“จตุพร” ชี้อย่าโยง “บิ๊กจิ๋ว” เอี่ยวบึ้มสมุย ระบุไปร่วมงานวีรชน มีทหารคุมอยู่ด้วย เตือนให้ระวังอย่าป้ายสีคนอื่น ทำให้เป็นเรื่องทางการเมือง ด้าน “บิ๊กตู่” ย้ำคดีนี้เกี่ยวกับการเมืองแน่นอน “ผบ.ทบ.” มั่นใจไม่โยง 3 จังหวัดชายแดนใต้
วันนี้ (20 เม.ย.) มีรายงานว่า นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) ได้กล่าวในรายการมองไกล ตั้งแต่นาทีที่ 40
https://www.youtube.com/watch?v=2nAdZdzFn2U
กรณีมีข่าวลือว่า มีอดีตนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งไป จ.สุราษฎร์ธานี ก่อนจะเกิดเหตุคาร์บอมบ์ ทำให้นายไพศาล พืชมงคล กรรมการผู้ช่วย พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคง โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กพาดพิงผู้ใหญ่ของบ้านเมืองซึ่งคาดว่าน่าจะหมายถึง พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรี
ทั้งนี้ นายจตุพรระบุว่า “โดยข้อเท็จจริงแล้ว พล.อ.ชวลิต เดินทางไป จ.สุราษฎร์ธานี จริงช่วงต้นเดือน เม.ย.ที่ผ่านมาเพราะไปร่วมงานทำบุญวีรชนที่เคยเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ที่เขาช่องช้าง จ.สุราษฎร์ธานี เขตสู้รบที่สำคัญในอดีตระหว่างทหารรัฐบาลกับทหารป่า และเป็นผู้ใช้ประกาศคำสั่ง 66/23 สมัยสู้รบกับคอมมิวนิสต์ ยุติเหตุการณ์ดังกล่าวจนสำเร็จ ในพิธีก็มีนายทหาร กอ.รมน.รวมอยู่ พล.อ.ชวลิตถือเป็นบุคคลสำคัญที่คุณประโยชน์ให้ประเทศชาติมามาก ใครจะใส่ร้ายป้ายสีก็ควรระวัง เพราะในสมัยที่ พล.อ.ชวลิตเป็นนายกรัฐมนตรีก็แต่งตั้งให้นายไพศาลเป็นผู้บริหารขององค์การโทรศัพท์ในยุคนั้นด้วย”
ด้าน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุม ครม.ว่า คดีนี้มีความเกี่ยวข้องทางการเมือง และมีความเกี่ยวข้องกับอดีตนักการเมือง และ ส.ส.ด้วย
“คดีนี้เกี่ยวกับการเมืองแน่นอน แต่จะเกี่ยวกับการเมืองฝ่ายไหนไม่ชัดเจน อาจเกี่ยวในแง่ต้องการสร้างความไม่สงบ หรือเป็นกลุ่มอิทธิพล หรือเป็นเรื่องธุรกิจส่วนตัว เรื่องขโมยซื้อขายรถหรือเปล่า แต่ที่ชัดเจนคือไม่ใช่เรื่องการก่อการร้าย เพราะไม่ใช่ขโมยรถมาแล้ววางระเบิดปกติ แต่มีการเปลี่ยนรถซับซ้อนหลายจุด โดยเจ้าหน้าที่สืบสวนไม่ตัดประเด็นใดๆ ทิ้งทั้งสิ้น”
พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหมและผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ได้มีการดำเนินการตามอำนาจของกฎหมายพิเศษที่มีอยู่ซึ่งเป็นเหตุจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโดยเป็นการดำเนินการร่วมกันระหว่างเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจและยืนยันว่า การควบคุมตัวบุคคลต้องสงสัยไม่มีการละเมิดสิทธิมนุษยชน
ส่วนสาเหตุของการก่อเหตุดังกล่าวนั้น ในขณะนี้ยังอยู่ในขั้นตอนของการตรวจสอบความเชื่อมโยงจึงไม่ขอชี้ชัดว่าเป็นการจ้างวานของอดีตนักการเมืองในพื้นที่ อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่าการก่อเหตุดังกล่าวไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการขยายพื้นที่ก่อเหตุความไม่สงบจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้แต่อย่างใดแม้ว่าจะพบอุปกรณ์ที่ใช้ในการก่อเหตุบางส่วนมาจากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้