เมืองไทยยอดฮิต!!!ติดแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีน

กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เผยไตรมาสแรกปี 58 การท่องเที่ยวไทยขยายตัวต่อเนื่องรับปีท่องเที่ยววิถีไทย ขึ้นแท่นแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอันดับ 1 ของชาวจีน รายได้เฉพาะเดือน ม.ค.นำเงินเข้าประเทศกว่า 1.2 แสนล้าน เพิ่มขึ้น 7.84%

ว่าที่ร้อยตรีอานุภาพ เกษรสุวรรณ์ อธิบดีกรมการท่องเที่ยว กล่าวถึงสถานการณ์และทิศทางการท่องเที่ยวในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 ว่า หลังจากที่รัฐบาลผลักดันให้ปีนี้เป็นปีแห่งการท่องเที่ยววิถีไทย การท่องเที่ยวของไทยช่วง 3 เดือนแรกของปี 2558 มีอัตราการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยในเดือนมกราคม มีจำนวนนักท่องเที่ยว 2,654,634 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 16.30% ขณะที่เดือนกุมภาพันธ์ มีจำนวน 2,689,492 คน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 29.60% และในช่วง 13 วันแรกของเดือนมีนาคม จำนวน 1,098,822 คน ขยายตัวเพิ่มขึ้น 27.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

“ตอนนี้ประเทศไทยกำลังเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของชาวจีน เพราะจากสถิติการท่องเที่ยวในช่วงเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ 2558 พบว่า ไทยเป็นประเทศที่นักท่องเที่ยวชาวจีนให้ความสนใจสูงสุดเป็นอันดับหนึ่ง โดยนักท่องเที่ยวกลุ่มใหม่ๆ ของจีนมีแนวโน้มที่จะขยายตัวเพิ่มขึ้น และสนใจเดินทางท่องเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น จากเดิมที่นักท่องเที่ยวชาวจีนที่มาเที่ยวเมืองไทยส่วนใหญ่เลือกใช้บริการของบริษัททัวร์เป็นหลัก ขณะที่นักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นก็ให้ความสนใจประเทศไทยเป็นอันดับที่ 5 โดยสนใจเที่ยวในจังหวัดที่เป็นเมืองรองมากขึ้น”

“นอกจากนั้นยังพบว่าในช่วงเทศกาลตรุษจีนปีนี้ กรุงเทพฯ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่นักท่องเที่ยวทั้งชาวจีน เกาหลี และนักท่องเที่ยวเอเชีย นิยมมาท่องเที่ยวมากที่สุด โดยนักท่องเที่ยวชาวจีนนิยมเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่เป็นอันดับ 2 ตามด้วยจังหวัดภูเก็ตเป็นอันดับ 3 ส่วนนักท่องเที่ยวเกาหลีนิยมเที่ยวที่เมืองโอซากาเป็นอันดับ 2 และฮ่องกงเป็นอันดับ 3 ขณะที่นักท่องเที่ยวเอเชียนิยมเที่ยวที่เมืองกัวลาลัมเปอร์เป็นอันดับ 2 และสิงคโปร์เป็นอันดับ 3 ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องที่น่าภูมิใจและเราต้องพยายามรักษาอันดับของเราไว้” อธิบดีกรมการท่องเที่ยวกล่าว

นอกจากนั้น สถิติการท่องเที่ยวในเดือนมกราคม 2558 พบว่า นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาเที่ยวประเทศไทยมากที่สุด 10 อันดับแรกได้แก่ จีน รองลงมาคือ มาเลเซีย เกาหลี รัสเซีย ญี่ปุ่น ลาว สหราชอาณาจักร (อังกฤษ) สหรัฐอเมริกา อินเดีย และเยอรมนี ตามลำดับ อย่างไรก็ตาม เป็นที่สังเกตว่า นักท่องเที่ยวรัสเซียที่มาประเทศไทยสูงสุดเป็นอันดับ 4 มีจำนวน 145,605 คน เป็นอัตราที่ติดลบ 45.97% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากมีปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ ส่งผลให้ภาพรวมนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคยุโรปติดลบตามไปด้วย ในอัตราติดลบ 14.32% หรือมีจำนวน 727,462 คน ขณะที่กลุ่มโอเชียเนีย ได้แก่ ประเทศออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ มีจำนวน 81,695 คน ติดลบ 6.43% อย่างไรก็ตาม นักท่องเที่ยวจากภูมิภาคเอเชียตะวันออก ที่มีจำนวนมากถึง 1,545,683 คน เป็นอัตราที่ขยายตัวสูงถึง 43.25% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน ทำให้สถานการณ์ท่องเที่ยวโดยรวมของเดือนมกราคมขยายตัว

สำหรับรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาเที่ยวประเทศไทย เฉพาะในช่วงเดือนมกราคม 2558 นั้นสูงถึง 124,198.39 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.84% จากเดือนเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้ 115,167 ล้านบาท โดย 5 อันดับแรก ได้แก่ รายได้จากนักท่องเที่ยวเอเชียตะวันออก อยู่ที่ 54,432 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 42.69% จากเดือนเดียวกันของปีก่อน รองลงมา ได้แก่ นักท่องเที่ยวยุโรป 47,907 ล้านบาท ลดลง 14.78% ตามด้วยนักท่องเที่ยวจากทวีปอเมริกา 8,442 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.42% นักท่องเที่ยวจากทวีปโอเชียเนีย 5,386 ล้านบาท ลดลง 6.59% และนักท่องเที่ยวจากเอเชียใต้ 4,045 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 18.61%

ทั้งนี้ ในปี 2558 มีเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 29 ล้านคน นำรายได้เข้าประเทศ 1.4 ล้านล้านบาท นักท่องเที่ยวภายในประเทศ 139 ล้านคน/ครั้ง สร้างรายได้ 800,000 ล้านบาท จะเกิดรายได้รวม 2.2 ล้านล้านบาท จากที่ในปี 2557 มีนักท่องเที่ยวต่างประเทศ 24.7 ล้านคน นำรายได้เข้าประเทศ 1.13 ล้านล้านบาท และนักท่องเที่ยวในประเทศ 136.2 ล้านคน สร้างรายได้ 680,000 ล้านบาท เกิดรายได้รวม 1.81 ล้านล้านบาท
* * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * * *

สามารถส่งข้อมูลข่าวสารด้านการท่องเที่ยว-อาหารมาได้ที่ กอง บก.ข่าวท่องเที่ยว แฟกซ์ 0-2629-4467 อีเมล travel_astvmgr@hotmail.com