ASTVผู้จัดการรายวัน-"บิ๊กจิ๋ว"ใช้ช่องพีซทีวีก่อนถูกปิด ปฏิเสธเอี่ยวบึ้มสมุย อ้างแค่ไปร่วมงานที่สุราษฎร์ช่วงนั้น เผยรู้ตัวคนปล่อยข่าวแต่อโหสิให้ พร้อมแนะทำรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ กันฉีกกันเอง อวย คสช. ทำงานดี ให้ 110% "ไอ้ตู่" ส่งทีมงานร้อง "บิ๊กตู่" ขู่ส่ง นปช. ออกสื่อทุกช่องทาง ซัดไม่ฉลาดปิดพีซทีวี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (29เม.ย.) ที่สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม พีซทีวี อิมพีเรียลลาดพร้าว พล.อ.ชวลิต จงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการมองไกล ว่า กรณีที่มีการพาดพิงว่าตนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตนไม่ทราบ และไม่เคยเดินทางไปเกาะสมุย ข้อเท็จจริง ตนเดินทางไปงานที่จ.สุราษฐ์ธานี ในงานครบรอบ 28 ปี ยุทธการเขาช่องช้าง ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการยุติการต่อสู้ ก็ไปพบกับชาวบ้านที่กลับใจคืนอาวุธ วันนั้นมีรองผู้การจังหวัดก็มาร่วมงานด้วยกัน คนที่ให้ข่าวอาจไม่รู้จักตนดีพอ และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่รู้สึกโกรธคนที่ออกมาพาดพิง ขออโหสิกรรมให้
"ไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้น เพราะที่ผ่านมา ก็มีชื่อของผมถูกดึงไปพัวพันว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องตลอด ไม่ได้เป็นเรื่องที่รบกวนจิตใจ พอจะรู้ว่าเป็นใคร แต่ไม่บอกว่าเป็นใคร" อดีนายกฯ ระบุ
เมื่อถามว่า ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ไม่ปฏิเสธข่าวดังกล่าว พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า อย่าไปดึงนายกฯ มายุ่งเรื่องนี้เลย เป็นเรื่องเล็กน้อย อยากให้เกี่ยวข้องกับเรื่องใหญ่ๆ การช่วยเหลือประชาชน ส่วนการส่งฝ่ายความมั่นคงติดตาม อาจเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ก็ยังบอกคนที่ส่งมาประกบตน มานั่งกินกาแฟด้วยกัน
"กรณีที่เกาะสมุย มีสิ่งที่ตั้งข้อสงสัยไว้ 1.ทำไมถึงเกิดในจังหวะเวลาเดียวกัน 2.ทำไมต้องทำในพื้นที่ปิดอย่างเกาะด้วย เพราะมีแต่คนพบเห็นได้ 3.ทำไมคนให้ข่าวคนแรก มียศสูงเหลือเกิน และออกมาพูดอย่างรวดเร็วนัก"พล.อ.ชวลิตกล่าว
พล.อ.ชวลิต กล่าวอีกว่า วันนี้มีการถกเถียงกันอย่างมากมายในเรื่องรัฐธรรมนูญ ตนอยากให้คำนึงผลสุดท้าย คือ ทำสิ่งที่ให้ประชาชนได้เข้ามารับผิดชอบจัดการเอง รวมทั้งต้องสอบถามความต้องการของประชาชน ส่วนผู้ที่เข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศ มีการประกาศใช้อำนาจสูงสุด ต้องใช้เพื่อให้ประเทศชาติอยู่ได้ สิ่งนั้นเรียกว่ารัฐบาลเฉพาะกาล และต้องอยู่ให้สั้นที่สุดด้วย
ภายหลังออกรายการ พล.อ.ชวลิต ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ขอแนะนำให้เขียนรัฐธรรมนูญออกเป็น 2 ฉบับ เพื่อจะได้ไม่ฉีกกันอีก เถียงกันนัก ก็ทำออกมาในส่วนที่แต่ละคนต้องการ ไม่เช่นนั้นให้พี่น้องทหารมานั่งทำงานและฉีกอีก ให้เลือกกันเองได้ตามสบาย ทั้งนี้ ในโอกาสการทำงานของ คสช. ที่ใกล้จะครบปี ตนให้คะแนน 110 เปอร์เซ็นต์
วันเดียวกันนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีปิดพีซทีวี ว่า ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ เวลา 11.00 น. ทางทีมงานและผู้ประกาศของพีซทีวี จะไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อขอความเป็นธรรม การปิดพีซทีวี เป็นความคิดที่ไม่ฉลาด ไม่ว่าโดยใครก็ตาม ถ้าปิดช่องทางนี้แล้วคิดว่าเป็นการปิดข่าวได้ ถือว่าคิดผิด ตอนที่เราอยู่ในพีซทีวี เปรียบเหมือนการอยู่ในลำคลอง ถ้าหากปิดเรา จะเหมือนกับการออกมหาสมุทร แกนนำ นปช. สามารถไปที่ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ สปช. สนช. ได้ทุกวัน เพื่อแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา ไปวันละประเด็น ก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว เพราะฉะนั้นก็เป็นข่าวออกไปทุกสื่อได้ทุกวัน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ออกมาระบุว่าจะไปพูดในสถานที่อื่น หลังจากปิดพีซทีวี ว่า อะไรที่ผิด ก็ปิดไป ต้องเป็นไปตามนั้น ส่วนที่นายณัฐวุฒิ บอกว่าถ้าปิดช่องแล้วจะไปพูดที่อื่นนั้น ตนคิดว่า ก็ตามใจเขา จะไปพูดที่ไหนก็ไป แต่ตอนนี้ คสช. ต้องการความปรองดอง และให้ประเทศชาติเดินไปให้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.00 น.วานนี้ (29เม.ย.) ที่สถานีโทรทัศน์ดาวเทียม พีซทีวี อิมพีเรียลลาดพร้าว พล.อ.ชวลิต จงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการมองไกล ว่า กรณีที่มีการพาดพิงว่าตนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดที่ลานจอดรถชั้นใต้ดิน ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล เฟสติวัล เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ตนไม่ทราบ และไม่เคยเดินทางไปเกาะสมุย ข้อเท็จจริง ตนเดินทางไปงานที่จ.สุราษฐ์ธานี ในงานครบรอบ 28 ปี ยุทธการเขาช่องช้าง ที่เป็นจุดเริ่มต้นของการยุติการต่อสู้ ก็ไปพบกับชาวบ้านที่กลับใจคืนอาวุธ วันนั้นมีรองผู้การจังหวัดก็มาร่วมงานด้วยกัน คนที่ให้ข่าวอาจไม่รู้จักตนดีพอ และรู้เท่าไม่ถึงการณ์ ไม่รู้สึกโกรธคนที่ออกมาพาดพิง ขออโหสิกรรมให้
"ไม่ใช่เรื่องที่น่าตื่นเต้น เพราะที่ผ่านมา ก็มีชื่อของผมถูกดึงไปพัวพันว่าเป็นผู้เกี่ยวข้องตลอด ไม่ได้เป็นเรื่องที่รบกวนจิตใจ พอจะรู้ว่าเป็นใคร แต่ไม่บอกว่าเป็นใคร" อดีนายกฯ ระบุ
เมื่อถามว่า ท่าทีของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ที่ไม่ปฏิเสธข่าวดังกล่าว พล.อ.ชวลิต กล่าวว่า อย่าไปดึงนายกฯ มายุ่งเรื่องนี้เลย เป็นเรื่องเล็กน้อย อยากให้เกี่ยวข้องกับเรื่องใหญ่ๆ การช่วยเหลือประชาชน ส่วนการส่งฝ่ายความมั่นคงติดตาม อาจเป็นห่วงเรื่องความปลอดภัย ก็ยังบอกคนที่ส่งมาประกบตน มานั่งกินกาแฟด้วยกัน
"กรณีที่เกาะสมุย มีสิ่งที่ตั้งข้อสงสัยไว้ 1.ทำไมถึงเกิดในจังหวะเวลาเดียวกัน 2.ทำไมต้องทำในพื้นที่ปิดอย่างเกาะด้วย เพราะมีแต่คนพบเห็นได้ 3.ทำไมคนให้ข่าวคนแรก มียศสูงเหลือเกิน และออกมาพูดอย่างรวดเร็วนัก"พล.อ.ชวลิตกล่าว
พล.อ.ชวลิต กล่าวอีกว่า วันนี้มีการถกเถียงกันอย่างมากมายในเรื่องรัฐธรรมนูญ ตนอยากให้คำนึงผลสุดท้าย คือ ทำสิ่งที่ให้ประชาชนได้เข้ามารับผิดชอบจัดการเอง รวมทั้งต้องสอบถามความต้องการของประชาชน ส่วนผู้ที่เข้ามาแก้ไขปัญหาประเทศ มีการประกาศใช้อำนาจสูงสุด ต้องใช้เพื่อให้ประเทศชาติอยู่ได้ สิ่งนั้นเรียกว่ารัฐบาลเฉพาะกาล และต้องอยู่ให้สั้นที่สุดด้วย
ภายหลังออกรายการ พล.อ.ชวลิต ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ขอแนะนำให้เขียนรัฐธรรมนูญออกเป็น 2 ฉบับ เพื่อจะได้ไม่ฉีกกันอีก เถียงกันนัก ก็ทำออกมาในส่วนที่แต่ละคนต้องการ ไม่เช่นนั้นให้พี่น้องทหารมานั่งทำงานและฉีกอีก ให้เลือกกันเองได้ตามสบาย ทั้งนี้ ในโอกาสการทำงานของ คสช. ที่ใกล้จะครบปี ตนให้คะแนน 110 เปอร์เซ็นต์
วันเดียวกันนี้ นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีปิดพีซทีวี ว่า ในวันที่ 30 เม.ย.นี้ เวลา 11.00 น. ทางทีมงานและผู้ประกาศของพีซทีวี จะไปยื่นหนังสือถึง พล.อ.ประยุทธ์ เพื่อขอความเป็นธรรม การปิดพีซทีวี เป็นความคิดที่ไม่ฉลาด ไม่ว่าโดยใครก็ตาม ถ้าปิดช่องทางนี้แล้วคิดว่าเป็นการปิดข่าวได้ ถือว่าคิดผิด ตอนที่เราอยู่ในพีซทีวี เปรียบเหมือนการอยู่ในลำคลอง ถ้าหากปิดเรา จะเหมือนกับการออกมหาสมุทร แกนนำ นปช. สามารถไปที่ กมธ.ยกร่างรัฐธรรมนูญ สปช. สนช. ได้ทุกวัน เพื่อแสดงความเห็นอย่างตรงไปตรงมา ไปวันละประเด็น ก็ไม่ต้องทำอะไรกันแล้ว เพราะฉะนั้นก็เป็นข่าวออกไปทุกสื่อได้ทุกวัน
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำ นปช. ออกมาระบุว่าจะไปพูดในสถานที่อื่น หลังจากปิดพีซทีวี ว่า อะไรที่ผิด ก็ปิดไป ต้องเป็นไปตามนั้น ส่วนที่นายณัฐวุฒิ บอกว่าถ้าปิดช่องแล้วจะไปพูดที่อื่นนั้น ตนคิดว่า ก็ตามใจเขา จะไปพูดที่ไหนก็ไป แต่ตอนนี้ คสช. ต้องการความปรองดอง และให้ประเทศชาติเดินไปให้ได้
