ASTVผู้จัดการรายวัน-อ.ก.พ.กระทรวงการคลัง มีมติไล่ออกข้าราชการซี 9 กรมสรรพการ ทุจริตคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้บริษัทผีมูลค่า กว่า 3.2 พันล้านบาท จ่อฟันเพิ่มอีก 3-4 ราย
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงของกระทรวงการคลัง ได้เสนอคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงการคลังให้ไล่ออกนายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ สรรพากรพื้นที่นราธิวาส ออกจากราชการ หลังกระทำความผิดทำให้รัฐเสียหายอย่างร้ายแรง และมีความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
กรณีดังกล่าว อ.ก.พ. กระทรวงการคลัง ได้ประชุมพิจารณาความผิดของนายสิริพงศ์ ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่งสรรพากรพื้นที่กรุงเทพฯ 22 (บางรัก) ในกรณีประพฤติมิชอบในเรื่องการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ตามคำสั่งกระทรวงการคลังให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พบว่า มีความผิดใน 4 ประการ คือ 1.ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย 2.ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 3.ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง 4.ฐานละเว้นการกระทำหรือกระทำการใดๆ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
ทั้งนี้ จากการสอบสวนอย่างละเอียดของคณะกรรมการเป็นที่ยุติว่า ได้มีกลุ่มบริษัทที่ประกอบกิจการส่งออกโลหะและแร่โลหะที่เพิ่งจดทะเบียนนิติบุคคลเป็นผู้ประกอบการจำนวน 30 ราย ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม และขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มโดยมิชอบ ในท้องที่กรุงเทพฯ 22 ซึ่งกลุ่มบริษัททั้ง 30 รายนี้ มีกรรมการหรือผู้ถือหุ้นเป็นบุคคลซ้ำกัน และใช้ที่ตั้งในการจดทะเบียนสถานประกอบการซ้ำกัน แต่ไม่ได้ประกอบการจริง และยังพบว่ากลุ่มบริษัททั้ง 30 รายนี้ ได้มีการซื้อสินค้าจากผู้ขายซ้ำรายกันจากบริษัทผู้ขาย 6 ราย ซึ่งได้ตรวจสอบแล้วไม่พบว่ากลุ่มบริษัททั้ง 6 รายนี้มีการประกอบการจริง
โดยบริษัทที่ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 30 รายนี้ ทางสำนักงานสรรพากรพื้นที่ 22 ได้จ่ายคืนภาษีมูลค่าเพิ่มไปแล้ว 25 ราย ส่วนอีก 5 ราย ได้แจ้งระงับการจ่าย เนื่องจากปรากฏข่าวการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ โดยได้มีการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนภาษีแรกให้บริษัท 25 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 339 ล้านบาท และหลังจากนั้น ผู้ถูกกล่าวหาในฐานะสรรพากรพื้นที่ 22 ได้อนุมัติให้คืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนภาษีถัดไปให้กับกลุ่มบริษัททั้ง 25 ราย อีกจำนวน 2,869 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นได้มีการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มบริษัทผู้ประกอบการส่งออกโลหะและแร่โลหะที่ไม่ได้ประกอบการจริง 3,209 ล้านบาท
"ภายในเดือนมิ.ย.นี้ จะมีข้อสรุปจาก อ.ก.พ.กระทรวงการคลัง ในเรื่องข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเรื่องการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 3-4 ราย ซึ่งถือว่าเป็นรายใหญ่ โดยหลังจากที่กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว จะส่งเรื่องกลับไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ต่อไป"นายสมหมายกล่าว
นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคลัง เปิดเผยว่า คณะกรรมการสอบสวนวินัยอย่างร้ายแรงของกระทรวงการคลัง ได้เสนอคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงการคลังให้ไล่ออกนายสิริพงศ์ ริยะการธีรโชติ สรรพากรพื้นที่นราธิวาส ออกจากราชการ หลังกระทำความผิดทำให้รัฐเสียหายอย่างร้ายแรง และมีความผิดวินัยอย่างร้ายแรง
กรณีดังกล่าว อ.ก.พ. กระทรวงการคลัง ได้ประชุมพิจารณาความผิดของนายสิริพงศ์ ซึ่งเดิมดำรงตำแหน่งสรรพากรพื้นที่กรุงเทพฯ 22 (บางรัก) ในกรณีประพฤติมิชอบในเรื่องการคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม (VAT) ตามคำสั่งกระทรวงการคลังให้ตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง พบว่า มีความผิดใน 4 ประการ คือ 1.ฐานไม่ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นไปตามกฎหมาย 2.ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ 3.ฐานกระทำการอันได้ชื่อว่าเป็นผู้ประพฤติชั่วอย่างร้ายแรง 4.ฐานละเว้นการกระทำหรือกระทำการใดๆ อันเป็นเหตุให้เสียหายแก่ราชการอย่างร้ายแรง
ทั้งนี้ จากการสอบสวนอย่างละเอียดของคณะกรรมการเป็นที่ยุติว่า ได้มีกลุ่มบริษัทที่ประกอบกิจการส่งออกโลหะและแร่โลหะที่เพิ่งจดทะเบียนนิติบุคคลเป็นผู้ประกอบการจำนวน 30 ราย ได้ยื่นแบบแสดงรายการภาษีมูลค่าเพิ่ม และขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มโดยมิชอบ ในท้องที่กรุงเทพฯ 22 ซึ่งกลุ่มบริษัททั้ง 30 รายนี้ มีกรรมการหรือผู้ถือหุ้นเป็นบุคคลซ้ำกัน และใช้ที่ตั้งในการจดทะเบียนสถานประกอบการซ้ำกัน แต่ไม่ได้ประกอบการจริง และยังพบว่ากลุ่มบริษัททั้ง 30 รายนี้ ได้มีการซื้อสินค้าจากผู้ขายซ้ำรายกันจากบริษัทผู้ขาย 6 ราย ซึ่งได้ตรวจสอบแล้วไม่พบว่ากลุ่มบริษัททั้ง 6 รายนี้มีการประกอบการจริง
โดยบริษัทที่ขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม 30 รายนี้ ทางสำนักงานสรรพากรพื้นที่ 22 ได้จ่ายคืนภาษีมูลค่าเพิ่มไปแล้ว 25 ราย ส่วนอีก 5 ราย ได้แจ้งระงับการจ่าย เนื่องจากปรากฏข่าวการขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มเป็นเท็จ โดยได้มีการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนภาษีแรกให้บริษัท 25 ราย เป็นเงินทั้งสิ้น 339 ล้านบาท และหลังจากนั้น ผู้ถูกกล่าวหาในฐานะสรรพากรพื้นที่ 22 ได้อนุมัติให้คืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มในเดือนภาษีถัดไปให้กับกลุ่มบริษัททั้ง 25 ราย อีกจำนวน 2,869 ล้านบาท รวมทั้งสิ้นได้มีการคืนเงินภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มบริษัทผู้ประกอบการส่งออกโลหะและแร่โลหะที่ไม่ได้ประกอบการจริง 3,209 ล้านบาท
"ภายในเดือนมิ.ย.นี้ จะมีข้อสรุปจาก อ.ก.พ.กระทรวงการคลัง ในเรื่องข้าราชการที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการทุจริตเรื่องการคืนภาษีมูลค่าเพิ่มอีก 3-4 ราย ซึ่งถือว่าเป็นรายใหญ่ โดยหลังจากที่กระทรวงการคลังพิจารณาแล้ว จะส่งเรื่องกลับไปที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ต่อไป"นายสมหมายกล่าว