ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - ออกหมายจับเครือข่ายค้ามนุษย์โรฮีนจาอีก 11 ราย ผงะพบแคมป์กักกันชาวโรฮีนจาแห่งใหม่บนเทือกเขาแก้วชายแดนไทยมาเลเซีย คาดเป็นแคมป์ใหญ่ที่สุดและปลูกสร้างเป็นอย่างดีไม่ต่างกับค่ายหรือหมู่บ้านชาวโรฮีนจา มทภ.4 สั่งตรวจสอบตลอดแนวชายแดน รอง ผบ.ตร.เร่งประสานมาเลย์ล่า "โกโต้ง" ตัวการใหญ๋ ขณะที่มีข่าวติดต่อขอมอบตัว ตร.แล้วแลกกับการขอประกัน พบก่อนเผ่นไปลังกาวีแอบถอนเงินสดหลายร้อยล้านติดตัวไปด้วย ส่วนผลตรวจสอบบัญชีส่วยพบตำรวจทุกระดับพัวพันร่วม 50 คน สังกัด ตม.6 มากสุด นายกฯ เผยรัฐบาลกำลังหารือตั้งศูนย์พักพิงโรฮีนจา ตามสิทธิมนุษยชน เตรียมหารือเพื่อนบ้าน-องค์กรระหว่างประเทศแก้ปัญหาตามกติกาสากล ปปง.ยึดทรัพย์กว่า 70 ล้านบาทจ่อยึดเพิ่มอีกกว่า 100 ล้าน พร้อมริบทรัพย์ ขรก.พัวพันขบวนการการค้ามนุษย์โรฮีนจาอีก
วานนี้ (12 พ.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สภ.หาดใหญ่ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสืบสวนคลี่คลายคดีเครือข่ายค้ามนุษย์โรฮีนจาว่า วานนี้เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้าได้ขออนุมัติศาลจังหวัดนาทวี ออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ทั้งใน จ.สงขลา และสตูลเพิ่มอีก 11 คนจากเดิมที่ได้ออกหมายจับไปแล้ว 50 คนรวมผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับแล้วทั้งสิ้น 61 คน ควบคุมตัวได้แล้ว 19 คน เหลือที่ยังหลบหนีและเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุมอีก 42 คน โดย 1 ในนั้นคือนายปัจจุบัน อังโชติพันธ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อดีตนายก อบจ.) สตูล ที่ยังคงหลบหนี
ขณะที่ในช่วงเช้า พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีเครือข่ายค้ามนุษย์โรฮีนจา ได้แถลงถึงความคืบหน้าภาพรวมของคดีทั้งหมดโดยระบุว่า ล่าสุดจนถึงขณะนี้ได้การออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้วทั้งสิ้น 61 คนควบคุมตัวได้แล้ว 19 คนนอกนั้นยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม
นอกจากนี้ยังได้อายัดทรัพย์สินนายปัจจุบัน หรือโกโต้ง ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ในขณะนี้ หลังจากได้เข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมาทั้งรถยนต์ โรงแรม เรือ ที่ดินอีกนับ 10 ล้านบาท นอกจากนี้ทาง ป.ป.ง.ยังจะใช้กฎหมายฟอกเงินดำเนินการอายัดต่อไป
ส่วนตัวเลขของผู้อพยพที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 276 คน แยกเป็นผู้หลบหนีเข้าเมือง 213 คนและตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ 63 คนและในจำนวนผู้อพยพพบว่ามี 4 คนที่ทำหน้าที่เป็นผู้คุมและตรวจสอบพบแคมป์บนเทือกเขาแก้วจำนวน 73 แคมป์ ล่าสุดพบอีก 1 แห่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบอยู่
**เผย"โกโต้ง"ติดต่อขอมอบตัวแลกประกัน
ส่วนผู้ต้องหาที่คาดว่าจะหลบหนีออกนอกประเทศนั้น พล.ต.อ.เอก เผยว่า ได้มีการติดต่อประสานงานกับตำรวจรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซียแล้วเป็นการลับเพื่อที่จะขอความร่วมมือจากตำรวจสันติบาลมาเลเซีย ในการจับกุมตัวนายปัจจุบัน, นายมาเลย์ โต๊ะดิน และพวกที่หลบอยู่ที่เกาะลังกาวี ส่งกลับมาซึ่งขณะนี้ได้ส่งหลักฐานทั้งหมดให้กับตำรวจสันติบาลมาเลเซียแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะถูกออกหมายจับและตำรวจเข้าค้นบ้านพักเพียง 2 วันโกโต้ง และนายมาเลย์ โต๊ะดิน นายก อบต.ปูยู อ.เมืองสตูล ซึ่งเป็นมือขวาของนายปัจจุบัน โดยทั้ง 2 คนได้ทำการถอนเงินสดและเครื่องทองรูปพรรณจากสถาบันการเงิน 4-5 แห่งใน จ.สตูล ออกไปจำนวนหลายร้อยล้านบาทเพื่อป้องกันการอายัดทรัพย์จากเจ้าหน้าที่ และในบางส่วนที่ถอนไม่ทัน ได้มีการมอบฉันทะให้ญาติๆ เป็นผู้ไปถอนแทน
โดยล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่านายปัจจุบัน หรือโกโต้ง ได้ติดต่อประสานงานกับนายตำรวจระดับ ผบช.นายหนึ่งเพื่อที่จะขอเข้ามอบตัวพร้อมกับพวกที่เป็นระดับผู้นำท้องถิ่นและผู้นำท้องที่และคนในตระกูล โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องได้รับการประกันตัว แต่ปรากฏว่า พล.ต.อ.เอก อังสนันท์ รอง ผบ.ตร.ไม่รับเงื่อนไขดังกล่าวของนายปัจจุบัน ซึ่งแหล่งข่าวแจ้งว่านายปัจจุบัน ยังหลบอยู่ในที่ปลอดภัยที่เกาะลังกาวี
**แฉมีตำรวจทุกระดับพัวพันร่วม 50 คน
ส่วนของส่วยที่เกี่ยวข้องกับนายพล 5 คนนั้นมีรายงานข่าวว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร.อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน และพยานแวดล้อมต่างๆ ซึ่งมีการเปิดเผยว่า มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่ท่าเรือท่องเที่ยวที่ อ.ละงู จ.สตูล ที่เป็นภาพการเดินทางไปเที่ยวที่เกาะหลีเป๊ะ ที่นายตำรวจที่มีชื่อรับส่วยการค้ามนุษย์ ซึ่งแหล่งข่าวเปิดเผยว่า การตรวจสอบคืบหน้าไป 95 เปอร์เซ็นแล้ว
มีรายงานข่าวแจ้งว่าการเอาผิดและโยกย้ายนายตำรวจระดับสูงที่เกี่ยวกับส่วยการค้ามนุษย์ในครั้งนี้ มีปัญหาเกิดขึ้น โดยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ที่เคยเป็น ผบช.ภ.9. ในอดีต ซึ่งมีความผูกพันกับ กลุ่มตำรวจที่มีผลประโยชน์ ไม่เห็นด้วยกับการที่จะโยกย้าย นายตำรวจระดับสูงครั้งนี้ แต่สุดท้ายแล้ว จะเป็นการตัดสินใจของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ว่าจะดำเนินการอย่างไร
นอกจากนายตำรวจใหญ่ดังกล่าวแล้วชุดสืบสวนยังพบว่ามีตำรวจระดับสัญญาบัตรตั้งแต่ "ร.ต.ต." จนถึง "พ.ต.อ." และตำรวจชั้นประทวน ในภาคใต้ตั้งแต่ จ.ระนอง ลงมา อยู่ในข่ายการค้ามนุษย์อีกกว่า 40-50 คน โดยส่วนหนึ่ง ไม่ได้ทำการรับเงินค่าส่วย แต่เป็นการเข้าร่วมในขบวนการค้ามนุษย์ เช่นเป็นนายหน้าในการส่งโรฮีนจาให้กับนายบรรณจง และนายปัจจุบัน บางส่วนเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ใช้ในการขนชาวโรฮีนจามาส่งยังที่หมาย ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สังกัด ตม.6 มีรายชื่อเกี่ยวกับการค้าโรฮีนจามากที่สุด
**19หลุมบนเกาะแรดใหญ่ไม่ใช่โรฮีนจา
วันเดียวกันที่ จ.สตูล นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายรัชฐพนธ์ ณ อุบล นายอำเภอเมืองสตูล พร้อมด้วยปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร์ และกำลัง อส.ได้เดินทางเข้าตรวจสอบหลุมศพ 19 หลุม บริเวณเกาะแรดใหญ่ หรือเกาะปอออ หมู่ที่ 2 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล เพื่อสำรวจว่าเป็นหลุมศพใหม่หรือเก่า พร้อมกับได้เชิญผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และญาติๆ ของนายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง มาสอบถาม
ขณะที่นางงามจิต บุณยนิตย์ น้องสาวของนายปัจจุบัน หรือโกโต้ง พร้อมบรรดาเครือญาติได้นำหลักฐานมายืนยันว่าหลุมศพทั้ง 19 หลุมที่พบบนบริเวณเกาะแรดใหญ่ เป็นหลุมศพของเครือญาติจริง พร้อมนำเอกสารที่ดิน น.ส.3 มายืนยันด้วยว่าเกาะดังกล่าวได้มาอย่างถูกต้อง จนสรุปที่ดินดังกล่าวไม่ใช่สุสานที่ฝังศพชาวโรฮีนจา แต่เป็นสุสานของตระกูล "อังโชติพันธ์" ซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ จึงได้สร้างสุสานส่วนตัวขึ้นในที่ดินบนเกาะ โดยที่ดินแปลงดังกล่าวมีเนื้อที่จำนวน 300 ไร่ ตั้งอยู่บนเกาะ เป็นของนายปัจจุบัน 107 ไร่
นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่าทั้ง 19 หลุมนั้นไม่ใช่ชาวโรฮีนจา แต่เป็นคนไทย ซึ่งได้มีญาติและพยานมาชี้ศพเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนจะนำสำเนาโฉนดและเอกสารสิทธิ์ ส่งไปยังที่ดินจังหวัดตรวจสอบว่า ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ต่อไป
**รองผบ.ตร.ยันผู้ต้องหาสำคัญยังอยู่ในพื้นที่
ขณะที่ช่วงบ่าย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนตรี โปรตะนันท์ ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง ผบช.ภ.9 รทท.ผบก.ภ.จว.สตูล นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าร่วมประชุมที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล พร้อมรับทราบการปฏิบัติงานในการปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีการทำงานอย่างต่อเนื่อง
โดยรอง ผบ.ตร.ได้รายงานผลการทำงานด้านสืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมพร้อมอายัดทรัพย์สิน หลังวานนี้ได้มีการบูรณการกำลัง 300 กว่านายในการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 15 จุดโดยผลการปฏิบัติการได้ร่วมกับ ป.ป.ง.ในการเข้ามายึดทรัพย์ของนายปัจจุบัน หรือโกโต้ง รวมทั้งกรรมสิทธิ์ในที่ดินบนเกาะปอออ หรือเกาะแรดใหญ่ จะมีการตรวจสอบได้มาอย่างไร
สำหรับเครือข่ายและผู้ที่เชื่อมโยงการกระทำผิดขบวนการค้ามนุษย์ในครั้งนี้ล่าสุดได้ออกหมายจับแล้ว 51 ราย และจับได้พร้อมรายงานตัวแล้ว 19 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานในการออกหมายจับเพิ่มเติม
ส่วนนายปัจจุบัน หรือโกโต้ง หรือคนอื่นๆ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อได้หลบหนีไปยังต่างประเทศหรือไม่นั้น ไม่อยากให้ทุกฝ่ายกังวล เพราะเรามีสนธิสัญญาในการส่งผู้ร้ายข้ามประเทศ
**พบแคมป์กักกันขนาดใหญ่บนเทือกเขาแก้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันกำลังทหารตำรวจและชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบแคมป์กักกันชาวโรฮีนจาแห่งใหม่ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาแก้ว ชายแดนไทย-มาเลเซีย หมู่ 8 บ้านตะโล๊ะ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ห่างจากจุดที่พบแคมป์และสุสานฝังศพแห่งแรกประมาณ 3 กม. และอยู่ห่างจากหลักเขตรอยต่อระหว่าง จ.สงขลา กับ จ.สตูล ประมาณ 1 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาในการเดินทางขึ้นไปกว่า 1 ชั่วโมง
จากการตรวจสอบพบว่าเป็นแคมป์ใหญ่ที่สุดบนยอดเขาแก้ว จุคนได้ราว 1,000 คน หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นค่ายกักกันหรือหมู่บ้านของชาวโรฮีนจา มีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่
นอกจากนี้ ยังพบข้าวของเครื่องใช้และเสื้อผ้าอยู่ภายในแคมป์คาดว่าน่าจะเพิ่งเคลื่อนย้ายชาวโรฮีนจาข้ามแดนไปยังฝั่งมาเลเซียไม่นาน และน่าจะเป็นช่วงเดียวกันกับที่เจ้าหน้าที่ได้พบแคมป์และสุสานฝังศพชาวโรฮีนจา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานที่พบภายในแคมป์ไปตรวจพิสูจน์และเก็บดีเอ็นเอ เพื่อเป็นหลักฐานเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายค้ามนุษย์ และแคมป์แห่งนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นของเครือข่ายค้ามนุษย์กลุ่มเดียวกันกับที่พบในจุดแรกบนยอดเขาแก้ว และใช้เป็นศูนย์กักตัวชาวโรงฮีนจาที่เดินทางมาจากสตูลเนื่องจากมีชายแดนติดกัน
นอกจากแคมป์แห่งนี้แล้วในบริเวณยอดเขาแก้วยังพบแคมป์ขนาดเล็กอีก 3 แห่งด้วยซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน นอกจากนี้พบว่าในฝั่งมาเลเซียยังมีแคมป์กักกันอีก 3 แห่งด้วยในฝั่งรัฐเปอร์ลิส คาดว่าสร้างขึ้นเพื่อรับช่วงต่อจากฝั่งไทย
**สั่งเอ๊กซเรย์แคมป์กักกันตลอดชายแดน
พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพถาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า กำลังของทหาร ฉก.สงขลา ได้ค้นพบค่ายกักกันขนาดใหญ่กว่าที่พบครั้งแรกในเทือกเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา ห่างจากค่ายเดิมประมาณ 2 กิโลเมตร มีความจุของคนไม่ต่ำกว่า 800 คน และเป็นค่ายใหม่ๆ ที่เพิ่งทิ้งร้างไป
นอกจากนั้น ยังพบค่ายกักกันที่สร้างอยู่ในฝั่งมาเลเซียอีก 3 แห่งและในการส่งทหารออกตรวจสอบพื้นที่แนวชายแดน ตั้งแต่ จ.สตูล จนถึง จ.สงขลา ของเทือกเขาแก้วพบค่ายพักพิง ที่เป็นย่อยๆ รวม 73 แห่ง ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และปกครอง ได้ส่งกำลังเข้าตรวจสอบรายละเอียด ถึงความเกี่ยวข้องว่านอกจากผู้ต้องหาที่ออกหมายจับแล้วจำนวน 51 คนยังเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด
"ขณะนี้กองทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้กำลังทหารของทุกจังหวัดใน 14 จังหวัดภาคใต้สนธิกำลังกับตำรวจและปกครอง เอ็กซเรย์พื้นที่ทั้งหมดเพื่อที่จะกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้น ส่วนในเรื่องการแก้ปัญหาระหว่างประเทศไทยกับมาเลเซียนั้นกองทัพภาคที่ 4 จะใช้ช่องทางของ สน.กชภ. (สำนักงานคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค) ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาระดับท้องถิ่น เพราะมีความรวดเร็วกว่าและเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นที่ที่ สน.กชภ.ทั้ง 2 ประเทศ สามารถแก้ไขได้"
**นายกฯเผยกำลังหารือตั้งศูนย์พักพิงโรฮีนจา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ถึงความคืบหน้าของการจัดตั้งศูนย์พักพิงชาวโรฮีนจา เพื่อส่งไปยังประเทศที่ 3 ว่า ขณะนี้กำลังหารืออยู่ เนื่องจากการจะทำอะไรก็ตามต้องอยู่หลายด้าน ทั้งในด้านความมั่นคงของประเทศ เพราะต้องดูแลคนไทยเป็นหลัก แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือสิทธิมนุษยชน ที่มีการกระทำผิดในประเทศของเรา แล้วเราจะดูแลเขาอย่างไร อันนี้คงต้องไม่ใช่ของเราอย่างเดียว ต้องหารือกับประเทศเพื่อนบ้านและองค์กรระหว่างประเทศว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
เมื่อถามว่า สาเหตุของชาวโรฮีนจาที่เข้ามานั้นเกิดจากอะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เกิดจากคนเหล่านี้อยู่ที่ใด ส่วนหนึ่งมาจากรัฐอาระกัน หรือรัฐยะไข่ ในเมียนมาปัจจุบัน และบังคลาเทศ และพวกเขายากจน หางานทำ แล้วมีญาติพี่น้องที่อพยพออกไปแล้วส่งข่าวไป จึงมีคนที่จะอพยพตามมา แล้วมีคนแสวงหาผลประโยชน์ คือคนที่นั่น ขบวนการมันเริ่มตรงนั้น ประเทศไทยเป็นเพียงประเทศกลางทาง ปลายทางที่เขาจะไปนั้นไม่ใช่ไทย มันเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ เราเป็นประเทศกลางทางที่เกี่ยวข้อง จึงต้องไปแก้โดยให้ต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในเรื่องนี้ เพื่อดูที่ต้นทางและปลายทางให้ได้ เราก็ต้องจัดการให้ได้ ข้อสำคัญคือเจ้าหน้าที่ของเราต้องกำกับดูแลเรื่องเหล่านี้ที่ผ่านมานั้นไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ เพราะหลายอย่างทั้งกฎหมาย ทั้งหน่วยงาน ทั้งงบประมาณ ความเอาใจใส่ วันนี้เราเอาใจใส่ทุกเรื่องจึงมีเรื่องนี้ออกมา
เมื่อถามว่าองค์กรระหว่างประเทศได้มีการประสานงานมาบ้างหรือไม่ และว่าอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประสานมาให้แก้ปัญหาการค้ามนุษย์ให้ได้โดยเร็ว ตามกติกาสากล
**จ่อยึดทรัพย์แก๊งค้ามนุษย์กว่า100ล.
เวลา 15.00 น.ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 7/2558 ซึ่งมีมติยึดและอายัดทรัพย์สินของขบวนการค้ามนุษย์เพิ่มเติมอีก 53 รายการ มูลค่า 36 ล้านบาท ร่วมทั้งสิ้นขณะนี้ ปปง.ยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดค้ามนุษย์แล้ว 75 ล้านบาท
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า จากการบูรณาการทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้ทำการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อดำเนินการกับขบวนการค้ามนุษย์ทั้งใน จ.ระนอง และ จ.สตูล จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาหลายรายและจับกุมได้แล้วหลายราย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการทำธุรกรรมทางการเงินพบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานฟอกเงินในคดีการค้ามนุษย์โดยเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ปปง.ได้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้จากการกระทำความผิด 16 รายการ มูลค่ากว่า 7,000,000 บาท
เลขาธิการ ปปง. กล่าวต่อว่า สำหรับทรัพย์ที่ยึดไว้ล่าสุด 53 รายการ อาทิเช่น บัญชีเงินฝากของร.ต.ต.นราทร สัมพันธ์ 3 รายการ , บัญชีเงินฝากของนางจันทรา ปั้งซวด หรือเจ๊ง๊อ (เครือข่ายใหญ่ในจ.ระนอง) 10 รายการ ,บัญชีเงินฝาก น.ส.นัยนา ปั้งซวด 11 รายการ ,รถยนต์เมอซิเดสเบนซ์ 4 รายการ ,เรือกลเดินทะเลชื่ออับบอเราะห์ และเรือกลประมงทะเลลึกชื่อ หงห์ทอง 2000 สำหรับเครือข่ายค้าโรฮีนจากลุ่มอื่นๆ และข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์นั้น ปปง.อยู่ระหว่างตรวจสอบทรัพย์สิน
"จากการยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวรวมกับทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ในครั้งแรก จำนวน 121 รายการ มูลค่า 32 ล้านบาท ปัจจุบัน ปปง.ได้ยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีการค้ามนุษย์แล้ว 190 รายการ มูลค่ากว่า 74 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีทรัพย์สินบางส่วนที่ทางตำรวจได้ยึดอายัดและกำลังจะนำส่งให้กับทาง ปปง.กว่า 100 ล้านบาท ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้หลังพบว่าผู้ต้องหาเริ่มมีการถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากธนาคารอย่างต่อเนื่อง เกรงว่าจะมีการยักย้ายถ่ายเท หรือปกปิดทรัพย์ โดย ปปง.จะเร่งดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์กับผู้เกี่ยวข้อง อีกทั้ง ปปง.ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของข้าราชและเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็สามารถดำเนินคดีได้เลยโดยไม่มีการพิสูจน์ใดๆ"
เลขาธิการ ปปง.กล่าวอีกว่า ขั้นตอนการยึดและอายัดทรัพย์นั้น ปปง. ได้แบ่งเป็นการติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้ 2 ทาง คือ 1.ทรัพย์สินที่ทางตำรวจยึดไปแล้ว และ 2.ปปง.ตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติมในส่วนที่ตำรวจยังไม่ได้ดำเนินการ โดยการแบ่งแนวทางการติดตามเช่นนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการทำงาน ซึ่งในส่วนทรัพย์สินที่ทางตำรวจได้ยึดไปแล้ว ก็จะจัดทำบัญชีทรัพย์สินและส่งกลับมายัง ปปง.ในภายหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา ปปง.ได้ร่วมตรวจสอบคดีค้ามนุษย์กับ พล.ต.อ.เอก และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 ตั้งแต่มีคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายค้ามนุษย์โกโต้ง หรือนายปัจจุบัน และเครือข่ายโกมิก หรือนายสุนันท์ แสงทอง ซึ่งเป็นเครือข่ายอยู่ที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช สามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้จำนวนกว่า 100 ล้านบาท
**ผบ.ตร.เตรียมเจรจาผบ.มาเลย์
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินกคดีกับขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา หลังมีการออกหมายจับนายปัจจุบัน หรือโกโต้งว่า ตนได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนว่า ขณะนี้นายปัจจุบัน ได้มีการหลบหนีไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่จะจริงเท็จอย่างไรให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวอยู่ ถ้ายังอยู่ในประเทศไทยต้องมีการดำเนินการจับกุมตัว และถ้าหลบนี้ไปประเทศเพื่อนบ้านก็คงต้องใช้วิธีการทูตหรือไม่ก็ใช้สนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่เรามีต่อกัน และคงเป็นไปตามขั้นตอน ผู้ใช้เงินในบัญชีดังกล่าว และไม่ยอมแจ้งปิดบัญชีหลังการเสียชีวิตของเจ๊ง๊อ ซึ่ง ปปง.จะเรียกธนาคารมาชี้แจงต่อไป สำหรับรถยนต์เบนซ์ 4 คันที่ถูกอายัดไว้เป็นทรัพย์ของนักการเมืองท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนายผดุงศักดิ์ โดยเจ้าของทรัพย์สินสามารถนำหลักฐานเข้าชี้แจงทรัพย์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีค้ามนุษย์ได้ภายใน 90 วัน" พ.ต.อ.สีหนาท กล่าว
วานนี้ (12 พ.ค.) ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้า สภ.หาดใหญ่ ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการสืบสวนคลี่คลายคดีเครือข่ายค้ามนุษย์โรฮีนจาว่า วานนี้เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษตำรวจภูธรภาค 9 ส่วนหน้าได้ขออนุมัติศาลจังหวัดนาทวี ออกหมายจับผู้ต้องหาที่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ทั้งใน จ.สงขลา และสตูลเพิ่มอีก 11 คนจากเดิมที่ได้ออกหมายจับไปแล้ว 50 คนรวมผู้ต้องหาที่ถูกออกหมายจับแล้วทั้งสิ้น 61 คน ควบคุมตัวได้แล้ว 19 คน เหลือที่ยังหลบหนีและเจ้าหน้าที่กำลังเร่งติดตามจับกุมอีก 42 คน โดย 1 ในนั้นคือนายปัจจุบัน อังโชติพันธ์ หรือโกโต้ง อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อดีตนายก อบจ.) สตูล ที่ยังคงหลบหนี
ขณะที่ในช่วงเช้า พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) หัวหน้าชุดคลี่คลายคดีเครือข่ายค้ามนุษย์โรฮีนจา ได้แถลงถึงความคืบหน้าภาพรวมของคดีทั้งหมดโดยระบุว่า ล่าสุดจนถึงขณะนี้ได้การออกหมายจับผู้ต้องหาไปแล้วทั้งสิ้น 61 คนควบคุมตัวได้แล้ว 19 คนนอกนั้นยังอยู่ระหว่างการติดตามจับกุม
นอกจากนี้ยังได้อายัดทรัพย์สินนายปัจจุบัน หรือโกโต้ง ผู้ต้องหาที่ยังหลบหนีอยู่ในขณะนี้ หลังจากได้เข้าตรวจค้นเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมาทั้งรถยนต์ โรงแรม เรือ ที่ดินอีกนับ 10 ล้านบาท นอกจากนี้ทาง ป.ป.ง.ยังจะใช้กฎหมายฟอกเงินดำเนินการอายัดต่อไป
ส่วนตัวเลขของผู้อพยพที่เจ้าหน้าที่ช่วยเหลือขณะนี้มีจำนวนทั้งสิ้น 276 คน แยกเป็นผู้หลบหนีเข้าเมือง 213 คนและตกเป็นเหยื่อค้ามนุษย์ 63 คนและในจำนวนผู้อพยพพบว่ามี 4 คนที่ทำหน้าที่เป็นผู้คุมและตรวจสอบพบแคมป์บนเทือกเขาแก้วจำนวน 73 แคมป์ ล่าสุดพบอีก 1 แห่งขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังเข้าตรวจสอบอยู่
**เผย"โกโต้ง"ติดต่อขอมอบตัวแลกประกัน
ส่วนผู้ต้องหาที่คาดว่าจะหลบหนีออกนอกประเทศนั้น พล.ต.อ.เอก เผยว่า ได้มีการติดต่อประสานงานกับตำรวจรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซียแล้วเป็นการลับเพื่อที่จะขอความร่วมมือจากตำรวจสันติบาลมาเลเซีย ในการจับกุมตัวนายปัจจุบัน, นายมาเลย์ โต๊ะดิน และพวกที่หลบอยู่ที่เกาะลังกาวี ส่งกลับมาซึ่งขณะนี้ได้ส่งหลักฐานทั้งหมดให้กับตำรวจสันติบาลมาเลเซียแล้ว
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะถูกออกหมายจับและตำรวจเข้าค้นบ้านพักเพียง 2 วันโกโต้ง และนายมาเลย์ โต๊ะดิน นายก อบต.ปูยู อ.เมืองสตูล ซึ่งเป็นมือขวาของนายปัจจุบัน โดยทั้ง 2 คนได้ทำการถอนเงินสดและเครื่องทองรูปพรรณจากสถาบันการเงิน 4-5 แห่งใน จ.สตูล ออกไปจำนวนหลายร้อยล้านบาทเพื่อป้องกันการอายัดทรัพย์จากเจ้าหน้าที่ และในบางส่วนที่ถอนไม่ทัน ได้มีการมอบฉันทะให้ญาติๆ เป็นผู้ไปถอนแทน
โดยล่าสุดมีรายงานข่าวแจ้งว่านายปัจจุบัน หรือโกโต้ง ได้ติดต่อประสานงานกับนายตำรวจระดับ ผบช.นายหนึ่งเพื่อที่จะขอเข้ามอบตัวพร้อมกับพวกที่เป็นระดับผู้นำท้องถิ่นและผู้นำท้องที่และคนในตระกูล โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องได้รับการประกันตัว แต่ปรากฏว่า พล.ต.อ.เอก อังสนันท์ รอง ผบ.ตร.ไม่รับเงื่อนไขดังกล่าวของนายปัจจุบัน ซึ่งแหล่งข่าวแจ้งว่านายปัจจุบัน ยังหลบอยู่ในที่ปลอดภัยที่เกาะลังกาวี
**แฉมีตำรวจทุกระดับพัวพันร่วม 50 คน
ส่วนของส่วยที่เกี่ยวข้องกับนายพล 5 คนนั้นมีรายงานข่าวว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผบ.ตร.อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน และพยานแวดล้อมต่างๆ ซึ่งมีการเปิดเผยว่า มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่ท่าเรือท่องเที่ยวที่ อ.ละงู จ.สตูล ที่เป็นภาพการเดินทางไปเที่ยวที่เกาะหลีเป๊ะ ที่นายตำรวจที่มีชื่อรับส่วยการค้ามนุษย์ ซึ่งแหล่งข่าวเปิดเผยว่า การตรวจสอบคืบหน้าไป 95 เปอร์เซ็นแล้ว
มีรายงานข่าวแจ้งว่าการเอาผิดและโยกย้ายนายตำรวจระดับสูงที่เกี่ยวกับส่วยการค้ามนุษย์ในครั้งนี้ มีปัญหาเกิดขึ้น โดยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ที่เคยเป็น ผบช.ภ.9. ในอดีต ซึ่งมีความผูกพันกับ กลุ่มตำรวจที่มีผลประโยชน์ ไม่เห็นด้วยกับการที่จะโยกย้าย นายตำรวจระดับสูงครั้งนี้ แต่สุดท้ายแล้ว จะเป็นการตัดสินใจของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ว่าจะดำเนินการอย่างไร
นอกจากนายตำรวจใหญ่ดังกล่าวแล้วชุดสืบสวนยังพบว่ามีตำรวจระดับสัญญาบัตรตั้งแต่ "ร.ต.ต." จนถึง "พ.ต.อ." และตำรวจชั้นประทวน ในภาคใต้ตั้งแต่ จ.ระนอง ลงมา อยู่ในข่ายการค้ามนุษย์อีกกว่า 40-50 คน โดยส่วนหนึ่ง ไม่ได้ทำการรับเงินค่าส่วย แต่เป็นการเข้าร่วมในขบวนการค้ามนุษย์ เช่นเป็นนายหน้าในการส่งโรฮีนจาให้กับนายบรรณจง และนายปัจจุบัน บางส่วนเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ใช้ในการขนชาวโรฮีนจามาส่งยังที่หมาย ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่าตำรวจตรวจคนเข้าเมือง สังกัด ตม.6 มีรายชื่อเกี่ยวกับการค้าโรฮีนจามากที่สุด
**19หลุมบนเกาะแรดใหญ่ไม่ใช่โรฮีนจา
วันเดียวกันที่ จ.สตูล นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายรัชฐพนธ์ ณ อุบล นายอำเภอเมืองสตูล พร้อมด้วยปลัดอำเภอ เจ้าหน้าที่ทะเบียนราษฎร์ และกำลัง อส.ได้เดินทางเข้าตรวจสอบหลุมศพ 19 หลุม บริเวณเกาะแรดใหญ่ หรือเกาะปอออ หมู่ที่ 2 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล เพื่อสำรวจว่าเป็นหลุมศพใหม่หรือเก่า พร้อมกับได้เชิญผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และญาติๆ ของนายปัจจุบัน อังโชติพันธุ์ หรือโกโต้ง มาสอบถาม
ขณะที่นางงามจิต บุณยนิตย์ น้องสาวของนายปัจจุบัน หรือโกโต้ง พร้อมบรรดาเครือญาติได้นำหลักฐานมายืนยันว่าหลุมศพทั้ง 19 หลุมที่พบบนบริเวณเกาะแรดใหญ่ เป็นหลุมศพของเครือญาติจริง พร้อมนำเอกสารที่ดิน น.ส.3 มายืนยันด้วยว่าเกาะดังกล่าวได้มาอย่างถูกต้อง จนสรุปที่ดินดังกล่าวไม่ใช่สุสานที่ฝังศพชาวโรฮีนจา แต่เป็นสุสานของตระกูล "อังโชติพันธ์" ซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ จึงได้สร้างสุสานส่วนตัวขึ้นในที่ดินบนเกาะ โดยที่ดินแปลงดังกล่าวมีเนื้อที่จำนวน 300 ไร่ ตั้งอยู่บนเกาะ เป็นของนายปัจจุบัน 107 ไร่
นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวว่าทั้ง 19 หลุมนั้นไม่ใช่ชาวโรฮีนจา แต่เป็นคนไทย ซึ่งได้มีญาติและพยานมาชี้ศพเรียบร้อยแล้ว อย่างไรก็ตาม ตนจะนำสำเนาโฉนดและเอกสารสิทธิ์ ส่งไปยังที่ดินจังหวัดตรวจสอบว่า ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ต่อไป
**รองผบ.ตร.ยันผู้ต้องหาสำคัญยังอยู่ในพื้นที่
ขณะที่ช่วงบ่าย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.มนตรี โปรตะนันท์ ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.พุทธิชาติ เอกฉันท์ รอง ผบช.ภ.9, พล.ต.ต.เอกภพ ประสิทธิ์วัฒนชัย รอง ผบช.ภ.9 รทท.ผบก.ภ.จว.สตูล นายเดชรัฐ สิมศิริ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมหัวหน้าส่วนที่เกี่ยวข้อง ได้เข้าร่วมประชุมที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล พร้อมรับทราบการปฏิบัติงานในการปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่ภาคใต้ที่มีการทำงานอย่างต่อเนื่อง
โดยรอง ผบ.ตร.ได้รายงานผลการทำงานด้านสืบสวนสอบสวนขยายผลจับกุมพร้อมอายัดทรัพย์สิน หลังวานนี้ได้มีการบูรณการกำลัง 300 กว่านายในการตรวจค้นพื้นที่เป้าหมาย 15 จุดโดยผลการปฏิบัติการได้ร่วมกับ ป.ป.ง.ในการเข้ามายึดทรัพย์ของนายปัจจุบัน หรือโกโต้ง รวมทั้งกรรมสิทธิ์ในที่ดินบนเกาะปอออ หรือเกาะแรดใหญ่ จะมีการตรวจสอบได้มาอย่างไร
สำหรับเครือข่ายและผู้ที่เชื่อมโยงการกระทำผิดขบวนการค้ามนุษย์ในครั้งนี้ล่าสุดได้ออกหมายจับแล้ว 51 ราย และจับได้พร้อมรายงานตัวแล้ว 19 ราย ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานในการออกหมายจับเพิ่มเติม
ส่วนนายปัจจุบัน หรือโกโต้ง หรือคนอื่นๆ ที่อยู่ในบัญชีรายชื่อได้หลบหนีไปยังต่างประเทศหรือไม่นั้น ไม่อยากให้ทุกฝ่ายกังวล เพราะเรามีสนธิสัญญาในการส่งผู้ร้ายข้ามประเทศ
**พบแคมป์กักกันขนาดใหญ่บนเทือกเขาแก้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันเดียวกันกำลังทหารตำรวจและชุดพิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบแคมป์กักกันชาวโรฮีนจาแห่งใหม่ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาแก้ว ชายแดนไทย-มาเลเซีย หมู่ 8 บ้านตะโล๊ะ ต.ปาดังเบซาร์ อ.สะเดา จ.สงขลา ห่างจากจุดที่พบแคมป์และสุสานฝังศพแห่งแรกประมาณ 3 กม. และอยู่ห่างจากหลักเขตรอยต่อระหว่าง จ.สงขลา กับ จ.สตูล ประมาณ 1 กิโลเมตร ต้องใช้เวลาในการเดินทางขึ้นไปกว่า 1 ชั่วโมง
จากการตรวจสอบพบว่าเป็นแคมป์ใหญ่ที่สุดบนยอดเขาแก้ว จุคนได้ราว 1,000 คน หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นค่ายกักกันหรือหมู่บ้านของชาวโรฮีนจา มีเนื้อที่ประมาณ 3 ไร่
นอกจากนี้ ยังพบข้าวของเครื่องใช้และเสื้อผ้าอยู่ภายในแคมป์คาดว่าน่าจะเพิ่งเคลื่อนย้ายชาวโรฮีนจาข้ามแดนไปยังฝั่งมาเลเซียไม่นาน และน่าจะเป็นช่วงเดียวกันกับที่เจ้าหน้าที่ได้พบแคมป์และสุสานฝังศพชาวโรฮีนจา เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ได้เก็บหลักฐานที่พบภายในแคมป์ไปตรวจพิสูจน์และเก็บดีเอ็นเอ เพื่อเป็นหลักฐานเชื่อมโยงไปยังเครือข่ายค้ามนุษย์ และแคมป์แห่งนี้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าเป็นของเครือข่ายค้ามนุษย์กลุ่มเดียวกันกับที่พบในจุดแรกบนยอดเขาแก้ว และใช้เป็นศูนย์กักตัวชาวโรงฮีนจาที่เดินทางมาจากสตูลเนื่องจากมีชายแดนติดกัน
นอกจากแคมป์แห่งนี้แล้วในบริเวณยอดเขาแก้วยังพบแคมป์ขนาดเล็กอีก 3 แห่งด้วยซึ่งอยู่ไม่ห่างกัน นอกจากนี้พบว่าในฝั่งมาเลเซียยังมีแคมป์กักกันอีก 3 แห่งด้วยในฝั่งรัฐเปอร์ลิส คาดว่าสร้างขึ้นเพื่อรับช่วงต่อจากฝั่งไทย
**สั่งเอ๊กซเรย์แคมป์กักกันตลอดชายแดน
พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพถาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า กำลังของทหาร ฉก.สงขลา ได้ค้นพบค่ายกักกันขนาดใหญ่กว่าที่พบครั้งแรกในเทือกเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา ห่างจากค่ายเดิมประมาณ 2 กิโลเมตร มีความจุของคนไม่ต่ำกว่า 800 คน และเป็นค่ายใหม่ๆ ที่เพิ่งทิ้งร้างไป
นอกจากนั้น ยังพบค่ายกักกันที่สร้างอยู่ในฝั่งมาเลเซียอีก 3 แห่งและในการส่งทหารออกตรวจสอบพื้นที่แนวชายแดน ตั้งแต่ จ.สตูล จนถึง จ.สงขลา ของเทือกเขาแก้วพบค่ายพักพิง ที่เป็นย่อยๆ รวม 73 แห่ง ซึ่งขณะนี้ เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และปกครอง ได้ส่งกำลังเข้าตรวจสอบรายละเอียด ถึงความเกี่ยวข้องว่านอกจากผู้ต้องหาที่ออกหมายจับแล้วจำนวน 51 คนยังเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด
"ขณะนี้กองทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้กำลังทหารของทุกจังหวัดใน 14 จังหวัดภาคใต้สนธิกำลังกับตำรวจและปกครอง เอ็กซเรย์พื้นที่ทั้งหมดเพื่อที่จะกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้น ส่วนในเรื่องการแก้ปัญหาระหว่างประเทศไทยกับมาเลเซียนั้นกองทัพภาคที่ 4 จะใช้ช่องทางของ สน.กชภ. (สำนักงานคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค) ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาระดับท้องถิ่น เพราะมีความรวดเร็วกว่าและเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นที่ที่ สน.กชภ.ทั้ง 2 ประเทศ สามารถแก้ไขได้"
**นายกฯเผยกำลังหารือตั้งศูนย์พักพิงโรฮีนจา
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี (คสช.) ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุม ครม. ถึงความคืบหน้าของการจัดตั้งศูนย์พักพิงชาวโรฮีนจา เพื่อส่งไปยังประเทศที่ 3 ว่า ขณะนี้กำลังหารืออยู่ เนื่องจากการจะทำอะไรก็ตามต้องอยู่หลายด้าน ทั้งในด้านความมั่นคงของประเทศ เพราะต้องดูแลคนไทยเป็นหลัก แต่สิ่งที่ปฏิเสธไม่ได้คือสิทธิมนุษยชน ที่มีการกระทำผิดในประเทศของเรา แล้วเราจะดูแลเขาอย่างไร อันนี้คงต้องไม่ใช่ของเราอย่างเดียว ต้องหารือกับประเทศเพื่อนบ้านและองค์กรระหว่างประเทศว่าจะดำเนินการอย่างไรต่อไป
เมื่อถามว่า สาเหตุของชาวโรฮีนจาที่เข้ามานั้นเกิดจากอะไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เกิดจากคนเหล่านี้อยู่ที่ใด ส่วนหนึ่งมาจากรัฐอาระกัน หรือรัฐยะไข่ ในเมียนมาปัจจุบัน และบังคลาเทศ และพวกเขายากจน หางานทำ แล้วมีญาติพี่น้องที่อพยพออกไปแล้วส่งข่าวไป จึงมีคนที่จะอพยพตามมา แล้วมีคนแสวงหาผลประโยชน์ คือคนที่นั่น ขบวนการมันเริ่มตรงนั้น ประเทศไทยเป็นเพียงประเทศกลางทาง ปลายทางที่เขาจะไปนั้นไม่ใช่ไทย มันเป็นอาชญากรรมข้ามชาติ เราเป็นประเทศกลางทางที่เกี่ยวข้อง จึงต้องไปแก้โดยให้ต่างประเทศเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยในเรื่องนี้ เพื่อดูที่ต้นทางและปลายทางให้ได้ เราก็ต้องจัดการให้ได้ ข้อสำคัญคือเจ้าหน้าที่ของเราต้องกำกับดูแลเรื่องเหล่านี้ที่ผ่านมานั้นไม่ค่อยมีประสิทธิภาพ เพราะหลายอย่างทั้งกฎหมาย ทั้งหน่วยงาน ทั้งงบประมาณ ความเอาใจใส่ วันนี้เราเอาใจใส่ทุกเรื่องจึงมีเรื่องนี้ออกมา
เมื่อถามว่าองค์กรระหว่างประเทศได้มีการประสานงานมาบ้างหรือไม่ และว่าอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ประสานมาให้แก้ปัญหาการค้ามนุษย์ให้ได้โดยเร็ว ตามกติกาสากล
**จ่อยึดทรัพย์แก๊งค้ามนุษย์กว่า100ล.
เวลา 15.00 น.ที่กระทรวงยุติธรรม (ยธ.) พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) แถลงผลการประชุมคณะกรรมการธุรกรรม ครั้งที่ 7/2558 ซึ่งมีมติยึดและอายัดทรัพย์สินของขบวนการค้ามนุษย์เพิ่มเติมอีก 53 รายการ มูลค่า 36 ล้านบาท ร่วมทั้งสิ้นขณะนี้ ปปง.ยึดอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดค้ามนุษย์แล้ว 75 ล้านบาท
พ.ต.อ.สีหนาท กล่าวว่า จากการบูรณาการทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.ได้ทำการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมข้อมูลหลักฐานเพื่อดำเนินการกับขบวนการค้ามนุษย์ทั้งใน จ.ระนอง และ จ.สตูล จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องหาหลายรายและจับกุมได้แล้วหลายราย ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเส้นทางการทำธุรกรรมทางการเงินพบว่ามีบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดฐานฟอกเงินในคดีการค้ามนุษย์โดยเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา ปปง.ได้ยึดและอายัดทรัพย์สินที่เชื่อว่าได้จากการกระทำความผิด 16 รายการ มูลค่ากว่า 7,000,000 บาท
เลขาธิการ ปปง. กล่าวต่อว่า สำหรับทรัพย์ที่ยึดไว้ล่าสุด 53 รายการ อาทิเช่น บัญชีเงินฝากของร.ต.ต.นราทร สัมพันธ์ 3 รายการ , บัญชีเงินฝากของนางจันทรา ปั้งซวด หรือเจ๊ง๊อ (เครือข่ายใหญ่ในจ.ระนอง) 10 รายการ ,บัญชีเงินฝาก น.ส.นัยนา ปั้งซวด 11 รายการ ,รถยนต์เมอซิเดสเบนซ์ 4 รายการ ,เรือกลเดินทะเลชื่ออับบอเราะห์ และเรือกลประมงทะเลลึกชื่อ หงห์ทอง 2000 สำหรับเครือข่ายค้าโรฮีนจากลุ่มอื่นๆ และข้าราชการที่เกี่ยวข้องกับขบวนการค้ามนุษย์นั้น ปปง.อยู่ระหว่างตรวจสอบทรัพย์สิน
"จากการยึดและอายัดทรัพย์สินดังกล่าวรวมกับทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ในครั้งแรก จำนวน 121 รายการ มูลค่า 32 ล้านบาท ปัจจุบัน ปปง.ได้ยึดและอายัดทรัพย์สินในคดีการค้ามนุษย์แล้ว 190 รายการ มูลค่ากว่า 74 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีทรัพย์สินบางส่วนที่ทางตำรวจได้ยึดอายัดและกำลังจะนำส่งให้กับทาง ปปง.กว่า 100 ล้านบาท ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยข้อมูลได้หลังพบว่าผู้ต้องหาเริ่มมีการถอนเงินออกจากบัญชีเงินฝากธนาคารอย่างต่อเนื่อง เกรงว่าจะมีการยักย้ายถ่ายเท หรือปกปิดทรัพย์ โดย ปปง.จะเร่งดำเนินการยึดและอายัดทรัพย์กับผู้เกี่ยวข้อง อีกทั้ง ปปง.ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบเส้นทางการเงินของข้าราชและเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากพบว่ามีส่วนเกี่ยวข้องก็สามารถดำเนินคดีได้เลยโดยไม่มีการพิสูจน์ใดๆ"
เลขาธิการ ปปง.กล่าวอีกว่า ขั้นตอนการยึดและอายัดทรัพย์นั้น ปปง. ได้แบ่งเป็นการติดตามทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดไว้ 2 ทาง คือ 1.ทรัพย์สินที่ทางตำรวจยึดไปแล้ว และ 2.ปปง.ตรวจยึดทรัพย์สินเพิ่มเติมในส่วนที่ตำรวจยังไม่ได้ดำเนินการ โดยการแบ่งแนวทางการติดตามเช่นนี้ เพื่อไม่ให้เกิดความสับสนในการทำงาน ซึ่งในส่วนทรัพย์สินที่ทางตำรวจได้ยึดไปแล้ว ก็จะจัดทำบัญชีทรัพย์สินและส่งกลับมายัง ปปง.ในภายหลัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ผ่านมา ปปง.ได้ร่วมตรวจสอบคดีค้ามนุษย์กับ พล.ต.อ.เอก และเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 ตั้งแต่มีคดีค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการยึดอายัดทรัพย์สินของเครือข่ายค้ามนุษย์โกโต้ง หรือนายปัจจุบัน และเครือข่ายโกมิก หรือนายสุนันท์ แสงทอง ซึ่งเป็นเครือข่ายอยู่ที่ อ.หัวไทร จ.นครศรีธรรมราช สามารถยึดอายัดทรัพย์สินได้จำนวนกว่า 100 ล้านบาท
**ผบ.ตร.เตรียมเจรจาผบ.มาเลย์
ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.กล่าวถึงความคืบหน้าการดำเนินกคดีกับขบวนการค้ามนุษย์ชาวโรฮีนจา หลังมีการออกหมายจับนายปัจจุบัน หรือโกโต้งว่า ตนได้รับรายงานจากเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนว่า ขณะนี้นายปัจจุบัน ได้มีการหลบหนีไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน แต่จะจริงเท็จอย่างไรให้เจ้าหน้าที่ติดตามตัวอยู่ ถ้ายังอยู่ในประเทศไทยต้องมีการดำเนินการจับกุมตัว และถ้าหลบนี้ไปประเทศเพื่อนบ้านก็คงต้องใช้วิธีการทูตหรือไม่ก็ใช้สนธิสัญญาส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนที่เรามีต่อกัน และคงเป็นไปตามขั้นตอน ผู้ใช้เงินในบัญชีดังกล่าว และไม่ยอมแจ้งปิดบัญชีหลังการเสียชีวิตของเจ๊ง๊อ ซึ่ง ปปง.จะเรียกธนาคารมาชี้แจงต่อไป สำหรับรถยนต์เบนซ์ 4 คันที่ถูกอายัดไว้เป็นทรัพย์ของนักการเมืองท้องถิ่นที่เกี่ยวข้องกับเครือข่ายนายผดุงศักดิ์ โดยเจ้าของทรัพย์สินสามารถนำหลักฐานเข้าชี้แจงทรัพย์ที่ไม่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีค้ามนุษย์ได้ภายใน 90 วัน" พ.ต.อ.สีหนาท กล่าว