xs
xsm
sm
md
lg

"บิ๊กตู่"แนะชาวนารวมกลุ่มเพิ่มอำนาจต่อรอง ซัด"ไอ้หมา"แปลงสารทำคนสับสนพระราชดำรัส

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-"บิ๊กตู่”เห็นใจชาวนา เกิดมาไม่เห็นรวย แนะต้องรวมกลุ่มเพิ่มอำนาจต่อรอง ย้ำเดินตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง สุดทนซัด "ไอ้หมา" แปลงสาร ทำคนสับสนพระราชดำรัส แจงต้องแยกให้ออกเรื่องพอเพียง-ประหยัด วอนทุกคนร่วมมือ เพื่ออนาคตชาติ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 16.00 น. วานนี้ (13พ.ค.) ที่อิมแพคเมืองทองธานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “เกษตรกรก้าวหน้า พัฒนาการเกษตรไทย” ในการสัมมนา “เตรียมความพร้อมเกษตรกรไทย เริ่มต้นใหม่ฤดูการผลิต” เนื่องในวันเกษตรกรแห่งชาติ

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า อยากให้เกษตรกรได้ฟังในสิ่งที่ตัวเองพูด ซึ่งวันนี้มาพูดใน 3 สถานะ คือ 1.ในฐานะนายกฯ ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง บอกกันให้รู้ตรงนี้เลย ดังนั้น ตนไม่ต้องการคะแนนเสียงใดๆ ทั้งสิ้น 2.ในฐานะที่เคยเป็น ผบ.ทบ. เคยอยู่ชายแดนและอยู่ในพื้นที่ทำการเกษตรมาเกือบ 30 ปี 3.ในฐานะที่ครอบครัว ตั้งแต่ ปู ย่า ตา ยาย เป็นเกษตรกร ทั้งนี้ จากการเป็นทหารได้มีประสบการณ์ทำให้ตนได้มีวันนี้ และมีโอกาสมาพูดกับเกษตรกรวันนี้เป็นเรื่องน่ายินดี

"ได้ไปร่วมงานพระราชพิธีแรกนาขวัญ เห็นทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอว่าพระโคจะกินอะไร ซึ่งพระโคกินหญ้า ทำให้อุดมสมบูรณ์ น้ำก็ดี แต่อาจจะมากไปนิดหนึ่ง พระโคก็ว่าไป แต่คนต้องฉลาดกว่าพระโค ต้องแก้ไขปัญหาให้ได้ สิ่งนั้นเป็นพิธีที่ปฏิบัติมาโดยตลาด ซึ่งเราก็ต้องเชื่อถือ และคนไทยเชื่อในหลายๆ อย่าง ยกเว้นผู้ปกครอง จะเชื่อบางคนบางพวก แต่รัฐบาลวันนี้ตั้งใจอย่างเต็มที่ ผมเคยอยู่สนามชายแดนไปเยี่ยมชาวบ้าน ยามฤดูนาก็เอาทหารไปช่วยเกี่ยวข้าว ทำให้ชาวบ้านมีความสุข แต่พอถึงหน้าแล้งผมไม่รู้ว่าชาวนาจะหาเงินที่ไหน ผมคิดอยู่เสมอตั้งแต่เป็นร้อยโทร้อยเอก ถ้าให้ผมเป็นชาวนาวันหนึ่ง 10 บาท ผมก็ไม่รู้ว่าจะหามาจากไหน แล้วชาวนาจะหาเงินจากไหนมาใช้ ผมคิดอย่างนั้น วันนี้เมื่อผมมีโอกาสก็อยากถ่ายทอดความคิดว่าเราจะต้องร่วมมือและทำอย่างไรกันต่อไป"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ตนไม่เคยเห็นชาวนาที่ไหนรวย เว้นแต่ไม่สุจริต วันนี้ไม่อยากให้ชาวนามีความรู้สึกไม่ภาคภูมิใจในอาชีพของตัวเอง วันนี้เกษตรกรต้องนึกถึงห่วงโซ่การผลิตและการขายให้เกิดความต่อเนื่อง ต้องสร้างวงจรขึ้นมาเอง ซึ่งเรามีระบบสหกรณ์อยู่แล้ว 7 ประเภท ตนสั่งการให้ไล่ดูว่ามีคุณภาพแค่ไหน หลายสหกรณ์ดีมาก แต่หลายสหกรณ์ล้มเหลว ตนจะต้องจริงจังกับเรื่องเหล่านี้ เพราะหากเราไม่สร้างความเข้มแข็งให้กับตัวเอง ก็จะสร้างห่วงโซ่เกษตรกรเองไม่ได้ และก็จะไปโทษบรรดาพ่อค้าคนกลางหรือบริษัทใหญ่ที่มาผูกขาด ตรงนี้อย่าไปโทษกัน เพราะประเทศไทยมีระบบการค้าเสรี แต่เรากลับปิดตัวเองเป็นเพียงผู้ผลิตอย่างเดียว

"วันนี้ไม่ได้แล้ว เราต้องเป็นทั้งผู้ผลิตและผู้รู้ทางการค้า สามารถกำหนดราคาเองได้ และขยายเป็นเอสเอ็มอี อย่าให้เขามาควักจากท่านไปโดยตรง เพราะจะทำให้ตรงกลางหายไป ต้องสร้างตรงนี้ไว้ เพื่อสร้างอำนาจการต่อรอง คงไม่มีใครเคยพูดกับพวกท่านแบบนี้ เพราะมีหลายอย่างที่ทับซ้อนกันอยู่ แต่ผมไม่ต้องการประโยชน์อะไรแม้แต่สลึงเดียว ไม่เคยคิด ที่เข้ามาพยายามใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า และอยากบอกว่าทุกอย่างที่ผ่านมาของประเทศไทยมีปัญหาเชิงโครงสร้าง เชิงบริหารราชการ เชิงความสุจริต"

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ส่วนเรื่องการเมือง เราเป็นประเทศประชาธิปไตยจะฝืนสากลโลกไม่ได้ เพราะเราเลือกแล้ว แต่ประชาธิปไตยแบบไหนที่จะลดความเหลื่อมล้ำ ไม่มีความแตกต่างกันมากนัก แต่จะให้ท่านร่ำรวยเหมือนเศรษฐีอื่นๆ คงไม่ได้ แต่ท่านจะมีความสุขภายใต้เศรษฐกิจพอเพียงตามแนวคิดของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว คือ มีชีวิตอย่างมีความสุขด้วย 3 ห่วง 2 เงื่อนไข คือ มีเหตุผล พอประมาณ มีภูมิคุ้มกันที่ดี ภายใต้ความรู้คู่คุณธรรม เราต้องพอใจตัวนี้ ไม่ได้สอนให้ทุกคนประหยัด

"พอพูดคำนี้ขึ้นมา ทุกคนไปโทษพระเจ้าอยู่หัวว่าสอนให้คนเป็นคนจน เหมือนไอ้หมาบางคนที่พูด ผมขออนุญาตใช้คำแรง จะผิดกฎหมายหรือไม่ก็ไม่รู้ แต่พระองค์ท่านสอนให้ทุกคนรู้จักการประมาณตัวเอง ต้องใช้เงินอย่างพอเพียง มีมากใช้มากมีน้อยใช้น้อย" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

นายกฯ กล่าวอีกว่า การประหยัดเป็นพระราชดำรัสอีกวาระหนึ่ง พระองค์ท่านทรงบอกว่าต้องเก็บออมมีทุนเพื่อดูแลตัวเอง ซึ่งเป็นคนละเรื่องกับคำว่าพอเพียง ถ้าเอา 2 อย่างมารวมกันจะไปไม่ได้ พระองค์ท่านทรงรับสั่งให้คนแต่ละคนแต่ละฐานะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข ต้องเผื่อแผ่แบ่งกัน มีคุณธรรม รู้สิ่งไหนดีหรือไม่ดี ถ้าดีก็ทำ จะได้เกิดประโยชน์แก่ตัวเองและลูกหลาน คนอื่นก็จะไม่เดือดร้อนจากเรา และถ้ารวมกันได้ เป็นหมู่บ้าน ตำบล ก็จะเป็นหมู่บ้านแห่งจริยธรรม ก็จะทำให้ไม่มีเรื่องอาชญากรรม ยาเสพติดเข้ามา เป็นการดูแลกันเอง เรียกว่าการกระจายอำนาจ ซึ่งจะต้องเริ่มจาก การกระจายความรับผิดชอบ ไม่ใช่ให้ปกครองตัวเองทั้งหมด หรือให้งบประมาณไปทั้งหมด

"วันนี้เราต้องร่วมมือกันเพื่อนำไปสู่อนาคตที่ดี เพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยเดินไปกับตน ซึ่งตนมีเวลาแค่ไหนก็ทำได้แค่นั้น แต่สิ่งที่วางไว้เป็นสิ่งที่ทุกคนน่าจะนำไปทำต่อ ถ้าไม่มีการทำต่อค่อยไปว่าเขา ดังนั้น วันนี้อย่าไปฟังการบิดเบือนพูดจาซักจูง ท่านจะต้องเข้มแข็งด้วยตัวเอง ถ้าเกษตรกรไม่เข้มแข็ง ไม่รวมกลุ่ม ไม่มีสหกรณ์ ก็จะไม่มีวันเข้มแข็งได้และจะถูกตีแตกอยู่แบบนี้"

พล.อ.ประยุทธ์ยกตัวอย่างว่า อย่างเช่นวันนี้เกษตรกรชาวสวนยางมีหลายกลุ่ม เวลาคุยกับรัฐบาล ก็มาไม่ครบ ทำให้เกิดปัญหาในเรื่องความเห็นในการเจรจากับรัฐบาล ซึ่งถ้าเป็นแบบนี้จะไปไม่ได้ รัฐบาลจะเอาเงินจากไหน เพราะวันนี้รัฐบาลพยายามทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เงินรั่วไหล ถ้ามีการรั่วไหลขอให้ส่งหลักฐานมา ข้าราชการคนไหนก็จะไม่ละเว้น จะเอาติดคุกทันที แต่ถ้าพูดมาลอยๆ หรือโพสต์ผ่านโซเชี่ยล ก็ไม่รู้จะเอาอะไรไปตรวจสอบ ดังนั้น ทุกคนต้องช่วยกันเป็นหูเป็นตา เพราะถ้าไม่ร่วมมือกันก็จะเป็นปัญหาแบบเดิม

"ยืนยันว่าสิ่งที่ตนทำไม่ใช่ประชานิยม แต่ต้องการลดความเดือดร้อน เพราะคนต้องกินและใช้ต้องอยู่ ประเทศชาติต้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจระดับร่าง เมื่อพี่น้องไม่มีเงินรัฐบาลก็ต้องหาเงินไปให้ แต่ต้องเป็นลักษณะการชดเชย ซึ่งตรงนี้ก็ต้องถามว่าพวกท่านได้เงินจริงหรือไม่ ถ้าไม่ได้แสดงว่ามีปัญหา และตนไม่สามารถช่วยพวกท่านได้ทั้งหมด และไม่สามารถโยนเงินลงไปแล้วหาย ทำอย่างนั้นไม่ได้ ฉะนั้นขอให้ร่วมมือกัน รัฐบาลต่อไปถ้าเอาเงินมาให้ก็ต้องถามด้วยว่าเอาเงินมาจากไหน เพราะวันนี้ที่รัฐบาลมาเริ่มต้นทำงานเงินได้หมดไปแล้ว เพราะเงินได้ถูกใช้ล่วงหน้าไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา นโยบายโครงการรับจำนำข้าวและโครงการรถยนต์คันแรก ได้สร้างความเสียหายให้กับประเทศอย่างมาก นั้นเป็นสิ่งที่พวกท่านเลือก เราถึงต้องตามแก้อยู่ถึงทุกวันนี้"พล.อ.ประยุทธ์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น