นายสมหมาย ภาษี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะอณุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.กระทรวงคลัง) ได้พิจารณาความผิดทางวินัยของข้าราชการกรมสรรพากร 3 ราย เป็นระดับซี 9 เป็นการพิจารณาความผิดเพิ่มเติมในคดีการทุจริตขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม อ.ก.พ.มีมติให้ไล่ออกข้าราชการ ซี 9 เพิ่มเติมอีก 2 ราย หลังจากก่อนหน้านี้เคยไล่ออกไปแล้ว 1 ราย ส่วนอีกรายมีมติให้ออก ขณะที่การสอบสวนทางวินัยข้าราชการระดับต่ำกว่า ซี 9 อีก 14 ราย ยังอยู่ระหว่างการสอบของกรมสรรพากร
ข้าราชการ 3 รายล่าสุดได้กระทำความผิดร้ายแรงต่อการทุจริตคืนภาษีให้แก่เอกชน มูลค่ากว่า 3,000 ล้นบาท แต่ความผิดในครั้งนี้เกิดขึ้นโดยกลุ่มบริษัทที่ขอคืนภาษีได้ตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ และจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มประกอบการครั้งแรก ที่จังหวัดสมุทรปราการ 1 แจ้งว่าทำการส่งออกโลหะและแร่โลหะแต่ไม่ได้ทำการค้าขายส่งออกจริง โดยความผิดในการขอคืนภาษีครั้งนี้มูลค่า 1,140 ล้านบาท รวมมูลค่าความผิดทั้งสองคดีกว่า 4,000 ล้านบาท รัฐบาลจึงต้องการป้องกันดูแลการทุจริตไม่ให้เกิดขึ้นในทุกกรมจัดเก็บภาษีและหน่วยงานอื่นของกระทรวง
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ข้าราชการกรมสรรพากร 2 ราย ที่มีคำสั่งไล่ออก คือ นายป้อมเพชร วิทยารักษ์ นักวิชาการสรรพากรเชี่ยวชาญ สำนักงานภาค 7 ระดับซี 9 เคยเป็นหัวหน้าดูแลการตรวจขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับเอกชนทั้ง 7 ราย โดยไม่รักษาผลประโยชน์ของรัฐ ทั้งที่ตรวจสอบได้ว่าไม่มีการส่งออกจริงแต่กลับอนุมัติให้คืนภาษีจึงเป็นความเสียหายร้ายแรงแก่รัฐ และนายพายุ สุขสดเขียว สรรพาการพื้นที่ปัตตานี เคยดำรงตำแหน่งสรรพากรสมุทรปราการ 1 ทำหน้าที่บริหารและบังคับบัญชา โดยมีส่วนรู้เห็นต่อการกระทำความผิดดังกล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมมีคำสั่งให้ออก 1 ราย คือ นายกู้ศักดิ์ จันทราช สรรพาพื้นที่ยโสธร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนักวิชาการสรรพากรเชี่ยวชาญ มีหน้าที่ตรวจสอบสำนวนและอนุมัติการสอบยันใบกำกับภาษีซื้อ แต่กลับยุติอนุมัติการสอบยันโดยปล่อยให้คืนภาษีต่อไปจึงมีความเสียหายแก่รัฐและมีมลทินมัวหมองในกรณีการถูกสอบสวน
ข้าราชการ 3 รายล่าสุดได้กระทำความผิดร้ายแรงต่อการทุจริตคืนภาษีให้แก่เอกชน มูลค่ากว่า 3,000 ล้นบาท แต่ความผิดในครั้งนี้เกิดขึ้นโดยกลุ่มบริษัทที่ขอคืนภาษีได้ตั้งบริษัทขึ้นมาใหม่ และจดทะเบียนภาษีมูลค่าเพิ่มประกอบการครั้งแรก ที่จังหวัดสมุทรปราการ 1 แจ้งว่าทำการส่งออกโลหะและแร่โลหะแต่ไม่ได้ทำการค้าขายส่งออกจริง โดยความผิดในการขอคืนภาษีครั้งนี้มูลค่า 1,140 ล้านบาท รวมมูลค่าความผิดทั้งสองคดีกว่า 4,000 ล้านบาท รัฐบาลจึงต้องการป้องกันดูแลการทุจริตไม่ให้เกิดขึ้นในทุกกรมจัดเก็บภาษีและหน่วยงานอื่นของกระทรวง
นายรังสรรค์ ศรีวรศาสตร์ ปลัดกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ข้าราชการกรมสรรพากร 2 ราย ที่มีคำสั่งไล่ออก คือ นายป้อมเพชร วิทยารักษ์ นักวิชาการสรรพากรเชี่ยวชาญ สำนักงานภาค 7 ระดับซี 9 เคยเป็นหัวหน้าดูแลการตรวจขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่มให้กับเอกชนทั้ง 7 ราย โดยไม่รักษาผลประโยชน์ของรัฐ ทั้งที่ตรวจสอบได้ว่าไม่มีการส่งออกจริงแต่กลับอนุมัติให้คืนภาษีจึงเป็นความเสียหายร้ายแรงแก่รัฐ และนายพายุ สุขสดเขียว สรรพาการพื้นที่ปัตตานี เคยดำรงตำแหน่งสรรพากรสมุทรปราการ 1 ทำหน้าที่บริหารและบังคับบัญชา โดยมีส่วนรู้เห็นต่อการกระทำความผิดดังกล่าว
นอกจากนี้ ที่ประชุมมีคำสั่งให้ออก 1 ราย คือ นายกู้ศักดิ์ จันทราช สรรพาพื้นที่ยโสธร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนักวิชาการสรรพากรเชี่ยวชาญ มีหน้าที่ตรวจสอบสำนวนและอนุมัติการสอบยันใบกำกับภาษีซื้อ แต่กลับยุติอนุมัติการสอบยันโดยปล่อยให้คืนภาษีต่อไปจึงมีความเสียหายแก่รัฐและมีมลทินมัวหมองในกรณีการถูกสอบสวน
