“เดอะ มันนี่” ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ กำปั้นไร้พ่ายชาวอเมริกัน เปรยอาจสละเข็มขัดทุกเส้นเพื่อเปิดโอกาสให้ดาวรุ่งขึ้นมาสร้างชื่อต่อไป โดยอย่างเร็วอาจจะเป็นวันจันทร์ที่ 4 พฤษภาคมนี้ตามเวลาท้องถิ่นหรืออีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า
ศึกแห่งศตวรรษที่รอคอยกันมา 5 ปีเต็ม จบลงด้วย ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เจ้าของสถิติไร้พ่ายชาวอเมริกันแชมป์โลก 5 สถาบัน ชนะ แมนนี ปาเกียว ยอดมวยของฟิลิปปินส์ แชมป์โลก 8 พิกัดน้ำหนัก ด้วยคะแนนแบบเป็นเอกฉันท์ กรรมการ เดฟ โมเร็ตติ ให้ 118-110 ส่วน เกล็น เฟลด์แมน และ เบิร์ต คลีเมนต์ส ให้เท่ากัน 116-112 ณ เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ โฮเตล แอนด์ คาสิโน ลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อ 2 พฤษภาคมตามเวลาท้องถิ่น
ทำให้ ฟลอยด์ ยังคงไร้พ่ายต่อไปเพิ่มสถิติเป็น 48 ไฟต์ป้องกันเข็มขัด 3 เส้นรุ่น เวลเตอร์เวต ของ สมาคมมวยโลก (ดับเบิลยูบีเอ) สภามวยโลก (ดับเบิลยูบีซี) และ นิตยสาร “เดอะ ริง” ขณะที่ ปาเกียว เสียเข็มขัด เวลเตอร์เวต ของ องค์กรมวยโลก (ดับเบิลยูบีโอ) โดยแพ้เป็นครั้งที่ 6 ชนะ 57 ครั้งจากการขึ้นเวทีทั้งหมด 65 ครั้ง
ฟลอยด์ เป็นเจ้าของเข็มขัดรุ่น เวลเตอร์เวต 3 สถาบันคือ ดับเบิลยูบีโอ, ดับเบิลยูบีเอ และ ดับเบิลยูบีซี อย่างไรก็ตามถูกโจมตีมากเป็นพิเศษเกี่ยวกับสไตล์การชกที่หนีและดักจังหวะเป็นส่วนใหญ่ ออกมาสยบกระแสดังกล่าวด้วยการอาจประกาศสละแชมป์ “ผมยังไม่แน่ใจอาจจะเป็นวันจันทร์นี้หรือบางทีอาจจะ 1 หรือ 2 สัปดาห์ข้างหน้า คงต้องกลับไปปรึกษากับทีมงานอีกครั้งแล้วค่อยตัดสินใจ ผมไม่ใช่คนโลภ คนอื่นๆ ต้องได้รับโอกาสเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะดาวรุ่ง ถึงเวลาที่พวกเขาต้องสู้เพื่อเข็มขัด”
ส่วน เลโอนาร์ด เอลเลอร์เบ ซีอีโอของ “เมย์เวทเธอร์ โปรดักชัน” กล่าวเสริมถึงกำปั้นดีที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ว่า “ฟลอยด์ อยู่ในวงการกีฬามา 20 ปีประสบความสำเร็จทุกสิ่งอย่างแล้ว ยังมีอะไรเหลืออื่น ดังนั้นก็ควรถึงเวลาที่ดาวรุ่งจะได้ขึ้นมารับโอกาสที่สมควรได้ต่อไป”
ฟลอยด์ เคยคว้าเหรียญทองแดงรุ่น เฟเธอร์เวต โอลิมปิก 1996 ที่ แอตแลนตา ให้สัมภาษณ์หลังชนะ ปาเกียว ว่าจากนี้จะชกอีกไฟต์เดียวคือเดือนกันยายนนี้ให้ครบสัญญาที่เซ็นกับไว้ข่ายถ่ายทอดสดคือ “โชว์ไทม์” ทั้งหมด 6 ไฟต์เริ่มมาแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2013
ศึกแห่งศตวรรษที่รอคอยกันมา 5 ปีเต็ม จบลงด้วย ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เจ้าของสถิติไร้พ่ายชาวอเมริกันแชมป์โลก 5 สถาบัน ชนะ แมนนี ปาเกียว ยอดมวยของฟิลิปปินส์ แชมป์โลก 8 พิกัดน้ำหนัก ด้วยคะแนนแบบเป็นเอกฉันท์ กรรมการ เดฟ โมเร็ตติ ให้ 118-110 ส่วน เกล็น เฟลด์แมน และ เบิร์ต คลีเมนต์ส ให้เท่ากัน 116-112 ณ เอ็มจีเอ็ม แกรนด์ โฮเตล แอนด์ คาสิโน ลาส เวกัส ประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อ 2 พฤษภาคมตามเวลาท้องถิ่น
ทำให้ ฟลอยด์ ยังคงไร้พ่ายต่อไปเพิ่มสถิติเป็น 48 ไฟต์ป้องกันเข็มขัด 3 เส้นรุ่น เวลเตอร์เวต ของ สมาคมมวยโลก (ดับเบิลยูบีเอ) สภามวยโลก (ดับเบิลยูบีซี) และ นิตยสาร “เดอะ ริง” ขณะที่ ปาเกียว เสียเข็มขัด เวลเตอร์เวต ของ องค์กรมวยโลก (ดับเบิลยูบีโอ) โดยแพ้เป็นครั้งที่ 6 ชนะ 57 ครั้งจากการขึ้นเวทีทั้งหมด 65 ครั้ง
ฟลอยด์ เป็นเจ้าของเข็มขัดรุ่น เวลเตอร์เวต 3 สถาบันคือ ดับเบิลยูบีโอ, ดับเบิลยูบีเอ และ ดับเบิลยูบีซี อย่างไรก็ตามถูกโจมตีมากเป็นพิเศษเกี่ยวกับสไตล์การชกที่หนีและดักจังหวะเป็นส่วนใหญ่ ออกมาสยบกระแสดังกล่าวด้วยการอาจประกาศสละแชมป์ “ผมยังไม่แน่ใจอาจจะเป็นวันจันทร์นี้หรือบางทีอาจจะ 1 หรือ 2 สัปดาห์ข้างหน้า คงต้องกลับไปปรึกษากับทีมงานอีกครั้งแล้วค่อยตัดสินใจ ผมไม่ใช่คนโลภ คนอื่นๆ ต้องได้รับโอกาสเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะดาวรุ่ง ถึงเวลาที่พวกเขาต้องสู้เพื่อเข็มขัด”
ส่วน เลโอนาร์ด เอลเลอร์เบ ซีอีโอของ “เมย์เวทเธอร์ โปรดักชัน” กล่าวเสริมถึงกำปั้นดีที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ว่า “ฟลอยด์ อยู่ในวงการกีฬามา 20 ปีประสบความสำเร็จทุกสิ่งอย่างแล้ว ยังมีอะไรเหลืออื่น ดังนั้นก็ควรถึงเวลาที่ดาวรุ่งจะได้ขึ้นมารับโอกาสที่สมควรได้ต่อไป”
ฟลอยด์ เคยคว้าเหรียญทองแดงรุ่น เฟเธอร์เวต โอลิมปิก 1996 ที่ แอตแลนตา ให้สัมภาษณ์หลังชนะ ปาเกียว ว่าจากนี้จะชกอีกไฟต์เดียวคือเดือนกันยายนนี้ให้ครบสัญญาที่เซ็นกับไว้ข่ายถ่ายทอดสดคือ “โชว์ไทม์” ทั้งหมด 6 ไฟต์เริ่มมาแล้วตั้งแต่เดือนพฤษภาคมปี 2013
