“เซ็นทรัล” เร่งสปีดตลาดยุโรป ปรับแผนลงทุนเร็วขึ้น รับค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลง ตลาดค้าปลีกและชอปปิ้งเติบโตดี ล่าสุดจะเพิ่มสาขาใหม่ของห้างลารีนาเซนเต้อีกที่ตูริน อิตาลี จากที่ไม่มีในแผนเดิม พร้อมเร่งรีโนเวตห้างอิลลุม ในเดนมาร์ก ให้เสร็จเร็วขึ้น
นายทศ จิราธิวัฒน์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท กลุ่มเซ็นทรัล จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทฯ ได้ปรับแผนธุรกิจในตลาดต่างประเทศในเชิงรุกโดยเฉพาะในยุโรป เพื่อให้สอดรับกับสถานการณ์ในขณะนี้ จากค่าเงินยูโรที่อ่อนค่าลงอย่างมากในช่วงนี้ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าไปท่องเที่ยวและชอปปิ้งในยุโรปเพิ่มมากขึ้น ส่งผลดีต่อธุรกิจค้าปลีกห้างสรรพสินค้าของกลุ่มเซ็นทรัลเองด้วยที่มีอยู่ในอิตาลี คือ ห้างลารีนาเซนเต้ ที่มียอดขายเติบโตที่ดีมาก ล่าสุดในไตรมาส 2 นี้มียอดขายเติบโตถึง 20%
ก่อนหน้านี้ เซ็นทรัลแจ้งว่ายอดขายทั้งหมดจากห้างลารีนาเซนเต้ในไตรมาสแรกของปีนี้มีอัตราการเติบโตของยอดขาย 13% เมื่อเทียบกับยอดขายในช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (2557) โดยที่จำนวน 34% มาจากยอดขายในกลุ่มลูกค้าที่เป็นนัก ท่องเที่ยว ซึ่งนักท่องเที่ยวชาวจีนยังคงครองอันดับ 1 ตามด้วยอันดับ 2 คือ รัสเซีย ส่วนกลุ่มลูกค้านักท่องเที่ยวเอเชีย ญี่ปุ่น, ฮ่องกง และไต้หวันยังอยู่ในกลุ่มท็อป 10 เช่นเดียวกับกลุ่มลูกค้าชาวไทย สำหรับปีนี้ ในส่วนของกลุ่มลูกค้าชาวไทยมียอดใช้จ่ายในห้างลารีนาเซนเต้สูงขึ้นจากปีที่แล้วถึง 82% และมียอดซื้อต่อหัวสูงมากที่สุด คือ 372 ยูโร
นายทศกล่าวว่า บริษัทฯ เตรียมที่จะลงทุนเปิดสาขาใหม่ที่อยู่นอกเหนือจากแผนเดิม คือ การลงทุนเปิดห้างลารีนาเซนเต้แห่งใหม่ที่เมืองตูริน ซึ่งเป็นเมืองหลวงเก่าของอิตาลีเพื่อรับตลาดที่เติบโตดี แต่เมืองตูรินยังไม่มีห้างสรรพสินค้าชั้นดีเปิดบริการเลย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการเตรียมการ โดยจะทำการเช่าอาคารพื้นที่ประมาณ 10,000 ตารางเมตร จากเดิมที่ห้างสรรพสินค้าลารีนาเซนเต้มีสาขารวมทั้งสิ้น 11 แห่งทั่วทั้งอิตาลี
ส่วนสาขาใหม่ตามแผนเดิมคือ ใจกลางกรุงโรม ยังอยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2560
นายทศย้ำว่า สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวที่นิยมเข้าไปท่องเที่ยวในประเทศอิตาลี ส่วนใหญ่ยังคงเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวจีนซึ่งมีจำนวนมากและเพิ่มขึ้นมากถึง 200% ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวไทยก็เข้าไปท่องเที่ยวในประเทศอิตาลีเพิ่มขึ้น 60-80%
ส่วนค้าปลีกที่ประเทศเดนมาร์กที่เซ็นทรัลซื้อกิจการห้างอิลลุมเมื่อปี 2556 นั้นก็มีแผนที่จะเร่งทำการรีโนเวตให้เสร็จเร็วขึ้นกว่าแผนเดิม คาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมปีนี้ เพื่อเติมเต็มความแข็งแกร่งในยุโรป
สำหรับความคืบหน้าที่เซ็นทรัลเจรจาซื้อกิจการห้างค้าปลีกในเยอรมนีนั้นยังไม่สรุป ยังอยู่ระหว่างเจรจาขั้นสุดท้าย
ขณะที่ในตลาดเอเชียที่เซ็นทรัลขยายธุรกิจเข้าไปด้วยการเปิดทั้งห้างเซ็นทรัลและห้างโรบินส์ รวมทั้งการไปลงทุนในอินโดนีเซียด้วยการเช่าพื้นที่ฝั่งตะวันออกของศูนย์การค้า แกรนด์ อินโดนีเซีย ชอปปิ้งคอมเพล็กซ์ ของบริษัท พีที แกรนด์ อินโดนีเซีย ที่กรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เปิดห้างเซ็นทรัลจำนวน 4 ชั้น รวมพื้นที่ทั้งสิ้น 21,000 ตารางเมตร โดยใช้เงินลงทุนกว่า 600 ล้านบาท และเปิดบริการแล้วไม่นานนี้
นายทศกล่าวว่า ที่อินโดนีเซียเพิ่งเริ่มต้นเปิดบริการ ก็อาจจะยังไม่ค่อยดี ยังต่ำกว่าเป้าหมายเล็กน้อย ส่วนที่เวียดนามเติบโตดีมาก
ขณะที่การดำเนินธุรกิจในประเทศไทยนั้น นายทศกล่าวว่า ทุกอย่างยังคงเป็นไปตามแผนงานเดิม ไม่ได้มีการชะลอแต่อย่างใด และยังมีความมั่นใจต่อศักยภาพของประเทศแม้จะมีปัญหาในช่วงที่ผ่านมาแต่ขณะนี้ก็เริ่มปรับตัวในทางที่ดีขึ้นเรื่อยๆ ซึ่งล่าสุดได้เปิดบริการเซ็นทรัล ระยอง เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา และจากนี้ไปก็เตรียมที่จะเปิดบริการเซ็นทรัลเวสต์เกตบางใหญ่
ทั้งนี้ กลุ่มเซ็นทรัลมั่นใจว่าภายในสิ้นปี 2558 นี้จะมีรายได้รวมทั้งกลุ่มประมาณ 286,680 ล้านบาท หรือมีอัตราการเติบโต 15% จากปี 2557 ที่ผลประกอบการของเซ็นทรัลกรุ๊ปมีประมาณ 249,500 ล้านบาท ตรงตามเป้าหมายที่วางไว้ตั้งแต่แรก