"ในหลวง-พระราชินี" ทรงมีพระราชสาส์นแสดงความเสียพระราชหฤทัยถึงประธานาธิบดีเนปาล กรณีแผ่นดินไหว ขณะที่ชาวเนปาลยังอยู่ในอาการหวาดผวา ต้องใช้ชีวิตอาศัยในเต็นท์กลางแจ้ง และเฝ้ารอความช่วยเหลือหลังแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบกว่า 80 ปี ที่ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจนถึงค่ำวันจันทร์ (27เม.ย.) เพิ่มเป็นกว่า 3,800 คน ขณะที่ทีมกู้ภัยจากนานาชาติซึ่งทยอยเดินทางมาถึง ประสานงานทีมปฏิบัติการเนปาล เร่งรีบค้นหาผู้รอดชีวิตท่ามกลางอาคารสิ่งปลูกสร้างที่หักพัง นายกฯ สั่งหน่วยงานภาครัฐ ระดมให้ความช่วยเหลือ ประเดิมบริจาคเปิดบัญชี 1 แสนบาท ทหาร- ตำรวจ- แพทย์ พร้อมอุปกรณ์การช่วยเหลือ ออกเดินทางวันนี้ เผยขาดแคลนอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค อย่างหนัก
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ให้มีข้อความพระราชสาส์น แสดงความเสียพระราชหฤทัยไปยังประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล กรณีเหตุการณ์แผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 25 เมษายน 2558 ความว่า
ฯพณฯ ประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเนปาล กรุงกาฐมาณฑุ
ข้าพเจ้าและพระราชินี เศร้าสลดใจอย่างยิ่งที่ได้รับข่าวเหตุการณ์แผ่นดินไหวรุนแรง ซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บจำนวนมาก ทั้งยังก่อความเสียหายต่อมรดกทางวัฒนธรรม และโครงสร้างพื้นฐานในประเทศของท่าน ข้าพเจ้าและพระราชินี ขอแสดงความเสียใจด้วยใจจริง มายังท่านและผู้ประสบความสูญเสียจากภัยพิบัติธรรมชาติครั้งนี้
(พระปรมาภิไธย) ภูมิพลอดุลยเดช ปร.
ยอดเหยื่อแผ่นดินไหวทะลุ 3,800
ทีมกู้ภัยที่มีเครื่องมือตัดเหล็กและสิ่งของบรรเทาทุกข์ หลั่งไหลอย่างไม่ขาดสายจากทั่วโลกเข้าสู่เนปาล เพื่อร่วมปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัย รวมทั้งให้ความช่วยเหลือเหยื่อจากเหตุการณ์แผ่นดินไหวความแรง 7.8 ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (25)
เจ้าหน้าที่หลายๆ ฝ่ายแถลงว่า จนถึงตอนค่ำวันจันทร์นั้น ทราบแล้วว่าธรณีพิโรธคราวนี้ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปมากกว่า 3,800 คน เฉพาะในเนปาลก็เป็นจำนวน 3,793 คน ทำให้กลายเป็นภัยพิบัติครั้งที่มีผู้เสียชีวิตสูงที่สุดของประเทศซึ่งอยู่ติดเทือกเขาหิมาลัยและเผชิญกับแผ่นดินไหวเป็นประจำแห่งนี้
นอกจากนั้นยังมีผู้เสียชีวิตกว่า 90 คนในชาติเพื่อนบ้านอย่างอินเดียและจีน ขณะที่จำนวนผู้ได้บาดเจ็บเฉพาะในเนปาลอยู่ที่ 6,509 คน
ชาวเนปาลในเมืองหลวงกาฐมาณฑุ พากันไปพำนักอย่างแออัดอยู่ในสวนสาธารณะและพื้นที่โล่งอื่นๆ หลังจากแผ่นดินไหวทำลายบ้านพังพินาศไปเป็นจำนวนมาก มิหนำซ้ำยังมีอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกเกือบ 100 ครั้ง ส่งผลให้แม้กระทั่งประชาชนรายที่บ้านไม่เสียหายก็ไม่กล้ากลับไปยังที่พักอาศัย ถึงแม้คนจำนวนมากมีเพียงแผ่นพลาสติกเท่านั้นที่จะใช้ป้องกันความหนาวและสายฝนที่เทลงมา ผู้คนเหล่านี้กำลังตั้งตารอความช่วยเหลือจากต่างชาติ รวมทั้งพยายามหาข้อมูลข่าวสาร ท่ามกลางความสับสนเนื่องจากทั้งระบบโทรศัพท์มือถือและอินเทอร์เน็ตล้วนถูกตัดขาด หรือใช้ได้เพียงในบางพื้นที่เท่านั้น
บริเวณหน้าสถานีบริการน้ำมัน มีผู้คนเข้าแถวรอซื้อกันยาวเหยียด ขณะที่ชั้นวางสินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ตว่างเปล่า กระแสไฟฟ้าและน้ำประปาไม่มีใช้
โรงพยาบาลต่างๆ สับสันอลหม่าน ห้องเก็บศพล้น แพทย์พยาบาลทำงานแข่งกับเวลาเพื่อช่วยเหลือเหยื่อที่หลั่งไหลเข้ามาไม่ขาดสาย เจ้าหน้าที่รัฐบาลพยายามอย่างเต็มที่เพื่อรับมือการขาดแคลนน้ำดื่ม อาหาร และภัยคุกคามของโรคติดต่อ
ผู้ป่วยและผู้บาดเจ็บจำนวนมากต้องนอนอยู่กลางแจ้ง เนื่องจากไม่มีเตียงผู้ป่วยรองรับ แม้หลายโรงพยาบาลตั้งเต็นท์ผ่าตัดนอกอาคาร
รายงานขององค์การอนามัยโลก (ฮู) ระบุว่า เนปาลมีแพทย์เพียง 2.1 คนและเตียงคนไข้ 50 เตียงสำหรับประชาชนทุก 10,000 คน
ทางด้านกองทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) แถลงว่า เด็กเกือบล้านคนในพื้นที่ประสบภัยต้องการความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมโดยเร่งด่วน
ส่วน ลักษมี ปราสาท ดากัล โฆษกกระทรวงมหาดไทยเผยว่า เนปาลต้องการน้ำสะอาดและอุปกรณ์ยังชีพอื่นๆ จำนวนมากเพื่อแจกจ่ายแก่ผู้รอดชีวิต รวมถึงความช่วยเหลือและอุปกรณ์ด้านปฏิบัติการค้นหาและกู้ภัยนอกเมืองหลวง เช่น เฮลิคอปเตอร์
ราเมศวระ ดังกัลป์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารจัดการภัยพิบัติแห่งชาติ ในสังกัดกระทรวงมหาดไทยแถลงว่า ทีมฉุกเฉินจะเพิ่มความพยายามในการกู้ภัยผู้ที่ติดอยู่ในซากอาคารสูง
หน่วยกู้ภัยเนปาลกำลังทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่บรรเทาทุกข์นานาชาตินับร้อยคนจากกว่า 10 ประเทศ อาทิ จีน อินเดีย และอเมริกา ขณะที่คณะกรรมาธิการยุโรปประกาศให้เงินช่วยเหลือฉุกเฉิน 3 ล้านยูโรแก่เนปาล เพื่อเป็นทุนในการจัดหาน้ำสะอาด ยา ที่พักพิงฉุกเฉิน และระบบโทรคมนาคม
แผ่นดินไหวเมื่อวันเสาร์ยังทำให้เกิดหิมะถล่มใหญ่บนยอดเขาเอเวอเรสต์ ฝังค่ายฐานบริเวณเชิงเขาไปบางส่วนและทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 18 ราย
ในวันจันทร์ เฮลิคอปเตอร์กู้ภัยเริ่มขึ้นไปรับนักปีนเขาลงจากเอเวอเรสต์ หลังจากอพยพผู้บาดเจ็บจากค่ายฐานเมื่อวันอาทิตย์ (26)
ระหว่างเกิดเหตุ มีนักปีนเขาราว 800-1,000 คน ขึ้นไปรวมตัวกันที่บริเวณค่ายฐานของเอเวอเรสต์ เนื่องจากเป็นช่วงเริ่มฤดูกาลปีนเขาประจำปีพอดี รายงานระบุว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถสรุปยอดความสูญเสียที่ถูกต้องของบริเวณนี้ได้ เนื่องจากระบบการสื่อสารถูกตัดขาดโดยสิ้นเชิง
ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวเนปาล ทัลซี โกตัม ระบุว่า อาจต้องงดกิจกรรมปีนเขาในปีนี้ แต่ก็กล่าวว่า ยังไม่มีการตัดสินใจอย่างเป็นทางการ
ขณะเดียวกัน ราจีฟ บิสวอส หัวหน้านักเศรษฐศาสตร์ประจำเอเชีย-แปซิฟิกของบริษัทวิจัยธุรกิจ ไอเอสเอส คาดว่า ค่าใช้จ่ายในการฟื้นฟูเนปาลอาจสูงกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์ หรือเท่ากับประมาณ 20% ของมูลค่าผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี)
นอกจากสร้างความเสียหายต่อทรัพยากรที่มีจำกัดของประเทศยากจนแห่งนี้แล้ว แผ่นดินไหวยังส่งผลร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เป็นรายได้หลักของเนปาล
อย่างไรก็ดี สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานว่า ที่ศูนย์กลางแผ่นดินไหวในเมืองโภครา ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงผจญภัยของเนปาล และหลายฝ่ายกังวลว่า จะได้รับความเสียหายอย่างหนักนั้น กลับปรากฏว่า พื้นที่ส่วนใหญ่ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ และนักท่องเที่ยวยังทำกิจกรรมวันพักผ่อนตามปกติ
นายกฯประเดิมเปิดบัญชีช่วยเนปาล 1 แสน
ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการช่วยเหลือเหตุแผ่นดินไหวในประเทศเนปาล ว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้รัฐบาล ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐให้การช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน ซึ่งทางสำนักปลัดสำนักนายกฯ ได้เปิดบัญชีชื่อ “หัวใจไทย ส่งไปเนปาล”ธนาคารกรุงไทย สาขาทำเนียบรัฐบาล หมายเลขบัญชี 067-0-10330-6 สามารถบริจาคได้ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ในส่วนของต่างจังหวัด หากใครต้องการจะบริจาคสามารถบริจาคผ่านศูนย์ดำรงธรรมได้ เพื่อป้องกันการถูกแอบอ้างจากมิจฉาชีพ
นอกจากนี้ทางเอกชนเช่นเซเว่นอีเลฟเว่นทุกสาขา ยังให้ความร่วมมือรับบริจาค เพื่อส่งต่อมายังรัฐบาลด้วย ทั้งนี้ จะมีการสรุปยอดเงินช่วยเหลือประจำวันในเวลา 17.00 น.ของทุกวัน
พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้บริจาคเงินส่วนตัวประเดิมในบัญชีดังกล่าวเป็นท่านแรก จำนวน 1 แสนบาท และเชิญชวนให้ประชาชนคนไทยทุกหมู่เหล่า ร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือผู้เผชิญภัยพิบัติในเนปาลร่วมกัน
ส่งทหาร-ทีมแพทย์-ผลิตน้ำดื่มไปช่วย
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม กล่าวถึงการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ประเทศเนปาล ว่า ทางกองทัพบก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ ก็พร้อมจะดำเนินการจัดชุดแพทย์ และอากาศยาน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัย ในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะช่วยเหลือ และดูทางด้านนิติวิทยาศาสตร์ ทางกระทรวงการต่างประเทศก็จะมีการประชุมในภาพรวมอีกครั้ง เพื่อหาหนทางว่าจะช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง
อย่างไรก็ตาม ทางพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร รมช.กลาโหม ในฐานะ ผบ.ทบ.ก็ได้เตรียมช่องทางในการช่วยเหลือ โดยให้ประชาชนสามารถบริจาคสิ่งของช่วยเหลือได้ ผ่านทางสถานีวิทยุ โทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันนี้ (28 เม.ย.) เป็นต้นไป
พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงศ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม ได้มอบหมายให้กองทัพไทย เตรียมการและให้ความช่วยเหลือโดยเร่งด่วน แก่ประชาชนชาวเนปาล ที่ได้รับผลกระทบ โดยให้กองทัพไทยได้วางแผนจัดกำลังพลจำนวน 64 นาย พร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิต และเครื่องอุปโภค บริโภค ออกเดินทางด้วยเครื่องบินซี 130 จากประเทศไทย ในวันที่ 28 เม.ย.58 เวลา 08.00 น. ไปยังประเทศเนปาล เพื่อให้การช่วยเหลือในขั้นต้น โดยจะประเมินสถานการณ์และประสานงานกับกองทัพเนปาล เพื่อวางแผนขยายผลให้ความช่วยเหลือต่อไป
ขณะเดียวกัน รัฐบาล กำหนดจัดรายการการกุศล เพื่อระดมน้ำใจจากประชาชนชาวไทย ช่วยเหลือประชาชนชาวเนปาลที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว ในวันที่ 28 เม.ย.58 เวลา 20.00-22.40 ถ่ายทอดสด ทาง ททบ.5 จึงขอเชิญชวนประชาชนชาวไทยได้ร่วมแสดงน้ำใจในการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน ในวัน เวลาดังกล่าว
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกองทัพบก กล่าวว่า หลังจากมีการหารือร่วมระหว่างรัฐบาลโดยกระทรวงการต่างประเทศ เหล่าทัพ กระทรวงสาธารณสุข และภาคส่วนต่างๆ เพื่อสนธิความช่วยเหลือในนามรัฐบาลไทย สำหรับในส่วนของกองทัพบก พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ผบ.ทบ. ได้สั่งการให้ศูนย์บรรเทาสาธารณภัยกองทัพบก ปรับการส่งกำลังที่จะไปปฏิบัติภารกิจที่เนปาลตามที่รัฐบาลมอบหมาย โดยทีมช่วยเหลือในชุดแรก กองทัพบกจะสนธิกำลังร่วมกับเหล่าทัพและหน่วยงานต่างๆ เตรียมเดินทางในวันนี้ ด้วยเครื่องบินของกองทัพอากาศ โดยในส่วนกำลังของกองทัพบก จะประกอบด้วย 1. ชุดปฏิบัติการแพทย์ฉุกเฉินจากกรมแพทย์ทหารบก จำนวน 17 นาย พร้อมเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ มีภารกิจในการช่วยสนับสนุนงานด้านบริการทางการแพทย์ ณ พื้นที่เกิดเหตุ โดยชุดแพทย์ดังกล่าวมีขีดความสามารถในการปฐมพยาบาล การลำเลียง และส่งกลับผู้บาดเจ็บ และการรักษาพยาบาลทั่วไป 2. กองทัพบกจะส่งชุดผลิตน้ำดื่มจากกรมการทหารช่าง 1 ชุด พร้อมอุปกรณ์เข้าช่วยผลิตน้ำสะอาดให้ผู้ประสบภัยด้วย
ทั้งนี้ ผบ.ทบ.ได้สั่งการให้กรมการทหารช่าง จัดเตรียมหน่วยทหารช่างเฉพาะกิจ พร้อมเครื่องมือช่างขนาดหนัก หากมีการร้องขอเพิ่มเติมจากประเทศเนปาล และรัฐบาลไทยเห็นชอบ
ทอ.จัด C-130ส่งความช่วยเหลือวันนี้
พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลได้สั่งการให้ส่วนราชการและเหล่าทัพเตรียมความพร้อมในการให้ความช่วยเหลือทางด้านมนุษยธรรมแก่ประเทศเนปาลนั้นจากการประชุมของส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ที่กระทรวงการต่างประเทศ เมื่อเวลา 10.00 น. วานนี้ สรุปว่า ประเทศไทยจะส่งชุดช่วยเหลือและชุดประเมินผลเดินทางไปยังประเทศเนปาล ในวันนี้ ( 28 เม.ย.)
ทั้งนี้ พล.อ.อ. ตรีทศ สนแจ้ง ผบ.ทอ.ได้สั่งการให้กองบิน 6 จัดเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8(C-130H)จำนวน 1 เครื่อง เตรียมพร้อมที่จะออกเดินทางไปยังประเทศเนปาล ในวันนี้ เวลา 08.00น. โดยคณะเดินทางชุดแรกดังกล่าวมี รองเจ้ากรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย เป็นหัวหน้าคณะ พร้อมด้วยชุดสื่อสารของกองบัญชาการกองทัพไทย ชุดช่วยเหลือทางการแพทย์พร้อมเวชภัณฑ์ และชุดทหารช่างของกองทัพบก 51คน รวมทั้งอุปกรณ์ผลิตน้ำดื่ม ข้าวสาร และผ้าห่ม ซึ่งจะเป็นการเข้าไปช่วยเหลือในเบื้องต้น และอยู่ประเมินผลเพื่อการช่วยเหลือต่อไปเป็นเวลา 7 วัน
สำหรับภารกิจในการลำเลียงความช่วยเหลือจากประเทศไทยไปยังประเทศเนปาลครั้งนี้ จะเป็นการบินตรงจากกองบิน 6 ดอนเมือง ไปยังสนามบินกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ใช้เวลาบินเดินทาง 5 ชั่วโมง โดยจะเป็นการบินนำส่งคณะ และสิ่งของที่จะไปช่วยเหลือและเดินทางกลับในวันเดียวกัน
อย่างไรก็ตาม ผบ.ทอ.ได้สั่งการให้เตรียมพร้อมเครื่องบินลำเลียงแบบที่ 8 (C-130H)สำหรับการบินนำส่งคณะและสิ่งของเพื่อไปช่วยเหลือที่ประเทศเนปาลไว้ตลอดเวลา และพร้อมทำการบินทันที เมื่อได้รับสั่งการจากรัฐบาล
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เปิดเผยว่า ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้จัดทีมแพทย์ และเจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในครั้งนี้ โดยเฉพาะการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล เช่นเดียวกับเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศอินโดนีเชีย และนิวซีแลนด์
เบื้องต้นได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.จิตต์เจริญ เวลาดีวงณ์ ผู้ช่วย ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าชุด นำคณะเดินทางไป โดยทันทีที่เดินทางไปถึงให้ประสานกับสถานทูตไทย ในประเทศเนปาล เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ ในการให้ความช่วยเหลือ โดยจะให้ออกเดินทางโดยเร็วที่สุด
สธ.ตั้งวอร์รูมช่วยเหลือผู้ประสบภัยเนปาล
นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รมช.สาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.ได้เตรียมพร้อมในการส่งทีมไปช่วยเหลือด้านการแพทย์ ที่เนปาลแล้ว โดยเบื้องต้น จะส่งทีมสำรวจประมาณ 2-3 คน นำโดย นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัด สธ. เดินทางไปในวันนี้ เพื่อสำรวจสถานการณ์ ประสานกับสถานทูตไทยในเนปาล และกระทรวงสาธารณสุขเนปาล ว่า มีความต้องการความช่วยเหลือใดบ้าง ในวันที่ 29 เม.ย. คาดว่าน่าจะมีข้อมูลเพียงพอว่าจะส่งทีมช่วยเหลือไปสมทบเป็นทีมใหญ่ หรือทีมเล็ก ซึ่งเบื้องต้น ถ้าส่งทีมเล็กไปวางแผนให้ปฏิบัติการตั้ง รพ.สนามบริเวณใกล้สถานทูตไทยก่อน แต่หากเป็นทีมใหญ่จะประสานกับ สธ.เนปาล เพื่อช่วยเหลือ รพ.ต่างๆ หรือออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่
" ทีมที่จะส่งไปจะต้องไม่เป็นภาระของเนปาล และสามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เนื่องจากสถานการณ์ขณะนี้ มีความขาดแคลนในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานมาก ทั้งน้ำ อาหาร ไฟฟ้า โดยจะมีการเตรียมอุปกรณ์ภาคสนาม อุปกรณ์ทางการแพทย์ ระบบสื่อสาร เครื่องปั่นไฟ รวมทั้งอาหาร น้ำดื่มไปเอง"
ขณะนี้มีแพทย์ที่แสดงเจตจำนงจะร่วมเป็นอาสาสมัครจำนวนมาก รวมถึงมีคณะแพทยศาสตร์ต่างๆเข้าร่วม ทั้งศิริราช จุฬาฯ รามาธิบดี และ มศว ที่ระบุว่า มีความพร้อมที่จะเดินทางไป
อย่างไรก็ตาม การจัดทีมแพทย์จะต้องขึ้นอยู่ข้อมูลภาคสนามว่ามีความต้องการในลักษณะใด และอยากให้ผู้ที่จะเดินทางไป หรือต้องการเดินทางไป ประสานกับวอร์รูม สธ.ก่อน ซึ่งจากที่ประเมินขั้นต่ำ การเดินทางเข้าช่วยในครั้งนี้ อาจต้องใช้เวลา 1 เดือน จึงต้องมีทีมผลัดเปลี่ยนทีมละ 2 สัปดาห์ ทั้งนี้ สามารถประสานร่วมกับวอร์รูมสธ. ได้ทางเบอร์ 0-2590-1994
นพ.สุรเชษฐ์ สถิตนิรามัย รักษาการปลัด สธ. กล่าวว่า ทีมที่จะเดินทางไปในพื้นที่ได้ ต้องเป็นทีมที่มีประสบการณ์ ต้องรู้วิธีช่วยเหลือตนเอง ต้องจำกัดจำนวน เพื่อไม่ให้เป็นภาระในการดูแลของสถานทูต นอกจากทีมแพทย์แล้วยังมีความต้องการล่ามภาษาฮินดี ประมาณ 3-5 คน ซึ่งจะขึ้นทะเบียนไว้ก่อน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการประชุมวอร์รูม มีข้อสรุปจะส่งทีมแพทย์ชุดสำรวจประมาณ 4 คน เดินทางร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศในวันที่ 28 เม.ย. จากนั้นวันที่ 29 เม.ย. จะเป็นทีมแพทย์ชุดใหญ่ ประมาณ 47 คน จากกรมการแพทย์ และกรมแพทย์ทหารบก หลังจากนั้นจึงจะสลับหมุนเวียนแพทย์จากสถาบันต่างๆ ต่อไป
ทั้งนี้ แพทยสภาได้จัดโครงการลงทะเบียนแพทย์ที่มีความประสงค์จะเดินทางไป โดยลงทะเบียนแยกเป็นความเชี่ยวชาญด้านต่างๆ เพื่อให้ทางหน่วยงานราชการ และองค์กรการกุศล ที่จะเข้าพื้นที่สามารถประสานงานขอรับการสนับสนุนได้สะดวก โดยแพทยสภา จะเป็นผู้รับรองสถานภาพ และประสานงานให้ ซึ่งพบว่ามีแพทย์ที่ร่วมลงทะเบียนอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนกว่า 400 รายแล้ว ซึ่งแพทยสภาได้แจ้งเรื่องโครงการดังกล่าวต่อวอร์รูมของ สธ.แล้ว ซึ่งจะช่วยวอร์รูม สธ.ให้ง่ายต่อการจัดทีมอย่างเป็นระบบ
นพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ (สพฉ.) กล่าวว่า วันที่ 28 เม.ย. เวลา 10.15 น. นพ.สุริยะวงศ์คงคาเทพ รองปลัด สธ. ตน และทีมงานจะเดินทางไปประเมินสถานการณ์ที่ประเทศเนปาล ด้วยเที่ยวบิน TG319 ที่สนามบินสุวรรณภูมิ จากนั้นจะส่งข้อมูลมาประเมินอีกครั้ง เพื่อให้ตรงกับความต้องการที่ประเทศเนปาลร้องขอมามากที่สุด
วธ.เตรียมช่วยบูรณะมรดกโลกเนปาล
นายวีระ โรจน์พจนรัตน์ รมว.วัฒนธรรม(วธ.) กล่าวว่า วธ. รู้สึกเสียใจต่อเหตุการณ์ภัยพิบัติที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ประเทศเนปาลถือเป็นพุทธภูมิ เป็นประเทศเกิดของพระพุทธเจ้า อันเป็นศาสดาของศาสนาพุทธ ที่ประชาชนชาวไทยส่วนใหญ่นับถือ ดังนั้นเพื่อเป็นการสนองนโยบายของ นายกรัฐมนตรี ซึ่ง วธ. ในฐานะหน่วยงานที่ดำเนินงานด้านศาสนา จึงพร้อมร่วมมือในการธำรงรักษาศิลปวัฒนธรรมอันเป็นมรดก และหลักฐานประวัติศาสตร์ของโลกอย่างเต็มที่
ทั้งนี้ วธ.จะร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน อาทิ สถานเอกอัครราชทูตเนปาล ประจำประเทศไทย สถานเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศเนปาล องค์กรศาสนา 5 ศาสนา ห้างสรรพสินค้าพารากอน บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) มูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมสี) บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) สมาคมสร้างคุณค่าแห่งประเทศไทย สมาคมคนเนปาลโพ้นทะเล และคณะพระธรรมฑูตสายอินเดีย-เนปาล ฯลฯ จัดกิจกรรม เพื่อเชิญชวนประชาชนร่วมบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และสร้างขวัญ กำลังใจแก่พี่น้องชาวเนปาล ได้แก่ การจัดศาสนิกสัมพันธ์รวมพลัง 5 ศาสนา ในพิธีศาสนามหามงคลทั่วประเทศ และการเยียวยาทางจิตใจโดยผ่านคณะพระธรรมฑูตสายอินเดีย-เนปาล , การจัดแสดงคอนเสิร์ตการกุศลถ่ายทอดสด เพื่อให้ประชาชนได้ร่วมบริจาคเงินสมทบทุน , การประมูลภาพผลงานศิลปินแห่งชาติและศิลปินร่วมสมัย , การจัดทำเสื้อสัญลักษณ์ศิลปะเนปาลโดยศิลปินแห่งชาติ ตลอดจนการตั้งตู้รับบริจาค ณ หน่วยงานต่างๆในสังกัด วธ.ทั่วประเทศ ขณะเดียวกัน วธ. ยังพร้อมให้การช่วยเหลือในการบูรณะปฏิสังขรณ์โบราณสถานของเนปาลที่เป็นมรดกโลก ซึ่งได้รับความเสียหายอย่างหนัก จำนวน 3 แห่ง
ตั้งศูนย์รับบริจาคสิ่งของ
สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ (ช่วง วรปุญฺโญ) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราช กล่าวว่า คณะสงฆ์ไทยและพุทธศาสนิกชนไทย เป็นห่วงต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศเนปาล จึงขอส่งกำลังใจให้แก่ประชาชนชาวเนปาล ได้มีกำลังใจสู้ต่อไป และขออำนาจคุณพระศรีรัตนตรัย ซึ่งมีองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เป็นประธาน โปรดอภิบาล คุ้มครอง รักษา ให้ประชาชนพี่น้องชาวประเทศเนปาล ได้ผ่านพ้นภัยพิบัติครั้งนี้
พระพรหมสิทธิ กรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) ประธานสำนักงานกำกับดูแลพระธรรมทูตไปต่างประเทศ เจ้าอาวาสวัดสระเกศราชวรมหาวิหาร กล่าวว่า ขณะนี้ มส.และ สนง.กำกับดูแลพระธรรมทูตฯ ได้ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยในประเทศเนปาลแล้ว 2 แห่งคือ 1.ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ในประเทศเนปาล ที่อาคารเฉลิมพระเกียรติ บริเวณภูเขาทองวัดสระเกศฯ 2. ศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยฯที่วัดไทยลุมพินี ประเทศเนปาล โดยขณะนี้ยอดบริจาคอยู่ที่ 5 ล้านบาท
นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวว่า ขณะนี้มีมิจฉาชีพได้แฝงตัวในรูปแบบการรับบริจาคโดยสร้างบัญชีธนาคารปลอม จึงฝากเตือนไปยังประชาชนให้ระมัดระวัง และในวันที่ 30 เม.ย.นี้ พศ.จะนำเรื่องการช่วยเหลือผู้ประสบภัยในเนปาลเข้ารายงาน มส.ด้วย
คณะแสวงบุญเมืองคอนปลอดภัยแล้ว
นางเรณู ทับทอง ญาติของพุทธศาสนิกชนคณะแสงบุญวัดป่าเรียน หมู่ 4 ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า คณะที่เดินทางไปเนปาล มีพระภิกษุ 4 รูป ฆราวาส 27 คน รวม 31 คน เดินทางไปถึงเพียงวันเดียวก็เกิดเหตุการณ์ขึ้น ขณะนี้สามารถติดต่อได้แล้ว เมื่อช่วงเช้า โดยพักอยู่ที่สถานทูตไทย และอยู่ระหว่างประสานงานเพื่อเดินทางกลับประเทศ เนื่องจากขณะหลบภัยออกจากที่พัก มีเอกสารติดค้างอยู่ในที่พักที่ได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะนี้รอพียงการเดินทางออกจากเนปาลเท่านั้น