไม่เกรงกลัวกฎหมาย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (20 พ.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ขณะที่ ร.ต.ต.สงกรานต์ ศรีสุข รอง สวป.สน.พหลโยธิน ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจประจำศาลอาญา กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณศาล ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำศาลอาญาให้ไปตรวจสอบเหตุชายมีอาการมึนเมาสร้างความวุ่นวาย บริเวณชั้น 8 อาคารศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร พบนายกษิดิศ มนตรีพาณิชย์ หรือบอย อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/19 ซอยอินทามระ 10 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีอาการมึนเมา ส่งเสียงดัง อยู่ที่หน้าห้องพิจารณาคดี 808
ร.ต.ต.สงกรานต์จึงเข้าไปสอบถาม พร้อมตักเตือนไม่ให้ส่งเสียงดังก่อความวุ่นวาย แต่นายกษิดิศกลับไม่ฟังเสียง ด่าทอและท้าทายเจ้าหน้าที่ ร.ต.ต.สงกรานต์จึงเข้าไปจับมือ เพื่อจะเชิญตัวลงไปด้านล่างอาคาร แต่กลับถูกนายกษิดิศใช้หมัดชกที่หน้าด้านซ้าย 1 ครั้ง ก่อนกลุ่มเพื่อนของนายกษิดิสจะเข้ามาล้อมไม่ให้ตำรวจจับกุม เจ้าหน้าที่ รปภ.ศาลจึงเข้าไปช่วยเหลือ ร.ต.ตสงกรานต์ ก่อนนำตัวออกไปนอกศาล
ทั้งนี้ ระหว่างที่เดินมาถึงบริเวณบันไดหน้าศาลอาญา นายกษิดิศได้ด่าทอ ร.ต.ต.สงกรานต์ อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตัดสินใจจะคุมตัวเพื่อนำตัวให้ศาลไต่สวนดำเนินคดีฐานละเมิดอำนาจศาล แต่นายกษิดิสไหวตัวทันวิ่งหลบหนีออกประตูทางเข้าศาลอาญาไปพร้อมเพื่อนวัยรุ่นอีก 2 คน ก่อนจะวิ่งข้ามถนนรัชดาภิเษกไปยังฝั่งตรงข้ามศาลอาญา ร.ต.ต.สงกรานต์พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกือบ 10 นาย จึงวิ่งไล่ไปถึงสะพานลอยหน้าศาลแขวงพระนครเหนือ กระทั่งจับกุมนายกษิดิศไว้ได้ ตรวจค้นพบกระสุนปืนขนาด .45 ม.ม. 1 นัด จึงนำตัวเข้าไปควบคุมไว้ในห้องขังใต้ถุนศาลอาญา พร้อมประสานฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน ไปตรวจสอบพร้อมตรวจปัสสาวะ พบว่ามีปัสสาวะเป็นสีม่วง แสดงว่ามีสารเสพติดในร่างกาย พร้อมเตรียมไต่สวนฐานละเมิดฐานอำนาจศาล
ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 709 ศาลไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล ที่นายสุนันท์ จาคะ หัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์ ผู้กล่าวหา นายกษิดิศ มนตรีพาณิชย์ ผู้ถูกกล่าวหา กระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาล รายงานที่เสนอต่อนายอธิป จิตต์สำเริง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ระบุว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 พ.ค.2558 ผู้ถูกกล่าวหาพร้อมเพื่อนมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีหมายเลขดำที่ อย.7580/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 2 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายศรายุทธ ละออศรี หรือเฟิร์ส และนายสุรสีห์ สว่างนพ หรือโจ๊ก เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในคดีมีแมทเอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำนวน 10 เม็ด ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกคนละ 1 ปี 9 เดือน 12 วัน ซึ่งจำเลยในคดีดังกล่าวเป็นเพื่อนของผู้ถูกกล่าวหา ระหว่างนั้นผู้ถูกกล่าวหามีอาการมึนเมา เอะอะโวยวาย เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลเข้าห้ามปราม แต่ไม่เป็นผล และชกใบหน้า ร.ต.ต.สงกรานต์ ศรีสุข 1 ครั้ง และพกเครื่องกระสุนปืนขนาด .45 มม. 1 นัด โดยศาลได้สอบถาม ร.ต.ต.สงกรานต์ให้การว่า ถูกชกที่ใบหน้าจริง ซึ่งหัวหน้า รปภ.เห็นเหตุการณ์จึงเข้าห้ามปราม แต่ถูกชกเช่นกัน แต่ไม่โดน ศาลสอบคำให้การผู้ถูกกล่าว ยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง และมีเครื่องกระสุนปืนจริง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานตำรวจประจำศาลอาญา ที่ดูแลความเรียบร้อยบริเวณศาล และนำกระสุนปืนเข้ามาในบริเวณศาล อันเป็นการขัดขืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลว่าด้วยการรักษาความสงบเรนียบร้อย หรือประพฤติตัวไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ตามประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31(1) ถือว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 33
จึงมีคำสั่งให้จำคุกนายกษิดิศ มนตรีพาณิชย์ ผู้ถูกกล่าวหา เป็นเวลา 5 เดือน ซึ่งการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ไม่สมควรรอการลงโทษ สำหรับกระสุนปืนของกลางให้ยึดไว้ และให้ผู้อำนวยการประจำศาลอาญา หรือผู้แทนของผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดี กับนายกษิดิศผู้ถูกกล่าวหา ในความผิดฐานทำร้ายร่างกาย และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 และความผิดต่อ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ ต่อพนักงานสอบสวนต่อไป โดยให้ส่งมอบของกลางดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงควบคุมไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป โดยมีกลุ่มเพื่อนหญิงและชายรวมทั้งญาติๆ มารอส่งจำนวนมาก
รายงานข่าวแจ้งว่า นายกษิดิศ เคยอยู่ในกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจสน.บางซื่่อจะสืบสวนรวบรวมหลักฐาน กรณีเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นซอยอิทามระ 10 และกลุ่มวัยรุ่นซอยอินทามระ 25 ยกพวกใช้อาวุธปืนยิงถล่มกันที่หน้าปากซอยอินทามระ 23 เหตุเกิดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2557 เวลา 19.20 น.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ (20 พ.ค.) ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ขณะที่ ร.ต.ต.สงกรานต์ ศรีสุข รอง สวป.สน.พหลโยธิน ปฏิบัติหน้าที่ตำรวจประจำศาลอาญา กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่บริเวณศาล ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำศาลอาญาให้ไปตรวจสอบเหตุชายมีอาการมึนเมาสร้างความวุ่นวาย บริเวณชั้น 8 อาคารศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร พบนายกษิดิศ มนตรีพาณิชย์ หรือบอย อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 57/19 ซอยอินทามระ 10 ถนนสุทธิสารวินิจฉัย แขวงสามเสนใน เขตพญาไท กรุงเทพมหานคร (กทม.) มีอาการมึนเมา ส่งเสียงดัง อยู่ที่หน้าห้องพิจารณาคดี 808
ร.ต.ต.สงกรานต์จึงเข้าไปสอบถาม พร้อมตักเตือนไม่ให้ส่งเสียงดังก่อความวุ่นวาย แต่นายกษิดิศกลับไม่ฟังเสียง ด่าทอและท้าทายเจ้าหน้าที่ ร.ต.ต.สงกรานต์จึงเข้าไปจับมือ เพื่อจะเชิญตัวลงไปด้านล่างอาคาร แต่กลับถูกนายกษิดิศใช้หมัดชกที่หน้าด้านซ้าย 1 ครั้ง ก่อนกลุ่มเพื่อนของนายกษิดิสจะเข้ามาล้อมไม่ให้ตำรวจจับกุม เจ้าหน้าที่ รปภ.ศาลจึงเข้าไปช่วยเหลือ ร.ต.ตสงกรานต์ ก่อนนำตัวออกไปนอกศาล
ทั้งนี้ ระหว่างที่เดินมาถึงบริเวณบันไดหน้าศาลอาญา นายกษิดิศได้ด่าทอ ร.ต.ต.สงกรานต์ อีกครั้ง เจ้าหน้าที่ตัดสินใจจะคุมตัวเพื่อนำตัวให้ศาลไต่สวนดำเนินคดีฐานละเมิดอำนาจศาล แต่นายกษิดิสไหวตัวทันวิ่งหลบหนีออกประตูทางเข้าศาลอาญาไปพร้อมเพื่อนวัยรุ่นอีก 2 คน ก่อนจะวิ่งข้ามถนนรัชดาภิเษกไปยังฝั่งตรงข้ามศาลอาญา ร.ต.ต.สงกรานต์พร้อมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเกือบ 10 นาย จึงวิ่งไล่ไปถึงสะพานลอยหน้าศาลแขวงพระนครเหนือ กระทั่งจับกุมนายกษิดิศไว้ได้ ตรวจค้นพบกระสุนปืนขนาด .45 ม.ม. 1 นัด จึงนำตัวเข้าไปควบคุมไว้ในห้องขังใต้ถุนศาลอาญา พร้อมประสานฝ่ายสืบสวน สน.พหลโยธิน ไปตรวจสอบพร้อมตรวจปัสสาวะ พบว่ามีปัสสาวะเป็นสีม่วง แสดงว่ามีสารเสพติดในร่างกาย พร้อมเตรียมไต่สวนฐานละเมิดฐานอำนาจศาล
ต่อมาเวลา 13.30 น. ที่ห้องพิจารณาคดี 709 ศาลไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล ที่นายสุนันท์ จาคะ หัวหน้าส่วนประชาสัมพันธ์ ผู้กล่าวหา นายกษิดิศ มนตรีพาณิชย์ ผู้ถูกกล่าวหา กระทำผิดฐานละเมิดอำนาจศาล รายงานที่เสนอต่อนายอธิป จิตต์สำเริง อธิบดีผู้พิพากษาศาลอาญา ระบุว่า เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 20 พ.ค.2558 ผู้ถูกกล่าวหาพร้อมเพื่อนมาฟังคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ในคดีหมายเลขดำที่ อย.7580/2554 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดียาเสพติด 2 เป็นโจทก์ ฟ้อง นายศรายุทธ ละออศรี หรือเฟิร์ส และนายสุรสีห์ สว่างนพ หรือโจ๊ก เป็นจำเลยที่ 1 และ 2 ในคดีมีแมทเอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย จำนวน 10 เม็ด ที่ศาลอุทธรณ์พิพากษาจำคุกคนละ 1 ปี 9 เดือน 12 วัน ซึ่งจำเลยในคดีดังกล่าวเป็นเพื่อนของผู้ถูกกล่าวหา ระหว่างนั้นผู้ถูกกล่าวหามีอาการมึนเมา เอะอะโวยวาย เจ้าหน้าที่ตำรวจประจำศาลเข้าห้ามปราม แต่ไม่เป็นผล และชกใบหน้า ร.ต.ต.สงกรานต์ ศรีสุข 1 ครั้ง และพกเครื่องกระสุนปืนขนาด .45 มม. 1 นัด โดยศาลได้สอบถาม ร.ต.ต.สงกรานต์ให้การว่า ถูกชกที่ใบหน้าจริง ซึ่งหัวหน้า รปภ.เห็นเหตุการณ์จึงเข้าห้ามปราม แต่ถูกชกเช่นกัน แต่ไม่โดน ศาลสอบคำให้การผู้ถูกกล่าว ยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุดังกล่าวจริง และมีเครื่องกระสุนปืนจริง
พิเคราะห์แล้วเห็นว่า ผู้ถูกกล่าวหาทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานตำรวจประจำศาลอาญา ที่ดูแลความเรียบร้อยบริเวณศาล และนำกระสุนปืนเข้ามาในบริเวณศาล อันเป็นการขัดขืนไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดของศาลว่าด้วยการรักษาความสงบเรนียบร้อย หรือประพฤติตัวไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล ตามประมวลกฎหมายวิธิพิจารณาความแพ่ง มาตรา 31(1) ถือว่าผู้ถูกกล่าวหากระทำความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล ตาม ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง มาตรา 33
จึงมีคำสั่งให้จำคุกนายกษิดิศ มนตรีพาณิชย์ ผู้ถูกกล่าวหา เป็นเวลา 5 เดือน ซึ่งการกระทำของผู้ถูกกล่าวหาไม่ยำเกรงต่อกฎหมาย ถือว่าเป็นเรื่องร้ายแรง ไม่สมควรรอการลงโทษ สำหรับกระสุนปืนของกลางให้ยึดไว้ และให้ผู้อำนวยการประจำศาลอาญา หรือผู้แทนของผู้เสียหายไปแจ้งความดำเนินคดี กับนายกษิดิศผู้ถูกกล่าวหา ในความผิดฐานทำร้ายร่างกาย และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนฯ พ.ศ.2490 และความผิดต่อ พ.ร.บ.ยาเสพติดให้โทษฯ ต่อพนักงานสอบสวนต่อไป โดยให้ส่งมอบของกลางดังกล่าวต่อพนักงานสอบสวนไว้เป็นหลักฐาน จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์จึงควบคุมไปยังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯ ต่อไป โดยมีกลุ่มเพื่อนหญิงและชายรวมทั้งญาติๆ มารอส่งจำนวนมาก
รายงานข่าวแจ้งว่า นายกษิดิศ เคยอยู่ในกลุ่มผู้ต้องสงสัยที่ตำรวจสน.บางซื่่อจะสืบสวนรวบรวมหลักฐาน กรณีเหตุการณ์กลุ่มวัยรุ่นซอยอิทามระ 10 และกลุ่มวัยรุ่นซอยอินทามระ 25 ยกพวกใช้อาวุธปืนยิงถล่มกันที่หน้าปากซอยอินทามระ 23 เหตุเกิดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ เมื่อวันที่ 15 เม.ย.2557 เวลา 19.20 น.