เมื่อวานนี้ (12 พ.ค.) พล.ท.พิรัช สวามิวัศดุ์ นายทหารคนสนิทของพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ ประธานที่ปรึกษาพรรคเพื่อไทย เปิดเผยว่า ในปีนี้ พล.อ.ชวลิตได้เปิดบ้านให้คนใกล้ชิดและผู้ที่เคารพนับถือ อวยพรวันเกิดล่วงหน้า ครบ 85 ปี ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ที่บ้านปิ่นประภาคม ซึ่งหลังจากที่ทางผู้ที่เข้าอวยพรแล้ว พล.อ.ชวลิต จะแถลงข่าวกับผู้สื่อข่าวใน เวลา 09.00 น.
สำหรับประเด็นที่ พล.อ.ชวลิต จะแถลงข่าวคือ ความเป็นห่วงคนยากจนในภาคการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการลดพื้นที่ปลูกพืช เช่น ยางพารา ซึ่งได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก รวมไปถึงปัญหาความยากจน ที่ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง นอกจากนั้นคือปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ พล.อ.ชวลิต จะเสนอแนวทางการสร้างสันติสุข ในพื้นที่อย่างยั่งยืน
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.อ.ชวลิต เตรียมเปิดบ้านพักให้คนสนิท และผู้ที่รู้จักได้เข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิดล่วงหน้า รวมถึงจะมีการแถลงข่าว ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ว่า สื่อก็อย่าไป เท่านี้ก็หมดเรื่อง ไปทำไม ก็รู้อยู่ และจะแถลงข่าวทำไม เพราะบ้านเมืองยังทำงานอยู่ การที่ พล.อ.ชวลิต เปิดบ้านให้อวยพรวันเกิด ไม่มีใครว่า แต่ผู้สื่อข่าวก็ไม่ต้องไป อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าทำเรื่องเล็กๆ ให้เป็นเรื่องใหญ่ ต่อไปเรื่องใหญ่จะไม่มี
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับเชิญจากประเทศเกาหลีใต้ ไปปาฐกถาพิเศษ ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะพูดอะไรก็พูดไป แต่อย่าทำให้กระทบกระเทือนต่อประเทศไทย และคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดในระดับโลก ก็รู้ว่าควรจะทำอย่างไร แต่ส่วนที่จะมาเกี่ยวข้องกับประเทศไทย เป็นเรื่องของส่วนรวมในประเทศ ไม่ควรมาพูดถึง อีกทั้งเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลมาแล้ว และพ.ต.ท.ทักษิณ เองก็รู้ว่า รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำลังดำเนินการสิ่งใดอยู่
"เรียกว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะดำเนินการอย่างไร ท่านก็ควรรู้เอง ผมไม่ต้องบอก อะไรที่จะเสียหายกับประเทศไทย ท่านก็ไม่ควรพูด ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องขอร้อง ผมคิดว่าท่านคงรู้ดี ว่าควรทำอย่างไร" พล.อ.ประวิตร กล่าว
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปปาฐกถาพิเศษ ที่เกาหลีใต้ ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ว่า ก็เป็นเรื่องของท่าน ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีคนไปฟังด้วยมั้ง แล้วก็มีคนไปฟังเยอะแยะไปหมดทั้งโลก ก็จะรู้เองว่าพูดจริง หรือไม่จริง คงไม่มีใครไปหลับหูหลับตาฟัง แล้วบอกว่าดี
"ผมว่าก็คงต้องมีทั้งดี และไม่ดี ผมพูดยังไม่มีคนฟังเลย ก็มีทั้งดี และไม่ดี เมื่อท่านไปพูด คนก็ต้องมองว่าถูกหรือไม่ถูก แล้ววันนี้สังคมมันพูดได้"
เมื่อถามว่า คิดว่าจะมีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ เพราะวันที่ปาฐกถาของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ตรงกับวันที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว่า "ไม่เกี่ยวกัน ทำไมทางโน้นจะบังคับไม่ให้ผมเอาเข้ากระบวนการยุติธรรมหรือ ไม่ให้เพราะทางนู้นพูด มันไม่เกี่ยวกัน อยากทำก็ทำไป"
เมื่อถามว่า จะกลายเป็นการนำนานาประเทศ มากดดันประเทศไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แล้วทำไม พวกคุณจะไปยอมเขาหรือ ไปยอมเขาทำไม คนไทยจะยอมเขาหรือเปล่า แล้วทำไมต้องมาโยนให้ตนหมดทุกเรื่อง คุณจะยอมให้มากำหนดชีวิต และประเทศชาติได้หรือ ถ้ายอมไม่ได้ก็จบ
" ทุกวันนี้ผมก็ทำให้เขายอมรับผมอยู่แล้ว ทุกประเทศที่เข้ามาก็พูดกับผมดีทุกคน ลงทุนไม่รู้จักเท่าไหร่ มากกว่ารัฐบาลชุดที่แล้วทำเสียอีก ชัดเจนกว่า และไว้วางใจมากกว่า"
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตุว่า ทำไมวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังสามารถเคลื่อนไหวในประเทศต่างๆได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องทางการเมือง และพ.ต.ท.ทักษิณ เคลื่อนไหวในต่างประเทศ แล้วอยากให้กลับไปดูว่า การเคลื่อนไหวต่างๆนั้น มีคนทำให้หรือเปล่า และอยากรู้ว่า ใครทำ ก็ต้องไปถามเขาดู ทุกคนก็รู้ แต่ก็ยังมาถามตนกันเรื่อยเปื่อย
"คนที่เชิญไปพูดในครั้งนี้ ก็คือสมาคมนักข่าวเกาหลีใต้ ก็เป็นสื่อแบบพวกคุณ เชิญเขาไป อะไรที่เป็นปัญหาทุกประเทศก็เชิญคนเหล่านี้ไปพูด แล้วก็เรียกว่า เสรีภาพ ท่านจะเอาเสรีภาพ แล้วจะไม่ให้คนอื่นไม่มีเสรีภาพหรือไง เขาพูดได้ ก็พูดไป แต่ผมทำบ้างจะมีคนเชื่อหรือเปล่า ถ้าทุกคนเชื่อตามนั้นหมด เขาคงไม่มาหาผมหรอก ทุกวันนี้ มาตั้งกี่ประเทศแล้ว ร่วมมือกันตั้งหลายอย่าง"
เมื่อถามว่า ไม่ได้กังวลใจใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กังวลอนาคตว่า ประเทศจะอยู่กันยังไง แต่ตนอยู่เพื่อทำให้หายกังวล ถ้าตนไป แล้วมันเรียบร้อยก็ไม่เป็นไร ถ้าเดือดร้อน ก็เป็นเรื่องของทุกคนต้องรับกรรมไป ประเทศไทยก็รับกรรมไป
สำหรับประเด็นที่ พล.อ.ชวลิต จะแถลงข่าวคือ ความเป็นห่วงคนยากจนในภาคการเกษตรที่ได้รับผลกระทบจากนโยบายการลดพื้นที่ปลูกพืช เช่น ยางพารา ซึ่งได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมาก รวมไปถึงปัญหาความยากจน ที่ไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้าง นอกจากนั้นคือปัญหาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ พล.อ.ชวลิต จะเสนอแนวทางการสร้างสันติสุข ในพื้นที่อย่างยั่งยืน
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายความมั่นคง และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี พล.อ.ชวลิต เตรียมเปิดบ้านพักให้คนสนิท และผู้ที่รู้จักได้เข้าอวยพรวันคล้ายวันเกิดล่วงหน้า รวมถึงจะมีการแถลงข่าว ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ ว่า สื่อก็อย่าไป เท่านี้ก็หมดเรื่อง ไปทำไม ก็รู้อยู่ และจะแถลงข่าวทำไม เพราะบ้านเมืองยังทำงานอยู่ การที่ พล.อ.ชวลิต เปิดบ้านให้อวยพรวันเกิด ไม่มีใครว่า แต่ผู้สื่อข่าวก็ไม่ต้องไป อย่าทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ถ้าทำเรื่องเล็กๆ ให้เป็นเรื่องใหญ่ ต่อไปเรื่องใหญ่จะไม่มี
พล.อ.ประวิตร ยังกล่าวถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้รับเชิญจากประเทศเกาหลีใต้ ไปปาฐกถาพิเศษ ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ จะพูดอะไรก็พูดไป แต่อย่าทำให้กระทบกระเทือนต่อประเทศไทย และคิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ พูดในระดับโลก ก็รู้ว่าควรจะทำอย่างไร แต่ส่วนที่จะมาเกี่ยวข้องกับประเทศไทย เป็นเรื่องของส่วนรวมในประเทศ ไม่ควรมาพูดถึง อีกทั้งเคยดำรงตำแหน่งหัวหน้ารัฐบาลมาแล้ว และพ.ต.ท.ทักษิณ เองก็รู้ว่า รัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำลังดำเนินการสิ่งใดอยู่
"เรียกว่าเป็นผู้ใหญ่แล้ว จะดำเนินการอย่างไร ท่านก็ควรรู้เอง ผมไม่ต้องบอก อะไรที่จะเสียหายกับประเทศไทย ท่านก็ไม่ควรพูด ทั้งนี้ไม่จำเป็นต้องขอร้อง ผมคิดว่าท่านคงรู้ดี ว่าควรทำอย่างไร" พล.อ.ประวิตร กล่าว
ด้านพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ถึงกรณี พ.ต.ท.ทักษิณ จะไปปาฐกถาพิเศษ ที่เกาหลีใต้ ในวันที่ 19 พ.ค.นี้ ว่า ก็เป็นเรื่องของท่าน ซึ่งเดี๋ยวก็คงมีคนไปฟังด้วยมั้ง แล้วก็มีคนไปฟังเยอะแยะไปหมดทั้งโลก ก็จะรู้เองว่าพูดจริง หรือไม่จริง คงไม่มีใครไปหลับหูหลับตาฟัง แล้วบอกว่าดี
"ผมว่าก็คงต้องมีทั้งดี และไม่ดี ผมพูดยังไม่มีคนฟังเลย ก็มีทั้งดี และไม่ดี เมื่อท่านไปพูด คนก็ต้องมองว่าถูกหรือไม่ถูก แล้ววันนี้สังคมมันพูดได้"
เมื่อถามว่า คิดว่าจะมีนัยยะทางการเมืองหรือไม่ เพราะวันที่ปาฐกถาของพ.ต.ท.ทักษิณนั้น ตรงกับวันที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ต้องไปขึ้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว่า "ไม่เกี่ยวกัน ทำไมทางโน้นจะบังคับไม่ให้ผมเอาเข้ากระบวนการยุติธรรมหรือ ไม่ให้เพราะทางนู้นพูด มันไม่เกี่ยวกัน อยากทำก็ทำไป"
เมื่อถามว่า จะกลายเป็นการนำนานาประเทศ มากดดันประเทศไทยหรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า แล้วทำไม พวกคุณจะไปยอมเขาหรือ ไปยอมเขาทำไม คนไทยจะยอมเขาหรือเปล่า แล้วทำไมต้องมาโยนให้ตนหมดทุกเรื่อง คุณจะยอมให้มากำหนดชีวิต และประเทศชาติได้หรือ ถ้ายอมไม่ได้ก็จบ
" ทุกวันนี้ผมก็ทำให้เขายอมรับผมอยู่แล้ว ทุกประเทศที่เข้ามาก็พูดกับผมดีทุกคน ลงทุนไม่รู้จักเท่าไหร่ มากกว่ารัฐบาลชุดที่แล้วทำเสียอีก ชัดเจนกว่า และไว้วางใจมากกว่า"
เมื่อถามว่า หลายฝ่ายตั้งข้อสังเกตุว่า ทำไมวันนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังสามารถเคลื่อนไหวในประเทศต่างๆได้ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า เป็นเรื่องทางการเมือง และพ.ต.ท.ทักษิณ เคลื่อนไหวในต่างประเทศ แล้วอยากให้กลับไปดูว่า การเคลื่อนไหวต่างๆนั้น มีคนทำให้หรือเปล่า และอยากรู้ว่า ใครทำ ก็ต้องไปถามเขาดู ทุกคนก็รู้ แต่ก็ยังมาถามตนกันเรื่อยเปื่อย
"คนที่เชิญไปพูดในครั้งนี้ ก็คือสมาคมนักข่าวเกาหลีใต้ ก็เป็นสื่อแบบพวกคุณ เชิญเขาไป อะไรที่เป็นปัญหาทุกประเทศก็เชิญคนเหล่านี้ไปพูด แล้วก็เรียกว่า เสรีภาพ ท่านจะเอาเสรีภาพ แล้วจะไม่ให้คนอื่นไม่มีเสรีภาพหรือไง เขาพูดได้ ก็พูดไป แต่ผมทำบ้างจะมีคนเชื่อหรือเปล่า ถ้าทุกคนเชื่อตามนั้นหมด เขาคงไม่มาหาผมหรอก ทุกวันนี้ มาตั้งกี่ประเทศแล้ว ร่วมมือกันตั้งหลายอย่าง"
เมื่อถามว่า ไม่ได้กังวลใจใช่หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า กังวลอนาคตว่า ประเทศจะอยู่กันยังไง แต่ตนอยู่เพื่อทำให้หายกังวล ถ้าตนไป แล้วมันเรียบร้อยก็ไม่เป็นไร ถ้าเดือดร้อน ก็เป็นเรื่องของทุกคนต้องรับกรรมไป ประเทศไทยก็รับกรรมไป