ASTVผู้จัดการรายวัน - เซ็นทรัลกรุ๊ป เผยผลประกอบการห้างหรู “ลา รีนาเชนเต” ประเทศอิตาลี ไตรมาสแรกโตขึ้น 13% โดยยอดนักช้อปชาวไทยติดท๊อป 10 ของนักช้อปทั่วโลก เติบโตจากปีที่แล้ว 82% และมียอดซื้อต่อหัวมากที่สุดถึง 372 ยูโร
นางสาวยุวดี จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางกลุ่มเซ็นทรัลได้เข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้า ลา รีนาเซนเต ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าหรูอันดับ 1 ในประเทศอิตาลี เมื่อประมาณ ปี 2554 ที่ผ่านมา พบว่า การดำเนินงานเป็นไปด้วยดี โดยมั่นใจว่าผลประกอบการปีนี้มีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดีมาก
“ยอดตัวเลขผลประกอบการปีนี้มีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดีมาก จากยอดขายทั้งหมดใน ไตรมาสแรกของปีนี้ ที่มียอดขายเติบโตขึ้น 13% เมื่อเทียบกับยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ( 2557 ) โดยที่จำนวน 34% มาจากยอดขายในกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงครองอันดับ 1 ตามด้วยอันดับ 2 คือ รัสเซีย ส่วนกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวเอเชีย ญี่ปุ่น,ฮ่องกงและไต้หวันยังอยู่ในกลุ่ม ท๊อป 10 เช่นเดียวกับกลุ่มลูกค้าชาวไทย”
สำหรับปีนี้ในส่วนของกลุ่มลูกค้าชาวไทยมียอดใช้จ่ายในห้างลา รีนาเชนเต สูงขึ้นจากปีที่แล้วถึง 82% และมียอดซื้อต่อหัวสูงมากที่สุด คือ 372 ยูโร สอดคล้องกับแนวโน้มของคนไทยที่ในระยะหลังมีอัตราการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อของนักช้อปชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ในส่วนที่คนไทยเลือกไปช้อปปิ้งที่ลา รีนาเชนเตนั้น เราเชื่อว่าเป็นเพราะชาวไทยให้ความไว้วางใจในเรื่องของสินค้าและบริการของห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ที่มีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก มีความน่าเชื่อถือ รวมทั้งเรื่องโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่างๆที่มอบให้กับลูกค้าอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะลูกค้าที่เป็นสมาชิกบัตร เดอะวันการ์ดจะได้รับส่วนลด 10% นอกเหนือจากที่ได้รับ แท๊กซ์ รีฟันด์ (Tax Refund) 10% สำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอีกความแข็งแกร่งของโปรแกรม CRM ที่ทางกลุ่มเซ็นทรัลมอบสิทธิประโยชน์เหนือระดับแก่ลูกค้ามาโดยตลอด
อีกทั้งในปีนี้ยังมีแคมเปญ อินเตอร์เนชั่นแนล บอร์ดดิ้งพาส พริวิเลจ (International Boarding Pass Privilege) ซึ่งเราได้ร่วมกับการบินไทย ในการมอบสิทธิพิเศษให้ทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางไปช้อปปิ้งที่ ลา รีนาเชนเต สามารถแสดงบอร์ดดิ้งพาสคู่พาสสปอร์ต เพื่อรับบัตรส่วนลด 10% จนถึงสิ้นปีนี้อีกด้วย
นางสาวยุวดีกล่าวว่า คาดว่ายอดขายตลอดทั้งปีจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะค่าเงินยูโรยังคงอ่อนอยู่ รวมทั้งในปีนี้อิตาลีจะจัดให้มีงานใหญ่ 2 งาน คือ มิลานเอ็กซ์โป (Milan Expo) และเวนิส อาร์ท ไบเอนเนียล (Venice Art Biennial) ซึ่งน่าจะดึงดูดให้มีผู้เข้าชมงานมากกว่าล้านคน นอกจากนี้กรุงมิลานยังจัดให้มีสิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้นอยู่เสมอ ล่าสุดได้มีการเปิด ปราดา มิวเซี่ยม (Prada museum) ซึ่งถือเป็นหนึ่ง ในสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยือนประเทศอิตาลีอย่างสม่ำเสมอ
ปัจจุบันห้างสรรพสินค้า ลา รินาเซนเต มีสาขารวมทั้งสิ้น 11 แห่งทั่วทั้งอิตาลี ขณะที่สาขาใหม่ใจกลางกรุงโรมอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยมีแผนเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2560 นี้ ส่วนห้างสรรพสินค้าอิลลุม ในเดนมาร์ก ที่เซ็นทรัลกรุ๊ปได้เข้าซื้อกิจการมาตั้งแต่ปี 2556 และเริ่มโครงการปรับปรุงตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2557 โดยกำหนดระยะเวลาการดำเนินการเพื่อปรับโฉมใหม่ไว้ 5 ปี สำหรับผลประกอบการของเซ็นทรัลกรุ๊ปในปี 2557 มีประมาณ 249,500 ล้านบาท
นางสาวยุวดี จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจห้างสรรพสินค้า บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากที่ทางกลุ่มเซ็นทรัลได้เข้าซื้อกิจการห้างสรรพสินค้า ลา รีนาเซนเต ซึ่งเป็นห้างสรรพสินค้าหรูอันดับ 1 ในประเทศอิตาลี เมื่อประมาณ ปี 2554 ที่ผ่านมา พบว่า การดำเนินงานเป็นไปด้วยดี โดยมั่นใจว่าผลประกอบการปีนี้มีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดีมาก
“ยอดตัวเลขผลประกอบการปีนี้มีแนวโน้มเป็นไปในทิศทางที่ดีมาก จากยอดขายทั้งหมดใน ไตรมาสแรกของปีนี้ ที่มียอดขายเติบโตขึ้น 13% เมื่อเทียบกับยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ( 2557 ) โดยที่จำนวน 34% มาจากยอดขายในกลุ่มลูกค้าที่เป็นนักท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงครองอันดับ 1 ตามด้วยอันดับ 2 คือ รัสเซีย ส่วนกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวเอเชีย ญี่ปุ่น,ฮ่องกงและไต้หวันยังอยู่ในกลุ่ม ท๊อป 10 เช่นเดียวกับกลุ่มลูกค้าชาวไทย”
สำหรับปีนี้ในส่วนของกลุ่มลูกค้าชาวไทยมียอดใช้จ่ายในห้างลา รีนาเชนเต สูงขึ้นจากปีที่แล้วถึง 82% และมียอดซื้อต่อหัวสูงมากที่สุด คือ 372 ยูโร สอดคล้องกับแนวโน้มของคนไทยที่ในระยะหลังมีอัตราการเดินทางไปท่องเที่ยวต่างประเทศเพิ่มมากขึ้น สะท้อนให้เห็นถึงกำลังซื้อของนักช้อปชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ
ในส่วนที่คนไทยเลือกไปช้อปปิ้งที่ลา รีนาเชนเตนั้น เราเชื่อว่าเป็นเพราะชาวไทยให้ความไว้วางใจในเรื่องของสินค้าและบริการของห้างสรรพสินค้าในเครือเซ็นทรัลกรุ๊ป ที่มีมาตรฐานเดียวกันทั่วโลก มีความน่าเชื่อถือ รวมทั้งเรื่องโปรโมชั่นและสิทธิพิเศษต่างๆที่มอบให้กับลูกค้าอย่างคุ้มค่า โดยเฉพาะลูกค้าที่เป็นสมาชิกบัตร เดอะวันการ์ดจะได้รับส่วนลด 10% นอกเหนือจากที่ได้รับ แท๊กซ์ รีฟันด์ (Tax Refund) 10% สำหรับนักท่องเที่ยว ซึ่งเป็นอีกความแข็งแกร่งของโปรแกรม CRM ที่ทางกลุ่มเซ็นทรัลมอบสิทธิประโยชน์เหนือระดับแก่ลูกค้ามาโดยตลอด
อีกทั้งในปีนี้ยังมีแคมเปญ อินเตอร์เนชั่นแนล บอร์ดดิ้งพาส พริวิเลจ (International Boarding Pass Privilege) ซึ่งเราได้ร่วมกับการบินไทย ในการมอบสิทธิพิเศษให้ทั้งลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติที่เดินทางไปช้อปปิ้งที่ ลา รีนาเชนเต สามารถแสดงบอร์ดดิ้งพาสคู่พาสสปอร์ต เพื่อรับบัตรส่วนลด 10% จนถึงสิ้นปีนี้อีกด้วย
นางสาวยุวดีกล่าวว่า คาดว่ายอดขายตลอดทั้งปีจะเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะค่าเงินยูโรยังคงอ่อนอยู่ รวมทั้งในปีนี้อิตาลีจะจัดให้มีงานใหญ่ 2 งาน คือ มิลานเอ็กซ์โป (Milan Expo) และเวนิส อาร์ท ไบเอนเนียล (Venice Art Biennial) ซึ่งน่าจะดึงดูดให้มีผู้เข้าชมงานมากกว่าล้านคน นอกจากนี้กรุงมิลานยังจัดให้มีสิ่งที่น่าสนใจเกิดขึ้นอยู่เสมอ ล่าสุดได้มีการเปิด ปราดา มิวเซี่ยม (Prada museum) ซึ่งถือเป็นหนึ่ง ในสิ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางมาเยือนประเทศอิตาลีอย่างสม่ำเสมอ
ปัจจุบันห้างสรรพสินค้า ลา รินาเซนเต มีสาขารวมทั้งสิ้น 11 แห่งทั่วทั้งอิตาลี ขณะที่สาขาใหม่ใจกลางกรุงโรมอยู่ระหว่างการก่อสร้าง โดยมีแผนเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2560 นี้ ส่วนห้างสรรพสินค้าอิลลุม ในเดนมาร์ก ที่เซ็นทรัลกรุ๊ปได้เข้าซื้อกิจการมาตั้งแต่ปี 2556 และเริ่มโครงการปรับปรุงตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2557 โดยกำหนดระยะเวลาการดำเนินการเพื่อปรับโฉมใหม่ไว้ 5 ปี สำหรับผลประกอบการของเซ็นทรัลกรุ๊ปในปี 2557 มีประมาณ 249,500 ล้านบาท
