ป่าไม้โคราชจ่อฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย"โบนันซ่า" เดินหน้าใช้ม. 25 ติดประกาศนำหลักฐานชี้แจงภายใน 30 วัน ยังเพิกเฉยสั่งรื้อถอน รองผบก.โคราชหัวหน้าทีมสอบสวน เผย "ไพวงษ์-ลูกสาว"ยังไม่เข้าให้ปากคำ มั่นใจสรุปสำนวนส่งอัยการพ.ค.นี้ ด้านชุดปฏิบัติการพิเศษ กระทรวงยุติธรรม เข้าตรวจสอบ"มูนแดนซ์ -คีรี มายา"วันนี้(28 เม.ย.) คาดมีหน่วยงานแจ้งความเพิ่มอีก
นายสุนทร กัณหาจันทร์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า นม.1 (ปากช่อง) เปิดเผยว่า ขณะนี้ข้อมูลและหลักฐานคดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเขาเสียดอ้า เขานกยูง และเขาอ่างหิน โดยโครงการโบนันซ่า เขาใหญ่ ของนายไพวงษ์ เตชะณรงค์ นักธุรกิจใหญ่และนักการเมืองชื่อดัง ได้ส่งให้พนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว ส่วนการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าไม้ ได้ให้เจ้าของพื้นที่สนามแข่งรถโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ นำหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าพนักงานป่าไม้ภายใน 30 วัน โดยนำประกาศไปติดเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมาที่สนามแข่งรถ ที่ว่าการอำเภอปากช่อง บ้านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และที่เทศบาลตำบลขนงพระ หากไม่นำหลักฐานมาแสดง จะออกประกาศให้ทำการรื้อถอนต่อไป ส่วนคดีแพ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินค่าความเสียหาย ซึ่งต้องใช้เวลาพอควร
ส่วนกรณีของโครงการมูนแดนซ์ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าได้เข้าไปจับพิกัดจุดที่มีการร้องเรียน คือ ด้านหลังโครงการซึ่งอยู่ใกล้บ้านพิธีกรข่าวชื่อดัง ติดกับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แล้ว และส่งเลขพิกัดไปให้สำนักงานจัดการป่าไม้ที่ 8 นครราชสีมา ตรวจสอบว่ารุกล้ำพื้นที่ป่าไม้หรือไม่ หากรุกล้ำต้องถามที่ดินจังหวัดว่าเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดมีที่มาอย่างไร
พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผบก.ภ.จว.นครราชสีมา หัวหน้าทีมสอบสวนคดีโบันซ่า กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้เรียกบุคคลที่มีชื่อในเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก. มาสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวน แต่ในส่วนของนายไพวงษ์ ผู้ถือสิทธิ์ครอบครอง น.ส.3 ก. แปลงเลขที่ 926 (9-1-63 ไร่) เลขที่ 927 ( 16-1-90 ไร่) รวมถึงน.ส.พรรณี สุจิรภิญโญกุล (น.ส.ภัสสรา เตชะณรงค์) บุตรสาวผู้ถือครอง น.ส.3 ก. แปลงเลขที่ 928 (16-1-50ไ ร่) เลขที่ 930 (7-1-20 ไร่) ยังไม่ติดต่อเข้าให้ปากคำ ทั้งนี้จะให้น้ำหนักไปที่ 5 แปลงแรก ส่วนแปลงที่ 6 ที่พบเพิ่มคงไม่ให้น้ำหนักมากนัก เพราะเป็นแค่พื้นที่บางส่วนเท่านั้นที่รุกล้ำ
"มั่นใจว่าจะสรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณาฟ้องศาลได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนโครงการมูนแดนซ์ และคีรี มายา ยังไม่มีหน่วยงานใดมาแจ้งความร้องทุกข์ คาดว่าหลักชุดปฏิบัติการพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบวันนี้(28 เม.ย.) น่าจะมีการแจ้งความดำเนินคดี"
นายสุนทร กัณหาจันทร์ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่า นม.1 (ปากช่อง) เปิดเผยว่า ขณะนี้ข้อมูลและหลักฐานคดีบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเขาเสียดอ้า เขานกยูง และเขาอ่างหิน โดยโครงการโบนันซ่า เขาใหญ่ ของนายไพวงษ์ เตชะณรงค์ นักธุรกิจใหญ่และนักการเมืองชื่อดัง ได้ส่งให้พนักงานสอบสวนไปหมดแล้ว ส่วนการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรา 25 พ.ร.บ.ป่าไม้ ได้ให้เจ้าของพื้นที่สนามแข่งรถโบนันซ่า อินเตอร์เนชั่นแนล สปีดเวย์ นำหลักฐานมาแสดงต่อเจ้าพนักงานป่าไม้ภายใน 30 วัน โดยนำประกาศไปติดเมื่อวันที่ 24 เม.ย.ที่ผ่านมาที่สนามแข่งรถ ที่ว่าการอำเภอปากช่อง บ้านกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และที่เทศบาลตำบลขนงพระ หากไม่นำหลักฐานมาแสดง จะออกประกาศให้ทำการรื้อถอนต่อไป ส่วนคดีแพ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินค่าความเสียหาย ซึ่งต้องใช้เวลาพอควร
ส่วนกรณีของโครงการมูนแดนซ์ เจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าได้เข้าไปจับพิกัดจุดที่มีการร้องเรียน คือ ด้านหลังโครงการซึ่งอยู่ใกล้บ้านพิธีกรข่าวชื่อดัง ติดกับเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่แล้ว และส่งเลขพิกัดไปให้สำนักงานจัดการป่าไม้ที่ 8 นครราชสีมา ตรวจสอบว่ารุกล้ำพื้นที่ป่าไม้หรือไม่ หากรุกล้ำต้องถามที่ดินจังหวัดว่าเอกสารสิทธิ์หรือโฉนดมีที่มาอย่างไร
พ.ต.อ.บุญเลิศ ว่องวัจนะ รองผบก.ภ.จว.นครราชสีมา หัวหน้าทีมสอบสวนคดีโบันซ่า กล่าวว่า พนักงานสอบสวนได้เรียกบุคคลที่มีชื่อในเอกสารสิทธิ์ น.ส.3 ก. มาสอบปากคำเพื่อประกอบสำนวน แต่ในส่วนของนายไพวงษ์ ผู้ถือสิทธิ์ครอบครอง น.ส.3 ก. แปลงเลขที่ 926 (9-1-63 ไร่) เลขที่ 927 ( 16-1-90 ไร่) รวมถึงน.ส.พรรณี สุจิรภิญโญกุล (น.ส.ภัสสรา เตชะณรงค์) บุตรสาวผู้ถือครอง น.ส.3 ก. แปลงเลขที่ 928 (16-1-50ไ ร่) เลขที่ 930 (7-1-20 ไร่) ยังไม่ติดต่อเข้าให้ปากคำ ทั้งนี้จะให้น้ำหนักไปที่ 5 แปลงแรก ส่วนแปลงที่ 6 ที่พบเพิ่มคงไม่ให้น้ำหนักมากนัก เพราะเป็นแค่พื้นที่บางส่วนเท่านั้นที่รุกล้ำ
"มั่นใจว่าจะสรุปสำนวนส่งอัยการพิจารณาฟ้องศาลได้ภายในเดือนพฤษภาคมนี้ ส่วนโครงการมูนแดนซ์ และคีรี มายา ยังไม่มีหน่วยงานใดมาแจ้งความร้องทุกข์ คาดว่าหลักชุดปฏิบัติการพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ลงพื้นที่ตรวจสอบวันนี้(28 เม.ย.) น่าจะมีการแจ้งความดำเนินคดี"
