ศูนย์ข่าวหาดใหญ่ - แม่ทัพภาคที่ 4 เผยพบแคมป์ขนาดใหญ่ใช้กักกันชาวโรฮีนจา ห่างจากจุดเดิมบนเทือกเขาแก้วราว 2 กิโลเมตร จุคนได้ไม่ต่ำกว่า 800 คน ตะลึงพบแคมป์ย่อยๆ ตลอดแนวชายแดนรวม 73 แห่ง เตรียมตรวจละเอียดร่วมทางการมาเลย์ ด้าน ผวจ.สตูล ชงเรื่องตรวจสอบที่ดิน “โกโต้ง” ตัวการใหญ่ เผยก่อนเผ่นไปลังกาวี แอบถอนเงินสดหลายร้อยล้านติดตัวไปด้วย ส่วนผลตรวจสอบบัญชีส่วยพบตำรวจทุกระดับพัวพันร่วม 50 คน สังกัด ตม.6 มากสุด
วันนี้ (12 พ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.ปราการ ชลยุทธ แม่ทัพภาคที่ 4 และ ผอ.กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า เปิดเผยว่า กำลังของทหาร ฉก.สงขลา ได้ค้นพบค่ายกักกันขนาดใหญ่กว่าที่พบครั้งแรกในเทือกเขาแก้ว ต.ปาดังเบซาร์ ซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขา ห่างจากค่ายเดิมประมาณ 2 กิโลเมตร มีความจุของคนไม่ต่ำกว่า 800 คน และเป็นค่ายใหม่ๆ ที่เพิ่งทิ้งร้างไป นอกจากนั้น ยังพบค่ายกักกันที่สร้างอยู่ในฝั่งมาเลเซียอีก 3 แห่ง และในการส่งทหารออกตรวจสอบพื้นที่แนวชายแดนตั้งแต่ จ.สตูล จนถึง จ.สงขลา ของเทือกเขาแก้ว พบค่ายพักพิงที่เป็นย่อยๆ รวม 73 แห่ง ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และปกครอง ได้ส่งกำลังเข้าตรวจสอบรายละเอียดถึงความเกี่ยวข้องว่านอกจากผู้ต้องหาที่ออกหมายจับแล้ว จำนวน 51 คน ยังเกี่ยวข้องมากน้อยเพียงใด
ขณะนี้กองทัพภาคที่ 4 ได้สั่งการให้กำลังทหารของทุกจังหวัดใน 14 จังหวัดภาคใต้ สนธิกำลังกับตำรวจ และปกครองเอกซเรย์พื้นที่ทั้งหมด เพื่อที่จะกวาดล้างขบวนการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้น ส่วนในเรื่องการแก้ปัญหาระหว่างประเทศไทยกับมาเลเซียนั้น กองทัพภาคที่ 4 จะใช้ช่องทางของ สน.กชภ. (สำนักงานคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค) ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาระดับท้องถิ่น เพราะมีความร่วมเร็วกว่า และเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ สน.กชภ. ทั้ง 2 ประเทศ สามารถแก้ไขได้
ขณะเดียวกัน ในวันนี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง ตำรวจ และทหาร ภายใต้การนำของนายเดชรัฐ สิมสิริ ผวจ.สตูล ได้เข้าพิสูจน์หลุมฝังศพที่เกาะแรดใหญ่ จำนวน 19 หลุม ที่ฝังอยู่ในที่ดินของนายปัจจุบัน อังโชติพันธ์ อดีตนายก อบจ.สตูล ผู้ต้องหาคนสำคัญที่ยังหลบหนีอยู่ โดยเชิญผู้นำท้องถิ่น และญาติๆ ของนายปัจจุบัน มาสอบถามจนสรุปได้ว่า ไม่ใช่สุสานที่ฝังศพชาวโรฮีนจา แต่เป็นสุสานของตระกูลอังโชติพันธ์ ซึ่งเป็นตระกูลใหญ่ จึงได้สร้างสุสานส่วนตัวขึ้นในที่ดินบนเกาะ
สำหรับที่ดินแปลงดังกล่าวมีเนื้อที่จำนวน 300 ไร่ ตั้งอยู่บนเกาะ เป็นของนายปัจจุบัน 107 ไร่ ระบุว่า มีหลักฐานเป็นโฉนดที่ออกเมื่อปี 2515 ซึ่งนายเดชรัฐ ได้เปิดเผยว่า ทางจังหวัดจะให้สำนักงานที่ดินทำการตรวจสอบที่ดินทั้ง 300 ไร่ ที่มีการออกโฉนดว่าเป็นการออกอย่างไร เป็นการออกโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ นอกจากนั้น ยังจะมีการตรวจสอบที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะ และเกาะสาหร่าย อีกจำนวนหลายร้อยไร่ที่ถือครองโดยนายปัจจุบันด้วย
ผู้สื่อข่าวได้รับการเปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่จะถูกออกหมายจับ และตำรวจเข้าค้นบ้านพักเพียง 2 วัน นายปัจจุบัน และนายมาเลย์ โต๊ะดิน นายก อบต.ปูยู อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งเป็นมือขวาของนายปัจจุบัน โดยทั้ง 2 คน ได้ทำการถอนเงินสด และเครื่องทองรูปพรรณจากสถาบันการเงิน 4-5 แห่ง ใน จ.สตูล ออกไปจำนวนหลายร้อยล้านบาท เพื่อป้องกันการอายัดทรัพย์จากเจ้าหน้าที่ และในบางส่วนที่ถอนไม่ทันได้มีการมอบฉันทะให้ญาติๆ เป็นผู้ไปถอนแทน
โดยล่าสุด นายปัจจุบัน ได้ติดต่อประสานงานกับนายตำรวจระดับ ผบช. ผู้หนึ่งที่จะเข้ามอบตัว พร้อมกับพวกที่เป็นระดับผู้นำท้องถิ่น และผู้นำท้องที่ และคนในตระกูล โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องได้รับการประกันตัว แต่ปรากฏว่า พล.ต.อ.เอก อังสนันท์ รอง ผบ.ตร. ไม่รับเงื่อนไขดังกล่าวของนายปัจจุบัน ซึ่งแหล่งข่าวแจ้งว่า นายปัจจุบัน ยังหลบอยู่ในที่ปลอดภัยที่เกาะลังกาวี
ในขณะที่ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ รอง ผบ.ตร.เปิดเผยว่า ได้มีการติดต่อประสานงานกับตำรวจรัฐเปอร์ลิส เป็นการลับเพื่อที่จะขอความร่วมมือจากตำรวจสันติบาลมาเลเซีย ในการจับกุมตัวนายปัจจุบัน นายมาเลย์ โต๊ะดิน และพวกที่หลบอยู่ที่เกาะลังกาวี ส่งกลับมา ซึ่งขณะนี้ได้ส่งหลักฐานทั้งหมดให้แก่ตำรวจสันติบาลมาเลเซียแล้ว
ในส่วนของส่วยที่เกี่ยวข้องกับนายพล 5 คนนั้น มีรายงานข่าวว่า พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร.อยู่ระหว่างการตรวจสอบเอกสารหลักฐาน และพยานแวดล้อมต่างๆ ซึ่งมีการเปิดเผยว่า มีภาพจากกล้องวงจรปิดที่ท่าเรือท่องเที่ยวที่ อ.ละงู จ.สตูล ที่เป็นภาพการเดินทางไปเที่ยวที่เกาะหลีเป๊ะ ที่นายตำรวจที่มีชื่อรับส่วยการค้ามนุษย์ ซึ่งแหล่งข่าวเปิดเผยว่า การตรวจสอบคืบหน้าไป 95 เปอร์เซ็นแล้ว
มีรายงานข่าวแจ้งว่า การเอาผิด และโยกย้ายนายตำรวจระดับสูงที่เกี่ยวกับส่วยการค้ามนุษย์ในครั้งนี้มีปัญหาเกิดขึ้น โดยมีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ที่เคยเป็น ผบช.ภ.9. ในอดีต ซึ่งมีความผูกพันกับกลุ่มตำรวจที่มีผลประโยชน์ ไม่เห็นด้วยต่อการที่จะโยกย้ายนายตำรวจระดับสูงครั้งนี้ แต่สุดท้ายแล้ว จะเป็นการตัดสินใจของ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ว่าจะดำเนินการอย่างไร
ซึ่งนอกจากนายตำรวจใหญ่ดังกล่าวแล้ว ชุดสืบสวนยังพบว่า มีตำรวจระดับสัญญาบัตรตั้งแต่ ร.ต.ต. จนถึง พ.ต.อ. และตำรวจชั้นประทวนในภาคใต้ ตั้งแต่ จ.ระนอง ลงมา อยู่ในข่ายการค้ามนุษย์อีกกว่า 40-50 คน โดยส่วนหนึ่งไม่ได้ทำการรับเงินค่าส่วย แต่เป็นการเข้าร่วมในขบวนการค้ามนุษย์ เช่นเป็นนายหน้าในการส่งโรฮีนจา ห้แก่ นายบรรณจง และนายปัจจุบัน บางส่วนเป็นเจ้าของรถยนต์ที่ใช้ในการขนชาวโรฮีนจามาส่งยังที่หมาย ซึ่งจากการตรวจสอบอย่างละเอียดพบว่า ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองสังกัด ตม.6 มีรายชื่อเกี่ยวกับการค้าโรฮีนจามากที่สุด