การรณรงค์ของภาคประชาชนกลุ่มหนึ่งที่กำหนดวันที่ 7-11 พฤษภาคม เป็นสัญลักษณ์ในการปลุกระดมให้ประชาชนงดเข้าร้านสะดวกซื้อ 7-ELEVEN นัยว่าเพื่อเป็นการต่อต้านและสั่งสอนเจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ ที่เป็นเจ้าของเครือ CP ที่ทำธุรกิจเอารัดเอาเปรียบสังคมไทย แบบใช้ทุนใหญ่คืบคลานครอบงำกิจการค้าในแทบทุกด้าน โดยปิดกั้นและทำลายวิถีทางในการทำมาหากินของคนเล็กคนน้อยอย่างไร้คุณธรรม ดังที่มูลนิธิคุ้มครองผู้บริโภค ได้เคยออกแถลงการณ์เปิดโปงและประณาม รวมทั้งได้สนับสนุนการรณรงค์ต่อต้านเชิงสัญลักษณ์ในครั้งนี้ด้วย
ก่อนการรณรงค์ 7-11 พฤษภาคมครั้งนี้ไม่กี่วัน ผมได้เคยเขียนระบายความรู้สึกเป็นบทกลอนสั้นๆ 4 บรรทัดว่า
“สะดวกซื้อสะดวกขาย
สะดวกจ่ายสบายดี
แมคโคร โลตัส เซเว่น ซีพี
กัดกลืนวิถี ชีวิตไทยไทย”
ผมจึงเห็นด้วยกับการต่อต้านครั้งนี้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการหันหลังให้กับร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-อีเลฟเว่น พร้องทั้งกำหนดตัวเองเป็นผู้สังเกตการณ์และติดตามผลปรากฏการณ์ของสังคมไทย ในช่วง 7-11 พฤษภาคมแบบใจจดใจจ่อ โดยร่วมสื่อสารในสังคมโซเชียลมีเดียมาโดยตลอด
วันแรก
“มาชวนกันงดซื้อของเซเว่น
ให้เป็นสัญลักษณ์หักเจ้าสัว
ให้ยักษ์คิดลดความเห็นแก่ตัว
แตกรังมดให้ยักษ์กลัวสักห้าวัน”
วันที่สอง
“วันที่สองของฝูงมด
ยังไม่หมดแรงตอมไต่
สมุนยักษ์ดิ้นชักใย
ชี้แจงให้ยักษ์ดูดี
มดต้องไม่หมดแรง
แตกรังมดเข้าราวี
เซเว่นยักษ์ซีพี
ให้รู้ดีรู้ชั่วกัน”
วันที่สาม ( มีหลายคนออกมาชี้แจงแทน CP)
“เพราะคนไม่ “เพียงพอ”
จึงสอพลอทุนสามานย์
เงินง้างวิชาการ
แลกเศษทาน ทาสนายทุน”
วันที่สี่
“วันที่สี่เซเว่นยังไม่สะเทือน
ฝูงมดยังขับเคลื่อนยังขับขาน
ยักษ์ใหญ่คล้ายกังวลคล้ายลนลาน
ออกอาการเสียวสั่นหวั่นฝูงมด!”
วันที่ห้า
“ห้าวันเซเว่นไม่หวือหวา
ฝูงมดเริงร่าฝ่าทุนร้อน
หากยักษ์ใหญ่ไร้สำนึกไม่อาทร
จากห้าวันอาจสัญจรไม่จบเกม”
การรณรงค์งดซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อ 5 วันผ่านพ้นไปแล้ว ผมเชื่อว่าทุนใหญ่มหึมาอย่างเครือ CP และเจ้าสัวระดับเศรษฐีติดอันดับโลกอย่างนายธนินท์ เจียรวนนท์ แม้จะไม่สะดุ้งสะเทือนต่อผลกำไรทางธุรกิจที่มีเครือข่ายมหาศาล แต่อย่างน้อยที่สุดในแง่ของภาพลักษณ์และความรู้สึกต่ออารมณ์ทางสังคม น่าจะส่งผลให้เจ้าสัวและเครือ CP ต้องหยุดคิดบ้างไม่มากก็น้อย
ในฐานะของผู้บริโภคคนหนึ่งในสังคมไทย ผมก็จะจับตาดูปรากฏการณ์ทางสังคมต่อๆ ไป
และขอปิดท้ายบทความด้วยบทกวีที่เขียนแสดงความรู้สึกไว้นานมาแล้วก่อนหน้านี้ครับ
“เกษตรไทย ในอุ้งมือซีพี”
ทุนใหญ่ไล่ตะปบครบวงจร
หมู ไก่ ปลา ถูกป้อนเหยื่อน้อยใหญ่
พันธุ์สัตว์พันธุ์พืชเกษตรไทย
ล้วนอยู่ในอุ้งมือชื่อ ซีพี
องค์กรยักษ์ใหญ่ นายทุนใหญ่
ที่ควบคุมกลไกประเทศนี้
แค่กดปุ่มหยุดผลิตในทันที
คนไทยอาจไม่มีอาหารกิน
จากไก่เนื้อไก่ไข่ไก่ซีพี
บัดนี้คลุมทุกวิถีเกษตรสิ้น
มดแมลงหนอนไส้เดือนทั้งแดนดิน
คล้ายสัตว์เลี้ยงเชื่องชินของซีพี
ส่วนชาวนาชาวไร่ผู้ยากไร้
ล้วนลูกจ้างหรือไม่ก็ลูกหนี้
ก้มหน้าพลิกพื้นปฐพี
ตามทุนใหญ่เสกวิถีและชี้นิ้ว
สังคมปลาใหญ่กินปลาเล็ก
ทุนสามานย์ปลุกเสกทุกพื้นผิว
ทุนใหญ่ปักหลักปักธงทิว
ทุนเล็กก็ปลิดปลิวเป็นทาสทุน
ว.แหวนลงยา
ก่อนการรณรงค์ 7-11 พฤษภาคมครั้งนี้ไม่กี่วัน ผมได้เคยเขียนระบายความรู้สึกเป็นบทกลอนสั้นๆ 4 บรรทัดว่า
“สะดวกซื้อสะดวกขาย
สะดวกจ่ายสบายดี
แมคโคร โลตัส เซเว่น ซีพี
กัดกลืนวิถี ชีวิตไทยไทย”
ผมจึงเห็นด้วยกับการต่อต้านครั้งนี้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์ และเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการหันหลังให้กับร้านสะดวกซื้อ เซเว่น-อีเลฟเว่น พร้องทั้งกำหนดตัวเองเป็นผู้สังเกตการณ์และติดตามผลปรากฏการณ์ของสังคมไทย ในช่วง 7-11 พฤษภาคมแบบใจจดใจจ่อ โดยร่วมสื่อสารในสังคมโซเชียลมีเดียมาโดยตลอด
วันแรก
“มาชวนกันงดซื้อของเซเว่น
ให้เป็นสัญลักษณ์หักเจ้าสัว
ให้ยักษ์คิดลดความเห็นแก่ตัว
แตกรังมดให้ยักษ์กลัวสักห้าวัน”
วันที่สอง
“วันที่สองของฝูงมด
ยังไม่หมดแรงตอมไต่
สมุนยักษ์ดิ้นชักใย
ชี้แจงให้ยักษ์ดูดี
มดต้องไม่หมดแรง
แตกรังมดเข้าราวี
เซเว่นยักษ์ซีพี
ให้รู้ดีรู้ชั่วกัน”
วันที่สาม ( มีหลายคนออกมาชี้แจงแทน CP)
“เพราะคนไม่ “เพียงพอ”
จึงสอพลอทุนสามานย์
เงินง้างวิชาการ
แลกเศษทาน ทาสนายทุน”
วันที่สี่
“วันที่สี่เซเว่นยังไม่สะเทือน
ฝูงมดยังขับเคลื่อนยังขับขาน
ยักษ์ใหญ่คล้ายกังวลคล้ายลนลาน
ออกอาการเสียวสั่นหวั่นฝูงมด!”
วันที่ห้า
“ห้าวันเซเว่นไม่หวือหวา
ฝูงมดเริงร่าฝ่าทุนร้อน
หากยักษ์ใหญ่ไร้สำนึกไม่อาทร
จากห้าวันอาจสัญจรไม่จบเกม”
การรณรงค์งดซื้อสินค้าในร้านสะดวกซื้อ 5 วันผ่านพ้นไปแล้ว ผมเชื่อว่าทุนใหญ่มหึมาอย่างเครือ CP และเจ้าสัวระดับเศรษฐีติดอันดับโลกอย่างนายธนินท์ เจียรวนนท์ แม้จะไม่สะดุ้งสะเทือนต่อผลกำไรทางธุรกิจที่มีเครือข่ายมหาศาล แต่อย่างน้อยที่สุดในแง่ของภาพลักษณ์และความรู้สึกต่ออารมณ์ทางสังคม น่าจะส่งผลให้เจ้าสัวและเครือ CP ต้องหยุดคิดบ้างไม่มากก็น้อย
ในฐานะของผู้บริโภคคนหนึ่งในสังคมไทย ผมก็จะจับตาดูปรากฏการณ์ทางสังคมต่อๆ ไป
และขอปิดท้ายบทความด้วยบทกวีที่เขียนแสดงความรู้สึกไว้นานมาแล้วก่อนหน้านี้ครับ
“เกษตรไทย ในอุ้งมือซีพี”
ทุนใหญ่ไล่ตะปบครบวงจร
หมู ไก่ ปลา ถูกป้อนเหยื่อน้อยใหญ่
พันธุ์สัตว์พันธุ์พืชเกษตรไทย
ล้วนอยู่ในอุ้งมือชื่อ ซีพี
องค์กรยักษ์ใหญ่ นายทุนใหญ่
ที่ควบคุมกลไกประเทศนี้
แค่กดปุ่มหยุดผลิตในทันที
คนไทยอาจไม่มีอาหารกิน
จากไก่เนื้อไก่ไข่ไก่ซีพี
บัดนี้คลุมทุกวิถีเกษตรสิ้น
มดแมลงหนอนไส้เดือนทั้งแดนดิน
คล้ายสัตว์เลี้ยงเชื่องชินของซีพี
ส่วนชาวนาชาวไร่ผู้ยากไร้
ล้วนลูกจ้างหรือไม่ก็ลูกหนี้
ก้มหน้าพลิกพื้นปฐพี
ตามทุนใหญ่เสกวิถีและชี้นิ้ว
สังคมปลาใหญ่กินปลาเล็ก
ทุนสามานย์ปลุกเสกทุกพื้นผิว
ทุนใหญ่ปักหลักปักธงทิว
ทุนเล็กก็ปลิดปลิวเป็นทาสทุน
ว.แหวนลงยา
