xs
xsm
sm
md
lg

คาดหุ้นไทยแตะจุดต่ำสุดมิ.ย.ก่อนขยับขึ้นครึ่งปีหลัง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ผู้จัดการตลาดหุ้นไทย ยันหุ้นไทยปรับฐานช่วงสั้น เชื่อจะทดสอบระดับต่ำสุดที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 1,400 จุด ก่อนจะเริ่มปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง โดยเฉพาะกลุ่มผู้ส่งออกที่ได้รับอานิสงส์จากเงินบาทอ่อนค่า ด้านโบรกเกอร์ประสานเสียงดัชนีทดสอบระดับต่ำสุดในเดือนม.ย.นี้ มีโอกาสแตะระดับต่ำสุด 1,450 จุด ก่อนปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง เป้าหมายที่ 1,620 จุด

นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) กล่าวถึง ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวลดลงในช่วงที่ผ่านมา ว่า ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในช่วงสั้นเท่านั้น ซึ่งเกิดจากนักลงทุนรอพิจารณาผลประกอบการไตรมาส 1/58 ทั้งกลุ่มธนาคารพาณิชย์ที่เริ่มมีการกันสำรองมากขึ้น และกลุ่มพลังงานที่ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ซึ่งจะกดดันให้ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวลดลงแตะระดับใกล้เคียงที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ระดับ 1,400 จุด ขณะที่แนวโน้มในครึ่งปีหลังควรพิจารณาลงทุนในกลุ่มผู้ส่งออกที่ได้รับประโยชน์จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า

สำหรับการลงทุนในช่วงเงินบาทอ่อนค่า หลังคณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง.ลดดอกเบี้ย เป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงสั้น แต่หลังจากนั้นไม่มีอะไรผิดปกติ แม้จะมีบางส่วนขายหุ้นเพื่อมาลงทุนในค่าเงินบาท ส่วนกรณีกระแสเงินทุนจากต่างชาตินั้นจะกลับเข้ามาเพิ่มเติมต้องอยู่กับผลประกอบการในไตรมาสต่อไป

นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า ช่วงนี้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอยู่ในช่วงปรับฐาน โดยมีปัจจัยมาจากเศรษฐกิจในประเทศที่ยังคงอ่อนแอ ทั้งจากการส่งออกติดลบในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมา การบริโภคภายในประเทศยังไม่ฟื้นตัวดีนัก บวกกับธปท. ปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเป็นครั้งที่ 2 ซึ่งตอกย้ำอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจยังอยู่ในระดับต่ำ

ประกอบกับ ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ไตรมาส 1/58 ที่ทยอยประกาศออกมาไม่ค่อยดี ส่งผลให้สำนักวิจัยหลายแห่งปรับลดประมาณการกำไรสุทธิ/หุ้น (EPS)ลงอีก 10% จากต้นปี ตลาดจึงตอบสนองต่อการปรับลดดังกล่าว ทำให้ดัชนีปัจจุบันปรับลงมาเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 1,500 จุด

ทั้งนี้ ปัจจัยของเรื่องค่าเงินบาทที่ปรับตัวอ่อนค่าก็มีผลต่อดัชนี ซึ่งมองว่าในช่วงไตรมาส 2/58 เป็นช่วงที่เงินบาทอ่อนค่าตามปกติ เนื่องด้วยเป็นไปตามสภาพของการส่งออก การขาดดุลบัญชีเดินสะพัด จึงทำให้นักลงทุนนำเงินออกนอกประเทศ จะเห็นได้ชัดเจนได้ในช่วงเดือน พ.ค.นี้ โดยประเมินเงินบาทจะอ่อนค่าอยู่ที่ 34.00 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ ในสิ้นปีนี้ จากปัจจุบันเงินบาทอยู่ที่ 33.70 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

อย่างไรก็ตาม ดัชนียังมีโอกาสปรับตัวลงอีก โดยทาง บล.กสิกรไทย คาดการณ์ดัชนีจะลงไปทดสอบระดับต่ำสุดที่ 1,450 จุด ในช่วงเดือน มิ.ย.58 และหากดัชนีมีการปรับตัวขึ้นเกินระดับ 1,500 จุด แนะนักลงทุนลดพอร์ตออก

พร้อมกันนี้ คาดว่าตลาดน่าจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังนี้ จากการส่งออก และการบริโภคที่ฟื้นตัวดีขึ้น ขณะเดียวกัน ยังมีความหวังในเรื่องของการลงทุนภาครัฐในโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ โดยภาครัฐน่าจะมีการเร่งเบิกจ่ายงบประมาณมากขึ้น รวมไปถึงปัจจัยภาคนอกที่หลายฝ่ายยังคงรอความชัดเจนอยู่ในขณะนี้ ในเรื่องของการขึ้นดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ที่น่าจะเห็นความชัดเจนได้เช่นกัน โดยประเมินดัชนีเป้าหมายที่ระดับ 1,620 จุด

“ตลาดหุ้นที่ปรับลงเป็นเรื่องปกติ โดยมองใน 2 ปัจจัยหลัก คือ เศรษฐกิจไทยยังคงอ่อนแอ การส่งออก 4 เดือนที่ผ่านมาติดลบ การบริโภคยังไม่ฟื้นตัว การลดดอกเบี้ยของแบงก์ชาติถึง 2 ครั้ง ตอกย้ำ GDP ประเทศที่ค่อนข้างแย่”

ด้านความเคลื่อนไหวดัชนีตลาดหุ้นวานนี้ (13 พ.ค.) ดัชนีตลาดหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดที่ 1,497.02 จุด ต่ำสุด 1,487.46 จุด ก่อนจะปิด 1,495.95 จุด เพิ่มขึ้นจากวันก่อน 10.23 จุด หรือ 0.69% มูลค่าการซื้อขาย 5,555.81 ล้านบาท โดยนักลงทุนต่างประเทศซื้อสุทธิ 190.29 ล้านบาท
กำลังโหลดความคิดเห็น